เรื่องของเรื่องคือว่า เมื่อช่วง 21.30 น. ผมไปซื้อของที่ ตลาดซีใหญ่ สาขา UDOMKIT 2 มา
เข้าไปในร้าน ทางร้านได้ปิดแอร์ จนลูกค้าที่เข้าจากข้างนอกไปรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากตู้แช่ทั้งหมด
ผมก็เดินวนๆ 2 - 3 รอบ หาของกินไปเรื่อยๆ แบบว่าดึก มันหิว
เดินผ่านตู้แช่เย็น ตัดสินใจหยิบน้ำชาอู่หลง ยี่ห้อหนึ่งขึ้นมา รสการ์ดีเนียผสมเลมอน
ด้วยความที่ปกติชอบดื่มน้ำชา ก็สังเกตเห็นน้ำในขวดออกสีขุ่นๆข้นๆ ก็เลยหมุนข้างขวดไปดูว่าหมดอายุวันที่เท่าไหร่
พอเห็นวันที่เท่านั้นแหละ แม่เจ้า!!!! Best Before 171214 (ไม่ได้ถ่ายรูปมา) หยิบขวดถัดไปข้างในออกมาดู เหมือนกันเปี๊ยบ เลยสังเกต ขวดถัดไปในๆ สีแบบเดียวกัน
เลยเปลี่ยนใจหยิบ รสน้ำผึ้งผสมมะนาวมาแทน
ก็เดินไปหาชั้นเบเกอรี่ต่อ ด้วยความที่บ่นหิว จะเอาขนมปังที่เป็นแผ่นยี่ห้อ บ้านฟาร์ม มาราดนนมข้นหวานกิน ก็มองๆดูมีแบบครึ่งแถวกับเต็มแถว ก็ตัดสินใจหยิบแบบเต็มแถวมา เพราะในบ้านคนเยอะครับ
ก่อนออกจากชั้นเบเกอรี่ สายตาเจ้ากรรมเหลือบไปเห็น ขนมเอแคลร์ใส้คัสตาร์ด น้ำหนัก 90 กรัม ด้วยความที่ไม่ได้กินนาน เลยจัดมา 1 กล่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มองไม่เห็นยี่ห้อเนอะ แต่พอรู้สภาพจากลักษณะ
(ณ ตรงนี้บอกไว้ก่อนนะครับว่า ตรวจวันหมดอายุทุกอย่างเรียบร้อยครับ ขนมปังแผ่น หมด 25 ธ.ค. เอแคลร์หมด 23 ธ.ค. ชาเขียว 170915 ตามนี้ครับ)
และก็ซื้อของกินอีก 2 ชิ้น ก็เดินไปจ่ายเงินปกติครับ
กลับมาถึงบ้าน แม่ถามเลยได้ไรมาบ้าง ก็บอกมีชาเขียว เอแคลร์ ขนมปัง แม่เห็นถุงเลยบอกไปไกลจัง ก็บอกแถวๆนี้ขนมปังมันหมดเลยไปนู่น
แถมยังบอกแม่อีกนะครับว่าเจอของหมดอายุด้วยแหละ
แม่เลยถามอ้าวแล้วซื้อมาทำไม
ก็บอกแม่ไปว่าไม่ได้ซื้อ ใส่ชั้นคืน
แม่ถามอีกว่า บอกพนักงานหรือเปล่า
ตอบไปว่าลืมบอก(เลวเนอะ!!! ที่ไม่บอกพนักงาน)
แม่เลยบอกเอาเอแคลร์มากินลูกนึง ผมก็จัดแจงหยิบกล่องมาแกะแล้วยื่นให้แม่ เสร็จแล้วเดินไปเก็บขนมปังบนโต๊ะ
สักพัก แม่ถามว่า เอแคลร์ใส้อะไร ตอบกลับไปคัสตาร์ด ทำไมเหรอ
แม่ถามกลับมาว่า ทำไมคัสตาร์ดมันเปรี้ยวจัง ผมร้องเห้ย
เปรี้ยวได้ไง คัสตาร์ด แม่บอกลองมาชิมสิ ผมรีบเดินกลับไปเปิดกล่องดมกลิ่น อื้อหือ กลิ่นเลม่อนชัดๆ เลยบอกแม่ว่าสงสัยมันบูดแล้วหละอย่ากินเลย แต่ในความรู้สึกเรา มันเห้ย หมดอายุ 23 มันไม่น่าจะบูดนะ พลิกดูหลังกล่องก็มีใส่สารกันบูด ไม่น่าจะเสียเร็วไปมั๊ง นั่งคิดพักใหญ่ถึงบางอ้อครับ
คือ มินิ ซีใหญ่ เขาปิดแอร์!!!! เพื่อความประหยัดหรือแอร์เสีย หรืออะไรมิทราบ แต่ทุกครั้งที่ไป ก็จะรู้สึกอากาศข้างในกับข้างนอกช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคือข้างนอกอากาศเย็น(ตอนกลางคืน) แต่ข้างในเตาอบ!!! มันเลยยิ่งเร่งปฏิกิริยาให้อาหารบูด หรือเสียเร็วสินะ
คืออยากจะเล่าสู่กันฟังครับว่าหากใครจะไปซื้อของที่เป็นของกิน ของใช้ในร้านสะดวกซื้อต่างๆ จะพิจารณาจากวันหมดอายุของสินค้าอย่างเดียวไม่ได้แล้วนะครับ ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลักของสภาพอากาศภายในร้านด้วย อีกอย่างที่นี่เขาตั้งตู้แช่น้ำติดกับชั้นเบเกอรี่ครับ ยิ่งทำให้ อืมมมนะ ข้าวของชั้นเบเกอรี่บูดเร็ว ขนมปังแผ่นที่ผมซื้อมา จับแผ่นที่ 1 และ 2 ออกมามีความรู้สึกสากมือเลยครับ แผ่นที่ 3 ไม่ค่อยเท่าไหร่ อาจจะได้รับผลกระทบมาจากการประหยัดพลังงานของร้านสะดวกซื้อดังกล่าวก็เป็นได้ครับ หรืออาจจะเพราะพนักงานงานยุ่ง และสินค้ามีจำนวนมากก็เป็นได้ครับ เลยทำให้ดูแลสินค้าไม่ทั่วถึง ยังไงก่อนซื้อผู้บริโภคต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบก่อนซื้อนะครับ
ขออนุญาต แท็ก ก้นครัว เพราะมีเบเกอรี่ กรีนโซน เพราะทางร้านอาจประหยัดพลังงาน เรื่องเกิดที่จังหวัดชลบุรีครับ
ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยครับ กระทู้แรกครับ
แก้ไขบางตอนที่อ่านแล้วงงครับ
ซื้อของจาก ร้านมินิ ซีใหญ่ สาขาใกล้บ้านมา สินค้าที่ได้มามันบูดครับ
เข้าไปในร้าน ทางร้านได้ปิดแอร์ จนลูกค้าที่เข้าจากข้างนอกไปรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากตู้แช่ทั้งหมด
ผมก็เดินวนๆ 2 - 3 รอบ หาของกินไปเรื่อยๆ แบบว่าดึก มันหิว
เดินผ่านตู้แช่เย็น ตัดสินใจหยิบน้ำชาอู่หลง ยี่ห้อหนึ่งขึ้นมา รสการ์ดีเนียผสมเลมอน
ด้วยความที่ปกติชอบดื่มน้ำชา ก็สังเกตเห็นน้ำในขวดออกสีขุ่นๆข้นๆ ก็เลยหมุนข้างขวดไปดูว่าหมดอายุวันที่เท่าไหร่
พอเห็นวันที่เท่านั้นแหละ แม่เจ้า!!!! Best Before 171214 (ไม่ได้ถ่ายรูปมา) หยิบขวดถัดไปข้างในออกมาดู เหมือนกันเปี๊ยบ เลยสังเกต ขวดถัดไปในๆ สีแบบเดียวกัน
เลยเปลี่ยนใจหยิบ รสน้ำผึ้งผสมมะนาวมาแทน
ก็เดินไปหาชั้นเบเกอรี่ต่อ ด้วยความที่บ่นหิว จะเอาขนมปังที่เป็นแผ่นยี่ห้อ บ้านฟาร์ม มาราดนนมข้นหวานกิน ก็มองๆดูมีแบบครึ่งแถวกับเต็มแถว ก็ตัดสินใจหยิบแบบเต็มแถวมา เพราะในบ้านคนเยอะครับ
ก่อนออกจากชั้นเบเกอรี่ สายตาเจ้ากรรมเหลือบไปเห็น ขนมเอแคลร์ใส้คัสตาร์ด น้ำหนัก 90 กรัม ด้วยความที่ไม่ได้กินนาน เลยจัดมา 1 กล่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มองไม่เห็นยี่ห้อเนอะ แต่พอรู้สภาพจากลักษณะ
(ณ ตรงนี้บอกไว้ก่อนนะครับว่า ตรวจวันหมดอายุทุกอย่างเรียบร้อยครับ ขนมปังแผ่น หมด 25 ธ.ค. เอแคลร์หมด 23 ธ.ค. ชาเขียว 170915 ตามนี้ครับ)
และก็ซื้อของกินอีก 2 ชิ้น ก็เดินไปจ่ายเงินปกติครับ
กลับมาถึงบ้าน แม่ถามเลยได้ไรมาบ้าง ก็บอกมีชาเขียว เอแคลร์ ขนมปัง แม่เห็นถุงเลยบอกไปไกลจัง ก็บอกแถวๆนี้ขนมปังมันหมดเลยไปนู่น
แถมยังบอกแม่อีกนะครับว่าเจอของหมดอายุด้วยแหละ
แม่เลยถามอ้าวแล้วซื้อมาทำไม
ก็บอกแม่ไปว่าไม่ได้ซื้อ ใส่ชั้นคืน
แม่ถามอีกว่า บอกพนักงานหรือเปล่า
ตอบไปว่าลืมบอก(เลวเนอะ!!! ที่ไม่บอกพนักงาน)
แม่เลยบอกเอาเอแคลร์มากินลูกนึง ผมก็จัดแจงหยิบกล่องมาแกะแล้วยื่นให้แม่ เสร็จแล้วเดินไปเก็บขนมปังบนโต๊ะ
สักพัก แม่ถามว่า เอแคลร์ใส้อะไร ตอบกลับไปคัสตาร์ด ทำไมเหรอ
แม่ถามกลับมาว่า ทำไมคัสตาร์ดมันเปรี้ยวจัง ผมร้องเห้ย
คือ มินิ ซีใหญ่ เขาปิดแอร์!!!! เพื่อความประหยัดหรือแอร์เสีย หรืออะไรมิทราบ แต่ทุกครั้งที่ไป ก็จะรู้สึกอากาศข้างในกับข้างนอกช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคือข้างนอกอากาศเย็น(ตอนกลางคืน) แต่ข้างในเตาอบ!!! มันเลยยิ่งเร่งปฏิกิริยาให้อาหารบูด หรือเสียเร็วสินะ
คืออยากจะเล่าสู่กันฟังครับว่าหากใครจะไปซื้อของที่เป็นของกิน ของใช้ในร้านสะดวกซื้อต่างๆ จะพิจารณาจากวันหมดอายุของสินค้าอย่างเดียวไม่ได้แล้วนะครับ ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลักของสภาพอากาศภายในร้านด้วย อีกอย่างที่นี่เขาตั้งตู้แช่น้ำติดกับชั้นเบเกอรี่ครับ ยิ่งทำให้ อืมมมนะ ข้าวของชั้นเบเกอรี่บูดเร็ว ขนมปังแผ่นที่ผมซื้อมา จับแผ่นที่ 1 และ 2 ออกมามีความรู้สึกสากมือเลยครับ แผ่นที่ 3 ไม่ค่อยเท่าไหร่ อาจจะได้รับผลกระทบมาจากการประหยัดพลังงานของร้านสะดวกซื้อดังกล่าวก็เป็นได้ครับ หรืออาจจะเพราะพนักงานงานยุ่ง และสินค้ามีจำนวนมากก็เป็นได้ครับ เลยทำให้ดูแลสินค้าไม่ทั่วถึง ยังไงก่อนซื้อผู้บริโภคต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบก่อนซื้อนะครับ
ขออนุญาต แท็ก ก้นครัว เพราะมีเบเกอรี่ กรีนโซน เพราะทางร้านอาจประหยัดพลังงาน เรื่องเกิดที่จังหวัดชลบุรีครับ
ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยครับ กระทู้แรกครับ
แก้ไขบางตอนที่อ่านแล้วงงครับ