มาจนถึงวันนี้คิดว่าคงไม่มีสาวก Android คนไหนไม่รู้จักหน่วยประมวล Snapdragon 810 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผล 64-bit ระดับเรือธงรุ่นแรกของ Qualcomm คงไม่ต้องถามว่ามันแรงแค่ไหน เอาเป็นว่าสมาร์ทโฟน Android ตัวท็อปของปี 2015 ส่วนใหญ่เลือกใช้ CPU จับมังกรตัวนี้กันทั้งนั้น นอกจากว่าผู้ผลิตเจ้านั้นจะเลือกใช้ CPU ของตัวเอง ทว่าเราไม่ได้จะมาดูว่ามันแรงขึ้นแค่ไหน? หรือประหยัดพลังงานมากขึ้นเท่าไหร่? เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ CPU รุ่นใหม่ต้องทำได้อยู่แล้ว แต่เราจะมาดู 7 นวัตกรรมหรือความสามารถใหม่ๆที่ Qualcomm ใส่เข้ามาใน Snapdragon 810 ว่ามีอะไรน่าสนใจหรือโดนใจกันบ้าง พร้อมของแถมอีกอย่างที่หลายคนอาจจะรออยู่
1. เทคโนโลยี Safeswitch
Safeswitch นั้นเป็นความสามารถในเรื่องการรักษาความปลอดภัยต่อข้อมูลและอุปกรณ์ของผู้ใช้ หากว่าอุปกรณ์นั้นถูกขโมยหรือหายไป โดยเราสามารถสั่งล็อคหรือปลดล็อคเครื่องจากระยะไกลได้เลย ซึ่งความสามารถนี้จะถูกฝังมาในระดับฮาร์ดแวร์ ดังนั้นมันต้องดีกว่าซอฟท์แวร์หรือ App ที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้อย่างแน่นอน
2. สนับสนุนการใช้งาน 4K Ultra HD อย่างสมบูรณ์
Snapdragon 810 จะรองรับการถ่าย, การเล่น และการสตรีมวิดีโอความละเอียดระดับ 4K Ultra HD อย่างสมบูรณ์ ซึ่ง format ของวิดีโอที่ได้จะเป็น H.264(AVC) และ H.265(HEVC)
3. รองรับ Dolby Atmos
Dolby Atmos เป็นเทคโนโลยีระบบเสียงระดับสูงที่ใช้กันในโรงภาพยนต์ แน่นอนว่าเสียงที่ได้นั้นมีคุณภาพสูงและสมจริงอย่างที่สุด นอกจากนั้นยังสามารถแบ่งช่องเสียงได้ถึง 11.1 Channel เลยทีเดียว แต่ไม่แน่ใจว่าพอเอามาใส่สมาร์ทโฟนแล้วจะออกมาเป็นท่าไหนนะครับ
4. Computational Photography
ความสามารถนี้ไม่รู้จะแปลเป็นภาษาไทยว่าอะไร ขอเรียกทับศัพท์เลยละกันครับ เอาเป็นว่ามันเป็นความสามารถที่ทำให้กล้องบนสมาร์ทโฟนสามารถทำ Optical Zoom ได้โดยสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันทำได้เพียง Digital Zoom เท่านั้น ซึ่งความสามารถนี้ Qualcomm ได้จับมือกับบริษัทออกแบบกล้องอย่าง
Corephotonics ทำให้ Snapdragon 810 รองรับการใช้กล้องคู่ โดยตัวหนึ่งเป็น
เลนส์มุมกว้าง (wide) และอีกตัวหนึ่งเป็น
เลนส์เทเล ทำให้
รองรับ Optical Zoom ได้ถึง 3X ในการถ่ายภาพนิ่งและ 5X ในการถ่ายวิดีโอ ด้วยเทคโนโลยีของ Corephotonics จะนำเอาภาพจากกล้องทั้งสองมารวมกันเป็นภาพเดียวแล้วปรับ Focus ได้อีกที เหมือนกับที่ HTC One M8 ทำได้แต่ปรับได้ละเอียดกว่า
5. Advanced Noise Cancallation และการบันทึกเสียงจากทิศที่ต้องการ
Snapdragon 810 นั้นมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมและใช้พลังงานน้อยกว่าเดิม โดยจะอาศัยการจับเสียงจากไมค์หลายๆตัวพร้อมกัน ซึ่งมีไมค์ 1 ตัวเป็นไมค์หลัก ส่วนไมค์ที่เหลือเอาไว้จับเสียงรบกวนแล้วตัดเสียงเหล่านั้น ทำให้ได้เสียงการสนทนาที่ชัดเจนมากขึ้น เรียกได้ว่าคุยอยู่ข้างถนนก็อาจจะไม่ได้ยินเสียงรถวิ่งไปมาเลยทีเดียว นอกจากนั้นเวลาถ่ายวิดีโอยังสามารถเลือกบันทึกเสียงจากทิศทางที่ต้องการได้อีกด้วย
6. รองรับ Wifi 802.11ac และ 11ad
ในเรื่องของ Wifi มาตรฐานใหม่ Snapdragon 810 ก็ไม่พลาดที่จะรองรับมาตรฐานเหล่านี้ ด้วยเทคโนโลยี VIVE ของ Qualcomm นั้นสามารถทำให้การ download และ upload ข้อมูลบนมือถือผ่าน Wifi รวดเร็วขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากนั้นตัว Modem ภายในชิปยังเป็นตัวแรกในโลกที่รองรับการใช้งาน Wifi ที่ band 60GHz ซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้มากที่สุดถึง 4Gbps เรียกว่าเปิดดูวิดีโอสตรีมระดับ 4K สบายๆภายในบ้านได้เลย
7. ระบบตรวจจับและคันหาเสียงเพลง Sense Audio ที่มาพร้อมกับ Shazam
หลายคนคงจะรู้จัก App ที่ชื่อว่า Shazam ซึ่งเป็น App ที่สามารถตรวจจับเสียงเพลงแล้วค้นหาเพลงจริงๆมาเปิดให้เราฟังได้ SoundHound ก็เป็น App อีกหนึ่งตัวที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน ซึ่ง Snapdragon 810 จะมีระบบ Sense Audio ที่ช่วยให้การตรวจจับและค้นหาเพลงผ่านทาง Shazam ทำได้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่ง Shazam จะถูกฝังมาในตัวชิปเลยและให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ได้ด้วยแตะปุ่มเพียงปุ่มเดียว
นอกจากนวัตกรรมและความสามารถใหม่ทั้ง 7 อย่างที่ได้แนะนำไปแล้ว ของแถมอีกหนึ่งอย่างที่มีมาใน Snapdragon 810 คือ การรองรับ SD Card แบบ UHS-I ความเร็วสูงเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นเราก็จะได้เห็นมือถือ Snapdragon ใช้งานกับ microSD ระดับ UHS ได้สักที ไม่ต้องถูกจำกัดอยู่ที่ Class 10 อีกต่อไป
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://droidsans.com/7-plus-1-new-features-in-qualcomm-snapdragon-810
มาทำความรู้จัก 7 นวัตกรรมที่จะมาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon 810 กันดีกว่า
1. เทคโนโลยี Safeswitch
Safeswitch นั้นเป็นความสามารถในเรื่องการรักษาความปลอดภัยต่อข้อมูลและอุปกรณ์ของผู้ใช้ หากว่าอุปกรณ์นั้นถูกขโมยหรือหายไป โดยเราสามารถสั่งล็อคหรือปลดล็อคเครื่องจากระยะไกลได้เลย ซึ่งความสามารถนี้จะถูกฝังมาในระดับฮาร์ดแวร์ ดังนั้นมันต้องดีกว่าซอฟท์แวร์หรือ App ที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้อย่างแน่นอน
2. สนับสนุนการใช้งาน 4K Ultra HD อย่างสมบูรณ์
Snapdragon 810 จะรองรับการถ่าย, การเล่น และการสตรีมวิดีโอความละเอียดระดับ 4K Ultra HD อย่างสมบูรณ์ ซึ่ง format ของวิดีโอที่ได้จะเป็น H.264(AVC) และ H.265(HEVC)
3. รองรับ Dolby Atmos
Dolby Atmos เป็นเทคโนโลยีระบบเสียงระดับสูงที่ใช้กันในโรงภาพยนต์ แน่นอนว่าเสียงที่ได้นั้นมีคุณภาพสูงและสมจริงอย่างที่สุด นอกจากนั้นยังสามารถแบ่งช่องเสียงได้ถึง 11.1 Channel เลยทีเดียว แต่ไม่แน่ใจว่าพอเอามาใส่สมาร์ทโฟนแล้วจะออกมาเป็นท่าไหนนะครับ
4. Computational Photography
ความสามารถนี้ไม่รู้จะแปลเป็นภาษาไทยว่าอะไร ขอเรียกทับศัพท์เลยละกันครับ เอาเป็นว่ามันเป็นความสามารถที่ทำให้กล้องบนสมาร์ทโฟนสามารถทำ Optical Zoom ได้โดยสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันทำได้เพียง Digital Zoom เท่านั้น ซึ่งความสามารถนี้ Qualcomm ได้จับมือกับบริษัทออกแบบกล้องอย่าง Corephotonics ทำให้ Snapdragon 810 รองรับการใช้กล้องคู่ โดยตัวหนึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง (wide) และอีกตัวหนึ่งเป็นเลนส์เทเล ทำให้รองรับ Optical Zoom ได้ถึง 3X ในการถ่ายภาพนิ่งและ 5X ในการถ่ายวิดีโอ ด้วยเทคโนโลยีของ Corephotonics จะนำเอาภาพจากกล้องทั้งสองมารวมกันเป็นภาพเดียวแล้วปรับ Focus ได้อีกที เหมือนกับที่ HTC One M8 ทำได้แต่ปรับได้ละเอียดกว่า
5. Advanced Noise Cancallation และการบันทึกเสียงจากทิศที่ต้องการ
Snapdragon 810 นั้นมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมและใช้พลังงานน้อยกว่าเดิม โดยจะอาศัยการจับเสียงจากไมค์หลายๆตัวพร้อมกัน ซึ่งมีไมค์ 1 ตัวเป็นไมค์หลัก ส่วนไมค์ที่เหลือเอาไว้จับเสียงรบกวนแล้วตัดเสียงเหล่านั้น ทำให้ได้เสียงการสนทนาที่ชัดเจนมากขึ้น เรียกได้ว่าคุยอยู่ข้างถนนก็อาจจะไม่ได้ยินเสียงรถวิ่งไปมาเลยทีเดียว นอกจากนั้นเวลาถ่ายวิดีโอยังสามารถเลือกบันทึกเสียงจากทิศทางที่ต้องการได้อีกด้วย
6. รองรับ Wifi 802.11ac และ 11ad
ในเรื่องของ Wifi มาตรฐานใหม่ Snapdragon 810 ก็ไม่พลาดที่จะรองรับมาตรฐานเหล่านี้ ด้วยเทคโนโลยี VIVE ของ Qualcomm นั้นสามารถทำให้การ download และ upload ข้อมูลบนมือถือผ่าน Wifi รวดเร็วขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากนั้นตัว Modem ภายในชิปยังเป็นตัวแรกในโลกที่รองรับการใช้งาน Wifi ที่ band 60GHz ซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้มากที่สุดถึง 4Gbps เรียกว่าเปิดดูวิดีโอสตรีมระดับ 4K สบายๆภายในบ้านได้เลย
7. ระบบตรวจจับและคันหาเสียงเพลง Sense Audio ที่มาพร้อมกับ Shazam
หลายคนคงจะรู้จัก App ที่ชื่อว่า Shazam ซึ่งเป็น App ที่สามารถตรวจจับเสียงเพลงแล้วค้นหาเพลงจริงๆมาเปิดให้เราฟังได้ SoundHound ก็เป็น App อีกหนึ่งตัวที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน ซึ่ง Snapdragon 810 จะมีระบบ Sense Audio ที่ช่วยให้การตรวจจับและค้นหาเพลงผ่านทาง Shazam ทำได้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่ง Shazam จะถูกฝังมาในตัวชิปเลยและให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ได้ด้วยแตะปุ่มเพียงปุ่มเดียว
นอกจากนวัตกรรมและความสามารถใหม่ทั้ง 7 อย่างที่ได้แนะนำไปแล้ว ของแถมอีกหนึ่งอย่างที่มีมาใน Snapdragon 810 คือ การรองรับ SD Card แบบ UHS-I ความเร็วสูงเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นเราก็จะได้เห็นมือถือ Snapdragon ใช้งานกับ microSD ระดับ UHS ได้สักที ไม่ต้องถูกจำกัดอยู่ที่ Class 10 อีกต่อไป
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้