คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 43
มาอัพเดตค่ะ เรื่องราวทั้งหมดของวันนี้หลังจากกลับไป DTAC ตามคำแนะนำ
เดี๋ยวเราจะถ่ายรูปซูมจุด Origin ให้เห็นกันชัดๆ นะ ถ้าจำเป็นอาจจะลองแกะฟิล์มดูว่ามันเนียนหรือว่ามันขรุขระ
เราขอสรุปไว้ข้างบนถึงสิ่งที่เราต้องการนะคะ
1. เรารู้ว่า DTAC ไม่ใช่ผู้ผลิต
2. เรารู้ว่ามันสามารถตรวจเช็คเรื่องการกระแทกได้ (ถ้าไม่ได้ยังไง บอกด้วยนะคะ ถามไปหลายคนเหมือนจะไม่มีใครตอบ แต่เห็นมีบางคนบอกเราว่าได้)
3. เราอยากให้ DTAC สู้เพื่อลูกค้า และทำหน้าที่ในการติดต่อกับ Apple แทนไม่ใช่ให้เราวิ่งซ้ายวิ่งขวา เหมือนเขายังไม่ได้คุยกัน
4. เราไม่อยากให้ DTAC ปกป้อง Apple ทั้งๆ ที่เราเป็นลูกค้าและใช้มาเป็นสิบปี
5. ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บเครื่องเอาไว้ เพื่อส่งเครื่องไปตรวจสอบที่ไหน อยากให้บอกล่วงหน้า เราจะได้หามือถือสำรองใช้มาก่อน
6. เราอาจจะเหวี่ยงๆ ด้วยความที่อารมณ์เสียจริงๆ พนง.ชักสีหน้ามากอ่ะวันนี้ คือเราเข้าใจนะเรื่องแซงคิวปกติเราไม่แซง
แต่วันก่อนพี่เขาเป็นคนบอกเองว่าให้ติดต่อไปก่อน 5 โมง
*(เพิ่มทีหลัง)7. แล้วถ้าเราจ่าย 12,000 ได้เครื่องใหม่ อะไรจะเป็นตัวยืนยันคำว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้แล้วเราไม่จะไม่ต้องเสียเงินเปล่า
ถามไปงั้นล่ะค่ะ แต่อยากให้คิดนิดนึง
ปล.เราลองถามร้านมือถือมา ค่าจอตั้ง 8 พัน อยากบ้าเหมือนเดิม
หลังจากตอนเช้าที่ได้โทคุยกับทางสิงคโปร์ เค้าบอกว่าให้เรากลับมาติดต่อกับทาง Dtac ก่อน เพื่อให้ทางนี้บันทึก case ไว้แล้ว Apple ทางนู้นถึงจะนำไปพิจารณาต่อได้
สักประมาณบ่ายสี่โมงเย็น เราก็ได้กลับไปที่ Dtac Device shop พารากอน ชั้น 4 สถานะการณ์เหมือนเดิมตอนไปกดบัตรคิว
พนักงาน : ติดต่อเรื่องอะไรครับ
xx : หน้าจอไอโฟนแตกค่ะ
พนักงาน : อันนี้มีค่าใช้จ่ายนะครับ 12,000 บาท
xx : เมื่อวานมาติดต่อไว้แล้วค่ะ คือมันแตกเองไม่ได้มีอุบัติเหตุอะไรเลย
พนักงาน : หน้าจอแตกไม่อยู่ในประกันครับ ค่าใช้จ่าย 12,000 บาทครับ
xx : เมื่อเช้าโทรไปสิงคโปร์แล้วค่ะ เค้าบอกให้กลับมาที่นี่
พนักงาน : (กดบัตรคิว)... การกดบัตรคิวมันยากนักหรอ ถามแล้วถามอีกกว่าจะกดให้... วันนี้รอ 11 คิว
ในขณะเดียวกัน เราก็ได้โทรติดต่อกลับไปทางสิงคโปร์ที่เราโทรไปเมื่อเช้า เราเลยบอกว่าอยากให้คุยกับพนักงานทางนี้ให้หน่อยค่ะ หันไปเจอพนักงานคนเมื่อวานพอดี.. เราเลยเดินไปหาเค้าแล้วบอกว่าทางสิงคโปร์จะขอคุยด้วย (เนื่องจากตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 16.40 นาทีแล้ว ทางสิงคโปร์จะปิดตอนเวลา 17.00น) เราเลยรีบเอาไปให้พี่คนนั้นพูดสายก่อน เค้าก็รับโทรสัพท์ไปแล้วหายไปสักพัก พอออกมาก็บอกว่าเดี๋ยวจะทำการเช็คไอโฟนให้(คืออะไร เมื่อวานบอกเราว่าเค้าทำอะไรไม่ได้) จากนั้นก็พยายามจะเรียกคิวต่อไป (ซึ่งแน่นอนว่าคิวเราต้องรอไปอีก 11 คิว)
พนักงาน : เดี๋ยวรอเรียกคิวนะครับ
xx : ทางสิงคโปร์ปิดตอนห้าโมง พี่เริ่มคุยก่ะทางนู้นตอนนี้เลยได้มั้ยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา
พนักงาน : แต่ต้องรอคิวนะ คือยังไม่ถึงคิวเลย
xx : คืออะไรกับการที่เมื่อวานมานั่งรอคิว 2 ชั่วโมง!!! แล้วกลับได้คำตอบที่ว่า คุณช่วยอะไรเราไม่ได้เลย,, ไม่แม้แต่จะบันทึก case เพื่อส่งต่อไปทางสิงคโปร์,,
พนักงาน : เราอาจจะต้องขอให้ทิ้งไอโฟนไว้เพื่อตรวจสอบ
xx : ก็ไหนเมื่อวานบอกว่าพี่บอกว่าดีแทคตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยไง แล้ววันนี้จะมาขอให้ทิ้งไอโฟนไว้เพื่อตรวจสอบ (คือใครไม่เข้าใจภาษาไทยกันแน่ค่ะ???? เมื่อวานพูดว่าทางเราไม่สามารถตรวจเช็คอะไรได้ ทั้งๆที่เราเองพยายามบอกแล้วช่วยเช็คให้หน่อย แต่พี่เค้ากลับนั่งหมุนดูไอโฟนไปมา(เพื่ออะไร???) และจบด้วยประโยคที่ว่าให้ไปติดต่อทางสิงคโปร์โดยตรงได้เลย ทางเราทำอะไรให้ไม่ได้ ) เราเลยถามต่อไปว่าผู้จัดการสาขาอยู่มั้ยค่ะ ขอคุยด้วยหน่อยค่ะ
จากนั้นคนๆนั้นก็เดินไปตามผู้จัดการมา แล้วเค้าก็จากไป เหลือเพียงแต่ผู้จัดการไว้...
ผจก : สวัสดีครับ มีอะไรหรอครับ
xx : คือว่าติดต่อกับทางสิงคโปร์แล้ว เค้าบอกให้มาติดต่อกับทางนี้ค่ะ ให้ส่งเรื่องเคลมไป
ผจก : อยากจะขอไอโฟนเก็บไว้ตรวจสอบครับ
xx : เมื่อวานนี้ลูกน้องคุณบอกตรวจสอบไม่ได้หนิค่ะ ว่าแต่ถ้าตรวจสอบนี่คือต้องทำยังไงบ้าง
ผจก : ก็ต้องถ่ายรุปรอบๆตัวเครื่องครับ แล้วจะส่งเรื่องไปให้สิงคโปร์
xx : งั้นก็ถ่ายเลยสิค่ะ ไม่เห็นต้องรอเลย (คือเราก็ไม่มีมือถือสำรอง ถ้าทิ้งข้ามคืนไว้เท่ากับเราก็ติดต่อใครไม่ได้ ซึ่งการทิ้งข้ามคืนของเค้าเพื่อที่จะถ่ายรุปนั้น เราเลยบอกให้เค้าถ่ายตอนนั้นเลย)
ผจก : งั้นขอเอาไปถ่ายรูปก่อนนะครับ
xx : ค่ะ
ผจก : เอาให้ไอโฟนมาคืนพร้อมให้เซ็นเอกสาร ใบส่งสินค้าเคลม
xx : แล้วจะรู้ผลเมื่อไหร่ค่ะ
ผจก : น่าจะเป็นบ่ายๆวันพรุ่งนี้ วันนี้ไม่ทันแล้ว ขอเป็นบ่ายสองแล้วกัน
xx : ขอบคุณค่ะ
ในเคสของผู้จัดการนี้อย่างน้อยคุณก็พูดจาดี ก็ต้องขอชมค่ะ
หลังจากออกจากพารากอนมาได้สักพัก กำลังเดินทางกลับ ก็มีสายเข้าจาก 1678
เจ้าหน้าที่ : สวัสดีค่ะ คุณ xx รึเปล่าค่ะ
xx : ใช่ค่ะ
จนท : ทางเราได้รับทราบเรื่องของคุณแล้ว ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ
xx : ค่ะ ว่าแต่เรื่องไอโฟนนี่จะทำยังไงได้บ้างค่ะ
จนท : จากเหตุการณ์ทางเราต้องขอโทษที่พนักงานพูดจาไม่ดี บลาๆๆๆ ทางเรายินดีจะรับผิดชอบค่าเสียหายโดยจะลดให้เดือนละ 100บาท ต่อรอบบิลเป็นเวลา 6 เดือนค่ะ
xx : [อึ๊งแป้บบบบ... ไอโฟนเครื่องเป็นหลักหมื่น รับผิดชอบ 600 บาท ช่วยได้เยอะมากเลยค่ะ] เราเลยบอกกลับไปว่า ไม่ได้ต้องการให้รับผิดชอบค่าบริการนะค่ะ สิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือคือไอโฟน เรื่องค่าบริการมันเล็กน้อยอยู่แล้วกับส่วนตรงนั้น และสิ่งที่คุณเสนอมามันไม่ได้กระทบอะไรเราเลยเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าและความรู้สึกของผู้บริโภค
จนท : ทางเราต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ แต่เรื่องไอโฟนนั้นทางเราไม่สามารถแก้ไขให้ได้ ตามนโยบายยังไงก็มีค่าบริการ 12,000 บาทค่ะ
xx : คือรับผิดชอบอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เลยหรอค่ะ เพราะเนื่องจากเคสนี้ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุเลย มันเกิดจากการ defect ของ iPhone6
จนท : เข้าใจความรู้สึกนะค่ะ ทางเราไม่ได้เป็นผู้ผลิตค่ะ ดังนั้นจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อม
xx : ก็เข้าใจค่ะว่าคุณไม่ใช่ผู้ผลิต แต่คุณเป็นคนขายซึ่งน่าจะมีการรับผิดชอบกับผลิตภัณฑ์ที่ขายในนาม Dtac ที่ดีกว่านี้ เราเลยถามต่อไปว่าสมมติว่าเราจ่ายเพิ่ม 12,000 บาทแล้วได้เครื่องใหม่มา มีใครจะมารับประกันมั้ยค่ะว่าเครื่องใหม่ที่ได้นั้นจะไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ถ้าสมมติคนไหนซวยเจอจอแตกโดยที่ไม่ได้ทำหล่นหรือกระแทก เค้าก็ต้องมานั่งจ่าย 12,000 เรื่อยๆเพื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่หรอค่ะ
จนท : ไม่มีใครรับประกันได้ค่ะ เข้าใจนะค่ะ แต่เราไม่ใช่ผู้ผลิตเราไม่สามารถตอบได้ค่ะ
xx : คืออยากจะให้มีการรับผิดชอบที่ดีกว่านี้ มากกว่าการลดราคาค่าบริการ สิ่งที่ต้องการให้ช่วยดูคือไอโฟนค่ะ
จนท : เดี๋ยวติดต่อกลับไปอีกทีนะค่ะ
ผ่านไปสัก 20 นาที ก็มีสายเข้าจาก 1678
จนท : ทางเราได้ปรึกษากันแล้วนะค่ะ ทางเรารู้นะค่ะว่ามันอาจจะเทียบอะไรกับมูลค่าไอโฟนไม่ได้ แต่ทางเราจะรับผิดชอบค่าบริการรวมทั้งสิ้น 2,000 บาทค่ะ
xx : [คืออะไรรรรรรรรรร......!!!!] บอกแล้วค่ะว่าไม่ได้ต้องการให้รับผิดชอบค่าบริการ ต้องการให้รับผิดชอบไอโฟนเครื่องนั้นค่ะ
จนท : ทางหัวหน้าแผนกปรึกษากันแล้วค่ะ ทางเราช่วยได้แค่นี้จริงๆค่ะ
xx : [หมดอารมณ์ที่จะคุยต่อ...] ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรอค่ะที่จะช่วยลูกค้าของคุณได้ เสียความรู้สึกมากเพราะใช้บริการเครือข่ายนี้มาเป็นสิบปี
จนท : ต้องขึ้นอยู่กับทาง Apple แล้วค่ะ ทางเราทำอะไรให้ไม่ได้
xx : เข้าใจนะคะว่าไม่ใช่ผู้ผลิต แต่ในฐานะที่คุณนำของเข้ามาขาย คุณก็ต้องมีความรับผิดชอบในผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างน้อยๆช่วยเป็นตัวแทนในการ complain apple เรื่อง defect ต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นเสียงแทนกลุ่มลูกค้าที่พบกับปัญหาเหล่านั้นที่เค้าไม่ได้ทำ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทย เมืองนอกมีเหตุการณ์เยอะแยะ (ลอง search ดูได้เลยค่ะ)
จนท : …เงียบ...
xx : (ขออนุญาติ) กดตัดสายเลยค่ะ
เหนื่อยมากกับเหตุการณ์วันนี้ ทางคุณไม่ได้ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นเลย นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสียความรู้สึกมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ...
เดี๋ยวเราจะถ่ายรูปซูมจุด Origin ให้เห็นกันชัดๆ นะ ถ้าจำเป็นอาจจะลองแกะฟิล์มดูว่ามันเนียนหรือว่ามันขรุขระ
เราขอสรุปไว้ข้างบนถึงสิ่งที่เราต้องการนะคะ
1. เรารู้ว่า DTAC ไม่ใช่ผู้ผลิต
2. เรารู้ว่ามันสามารถตรวจเช็คเรื่องการกระแทกได้ (ถ้าไม่ได้ยังไง บอกด้วยนะคะ ถามไปหลายคนเหมือนจะไม่มีใครตอบ แต่เห็นมีบางคนบอกเราว่าได้)
3. เราอยากให้ DTAC สู้เพื่อลูกค้า และทำหน้าที่ในการติดต่อกับ Apple แทนไม่ใช่ให้เราวิ่งซ้ายวิ่งขวา เหมือนเขายังไม่ได้คุยกัน
4. เราไม่อยากให้ DTAC ปกป้อง Apple ทั้งๆ ที่เราเป็นลูกค้าและใช้มาเป็นสิบปี
5. ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บเครื่องเอาไว้ เพื่อส่งเครื่องไปตรวจสอบที่ไหน อยากให้บอกล่วงหน้า เราจะได้หามือถือสำรองใช้มาก่อน
6. เราอาจจะเหวี่ยงๆ ด้วยความที่อารมณ์เสียจริงๆ พนง.ชักสีหน้ามากอ่ะวันนี้ คือเราเข้าใจนะเรื่องแซงคิวปกติเราไม่แซง
แต่วันก่อนพี่เขาเป็นคนบอกเองว่าให้ติดต่อไปก่อน 5 โมง
*(เพิ่มทีหลัง)7. แล้วถ้าเราจ่าย 12,000 ได้เครื่องใหม่ อะไรจะเป็นตัวยืนยันคำว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้แล้วเราไม่จะไม่ต้องเสียเงินเปล่า
ถามไปงั้นล่ะค่ะ แต่อยากให้คิดนิดนึง
ปล.เราลองถามร้านมือถือมา ค่าจอตั้ง 8 พัน อยากบ้าเหมือนเดิม
หลังจากตอนเช้าที่ได้โทคุยกับทางสิงคโปร์ เค้าบอกว่าให้เรากลับมาติดต่อกับทาง Dtac ก่อน เพื่อให้ทางนี้บันทึก case ไว้แล้ว Apple ทางนู้นถึงจะนำไปพิจารณาต่อได้
สักประมาณบ่ายสี่โมงเย็น เราก็ได้กลับไปที่ Dtac Device shop พารากอน ชั้น 4 สถานะการณ์เหมือนเดิมตอนไปกดบัตรคิว
พนักงาน : ติดต่อเรื่องอะไรครับ
xx : หน้าจอไอโฟนแตกค่ะ
พนักงาน : อันนี้มีค่าใช้จ่ายนะครับ 12,000 บาท
xx : เมื่อวานมาติดต่อไว้แล้วค่ะ คือมันแตกเองไม่ได้มีอุบัติเหตุอะไรเลย
พนักงาน : หน้าจอแตกไม่อยู่ในประกันครับ ค่าใช้จ่าย 12,000 บาทครับ
xx : เมื่อเช้าโทรไปสิงคโปร์แล้วค่ะ เค้าบอกให้กลับมาที่นี่
พนักงาน : (กดบัตรคิว)... การกดบัตรคิวมันยากนักหรอ ถามแล้วถามอีกกว่าจะกดให้... วันนี้รอ 11 คิว
ในขณะเดียวกัน เราก็ได้โทรติดต่อกลับไปทางสิงคโปร์ที่เราโทรไปเมื่อเช้า เราเลยบอกว่าอยากให้คุยกับพนักงานทางนี้ให้หน่อยค่ะ หันไปเจอพนักงานคนเมื่อวานพอดี.. เราเลยเดินไปหาเค้าแล้วบอกว่าทางสิงคโปร์จะขอคุยด้วย (เนื่องจากตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 16.40 นาทีแล้ว ทางสิงคโปร์จะปิดตอนเวลา 17.00น) เราเลยรีบเอาไปให้พี่คนนั้นพูดสายก่อน เค้าก็รับโทรสัพท์ไปแล้วหายไปสักพัก พอออกมาก็บอกว่าเดี๋ยวจะทำการเช็คไอโฟนให้(คืออะไร เมื่อวานบอกเราว่าเค้าทำอะไรไม่ได้) จากนั้นก็พยายามจะเรียกคิวต่อไป (ซึ่งแน่นอนว่าคิวเราต้องรอไปอีก 11 คิว)
พนักงาน : เดี๋ยวรอเรียกคิวนะครับ
xx : ทางสิงคโปร์ปิดตอนห้าโมง พี่เริ่มคุยก่ะทางนู้นตอนนี้เลยได้มั้ยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา
พนักงาน : แต่ต้องรอคิวนะ คือยังไม่ถึงคิวเลย
xx : คืออะไรกับการที่เมื่อวานมานั่งรอคิว 2 ชั่วโมง!!! แล้วกลับได้คำตอบที่ว่า คุณช่วยอะไรเราไม่ได้เลย,, ไม่แม้แต่จะบันทึก case เพื่อส่งต่อไปทางสิงคโปร์,,
พนักงาน : เราอาจจะต้องขอให้ทิ้งไอโฟนไว้เพื่อตรวจสอบ
xx : ก็ไหนเมื่อวานบอกว่าพี่บอกว่าดีแทคตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยไง แล้ววันนี้จะมาขอให้ทิ้งไอโฟนไว้เพื่อตรวจสอบ (คือใครไม่เข้าใจภาษาไทยกันแน่ค่ะ???? เมื่อวานพูดว่าทางเราไม่สามารถตรวจเช็คอะไรได้ ทั้งๆที่เราเองพยายามบอกแล้วช่วยเช็คให้หน่อย แต่พี่เค้ากลับนั่งหมุนดูไอโฟนไปมา(เพื่ออะไร???) และจบด้วยประโยคที่ว่าให้ไปติดต่อทางสิงคโปร์โดยตรงได้เลย ทางเราทำอะไรให้ไม่ได้ ) เราเลยถามต่อไปว่าผู้จัดการสาขาอยู่มั้ยค่ะ ขอคุยด้วยหน่อยค่ะ
จากนั้นคนๆนั้นก็เดินไปตามผู้จัดการมา แล้วเค้าก็จากไป เหลือเพียงแต่ผู้จัดการไว้...
ผจก : สวัสดีครับ มีอะไรหรอครับ
xx : คือว่าติดต่อกับทางสิงคโปร์แล้ว เค้าบอกให้มาติดต่อกับทางนี้ค่ะ ให้ส่งเรื่องเคลมไป
ผจก : อยากจะขอไอโฟนเก็บไว้ตรวจสอบครับ
xx : เมื่อวานนี้ลูกน้องคุณบอกตรวจสอบไม่ได้หนิค่ะ ว่าแต่ถ้าตรวจสอบนี่คือต้องทำยังไงบ้าง
ผจก : ก็ต้องถ่ายรุปรอบๆตัวเครื่องครับ แล้วจะส่งเรื่องไปให้สิงคโปร์
xx : งั้นก็ถ่ายเลยสิค่ะ ไม่เห็นต้องรอเลย (คือเราก็ไม่มีมือถือสำรอง ถ้าทิ้งข้ามคืนไว้เท่ากับเราก็ติดต่อใครไม่ได้ ซึ่งการทิ้งข้ามคืนของเค้าเพื่อที่จะถ่ายรุปนั้น เราเลยบอกให้เค้าถ่ายตอนนั้นเลย)
ผจก : งั้นขอเอาไปถ่ายรูปก่อนนะครับ
xx : ค่ะ
ผจก : เอาให้ไอโฟนมาคืนพร้อมให้เซ็นเอกสาร ใบส่งสินค้าเคลม
xx : แล้วจะรู้ผลเมื่อไหร่ค่ะ
ผจก : น่าจะเป็นบ่ายๆวันพรุ่งนี้ วันนี้ไม่ทันแล้ว ขอเป็นบ่ายสองแล้วกัน
xx : ขอบคุณค่ะ
ในเคสของผู้จัดการนี้อย่างน้อยคุณก็พูดจาดี ก็ต้องขอชมค่ะ
หลังจากออกจากพารากอนมาได้สักพัก กำลังเดินทางกลับ ก็มีสายเข้าจาก 1678
เจ้าหน้าที่ : สวัสดีค่ะ คุณ xx รึเปล่าค่ะ
xx : ใช่ค่ะ
จนท : ทางเราได้รับทราบเรื่องของคุณแล้ว ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ
xx : ค่ะ ว่าแต่เรื่องไอโฟนนี่จะทำยังไงได้บ้างค่ะ
จนท : จากเหตุการณ์ทางเราต้องขอโทษที่พนักงานพูดจาไม่ดี บลาๆๆๆ ทางเรายินดีจะรับผิดชอบค่าเสียหายโดยจะลดให้เดือนละ 100บาท ต่อรอบบิลเป็นเวลา 6 เดือนค่ะ
xx : [อึ๊งแป้บบบบ... ไอโฟนเครื่องเป็นหลักหมื่น รับผิดชอบ 600 บาท ช่วยได้เยอะมากเลยค่ะ] เราเลยบอกกลับไปว่า ไม่ได้ต้องการให้รับผิดชอบค่าบริการนะค่ะ สิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือคือไอโฟน เรื่องค่าบริการมันเล็กน้อยอยู่แล้วกับส่วนตรงนั้น และสิ่งที่คุณเสนอมามันไม่ได้กระทบอะไรเราเลยเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าและความรู้สึกของผู้บริโภค
จนท : ทางเราต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ แต่เรื่องไอโฟนนั้นทางเราไม่สามารถแก้ไขให้ได้ ตามนโยบายยังไงก็มีค่าบริการ 12,000 บาทค่ะ
xx : คือรับผิดชอบอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เลยหรอค่ะ เพราะเนื่องจากเคสนี้ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุเลย มันเกิดจากการ defect ของ iPhone6
จนท : เข้าใจความรู้สึกนะค่ะ ทางเราไม่ได้เป็นผู้ผลิตค่ะ ดังนั้นจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อม
xx : ก็เข้าใจค่ะว่าคุณไม่ใช่ผู้ผลิต แต่คุณเป็นคนขายซึ่งน่าจะมีการรับผิดชอบกับผลิตภัณฑ์ที่ขายในนาม Dtac ที่ดีกว่านี้ เราเลยถามต่อไปว่าสมมติว่าเราจ่ายเพิ่ม 12,000 บาทแล้วได้เครื่องใหม่มา มีใครจะมารับประกันมั้ยค่ะว่าเครื่องใหม่ที่ได้นั้นจะไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ถ้าสมมติคนไหนซวยเจอจอแตกโดยที่ไม่ได้ทำหล่นหรือกระแทก เค้าก็ต้องมานั่งจ่าย 12,000 เรื่อยๆเพื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่หรอค่ะ
จนท : ไม่มีใครรับประกันได้ค่ะ เข้าใจนะค่ะ แต่เราไม่ใช่ผู้ผลิตเราไม่สามารถตอบได้ค่ะ
xx : คืออยากจะให้มีการรับผิดชอบที่ดีกว่านี้ มากกว่าการลดราคาค่าบริการ สิ่งที่ต้องการให้ช่วยดูคือไอโฟนค่ะ
จนท : เดี๋ยวติดต่อกลับไปอีกทีนะค่ะ
ผ่านไปสัก 20 นาที ก็มีสายเข้าจาก 1678
จนท : ทางเราได้ปรึกษากันแล้วนะค่ะ ทางเรารู้นะค่ะว่ามันอาจจะเทียบอะไรกับมูลค่าไอโฟนไม่ได้ แต่ทางเราจะรับผิดชอบค่าบริการรวมทั้งสิ้น 2,000 บาทค่ะ
xx : [คืออะไรรรรรรรรรร......!!!!] บอกแล้วค่ะว่าไม่ได้ต้องการให้รับผิดชอบค่าบริการ ต้องการให้รับผิดชอบไอโฟนเครื่องนั้นค่ะ
จนท : ทางหัวหน้าแผนกปรึกษากันแล้วค่ะ ทางเราช่วยได้แค่นี้จริงๆค่ะ
xx : [หมดอารมณ์ที่จะคุยต่อ...] ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรอค่ะที่จะช่วยลูกค้าของคุณได้ เสียความรู้สึกมากเพราะใช้บริการเครือข่ายนี้มาเป็นสิบปี
จนท : ต้องขึ้นอยู่กับทาง Apple แล้วค่ะ ทางเราทำอะไรให้ไม่ได้
xx : เข้าใจนะคะว่าไม่ใช่ผู้ผลิต แต่ในฐานะที่คุณนำของเข้ามาขาย คุณก็ต้องมีความรับผิดชอบในผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างน้อยๆช่วยเป็นตัวแทนในการ complain apple เรื่อง defect ต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นเสียงแทนกลุ่มลูกค้าที่พบกับปัญหาเหล่านั้นที่เค้าไม่ได้ทำ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทย เมืองนอกมีเหตุการณ์เยอะแยะ (ลอง search ดูได้เลยค่ะ)
จนท : …เงียบ...
xx : (ขออนุญาติ) กดตัดสายเลยค่ะ
เหนื่อยมากกับเหตุการณ์วันนี้ ทางคุณไม่ได้ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นเลย นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสียความรู้สึกมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ...
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 55
บางความเห็นก็บอกให้หาหลักฐานว่าจอแตกเอง ไม่ได้ทำแตก
แหม่... ซื้อซัมซวยพลาสติกขันน้ำเครื่องไม่ถึง2หมื่น ยังไม่ต้องมานั่งระแวงขนาดนี้เลย
นี่เสียเงินซื้อโทรศัพท์ระดับเทพราคาเกือบ3หมื่น ยังต้องเสียเงินซื้อกล้องมาถ่ายวีดีโอตอนติดฟิล์ม ตอนชาร์จแบตเพื่อเป็นหลักฐานเวลาจอแตกอีกเหรอครับเนี่ย
โทษนะครับ ตั้งแต่เคสเครื่องงอแล้ว ไม่เห็นสาวกคนไหนออกมาพูดว่าเครื่องมันห่วยเลย
มีแต่โทษผู้ใช้งาน ว่าเก็บไม่ดีบ้างล่ะ นั่งทับบ้างล่ะ
เครื่องงอคำถามแรกใส่ในกระเป๋ากางเกงหรือเปล่า เอ๊าาา ซื้อโทรศัพท์มาใช้ไม่ให้ใส่กระเป๋ากางเกง จะฝากไว้กับกระเป๋าโดเรม่อนรึไง
คราวนี้เครื่องจอแตก ก็เอาอีก โทษผู้ใช้อีก
ไม่ยอมรับความจริงกันบ้างอ่ะว่าของมันห่วย
ทำเครื่องบางแข่งกับผ้าอนามัย ก็คิดถึงวัสดุด้วยว่ามันเป็นยังไง
พวกอวยก็อวยเหลือเกิน ทีหลังซื้อโทรศัพท์ก็จัดหิ้งกับกระถางธูปด้วย ไม่ต้องเอามาใช้หรอก เก็บไว้บูชาพอถ้าจะบอบบางขนาดนี้
ปล. อยากศึกบอก นี่ไม่ใช่ทาสแอนดรอยด์จะมาโจมตีแอปเปิลหรืออะไรทั้งนั้น ที่บ้านใช้ ipad กับ macbook ของ apple อยู่ แต่โทรศัพท์ใช้โนเกีย3310
แหม่... ซื้อซัมซวยพลาสติกขันน้ำเครื่องไม่ถึง2หมื่น ยังไม่ต้องมานั่งระแวงขนาดนี้เลย
นี่เสียเงินซื้อโทรศัพท์ระดับเทพราคาเกือบ3หมื่น ยังต้องเสียเงินซื้อกล้องมาถ่ายวีดีโอตอนติดฟิล์ม ตอนชาร์จแบตเพื่อเป็นหลักฐานเวลาจอแตกอีกเหรอครับเนี่ย
โทษนะครับ ตั้งแต่เคสเครื่องงอแล้ว ไม่เห็นสาวกคนไหนออกมาพูดว่าเครื่องมันห่วยเลย
มีแต่โทษผู้ใช้งาน ว่าเก็บไม่ดีบ้างล่ะ นั่งทับบ้างล่ะ
เครื่องงอคำถามแรกใส่ในกระเป๋ากางเกงหรือเปล่า เอ๊าาา ซื้อโทรศัพท์มาใช้ไม่ให้ใส่กระเป๋ากางเกง จะฝากไว้กับกระเป๋าโดเรม่อนรึไง
คราวนี้เครื่องจอแตก ก็เอาอีก โทษผู้ใช้อีก
ไม่ยอมรับความจริงกันบ้างอ่ะว่าของมันห่วย
ทำเครื่องบางแข่งกับผ้าอนามัย ก็คิดถึงวัสดุด้วยว่ามันเป็นยังไง
พวกอวยก็อวยเหลือเกิน ทีหลังซื้อโทรศัพท์ก็จัดหิ้งกับกระถางธูปด้วย ไม่ต้องเอามาใช้หรอก เก็บไว้บูชาพอถ้าจะบอบบางขนาดนี้
ปล. อยากศึกบอก นี่ไม่ใช่ทาสแอนดรอยด์จะมาโจมตีแอปเปิลหรืออะไรทั้งนั้น ที่บ้านใช้ ipad กับ macbook ของ apple อยู่ แต่โทรศัพท์ใช้โนเกีย3310
แสดงความคิดเห็น
iPhone 6 จอแตก หลังชาร์จแบตทิ้งเอาไว้
(สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนให้ข้ามไปอ่านหลังเส้นดอกจันทร์นะคะ)
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ ว่าเคสนี้อาจจะถูกเอาไปใช้เป็นเคสตัวอย่างในการกระทำอย่างที่ว่า
สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาจริงๆ แล้วต้องการเคลม ก็ทำได้ตามที่เราเล่าไปเลยนะคะ แนะนำว่าให้ติดต่อกับ Apple โดยตรง
ส่วนคนที่ทำแตกเอง แล้วจะใช้วิธีการเดียวกับเรา ต้องขอบอกเลยนะคะว่าไม่ได้ เพราะว่าต้องส่งเครื่องไปตรวจจริงๆ ค่ะ
ผลสรุปนะคะ / ทาง Apple และ Dtac ดำเนินการเร็วดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
1. เคลมได้ค่ะ ให้ไปรับเครื่องใหม่ที่ศูนย์ได้เลย
2. สาเหตุกำลังตรวจเช็คให้ละเอียด แต่ยืนยันในส่วนของเรื่องการกระแทกมาว่าไม่ได้เกิดจากการกระแทก
ซึ่งถูกครอบคลุมตามกฎของการประกันค่ะ
3. ขอบคุณทาง Apple และก็ DTAC ที่แม้ว่าเราจะเดินเรื่องเอง แต่ก็ยังช่วยเหลือเรา
4. ขอบคุณกำลังใจ เพื่อนๆ ในพันทิพ และเสียงวิพากษ์นะคะ
5. สำหรับผลพิสูจน์ถ้าได้แล้ว และกระทู้ยังไม่ตาย เราอาจจะมาอัพเดตให้นะคะ
6. เดี๋ยวจะถ่ายเครื่องใหม่มาให้นะคะ
7. จากเดิมที่เราบอกว่าอาจจะตั้งกระทู้ใหม่ เราคงไม่ตั้งแล้วนะคะ ไม่อยากจะปลุกกระแส ให้คนมาด่ามาชมมาติ หรือมาทะเลาะกันอีก
ไหนๆ เรื่องมันก็เงียบไปสักนิดนึง ก็ไม่อยากจุดกระแสใหม่ค่ะ เพราะก็รู้สึกว่ามันกระจายไปหลายเว็บเหมือนกันเราก็กลัวๆ
สำหรับพื้นที่ตรงๆ เกิน 10000 ตัวอักษรแล้วเราคงเล่าไม่ได้นะคะเลยได้แต่สรุปไว้
** ขอแปะอัพเดต 23 ธ.ค. เวลา 23:00น. ไว้ตรงนี้นะคะ จะได้ไม่ต้องย้อนไปหาอ่านอะไรให้วุ่นวายมาก
ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้บางความเห็นเหมือนจะขัดแย้งกัน แต่ขอให้นึกถึงเคสนี้เป็นหลักนะคะ
ยังไงก็คำตอบยังไม่ได้ชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่จะสรุปเหตุการณ์วันนี้ให้ฟังนะคะ
(สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนให้ข้ามไปอ่านหลังเส้นดอกจันทร์นะคะ)
ก็เริ่มตั้งแต่ตอนเช้า เราโทรไปที่สิงคโปร์ใหม่ เพราะว่ามันก็ค่อนข้างหมดหนทางแล้วนิดนึง
จากที่ DTAC บอกว่าเขาตอบกลับมาแล้วว่าไม่ได้
ทีนี้เราก็ได้คุยกับทีมงานที่นู้น (เป็นคนไทย) เขาก็พูดดีมาก แล้วก็รอบนี้
เคสไปถึงแล้ว เขาก็บอกว่าเคสนี้มันถูกปิดไปแล้ว วินิจฉัยตามที่ DTAC ตอบเรามาจริงๆ
"อันนี้ต้องบอกก่อนนะคะว่า ที่คิดว่า DTAC โกหกเรื่องโทรไปหลัง 5โมง แล้วเราคิดว่าอาจจะไม่ได้ติดต่อไปจริงๆ อันนี้ยืนยันว่าเรื่องไปถึงสิงคโปร์แล้วจริงๆ "
แต่ทีนี้เราก็สู้ต่อ ก็แบบบอกประมาณว่า "พอจะมีทางไหนบ้างมั้ยคะ คือเคสนี้หนูไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ แล้วหนูไม่อยากจะต้องมารับผิดชอบ
ในส่วนที่หนูไม่ได้ทำ (เอาจริงเราคิดว่าใครก็คงไม่ยอมอ่ะถ้ามันเกิดขึ้นกับตัวจริงๆ ) อยากให้ส่งเครื่องไปตรวจสอบให้ละเอียด
หรือยังไงก็ได้ เพราะถ้าแบบนี้เราเสียเงินไป แต่ว่าก็ไม่มีอะไรจะมายืนยันอีกอยู่ดีว่าถ้ามันเกิดขึ้นอีก เราก็ต้องเสียเงินเปล่าใช่ไหม
เสร็จแล้วเขาก็บอกว่าถ้ายังไงจะให้เราติดต่อกับ Senior ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าเขาเป็นใคร แต่ว่ารอคิวนานอยู่เหมือนกันเดิมทีรอ 6 คิว
รอนานมากกกก สักพักสายหลุด แล้วโทรกลับไปใหม่ ขอให้เขาโทรเข้ามือถือเราที เขาก็โทรมาแล้วก็กลายเป็นคนอื่นรับสาย
เราก็อธิบายไปใหม่ เขาก็ต่อสายไปหา Senior ให้ใหม่ ก็รอสายไปอีกคราวนี้เป็นคิวที่ 8 เหมือนกับว่าคิวมันน้อยมากคิดว่าเขาคงเป็น
บุคคลสำคัญ เพราะว่าแค่ 8 คิว แต่รวมๆ แล้วรอประมาณ 1 ชม.พอดีเลย สรุปก็ได้คุยกับเขา เขาก็บอกว่าเคสนี้ก็น่าสนใจเขาก็แนะนำเรามา
ก็ขอให้เราส่งรูปไปให้เขาก่อนทางอีเมล ตอนนั้นเราอยู่ออฟฟิศก็เลยส่งรูปไปให้เขา พอเขาดูรูปเขาก็พูดว่า "รอยมันก็ไม่เหมือนกับรอยกระแทกจริงๆ " (อันนี้ถ้าใครไม่เชื่อ เราก็สบายใจให้โทรไปหาทางสิงคโปร์เรื่องเคสนี้ก็ได้ค่ะ ยินดีสุดๆ เราเองก็ไม่อยากโดนกล่าวหาว่าเป็นคนโกหก
แบบที่บางคอมเม้นเขียนเอาไว้ แต่เราไม่ได้โกรธนะคะ เพราะเข้าใจ ว่ามันบางทีก็เชื่อยากจริงๆ) เขาก็เลยบอกว่าถ้าอย่างงั้นเขาจะเปิดเคสให้ใหม่ ให้เราส่งเครื่องไปตรวจสอบ เราก็ต้องเดินทางจากที่ทำงานไปยังศูนย์เดิม พนง.คนเดิมก็กดบัตรคิวให้ แต่คนที่คุยด้วยรอบนี้ก็เป็นใครไม่รู้แต่รู้สึกว่าตำแหน่งจะใหญ่กว่า 2 คนเมื่อวาน พี่เขาก็คุยดีมาก เริ่มต้นเราก็บอกว่า ทาง Apple ที่สิงคโปร์ให้มาค่ะ เขาบอกว่าเปิดเคสให้แล้ว
เลขเคสเดิมกับที่ปิดไปก่อนหน้า ทีนี้ก็เกิดเรื่องเล็กๆ พี่เขาบอกว่า "เคสนี้ยังไม่มีอัพเดตเลยนะครับ" เราก็ให้อีเมล์เขาไปที่เราส่งรูปไปให้ แล้วเขาก็ทั้งเมลไป แล้วก็อีกคนก็โทรไป หายไปประมาณครึ่งชม. เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปคุยอะไรกันบ้าง สุดท้ายก็กลับออกมา
ก็ตกลงจะรับเคสเราเอาไว้ แต่ก็ขอเอาเครื่องเราไปวินิจฉัย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา เราก็ตกลง เพราะเราก็เตรียมตัวไว้และ ก็กลับไปใช้เครื่องเก่าก่อน เปลี่ยนซิมอะไรใหม่เรียบร้อยเรื่องราววันนี้ดูเหมือนจะผ่านไปด้วยดี พี่เขาเองก็พูดจาดีมากๆ อันนี้ขอชื่นชม
ในส่วนที่เล่าข้ามไปก็คือพี่ Senior บอกว่าถ้า DTAC ไม่ยอมจริงๆ เขาจะติดต่อไปทาง ศูนย์ที่ไทยให้ว่าให้เปลี่ยน แต่ว่าจริงๆ เขาก็ไม่อยากเปลี่ยนให้เพราะเคสนี้เขาไม่ได้รับผิดชอบ แต่สุดท้ายแล้ว DTAC ก็รับเรื่องเอาไว้
สรุปนะคะ
1. ตอนนี้เครื่องที่จอแตกอยู่ในระหว่างวินิจฉัย เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่
2. ถ้าเครื่องเป้น Defect ขึ้นมาจริงๆ มันก็ยากที่จะหาคำตอบ (บางคนบอกว่าแรงอาจจะไม่ได้มาจากภายนอก แต่มาจากวงจรด้านในต่อแบบมีปัญหาทำให้เหลื่อมๆ ดันๆ กันหรือเปล่า ซึ่งต้องดูว่าจุด Origin ด้านหลังมันคืออะไร ใครรู้บอกด้วยก็ดีนะคะ)
3. ถ้ามีปัญหาอะไร เราแนะนำว่าให้ติดต่อกับ Apple โดยตรงเลยดีกว่า ส่วนตัวเข้าใจว่า Service Provider อย่างดีแทคก็มีอำนาจได้ไม่เต็มที่
4. เรื่องนี้สามารถถูกเช็คได้ว่าเป็นความจริง
5. ถ้าเกิดว่าได้ผลลัพธ์ยังไง เราอาจจะอัพเดตผ่านการตั้งกระทู้ใหม่ละกันนะคะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน ได้หรือไม่ได้ สาเหตุเกิดจากอะไร ป่านนั้นกระทู้นี้คงถูกดันลงไปลึกๆ แล้ว
6. วันนี้ DTAC พูดจาดี ขอบคุณค่ะ และก็ขอโทษด้วยนะคะ ที่อาจจะต้องพูดความจริงซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบได้ยาก
สิ่งที่อยากจะบอก แต่ยากจะขอ คงเป็น ขอให้วิ่งเรื่องให้แทนลูกค้า เพราะเราวิ่งเอง ตามเองเหนื่อยมากๆ โทรเองคุยเองส่งรูปเอง
เปิดเคสเอง ฯลฯ อยากให้คุณสู้เพื่อลูกค้าของคุณหน่อย แต่เราเข้าใจว่ามันอาจจะเหนื่อยมากทีเดียว เพราะเราก็เหนื่อยมากเช่นกัน
7. ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ทุกคนเห็น แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ต้องขัดแย้งกันนะคะ
8. มีอะไรก็สอบถามได้เรื่อยๆ นะคะ จะมาตอบให้ค่ะ
***********************************************************
สวัสดีค่ะ คือเรามีเรื่องอยากจะปรึกษา (มีรูป)
คือเมื่อสองวันก่อน iPhone 6 ที่เราเพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์
จู่ๆ ก็จอแตกอ่ะค่ะ เราชาร์จแบตวางไว้บนโต๊ะ ไม่มีตก ไม่มีขยับใดๆ ทั้งสิ้น
พอกลับมาดูอีกทีเท่าน้ันล่ะค่ะ
เราควรทำยังไงดีคะ เครียดมากเพิ่งเปลี่ยนจาก iPhone 4 มาหมาดๆ
วันต่อมา (เหตุเกิดตอนกลางคืน) เราไปที่ศูนย์ Dtac ที่เราซื้อเครื่องมา
ที่พารากอน ตอนไปกดบัตรคิวพนักงานก็ถามว่าจะแจ้งเรื่องอะไรครับ
เราก็เลยบอกว่าพอดีมือถือหน้าจอแตกค่ะ
ตอนไปกดบัตรคิวพนักงานก็ถามว่าจะแจ้งเรื่องอะไรครับ เราก็เลยบอกว่าพอดีมือถือหน้าจอแตกค่ะ
พนักงานคนนั้นก็พยายามจะบอกว่าเคลมได้ครับแต่มีค่าใช้จ่าย
แล้วเราถามว่า ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เขาก็บอกว่า "12,500" เท่านั้นล่ะ เราช๊อคมากนี่คืออะไร
เราก้เลยบอกว่าแต่เครื่องนี้ไม่ได้ทำตกหรืออุบัติเหตุอ่ะ
สุดท้ายพนง.ก็กดบัตรคิวให้เรา รอไป 1 คิว เกือบ 2 ชม.
พอถึงคิวเราก็เข้าไปเล่าเหตุการณ์ให้เขาฟัง พนง.ก็ดูรอบๆ เครื่องอย่างละเอียด
ก็พลิกไป พลิกมา ก็เห็นดีว่าไม่มีรอยกระแทกหรือตกอะไรเลยทีนี้เขาก็จะขอแกะฟิล์มดูจอ
เราก็เลยห้ามไว้ก่อน บอกว่าถ้าแกะแล้วมันแตกกว่าเดิมทำไงอ่า พี่รับผิดชอบนะคะ เขาก็เลยไม่แกะ
เขาก็หมุนวนไปมา ก็พูดแบบ ไม่ได้หล่น แต่ว่าไปกระแทกอะไรมารึเปล่า คือถ้ามันกระแทกเราก็บอกว่ากระแทก
แล้วก็ทำหน้าแบบไม่เชื่อเรา ไปๆ มาๆ เขาก็เอากระดาษยื่นมาให้เรา แล้วก็ให้เราดูว่า Apple รับผิดชอบส่วนไหนให้เราได้บ้าง
ก็เลยแนะนำให้เราไปติดต่อกับทางสิงคโปร์ เราเดินไปที่ Digital Gateway ที่ iService เขาก็พูดจาดีนะ
แต่สุดท้ายก็แนะนำให้เราติดต่อไปทางสิงคโปร์เหมือนกัน
กลับบ้านมาด้วยความเศร้าหมอง เราลองค้นหาใน Google ดูก็มีคนเจอเหตุการณ์อย่างเราก็เยอะ ทั้งไทย ทั้งเทศ
อย่างก็มีคนไทยติดฟิล์มแล้วจอแตก อันนี้เราไปอ่านหลายคนก็ไม่เชื่อ แต่เราเชื่อสนิทใจเลยเพราะของเราหนักกว่าอีก
เจอของฝรั่งบอกนั่งอยู่ดีๆ ได้ยินเสียง Crack สรุปจอแตกเหมือนกัน แล้วรอยเหมือนกันเลย เดี๋ยวเราอัพรูปให้ดู
คนไทยบางคนบอก แค่แบบตกนิ๊ดดดด เดียว จอแตกเหมือนกัน
ทีนี้เราจะทำยังไงดีคะ เครียดมาก แล้วบอกตามตรงว่ารู้สึกแย่และผิดหวังกับบริการ และสินค้ามากๆ
ใช้ iPhone 4 มาเราดูแลอย่างดี ตกแค่ไม่กี่ครั้ง แถมจอจะดูแข็งแรงกว่ามาก
เคสเราก็ไม่ใส่ เพราะเราไม่ชอบ เคสบางอันเห็นว่ากินขอบอีก ยิ่งไม่ใส่ เพราะเราเป็นคนที่รักษาของดีมาก
ยิ่งถ้าเป็นของจากน้ำพักน้ำแรงตัวเองด้วย
แล้วประเด็นคือ อยู่ๆ มาคิด 12,500.- นี่หนักสุด บอกตามตรงค่ะ เราไม่มีเงิน
เราอดทน เก็บหอมรอมริบมาเรื่อยๆ แล้วมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ความรับผิดชอบก็ต่ำมาก
เครื่องก็เพิ่งซื้อเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมานี้เอง เกิดปัญหาจอแตกกันทั่วโลก แต่กลับไม่มีการรับประกันสำหรับจอ
เช็คก็เช็คได้ใช่ไหมคะว่า ตก หรือ กระแทก รึเปล่า เหมือนเราได้ยินมาว่ามันมีระบบบันทึก การกระแทก หรือว่าความชื้น
เพื่อเอาไว้ใช้ในกรณีแบบนี้โดยเฉพาะ อันนี้จริงรึเปล่าคะ
แล้วถ้าจริง เขาจะไม่ตรวจเช็คทางเทคนิคให้หน่อยหรอคะ
แต่กลับมาชักสีหน้าเหมือนไม่เชื่อลูกค้า ยิ่งทำให้รู้สึกแย่กว่าเดิมมากอ่ะ
อย่างน้อยๆ ถามเบอร์อะไรเราสักนิด ก็จะรุ้ว่าเราใช้เบอนี้มาเป็นสิบปี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ด้วยนะคะ
นี่รูปค่ะ (พอด Account อัพรูปไม่ได้ ขออนุญาตแปะลิ้งค์นะคะ)
** อัพเดตนะคะ
ลองโทรไปที่สิงคโปร์ แล้ว แล้วเขาบอกว่า ทาง Dtac ไม่ยอมส่งเรื่องไปให้
เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นี่คืออะไรคะ คือเราต้องกลับไป Dtac เพื่อไปอ้อนวอน
ให้เขาส่งปัญหาของ apple ไปให้ แล้วจะบอกให้เราไปติดต่อ Apple ที่สิงคโปร์ทำไม??
ถ้าไม่ส่งเรื่องไปให้ แล้วเราต้องเข้าเมืองไปไกลๆ นั่งรออีก 2 ชั่วโมง งั้นหรอ
ไม่คิดว่าจะเสียความรู้สึกกับ Dtac ได้ขนาดนี้
ขอโทษนะคะบางทีอาจจะอารมณ์เสียเกินไปหน่อย
แต่ทำไมเขานิ่งดูดายแบบนี้คะ
**** อัพเดต 2 : 18:15น.
ตอนนี้ดีแทคกำลังติดต่อกับ Apple สิงคโปร์ให้อยู่ค่ะ
ปล.แอบสงสัยว่าApple ที่ไทยก็มีไม่ใช่หรอ ทำไมต้องไปถึงสิงคโปร์ เลย -*-
****** อัพเดต 3 : 18:50น.
ไร้ซึ่งความรับผิดชอบจาก Apple สิงคโปร์ ทาง Dtac บอกว่าเดี๋ยวคุยให้แล้วจะติดต่อไป
แต่เหมือนก่อนหน้านี้เขาจะบอกว่า Office ที่สิงคโปร์ ติดต่อได้ถึงประมาณ 5 โมงเย็น
โทรไปคุยจริงเปล่าก็ไม่รู้ แล้วทาง Call center ก็โทรกลับมาหาเรา
แต่กลับยื่นข้อเสนอลดราคาโปรโมชั่น ซึ่งเราไม่ได้ต้องการเลย
เราไม่เข้าใจว่าทำไมทาง DTAC ถึงดูปกป้อง Apple มากกว่าปกป้องลูกค้า
เราไม่รู้ว่าจะหมดศรัทธาใน Apple Dtac หรือทั้งสองอย่างเลยดี