หมดหวังมากๆ กับกระบวนการทางกฎหมาย

อยากจะเล่าเป็นอุทาหรณ์
บริษัทดิฉันค้าขายสุจริตมาตลอด ไม่เคยคดโกงใคร
และเมื่อปีที่แล้วเดือนเมษายน56 บริษัทของดิฉันค้าขายกับบริษัทแห่งหนึ่ง
มีการส่งของกันหลายครั้ง มูลค่าเกินล้านบาท

แต่ในเคสที่มีปัญหา มี 2 รายการจากทั้งหมดเป็น 10 รายการ ได้แก่ ใบส่งสินค้ามูลค่ากว่า 4xx,xxx บาท และ 1xx,xxx บาทตามลำดับ
ซึ่งเป็นเคสที่ไม่มีการเซ็นรับสินค้า เนื่องจากผู้รับไม่อยู่หน้างาน มีเพียงลูกน้อง(พวกคนงาน)อยู่หน้างาน และผู้รับแจ้งให้ลูกน้องที่หน้างานเป็นคนรับสินค้าแทน
และให้เราส่งเอกสารเข้าทางสำนักงานใหญ่เพื่อทำเรื่องจ่ายเงิน

หลังจากวันที่ส่งสินค้า ทางบริษัทดิฉันก็มีการทวงถามโดยตลอด และส่งรายการให้ทาง fax เพื่อให้ใช้ตรวจสอบรายกาสินค้า (มีหลักฐานจากใบเรียกเก็บขององค์การโทรศัพท์ว่ามีการส่งเอกสารจริง)
พร้อมทั้งส่งเอกสาร vat ไปให้สำนักงานใหญ่ของบริษัทคู่ค้า เพื่อใช้ในการเบิกเงินจากโครงการ

โดยมีการตอบทางไลน์ตลอดด้วยว่าจะไปตรวจสอบให้  ไม่มีปัญหา... พร้อมกับขอบคุณที่ทางเราช่วยอำนวยความสะดวกในการขนสินค้า และระหว่างนั้นก็มีการค้าขายในรายการอื่นๆ เกิดขึ้น และชำระด้วยดีมาตลอด
โดยมีเครดิตกันประมาณ 1 เดือน

เว้นแค่ 2 รายการนี้ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเท่านั้น
(เนื่องจากอ้างว่าหน้างานอยู่ต่างจังหวัด จึงต้องใช้ระยะเวลาการตรวจสอบ และของรอบนี้ก็มีปริมาณมาก ต้องนับโดยละเอียดว่าได้ครบตามใบส่งสินค้าหรือไม่)

จนถึงตุลาคมปี 56 ทางบริษัทเราก็มีการทวงถามเป็นครั้งสุดท้ายจากทนายเพราะเห็นว่า เนิ่นนานเกินไปแล้ว
และก็มีการตอบรับอยู่ว่ามีการเซ็นจ่ายเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกังวล
หลังจากนั้นทางเราก็ได้รับเงินจริงในยอด 1xx,xxx บาท เพียงยอดเดียวเท่านั้น
และเราก็ไม่ได้รับเงินอีกเลย โทรไปก็ไม่รับ จนดิฉันตัดสินใจยื่นเรื่องกับศาล เพื่อขอความยุติธรรม

ผ่านมา 1 ปี จนวันนี้ฟังคำตัดสิน ทางเราแพ้ เพราะศาลไม่เชื่อในประเด็นที่ว่า คนขับรถไม่น่าจะลืมให้คนเซ็นรับ เพราะทำงานมาตั้ง 19 ปี
ทั้งที่มันมีอีกรายการที่สามารถชี้ให้ศาลเห็นว่า ไม่มีลายเซ็น แต่ก็มีการจ่ายเกิดขึ้น คือ รายการที่มียอด 1xx,xxx บาท ซึ่งก็จ่ายหลังจากที่มีการทวงจากทนายฝ่ายเรา

เราไม่ได้โกรธที่แพ้ เลยเอาคดีนี้มาลง แต่ข้องใจในกระบวนการของศาล ทางนั้นไม่มีพยานและหลักฐานอะไรเลย และตอบในศาลด้วยซ้ำว่าได้รับของในใบสั่งซื้อทั้งหมด แต่ในใบส่งของใบนี้ไม่รับเพราะไม่มีลายเซ็น ซึ่งก็ไม่ได้ดูของด้วยตัวเอง ลูกน้องดูให้ ถึงวันขึ้นศาล ลูกน้องก็ไม่มา พร้อมให้การว่าไม่รู้จักชื่อนายวิชัย(ซึ่งก็คือคนรับสินค้าในรอบอื่นๆ) ทั้งที่ตัวเองส่งรายชื่อเป็นพยานในคดี พอทางเราถามว่าปิดงานได้ยังไงถ้าของไม่ครบ ก็แจ้งว่าซื้อที่อื่น พอเราขอดูเอกสารก็แจ้งว่าไม่สามารถเปิดเผยได้ และศาลก็ตอบว่าไม่สามารถขอดูได้ เพราะเป็นเรื่องภายในของอีกฝ่าย

เราขายสินค้า ไม่ได้ขายลายเซ็น เราผิดจริงที่ไม่มีคนเซ็นรับสินค้า และไว้ใจคู่กรณีเกินไป จะเอาผิดกับลูกน้อง เค้าก็แค่ชาวบ้านคนนึง อายุก็มากแล้ว และทำงานกับเราตั้ง 19 ปี

ถ้าพูดถึงในศาล คนดีต้องแพ้คนชั่ว แต่ถ้าพูดถึงกฎแห่งกรรม ดิฉันเชื่อว่า จะไม่ละเว้นคนชั่วเด็ดขาด

ตอนนี้ดิฉันหมดความศรัทธาในตัวศาลไทยอย่างมาก ไม่คิดว่าเราซึ่งเป็นผู้เสียหายจะแพ้ และปล่อยให้คนชั่วลอยนวล โดยใช้คำตัดสินคุ้มกะลาหัว

ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่า ไม่มีความยุติธรรมบนโลก
ขอให้คดีเราเป็นอุทาหรณ์กับคนดี ที่คิดว่าจะใช้ศาลเป็นที่พึ่ง
ดิฉันควรทำยังไงดีคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่