ออกตัวก่อนว่า... เราไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ปกติเราเช่ารถเมื่อจำเป็นต้องไปต่างเมือง... ในชีวิตประจำวันไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ เราใช้รถไฟเดินทางไปทำงาน ที่ไม่ไกลจากที่พัก ใช้เวลาเพียงประมาณ 30 นาที ถึงที่ทำงาน.. การมีรถในเมืองชุมชนคับคั่ง ไม่สะดวกถ้าไม่มีโรงจอดรถ.... ปัญหาหนักๆคือต้องขับวนๆหาที่จอดรถข้างถนน ซึ่งเราเจอปัญหานี้ตอนเช่ารถระยะสั้นหนึ่งอาทิตย์ ทุกครั้งเราต้องเสี่ยงดวง ถ้าโชคดีเราเจอที่จอดรถหน้าตึกที่พัก คืนไหนขับกลับจากไปเที่ยวดึก คืนนั้นจะหาที่จอดรถใกล้ที่พักยากมาก.... ที่ต้องขับวนๆเกือบชม. หมดเปลืองน้ำมัน บางครั้งเราไปเจอที่จอดรถไกลจากที่พักมาก ต้องเดินกลับบ้านไกลออกไป... รถที่จอดข้างถนนเสี่ยงกับรถโดนทุบขโมยของในรถถึงแม้ว่าไม่มีของให้ขโมยก็ตาม แต่ขโมยมันจะอยากรู้ว่ามีอะไรในช่องเก็บของ Glove compartment ที่รถบางคันเปิดช่องเก็บของอ้าไว้ ขโมยจะได้เห็นชัดๆว่าไม่มีอะไร ถ้าเป็นวิทยุราคาแพง ปัจจุบันแกะเอาวิทยุออกติดตัวไปได้ แต่บางคันโดนทุบหน้าต่างรถอยู่ดี ขโมยมันต้องการค้นเองว่ามีอะไรซ่อนไว้ในรถหรือไม่
นอกจากนั้นรถที่จอดข้างถนน อาจโดนรถคันอื่นเฉี่ยวเสียหายได้ หรือมีพวกวัยรุ่น ตัวอย่างในบล๊อคถนนที่เราอาศัย มีรร.ไฮสคูล เป็น High school rank lowest สำหรับเด็กนร. ที่สอบไม่ติดไฮสคูลที่ติดอันดับ Top ก็จะไปเรียนที่ไฮสคูลนี้ โดยไม่ต้องสอบเทียบวัดผล.... เป็นไฮสคูลประเภท Integration เป็นเด็กนร.มาจากโซนอื่นๆเข้าเรียนได้ ก็คือเด็กที่ไม่สนใจเรียนจะรวมกันอยู่ที่ไฮสคูลนี้เยอะ.... ส่วนมากเป็นเด็กอัฟริกันอเมริกันมาจากโซนอื่น เมื่อนร.พวกนี้จับกลุ่มกันแล้ว มักกร่าง เสียงดังลั่น ชอบทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ทรัพย์สินของคนอื่นคือรถที่จอดข้างถนน ขึ้นไปนั่งบนฝากระโปรงรถ.. หักเสาอากาศเล่น.. กดกริ่งตามตึกอพาทเมนท์ หรือตามบ้าน แล้ววิ่งหนีไป เรายังเคยโดน มันเล่นกดๆๆ จนเราลงไปดูว่าใครกดกริ่ง พอดีมีครูอยู่ตรงนั้นด้วย เขาได้ยินเราตำหนิเด็กนร. ครูมาช่วยสมทบโดยว้ากลั่นใส่นร.คนที่กดกริ่งเล่น เด็กพวกนั้นพูดดีๆด้วยไม่ได้ ครูที่รร.นั้นต้องเป็นครูที่แกร่งถึงจะคุมเด็กอยู่... นร.ส่วนหนึ่งชอบขโมยสินค้าตามร้าน
เราให้ความสนใจกับราคาน้ำมัน มาจากตอนเราเช่ารถหลายครั้งที่ต้องขับไปต่างเมือง เรามักมองหาปั๊มน้ำมันที่ขายน้ำมันราคาถูก เราจำไว้แล้วจะขับไปเติมเต็มถังกลับนิวยอร์ค... ราคาน้ำมันในรูปที่เราถ่ายมาคืนนี้ เป็นราคาน้ำมันในเมือง ที่ราคาแพงกว่าตามปั๊มนอกเมือง แต่สำหรับเรา ราคานี้นับว่า "ถูกกว่า" ราคาน้ำมันเดือนก่อนๆ อยู่ที่ $3 เกือบสี่ $4 ต่อแกลลอน สำหรับ Unleaded Regular
สำหรับราคาน้ำมันในเยอรมนี แพง... เราเห็นใบเสร็จเติมน้ำมันที่สามีไปเติมเต็มถังอยู่ที่ประมาณ 80 กว่ายูโร เป็นรถขนาดใหญ่กินน้ำมันมาก... เราเคยต้องเติมน้ำมันเองที่นั่น เราเงอะงะมาก แต่ก็ผ่านไปด้วยดี รถยนต์ของสามีเป็นเกียร์ Stick shift... เราเคยขับเกียร์สติคชิฟท์คล่อง แบบขับบนถนนเอาโตบาห์น ขับไปกลับหลายเที่ยวตอนย้ายที่พักขนของใส่รถ ที่น่ากลัวคือรถบันทุกแบบ Long haul ที่ขับจี้ แต่เราใจแข็ง ไม่สะทกสะท้านตอนโดนรถบันทุกจี้ตามหลังติดๆ เราขับไปเรื่อยๆจนถึงทางออกจากเอาโต้ บาห์น
แต่พอห่างขับไปนาน ทำให้เราไม่มั่นใจ ทั้งๆที่เราเป็นคนใจกล้า คือเรากลัวทำเครื่องเครารถของสามีพัง... เริ่มตั้งแต่เอารถออกจากโรงรถ พอออกถนน เราขับแช่เกียร์ตลอดทาง ใช้อยู่แค่เกียร์หนึ่ง เปลี่ยนไปเกียร์สอง... ไม่กล้าไปเกียร์สามกลัวว่าจะแจมเกียร์... ขับไม่ไกลไปแค่เอาของไปทิ้งที่ศูนย์รีไซเคิ่ล.... พอเสร็จธุระ ขับถึงบ้านถอยรถเข้าโรงเก็บรถได้นี่ โล่งอกไปเลย... มันช่างต่างไปจากการขับรถเกียร์ออโต้ ที่เราขับชำนาญ
แล้วราคาน้ำมันในไทย ราคาปัจจุบันเท่าไรคะ ? ถูกหรือแพง หรือราคาสูสีกับราคาน้ำมันในอเมริกาคะ ?
แก้ไขมีตกหล่น พิมพ์ภาษาไทยยาวๆ สำหรับเราเป็นความพยายามที่สูงมาก
ราคาน้ำมันรถยนต์ ราคาท้องตลาดที่นี่ Regular $2.89/แกลลอน (ถูกลงไปเยอะ)
นอกจากนั้นรถที่จอดข้างถนน อาจโดนรถคันอื่นเฉี่ยวเสียหายได้ หรือมีพวกวัยรุ่น ตัวอย่างในบล๊อคถนนที่เราอาศัย มีรร.ไฮสคูล เป็น High school rank lowest สำหรับเด็กนร. ที่สอบไม่ติดไฮสคูลที่ติดอันดับ Top ก็จะไปเรียนที่ไฮสคูลนี้ โดยไม่ต้องสอบเทียบวัดผล.... เป็นไฮสคูลประเภท Integration เป็นเด็กนร.มาจากโซนอื่นๆเข้าเรียนได้ ก็คือเด็กที่ไม่สนใจเรียนจะรวมกันอยู่ที่ไฮสคูลนี้เยอะ.... ส่วนมากเป็นเด็กอัฟริกันอเมริกันมาจากโซนอื่น เมื่อนร.พวกนี้จับกลุ่มกันแล้ว มักกร่าง เสียงดังลั่น ชอบทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ทรัพย์สินของคนอื่นคือรถที่จอดข้างถนน ขึ้นไปนั่งบนฝากระโปรงรถ.. หักเสาอากาศเล่น.. กดกริ่งตามตึกอพาทเมนท์ หรือตามบ้าน แล้ววิ่งหนีไป เรายังเคยโดน มันเล่นกดๆๆ จนเราลงไปดูว่าใครกดกริ่ง พอดีมีครูอยู่ตรงนั้นด้วย เขาได้ยินเราตำหนิเด็กนร. ครูมาช่วยสมทบโดยว้ากลั่นใส่นร.คนที่กดกริ่งเล่น เด็กพวกนั้นพูดดีๆด้วยไม่ได้ ครูที่รร.นั้นต้องเป็นครูที่แกร่งถึงจะคุมเด็กอยู่... นร.ส่วนหนึ่งชอบขโมยสินค้าตามร้าน
เราให้ความสนใจกับราคาน้ำมัน มาจากตอนเราเช่ารถหลายครั้งที่ต้องขับไปต่างเมือง เรามักมองหาปั๊มน้ำมันที่ขายน้ำมันราคาถูก เราจำไว้แล้วจะขับไปเติมเต็มถังกลับนิวยอร์ค... ราคาน้ำมันในรูปที่เราถ่ายมาคืนนี้ เป็นราคาน้ำมันในเมือง ที่ราคาแพงกว่าตามปั๊มนอกเมือง แต่สำหรับเรา ราคานี้นับว่า "ถูกกว่า" ราคาน้ำมันเดือนก่อนๆ อยู่ที่ $3 เกือบสี่ $4 ต่อแกลลอน สำหรับ Unleaded Regular
สำหรับราคาน้ำมันในเยอรมนี แพง... เราเห็นใบเสร็จเติมน้ำมันที่สามีไปเติมเต็มถังอยู่ที่ประมาณ 80 กว่ายูโร เป็นรถขนาดใหญ่กินน้ำมันมาก... เราเคยต้องเติมน้ำมันเองที่นั่น เราเงอะงะมาก แต่ก็ผ่านไปด้วยดี รถยนต์ของสามีเป็นเกียร์ Stick shift... เราเคยขับเกียร์สติคชิฟท์คล่อง แบบขับบนถนนเอาโตบาห์น ขับไปกลับหลายเที่ยวตอนย้ายที่พักขนของใส่รถ ที่น่ากลัวคือรถบันทุกแบบ Long haul ที่ขับจี้ แต่เราใจแข็ง ไม่สะทกสะท้านตอนโดนรถบันทุกจี้ตามหลังติดๆ เราขับไปเรื่อยๆจนถึงทางออกจากเอาโต้ บาห์น
แต่พอห่างขับไปนาน ทำให้เราไม่มั่นใจ ทั้งๆที่เราเป็นคนใจกล้า คือเรากลัวทำเครื่องเครารถของสามีพัง... เริ่มตั้งแต่เอารถออกจากโรงรถ พอออกถนน เราขับแช่เกียร์ตลอดทาง ใช้อยู่แค่เกียร์หนึ่ง เปลี่ยนไปเกียร์สอง... ไม่กล้าไปเกียร์สามกลัวว่าจะแจมเกียร์... ขับไม่ไกลไปแค่เอาของไปทิ้งที่ศูนย์รีไซเคิ่ล.... พอเสร็จธุระ ขับถึงบ้านถอยรถเข้าโรงเก็บรถได้นี่ โล่งอกไปเลย... มันช่างต่างไปจากการขับรถเกียร์ออโต้ ที่เราขับชำนาญ
แล้วราคาน้ำมันในไทย ราคาปัจจุบันเท่าไรคะ ? ถูกหรือแพง หรือราคาสูสีกับราคาน้ำมันในอเมริกาคะ ?
แก้ไขมีตกหล่น พิมพ์ภาษาไทยยาวๆ สำหรับเราเป็นความพยายามที่สูงมาก