ข้อมูลจากกรมขนส่งทางบก รายงาน ณ วันที่ 30 พ.ย. 57 จำนวนรถที่จดทะเบียนสะสมทั่วประเทศมี 35,797,893 คัน
(รวมหมดทุกประเภท) โอ้โห เยอะนะ เยอะเวรี่มัช เวรี่กู้ด โอเค ไอฟายด์ แต้งกิ้ว เลิฟยู คือต้องอุทานออกมาเป็นภาษาต่างประเทศเลยอ่ะ
(OMG นี่เอ้าท์นะเตง)
ดูจากรีพอร์ทแล้วรถแว้นนี่มาอันดับหนึ่งเลย ยี่สิบกว่าล๊านนน ! อันดับสองคือรถยนต์คนนั่งไม่เกิน 7 คน (ลิงหมดสิทธิ์นั่ง) เจ็ดล้านกว่า และ
อันดับสามคือ ปิ๊กอัพบวกรถตู้เกือบ หกล้านคัน นี่ยังไม่ได้นับจักรยานนะคะ เพราะจักรยานไม่ได้จดทะเบียน
แต่ถ้าจะคิดคร่าวๆว่าถ้าทุกบ้านมีจักรยานบ้านละ 1 คันล่ะ ? คิดดูสิว่าจะมหาศาล ไอฟายด์ แต้งกิ้ว เลิฟยู แค่ไหน ?
http://www.insure.co.th/index.php/2010-07-19-04-16-36/stat-land-transport/4981-----30--2557
ไอ้ที่ร่ายยาวมาเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ คือแค่ต้องการให้เห็นว่า ตลาดมันใหญ่มาก แค่อุตสาหกรรมยางรถยนต์เพียงอย่างเดียว และก็แค่
ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ความต้องการวัตถุดิบคือยางพาราก็มีมากแทบจะเรียกว่า แค่ซัพพลายให้อุตสาหกรรมนี้เพียงอย่างเดียว
ยังจะไม่พอ นับประสาอะไรกับคิดไปถึงจำนวนรถยนต์ทั่วโลก
แล้วถ้าทุกๆสองปีต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ด้วยล่ะ ?
แล้วที่ประเทศญี่ปุ่นมีกำหนดอายุใช้งานรถยนต์แต่ละคันไม่เกิน 5 ปีล่ะ ?
ความต้องการใช้ยางพาราจะมีมากแค่ไหน ?
จริงอยู่แม้จีนจะเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ต้องการใช้ยางพารามาก จนต้องหันมาเป็นผู้ปลูกยางเพื่อใช้เองก็ตาม แต่ด้วย
สภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกยางมากนัก คาดว่าผลผลิตยางที่ได้ในช่วงระยะเวลา10 ปีข้างหน้า คงยังไม่เพียงพอกับ
ความต้องการ
ที่แน่ๆคือ ยางพาราที่ผลิตจากประเทศจีนยังไม่ออกสู่ตลาดมากนักในช่วงนี้ แต่ทำไม ราคายางของไทย ถึงได้ตกต่ำอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20141110/616310/8%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95.html
อ่านไปอ่านมา ก็สะดุดใจตรงที่ “ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้ซื้อยางตรงจากเกษตรกร แต่ต้องซื้อผ่านนายหน้า” นั่นไงล่ะ ว่าแล้วไง
ทำไมนักการเมืองพรรคของคนใต้ ถึงได้เงียบกริบ ทั้งๆที่ราคายางร่วงเป็นมะม่วงสุกอยู่อย่างนี้ ปล่อยให้เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้
ต้องกัดฟันสู้ กัดฟันทนกล้ำกลืนหน้าชื่นอกตรม กับผลของการออกมาไล่รัฐบาลไม่เอายาง กก.ละ 80 ของนายกฯปู แต่เอาราคายาง
3 โล 100 ของรัฐบาลนี้ . . . หรือว่ารอหนุนนายหน้าช้อนซื้อ เมื่อราคา 5 โล 100 อุ๊บส์ส์ !!
เอาวะ...ปิดสะโตน มิดชะลิน โยโกอย่ามา กู๊ดเมีย สยึ๋มไท และอีก 2-3 เจ้าผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่เค้ารวมตัวกัน เพื่อกำหนดราคาขาย
(แพงๆ) ให้กับเรา ก็อยากให้รัดบาลนครนายกลุงยุด เชิญนักลงทุนชาวจีนมาตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ ราคาถูกให้กับประชาชนเป็นการ
คืนความทุกข์ เจ๊ย! คืนความสุกๆ ดิบๆ ให้กับชาวไทยตาดำๆ บ้าง สมกับที่ยางพาราราคาถูกเสียจนชาวสวนเขาเอาไปสาดไล่แมวขโมยทิ้ง
ไม่ต้องผลิตที่ไทยแล้วเอาออกไปปั๊มตรายี่ห้อที่เมืองนอกให้เสียค่าลิขสิทธิ์เหมือนจ่ายค่าโง่ให้ต่างชาติ
(อย่างเครื่องหมายถูก พอมาเรียกมันว่าไนโก้ไนกี้ไรเนี่ยต้องจ่ายค่าชื่อมันเป็นล้านๆ ตรูงงกับชีวิตมั่กๆ)
ตั้งชื่อยางรถยนต์ตรากบ ตราเขียด ตราปาด อึ่งอ่าง คางคก อะไรก็ว่าไป แต่ขอให้คุณภาพดีๆ ปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากล
... ขอแค่เนี้ย ได้ป่าวคะ ?
ปล. แต่ถ้ายางรถยนต์ยี่ห้อ กบในกะลาครอบ ก็ทำนิชมาร์เก็ต (Niche Market) ให้เฉพาะสลิ่มก็ได้ คงไม่มีใครว่า งุงิ
* * * * ถ้าบ้านเราผลิตยางรถยนต์ มอไซด์ จักรยาน ยี่ห้อ “กบ” ใช้กันเองจะ เวิร์คมั๊ย? (Pechnamnil Amy C) * * * *
(รวมหมดทุกประเภท) โอ้โห เยอะนะ เยอะเวรี่มัช เวรี่กู้ด โอเค ไอฟายด์ แต้งกิ้ว เลิฟยู คือต้องอุทานออกมาเป็นภาษาต่างประเทศเลยอ่ะ
(OMG นี่เอ้าท์นะเตง)
ดูจากรีพอร์ทแล้วรถแว้นนี่มาอันดับหนึ่งเลย ยี่สิบกว่าล๊านนน ! อันดับสองคือรถยนต์คนนั่งไม่เกิน 7 คน (ลิงหมดสิทธิ์นั่ง) เจ็ดล้านกว่า และ
อันดับสามคือ ปิ๊กอัพบวกรถตู้เกือบ หกล้านคัน นี่ยังไม่ได้นับจักรยานนะคะ เพราะจักรยานไม่ได้จดทะเบียน
แต่ถ้าจะคิดคร่าวๆว่าถ้าทุกบ้านมีจักรยานบ้านละ 1 คันล่ะ ? คิดดูสิว่าจะมหาศาล ไอฟายด์ แต้งกิ้ว เลิฟยู แค่ไหน ?
http://www.insure.co.th/index.php/2010-07-19-04-16-36/stat-land-transport/4981-----30--2557
ไอ้ที่ร่ายยาวมาเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ คือแค่ต้องการให้เห็นว่า ตลาดมันใหญ่มาก แค่อุตสาหกรรมยางรถยนต์เพียงอย่างเดียว และก็แค่
ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ความต้องการวัตถุดิบคือยางพาราก็มีมากแทบจะเรียกว่า แค่ซัพพลายให้อุตสาหกรรมนี้เพียงอย่างเดียว
ยังจะไม่พอ นับประสาอะไรกับคิดไปถึงจำนวนรถยนต์ทั่วโลก
แล้วถ้าทุกๆสองปีต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ด้วยล่ะ ?
แล้วที่ประเทศญี่ปุ่นมีกำหนดอายุใช้งานรถยนต์แต่ละคันไม่เกิน 5 ปีล่ะ ?
ความต้องการใช้ยางพาราจะมีมากแค่ไหน ?
จริงอยู่แม้จีนจะเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ต้องการใช้ยางพารามาก จนต้องหันมาเป็นผู้ปลูกยางเพื่อใช้เองก็ตาม แต่ด้วย
สภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกยางมากนัก คาดว่าผลผลิตยางที่ได้ในช่วงระยะเวลา10 ปีข้างหน้า คงยังไม่เพียงพอกับ
ความต้องการ
ที่แน่ๆคือ ยางพาราที่ผลิตจากประเทศจีนยังไม่ออกสู่ตลาดมากนักในช่วงนี้ แต่ทำไม ราคายางของไทย ถึงได้ตกต่ำอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ่านไปอ่านมา ก็สะดุดใจตรงที่ “ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้ซื้อยางตรงจากเกษตรกร แต่ต้องซื้อผ่านนายหน้า” นั่นไงล่ะ ว่าแล้วไง
ทำไมนักการเมืองพรรคของคนใต้ ถึงได้เงียบกริบ ทั้งๆที่ราคายางร่วงเป็นมะม่วงสุกอยู่อย่างนี้ ปล่อยให้เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้
ต้องกัดฟันสู้ กัดฟันทนกล้ำกลืนหน้าชื่นอกตรม กับผลของการออกมาไล่รัฐบาลไม่เอายาง กก.ละ 80 ของนายกฯปู แต่เอาราคายาง
3 โล 100 ของรัฐบาลนี้ . . . หรือว่ารอหนุนนายหน้าช้อนซื้อ เมื่อราคา 5 โล 100 อุ๊บส์ส์ !!
เอาวะ...ปิดสะโตน มิดชะลิน โยโกอย่ามา กู๊ดเมีย สยึ๋มไท และอีก 2-3 เจ้าผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่เค้ารวมตัวกัน เพื่อกำหนดราคาขาย
(แพงๆ) ให้กับเรา ก็อยากให้รัดบาลนครนายกลุงยุด เชิญนักลงทุนชาวจีนมาตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ ราคาถูกให้กับประชาชนเป็นการ
คืนความทุกข์ เจ๊ย! คืนความสุกๆ ดิบๆ ให้กับชาวไทยตาดำๆ บ้าง สมกับที่ยางพาราราคาถูกเสียจนชาวสวนเขาเอาไปสาดไล่แมวขโมยทิ้ง
ไม่ต้องผลิตที่ไทยแล้วเอาออกไปปั๊มตรายี่ห้อที่เมืองนอกให้เสียค่าลิขสิทธิ์เหมือนจ่ายค่าโง่ให้ต่างชาติ
(อย่างเครื่องหมายถูก พอมาเรียกมันว่าไนโก้ไนกี้ไรเนี่ยต้องจ่ายค่าชื่อมันเป็นล้านๆ ตรูงงกับชีวิตมั่กๆ)
ตั้งชื่อยางรถยนต์ตรากบ ตราเขียด ตราปาด อึ่งอ่าง คางคก อะไรก็ว่าไป แต่ขอให้คุณภาพดีๆ ปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากล
... ขอแค่เนี้ย ได้ป่าวคะ ?
ปล. แต่ถ้ายางรถยนต์ยี่ห้อ กบในกะลาครอบ ก็ทำนิชมาร์เก็ต (Niche Market) ให้เฉพาะสลิ่มก็ได้ คงไม่มีใครว่า งุงิ