สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันธ์ทิปทุกท่าน นี่เป็นกระทู้เเรกของผมครับ จากที่ไม่เคยคิดอยากเขียนกระทู้รีวิวอะไร ได้แต่อ่าน แต่ครั้งนี้เจอแต่ประสบการณ์น่าประทับใจในการเดินทางจึงอยากเขียนเล่าประสบการณ์การเดินทางสี่วัน จาก เชียงใหม่ ถึง เชียงใหม่ บนมอเตอร์ไซค์หนึ่งคันให้ฟังกันครับ
ผิดพลาดเรื่องข้อมูลประการได้ขอสุมาไว้ ณ ที่นี้นะครับ
ผมมีโอกาสไปเชียงใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องด้วยต้องไปเก็บข้อมูลทำงานที่ตัวเมืองเชียงใหม่ 2 วัน จึงวางแผนกับแฟนว่าจะไปเก็บข้อมูลและแบกเป้เที่ยวกัน 2 คนครับ
แผนแรกคือจะแบกเป้แล้วโบกรถกันไปดอยอ่างขาง และกลับมาหารถต่อไปปาย แล้วไปปางอุ๋ง กลับมาจบที่ดอยอินทนนท์ แต่จากที่ดูแผนที่ รวมถึงระยะเวลาการเดินทางและงบประมาณที่มี ดูยังไง๊ยังไงก็ไม่ไหวครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อีกอย่างพี่ต้นเจ้าของที่พักแกถามมาครับว่า "จะโบกรถกันเหรอ? มีเวลาซักเดือนมั้ยล่ะ??"
โหหหห พี่ครับบ ตัดกำลังใจกันจริงจริ๊ง งง
พวกเรานั่งวางแผนกันอยู่ที่ที่พักที่เชียงใหม่ โดยได้รับการแนะนำเรื่องเส้นทางจาก
พี่ต้น หรือพี่โทนี่ แห่ง
Chiang Mai Backpack House ให้ไปเส้นทางที่เราได้ไปกัน โดยวางแผนจะเช่ามอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน กับเวลาที่ไม่ได้กำหนดตายตัว โดยเป้าแรกจะไปอำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งชื่อตามชื่อของสมเด็จพระพี่นางครับ
เมื่อวางแผนเส้นสิ้นก็ถึงเวลาเตรียมตัวออกเดินทางครับ
เราเช่ารถไว้หนึ่งคันกับทาง Coocase ครับ คือ Yamaha TTX ราคาย่อมเยาว์มากครับ บวกกับได้รถใหม่เลยตัดสินใจเช่าครับ แต่ตอนนั้นติดปัญหาอยู่เรื่องเดียวคือทางร้านต้องนำรถไปซ่อมไฟ และรับป้ายทะเบียน บวกกับปัญาใหญ่สุดเลย คือ นี่คือคันสุดท้ายของร้านครับ
โดยวันที่ผมไปติดต่อ คือ วันอาทิตย์ โดยจะได้รถวันรุ่งขึ้นคือวันจันทร์ ซึ่งรถจะได้เร็วสุดคือตอนเที่ยง นั่นหมายความว่าแผนการเดินทางจะต้องเลื่อนอย่างช่วยไม่ได้ครับ
เราเตรียมตัวเรียบร้อยในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเดินทางครับ มีแค่กระเป๋าเป้คนละใบ ซึ่งประกอบด้วยเสื้อผ้ากันคนละ 4-5 ชุด โดยที่ชุดที่เราเอาไป
ไม่มีเสื้อกันหนาวหนาๆ เลยครับ!! นับว่าเราประมาทกันมากทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โถ... ใครจะนึกล่ะครับ ตอนผมอยู่ขอนแก่นอากาศออกจะร้อน เลยคิดกันว่าเชียงใหม่คงไม่หนาวเท่าไหร่ แต่ให้ตายเถอะ! พอไปถึงแค่ขับรถเล่นในเมืองก็สั่นกันงั่กๆ กันแล้วครับ
มีพวกของใช้ส่วนตัวกันนิดหน่อยในกระเป๋าเป้ และก็มีของใช้กระจุกกระจิกใส่กระเป๋าสะพายข้างของแผน กับกระเป๋ากล้องหนึ่งใบของผม บวกกับถุงนอนคนละใบครับ (เดี๋ยวจะมีภาพประกอบให้ดูตอนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ครับ)
ครึ่งวันเช้าเราขับรถเล่นในเมืองครับ(รถของทางที่พัก ซึ่งเราเช่าแยกครับ สำหรับในเมืองเนื่องจากราคาถูกกว่าครับ) จนเมื่อเวลา 11.00 น.ทางร้าน Coocase ติดต่อมาว่ารถได้เเล้วนะครับ
โอ้ว ว ว วว วว!! ดีใจน้ำตาไหล รถได้เร็วกว่ากำหนดชั่วโมงนึงงงง
เรารีบนั่งรถแดงจากประตูเชียงใหม่ไปที่ร้านอย่างไวเลยครับ เมื่อรับรถมาเราก็มาตั้งหลักกันก่อนครับ ที่ปั๊มปตท.ในม.ช.ครับ (ซึ่งส่วนตัวผมเป็นอะไรไม่ทราบ เวลาจะเดินทางไกลไปเที่ยว ผมจะมีความรู้สึกว่าจะต้องตั้งตั้นที่ปั๊มน้ำมันก่อน เป็นความชอบส่วนตัวครับ จอดรถเตรียมพร้อม ซื้อขนมขบเคี้ยว เติมน้ำมัน เช็คลมให้พร้อมแล้วค่อยออกเดินทาง ไม่ทำอย่างนี้รู้สึกการเดินทางมันเหมือนๆ ขาดอะไรไปครับ)
นี่คือภาพเเรกก่อนการเดินทางของผมกับแฟนครับ
สภาพของรถกับการแพ็กของก่อนการเดินทางครับ เราอัดทุกอย่างไว้ที่รถครับโดยกระเป๋าสีแดงของผมกับกระเป๋ากล้องจะอยู่ตรงที่พักขาครับ (ซึ่งอัดแน่นพอดีเป๊ะจนผมแทบไม่มีที่วางขาเลยครับ T T) และกระเป๋าแฟนผมสีเขียวบวกกับถุงนอนสองใบและหมอนหมูหนึ่งใบ(ได้มาจากการปาโป่งตอนเดินถนนคนเดินครับ ^^) จะถูกแพ็คและมัดรวมกันไว้ที่ตะแกรงด้านหลังครับ เสียดายแค่ว่า TTX นี้ไม่มีที่วางขวดน้ำด้านหน้าเหมือนรถออโต้เมติกทั่วไปครับ จึงทำให้ต้องวางขวดน้ำไว้กับกระเป๋าเดินทางแทนครับ
พูดถึงสภาพของรถซักหน่อยนะครับ รถจากที่ดูน่าจะเป็นรถมือสองครับ ไมล์ใช้มาสองหมื่นนิดๆ ซึ่งถือว่าไม่มากนัก รถดูโอเคครับมีรอยขีดข่วนนิดหน่อย(ตามประสารถเช่า) การเร่งความเร็วในพื้นที่ราบไม่มีปัญหาเลยครับ
ผมเติมลมยางล้อหน้า 28 ล้อหลัง 30 ครับ ไม่ให้เต็มมาก เพื่อให้ยางมีพื้นที่รับกับถนนให้มากเข้าไว้ครับ (คำแนะนำจากพี่ต้นครับ) น้ำหนักโดยรวมที่รถรับ คนสองคน บวกกระเป๋าสี่ใบราวๆ 250 กิโลกรัมครับ ซึ่งตลอดการเดินทางรถเราขับได้ไม่มีปัญหาเลยครับ
เราตั้งชื่อรถว่า "สะเมิง" ครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอจบกระทู้นี้ที่วันแรกนะครับ ผมคงต้องแบ่งกระทู้ออกเป็น 4 วัน 4 กระทู้ซะแล้ว เพราะ ผมเขียนแบบเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ นะครับ เนื่องจากภาพประกอบน้อย (ทนอ่านกันนิดนึงนะครับ) ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ แล้วพรุ่งนี้จะมาต่อที่วันที่สองครับ
กระทู้วันที่สองครับ
http://ppantip.com/topic/33009305
[CR] จาก "เชียงใหม่ ถึง เชียงใหม่" เส้นทาง 700 กิโลเมตร คนสองคน มอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน กับสี่วันที่ไม่ธรรมดา
ผิดพลาดเรื่องข้อมูลประการได้ขอสุมาไว้ ณ ที่นี้นะครับ
ผมมีโอกาสไปเชียงใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องด้วยต้องไปเก็บข้อมูลทำงานที่ตัวเมืองเชียงใหม่ 2 วัน จึงวางแผนกับแฟนว่าจะไปเก็บข้อมูลและแบกเป้เที่ยวกัน 2 คนครับ
แผนแรกคือจะแบกเป้แล้วโบกรถกันไปดอยอ่างขาง และกลับมาหารถต่อไปปาย แล้วไปปางอุ๋ง กลับมาจบที่ดอยอินทนนท์ แต่จากที่ดูแผนที่ รวมถึงระยะเวลาการเดินทางและงบประมาณที่มี ดูยังไง๊ยังไงก็ไม่ไหวครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พวกเรานั่งวางแผนกันอยู่ที่ที่พักที่เชียงใหม่ โดยได้รับการแนะนำเรื่องเส้นทางจาก พี่ต้น หรือพี่โทนี่ แห่ง Chiang Mai Backpack House ให้ไปเส้นทางที่เราได้ไปกัน โดยวางแผนจะเช่ามอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน กับเวลาที่ไม่ได้กำหนดตายตัว โดยเป้าแรกจะไปอำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งชื่อตามชื่อของสมเด็จพระพี่นางครับ
เมื่อวางแผนเส้นสิ้นก็ถึงเวลาเตรียมตัวออกเดินทางครับ
เราเช่ารถไว้หนึ่งคันกับทาง Coocase ครับ คือ Yamaha TTX ราคาย่อมเยาว์มากครับ บวกกับได้รถใหม่เลยตัดสินใจเช่าครับ แต่ตอนนั้นติดปัญหาอยู่เรื่องเดียวคือทางร้านต้องนำรถไปซ่อมไฟ และรับป้ายทะเบียน บวกกับปัญาใหญ่สุดเลย คือ นี่คือคันสุดท้ายของร้านครับ
โดยวันที่ผมไปติดต่อ คือ วันอาทิตย์ โดยจะได้รถวันรุ่งขึ้นคือวันจันทร์ ซึ่งรถจะได้เร็วสุดคือตอนเที่ยง นั่นหมายความว่าแผนการเดินทางจะต้องเลื่อนอย่างช่วยไม่ได้ครับ
เราเตรียมตัวเรียบร้อยในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเดินทางครับ มีแค่กระเป๋าเป้คนละใบ ซึ่งประกอบด้วยเสื้อผ้ากันคนละ 4-5 ชุด โดยที่ชุดที่เราเอาไป ไม่มีเสื้อกันหนาวหนาๆ เลยครับ!! นับว่าเราประมาทกันมากทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีพวกของใช้ส่วนตัวกันนิดหน่อยในกระเป๋าเป้ และก็มีของใช้กระจุกกระจิกใส่กระเป๋าสะพายข้างของแผน กับกระเป๋ากล้องหนึ่งใบของผม บวกกับถุงนอนคนละใบครับ (เดี๋ยวจะมีภาพประกอบให้ดูตอนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ครับ)
ครึ่งวันเช้าเราขับรถเล่นในเมืองครับ(รถของทางที่พัก ซึ่งเราเช่าแยกครับ สำหรับในเมืองเนื่องจากราคาถูกกว่าครับ) จนเมื่อเวลา 11.00 น.ทางร้าน Coocase ติดต่อมาว่ารถได้เเล้วนะครับ
โอ้ว ว ว วว วว!! ดีใจน้ำตาไหล รถได้เร็วกว่ากำหนดชั่วโมงนึงงงง
เรารีบนั่งรถแดงจากประตูเชียงใหม่ไปที่ร้านอย่างไวเลยครับ เมื่อรับรถมาเราก็มาตั้งหลักกันก่อนครับ ที่ปั๊มปตท.ในม.ช.ครับ (ซึ่งส่วนตัวผมเป็นอะไรไม่ทราบ เวลาจะเดินทางไกลไปเที่ยว ผมจะมีความรู้สึกว่าจะต้องตั้งตั้นที่ปั๊มน้ำมันก่อน เป็นความชอบส่วนตัวครับ จอดรถเตรียมพร้อม ซื้อขนมขบเคี้ยว เติมน้ำมัน เช็คลมให้พร้อมแล้วค่อยออกเดินทาง ไม่ทำอย่างนี้รู้สึกการเดินทางมันเหมือนๆ ขาดอะไรไปครับ)
นี่คือภาพเเรกก่อนการเดินทางของผมกับแฟนครับ
สภาพของรถกับการแพ็กของก่อนการเดินทางครับ เราอัดทุกอย่างไว้ที่รถครับโดยกระเป๋าสีแดงของผมกับกระเป๋ากล้องจะอยู่ตรงที่พักขาครับ (ซึ่งอัดแน่นพอดีเป๊ะจนผมแทบไม่มีที่วางขาเลยครับ T T) และกระเป๋าแฟนผมสีเขียวบวกกับถุงนอนสองใบและหมอนหมูหนึ่งใบ(ได้มาจากการปาโป่งตอนเดินถนนคนเดินครับ ^^) จะถูกแพ็คและมัดรวมกันไว้ที่ตะแกรงด้านหลังครับ เสียดายแค่ว่า TTX นี้ไม่มีที่วางขวดน้ำด้านหน้าเหมือนรถออโต้เมติกทั่วไปครับ จึงทำให้ต้องวางขวดน้ำไว้กับกระเป๋าเดินทางแทนครับ
พูดถึงสภาพของรถซักหน่อยนะครับ รถจากที่ดูน่าจะเป็นรถมือสองครับ ไมล์ใช้มาสองหมื่นนิดๆ ซึ่งถือว่าไม่มากนัก รถดูโอเคครับมีรอยขีดข่วนนิดหน่อย(ตามประสารถเช่า) การเร่งความเร็วในพื้นที่ราบไม่มีปัญหาเลยครับ
ผมเติมลมยางล้อหน้า 28 ล้อหลัง 30 ครับ ไม่ให้เต็มมาก เพื่อให้ยางมีพื้นที่รับกับถนนให้มากเข้าไว้ครับ (คำแนะนำจากพี่ต้นครับ) น้ำหนักโดยรวมที่รถรับ คนสองคน บวกกระเป๋าสี่ใบราวๆ 250 กิโลกรัมครับ ซึ่งตลอดการเดินทางรถเราขับได้ไม่มีปัญหาเลยครับ
เราตั้งชื่อรถว่า "สะเมิง" ครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอจบกระทู้นี้ที่วันแรกนะครับ ผมคงต้องแบ่งกระทู้ออกเป็น 4 วัน 4 กระทู้ซะแล้ว เพราะ ผมเขียนแบบเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ นะครับ เนื่องจากภาพประกอบน้อย (ทนอ่านกันนิดนึงนะครับ) ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ แล้วพรุ่งนี้จะมาต่อที่วันที่สองครับ
กระทู้วันที่สองครับ http://ppantip.com/topic/33009305