เนื่องจากว่า V air มีโปรมา จขกท เลยเผลอกดไป บิน 31 ธันวา-3 มกรา ในราคา 4513 บาท มาเพิ่มกระเป๋าอีก 10 kg ก็รวม ๆ 5500 บาท ถือว่าถูกมาก เวลาบินก็ถือว่าโอเค ไปถึงบ่าย กลับเช้า
อ่ะ เข้าเรื่อง
VISA ไต้หวัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เราไปขอ ครั้งแรกจำได้ว่าอารมณ์เสีย แต่ก็ไม่ได้อะไร ชิวๆ ยังเด็กอยู่ มาปีนี้คือรู้สึกโมโหกับการจัดการมาก เลยจะมารีวิวให้ฟังค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เข้าไปอ่านทำความเข้าใจที่
http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=424412&ctNode=1813&mp=232
แต่ถ้าหากท่านอ่านแล้วก็ยังงงอยู่ดี ไม่ต้องโทรไปเพราะไม่มีใครรับ เราจะแนะนำดังต่อไปนี้
>>> กรอกข้อมูลออนไลน์ที่
https://visawebapp.boca.gov.tw กรอกเสร็จแล้วปริ้นออกมาใช้ด้วย
เอกสารต่างๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เอกสารต่าง ๆ บางคนบอกให้เอาตัวจริงไปด้วย แต่เราไม่ได้เอาตัวจริงไปเช่น สมุดทะเบียนบ้านและ book bank ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่บางคนก็เจอไล่ให้กลับไปเอาเอกสารมาเพิ่ม ดังนั้นเพื่อเซฟสุดก็เอาไปเถอะค่ะ
ส่วนมากวีซ่าจะผ่านเกือบหมด ถ้ามีเอกสารสำคัญคือเรื่อง
งาน และ
เงิน (ไม่ค่อยเจอคนถูกปฏิเสธวีซ่านะคะ)
สำหรับบุคคลทั่วไป
- พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาหน้าแรกของพาสปอร์ต
- รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว
ฉากหลังสีขาว จำนวน 2 ใบ (ถ่ายตู้อัติโนมัติก็ได้ เราถ่ายมา 120 บาท)
- ใบรับรองการทำงาน
- statement ย้อนหลัง 6 เดือน ปริ้นเอาจากหน้าเว็บได้ถ้าใช้กสิกรหรือไทยพาณิชย์
- ใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- แพลนเที่ยว (อันนี้บวกลบมาก ครั้งแรกไม่เอา ครั้งที่สองเราไม่มี)
- สำหรับ freelance ถ้ามีเงินในบช.เยอะน่าจะผ่าน 30,000++ หรือเจ้าของกิจการก็นำใบจดทะเบียนการค้า หรือประวัติการเสียภาษีไปด้วย
- สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
สำหรับนักเรียนนักศึกษา
- พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาหน้าแรกของพาสปอร์ต
- รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้วฉากหลังสีขาว จำนวน 2 ใบ
- ถ้าอายุไม่ถึง 20 ปี ต้องมีใบยินยอมจากผู้ปกครองเป็นภาษาอังกฤษได้ยิ่งดี (ได้ยินหน้าเค้าเตอร์บอกมา)
- ใบรับรองการเป็นนักศึกษา
- ใบเกรด (+/-) ว่าเอาไปหรือไม่เอา
- statement ย้อนหลัง 6 เดือน ปริ้นเอาจากหน้าเว็บได้ถ้าใช้กสิกรหรือไทยพาณิชย์ จะเป็นของน้องหรือของพ่อแม่ก็ได้
- ใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- แพลนเที่ยว (อันนี้บวกลบมาก ครั้งแรกไม่เอา ครั้งที่สองเราไม่มี)
- สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
เพิ่มเติม : หากไปเยี่ยมญาติ ต้องมีที่อยู่และเบอร์โทรญาติที่ติดต่อได้ที่ไต้หวันด้วย
2. การเตรียมตัว
สถานทูตไต้หวัน หรือที่เรียกว่า สำนักงานเศรษฐกิจไทเป อะไรสักอย่าง ตั้งอยู่ที่ตึก Empire tower สาธร ลงรถไฟฟ้าสถานีช่องนนทรี
แลกบัตรก่อนเข้าตึกด้วย
สนง.อยู่ชั้น 20 ให้แตะบัตรเข้าตรง tower 2 เดินผ่าน lift ชุดแรกแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นเข้าไปลิฟท์ตัวในสุด 2 ตัวสุดท้าย
ส่วนยื่นวีซ่าเปิด 9.00-11.30 คิวสุดท้ายคือ 11.30
ส่วนรับวีซ่า 13.30-15.00
แนะนำให้ไปตั้งแต่เช้า คือไปรอตั้งแต่ 8.00หรือ 8.30 ถ้าเป็นไปได้ ของเราคือไปถึง 11.30 คนเยอะมากกก ตัดคิวที่ 80 คิว 81 เริ่ม 13.30 เราซึ่งได้คิว 119 ได้ยื่นเอกสารขอวีซ่าตอน 15.00 สวัสดีค่ะ
ไปเช้าดีที่สุด
3. การรับวีซ่า
ปกติถ้ายื่น 15/12/2557 จะได้วีซ่า 17/12/2557 ( 3 วันทำการ ) ค่าใช้จ่าย 1,500 บาท
ถ้าเร่งด่วน ยื่น 15/12/2557 ได้วีซ่า 16/12/2557 (2 วันทำการ) ค่าใช้จ่าย 2,300 บาท
ไม่มียื่นเช้าได้บ่ายแล้วค่ะ
วีซ่า Multiple ราคา 3,000 บาท คือจ่าย 1,500 แรกก่อนแล้วรอดูว่าจะผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านก็จ่ายเพิ่ม 1,500 บาท
การรับวีซ่า ถ้าอยากได้เร็วให้มายืนรอตอน 12.00-12.30 เค้าจะให้ยืนต่อแถวรอประตูเปิด แล้วค่อยได้บัตรคิวตอน 13.30 น.
( เรามารอตอน 12.30 ซึ่งได้คิวที่ 10 แต่เจ้าหน้าที่หาเล่มวีซ่าไม่เจอ ได้รับตอน 15.30)
สรุป
- ควรไปยื่นวีซ่าตั้งแต่เช้า
- ควรไปรอรับวีซ่าก่อนเวลาทำการ
- แนะนำสุดๆเลยคือให้เอเจนซี่ทำให้ คือชีวิตจะดี ไม่เสียอารมณ์และเสียเวลาแบบเรา เสียแค่เงิน ประมาณ 500-1000 แล้วแต่เจ้า แต่ทำๆกับเค้าไปเถอะ
สิ่งที่ไม่ชอบ
- การจัดการเรื่องคิวแย่มากกกกก อย่างเช่นการรับวีซ่า ทำไมไม่ให้คนที่มาก่อนกดคิวรอให้เลย เช่น มา 12.00 จริงๆมีคุณยามอยู่หน้าประตูซึ่งเปลี่ยนเวรกันอยู่แล้ว ก็กดให้บัตรคิวไปสิ คือต้องมายืนรอเรียงแถว 2-3แถวเป็นเวลา 1-1.5 ชม. เพื่ออออออ อย่างเราวันนี้เราต้องไปทำธุระต่ออีก ต้องยกเลิกธุระนั้นเลย เพราะรอวีซ่า 3 ชม.
- การรับวีซ่า เจ้าหน้าที่ที่ให้วีซ่า มีแค่ 1 คนคือ counter 3 แล้วเวลายื่นบัตรคิวพร้อมใบเสร็จสีเหลืองให้ เค้าก็จะหาทีละเล่มๆ จากตัวย่อหน้าวีซ่า เช่น Axxxxxx Bxxxxxx ไปเรื่อย ๆ
- เรื่องเจ้าหน้าที่ยังไม่จบ คือคนที่ได้คิวที่ 3/9/10 รันไปเรื่อยๆ เมื่อหาวีซ่าไม่เจอ ก็จะให้ไปรอก่อนแล้วกดคิวใหม่ต่อ พอถามว่าต้องให้รอเมื่อไหร่ ก็บอกว่าสักพัก โดยที่ไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน เล่มวีซ่าก็จะทะยอยมาใส่ตะกร้าเรื่อยๆ พอจนท.ที่เค้าเตอร์ได้วีซ่าตะกร้าใหม่ ก็จะเปิดดูทีละเล่มและเอาใส่ category A B C ไป ซึ่งทำให้เสียเวลามากกกกกก คนที่ได้คิวต้นๆเหมือนเรา ยื่นวีซ่าปกติวันที่ 15/12 ต้องมารับ 17/12 แต่ก็ยังหาไม่เจอ คือยังปั๊มไม่เสร็จหรืออย่างไรไม่ทราบ ทำให้การรับเล่มล่าช้ามาก แล้วคิวที่คนมารับวันนี้คือ 100 กว่าๆ แต่เพิ่งรันคิวได้ 57 คนตอนประมาณ 15.30 น. ทุกคนเริ่มอารมณ์เสีย
- อยากจะขอฝากไว้ว่า ถ้ามีวีซ่า UK AMERICA เชงเก้น ออสเตรเลีย ที่ยังไม่หมดอายุนี่ apply online ได้เลย ไม่ต้องมายื่นแบบนี้ คนที่ได้ visa america 10 ปี่ถือว่าโชคดีมากก เหมือนได้เข้าไต้หวันฟรี 10 ปี
- เราชอบไต้หวันนะ อาหารอร่อย ไปปีนเขาก็สนุกดี แต่ระบบการขอวีซ่าที่แย่แบบนี้ก็ทำเราเอือมเหมือนกัน
- ได้ข่าวว่าจะยกเลิกวีซ่า ไม่รู้จะรุ่งหรือจะรอดหรือจะให้ apply visa ตามเดิม คือไต้หวันนี่เป็นประเทศที่กลัวคนชาติอื่นเข้าไปโรบินฮู้ดมากๆๆๆๆ
- ได้บ่นแล้ว ไปละค่ะ ไต้หวันน่าเที่ยว แต่การขอวีซ่าเองห่วยมาก(ย้ำล้านรอบ)
[CR] Review การขอวีซ่าไต้หวัน
อ่ะ เข้าเรื่อง
VISA ไต้หวัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เราไปขอ ครั้งแรกจำได้ว่าอารมณ์เสีย แต่ก็ไม่ได้อะไร ชิวๆ ยังเด็กอยู่ มาปีนี้คือรู้สึกโมโหกับการจัดการมาก เลยจะมารีวิวให้ฟังค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เข้าไปอ่านทำความเข้าใจที่ http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=424412&ctNode=1813&mp=232
แต่ถ้าหากท่านอ่านแล้วก็ยังงงอยู่ดี ไม่ต้องโทรไปเพราะไม่มีใครรับ เราจะแนะนำดังต่อไปนี้
>>> กรอกข้อมูลออนไลน์ที่ https://visawebapp.boca.gov.tw กรอกเสร็จแล้วปริ้นออกมาใช้ด้วย
เอกสารต่างๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เอกสารต่าง ๆ บางคนบอกให้เอาตัวจริงไปด้วย แต่เราไม่ได้เอาตัวจริงไปเช่น สมุดทะเบียนบ้านและ book bank ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่บางคนก็เจอไล่ให้กลับไปเอาเอกสารมาเพิ่ม ดังนั้นเพื่อเซฟสุดก็เอาไปเถอะค่ะ
ส่วนมากวีซ่าจะผ่านเกือบหมด ถ้ามีเอกสารสำคัญคือเรื่อง งาน และ เงิน (ไม่ค่อยเจอคนถูกปฏิเสธวีซ่านะคะ)
สำหรับบุคคลทั่วไป
- พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาหน้าแรกของพาสปอร์ต
- รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้วฉากหลังสีขาว จำนวน 2 ใบ (ถ่ายตู้อัติโนมัติก็ได้ เราถ่ายมา 120 บาท)
- ใบรับรองการทำงาน
- statement ย้อนหลัง 6 เดือน ปริ้นเอาจากหน้าเว็บได้ถ้าใช้กสิกรหรือไทยพาณิชย์
- ใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- แพลนเที่ยว (อันนี้บวกลบมาก ครั้งแรกไม่เอา ครั้งที่สองเราไม่มี)
- สำหรับ freelance ถ้ามีเงินในบช.เยอะน่าจะผ่าน 30,000++ หรือเจ้าของกิจการก็นำใบจดทะเบียนการค้า หรือประวัติการเสียภาษีไปด้วย
- สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
สำหรับนักเรียนนักศึกษา
- พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาหน้าแรกของพาสปอร์ต
- รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้วฉากหลังสีขาว จำนวน 2 ใบ
- ถ้าอายุไม่ถึง 20 ปี ต้องมีใบยินยอมจากผู้ปกครองเป็นภาษาอังกฤษได้ยิ่งดี (ได้ยินหน้าเค้าเตอร์บอกมา)
- ใบรับรองการเป็นนักศึกษา
- ใบเกรด (+/-) ว่าเอาไปหรือไม่เอา
- statement ย้อนหลัง 6 เดือน ปริ้นเอาจากหน้าเว็บได้ถ้าใช้กสิกรหรือไทยพาณิชย์ จะเป็นของน้องหรือของพ่อแม่ก็ได้
- ใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- แพลนเที่ยว (อันนี้บวกลบมาก ครั้งแรกไม่เอา ครั้งที่สองเราไม่มี)
- สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
เพิ่มเติม : หากไปเยี่ยมญาติ ต้องมีที่อยู่และเบอร์โทรญาติที่ติดต่อได้ที่ไต้หวันด้วย
2. การเตรียมตัว
สถานทูตไต้หวัน หรือที่เรียกว่า สำนักงานเศรษฐกิจไทเป อะไรสักอย่าง ตั้งอยู่ที่ตึก Empire tower สาธร ลงรถไฟฟ้าสถานีช่องนนทรี
แลกบัตรก่อนเข้าตึกด้วย
สนง.อยู่ชั้น 20 ให้แตะบัตรเข้าตรง tower 2 เดินผ่าน lift ชุดแรกแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นเข้าไปลิฟท์ตัวในสุด 2 ตัวสุดท้าย
ส่วนยื่นวีซ่าเปิด 9.00-11.30 คิวสุดท้ายคือ 11.30
ส่วนรับวีซ่า 13.30-15.00
แนะนำให้ไปตั้งแต่เช้า คือไปรอตั้งแต่ 8.00หรือ 8.30 ถ้าเป็นไปได้ ของเราคือไปถึง 11.30 คนเยอะมากกก ตัดคิวที่ 80 คิว 81 เริ่ม 13.30 เราซึ่งได้คิว 119 ได้ยื่นเอกสารขอวีซ่าตอน 15.00 สวัสดีค่ะ ไปเช้าดีที่สุด
3. การรับวีซ่า
ปกติถ้ายื่น 15/12/2557 จะได้วีซ่า 17/12/2557 ( 3 วันทำการ ) ค่าใช้จ่าย 1,500 บาท
ถ้าเร่งด่วน ยื่น 15/12/2557 ได้วีซ่า 16/12/2557 (2 วันทำการ) ค่าใช้จ่าย 2,300 บาท
ไม่มียื่นเช้าได้บ่ายแล้วค่ะ
วีซ่า Multiple ราคา 3,000 บาท คือจ่าย 1,500 แรกก่อนแล้วรอดูว่าจะผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านก็จ่ายเพิ่ม 1,500 บาท
การรับวีซ่า ถ้าอยากได้เร็วให้มายืนรอตอน 12.00-12.30 เค้าจะให้ยืนต่อแถวรอประตูเปิด แล้วค่อยได้บัตรคิวตอน 13.30 น.
( เรามารอตอน 12.30 ซึ่งได้คิวที่ 10 แต่เจ้าหน้าที่หาเล่มวีซ่าไม่เจอ ได้รับตอน 15.30)
สรุป
- ควรไปยื่นวีซ่าตั้งแต่เช้า
- ควรไปรอรับวีซ่าก่อนเวลาทำการ
- แนะนำสุดๆเลยคือให้เอเจนซี่ทำให้ คือชีวิตจะดี
ไม่เสียอารมณ์และเสียเวลาแบบเราเสียแค่เงิน ประมาณ 500-1000 แล้วแต่เจ้า แต่ทำๆกับเค้าไปเถอะสิ่งที่ไม่ชอบ
- การจัดการเรื่องคิวแย่มากกกกก อย่างเช่นการรับวีซ่า ทำไมไม่ให้คนที่มาก่อนกดคิวรอให้เลย เช่น มา 12.00 จริงๆมีคุณยามอยู่หน้าประตูซึ่งเปลี่ยนเวรกันอยู่แล้ว ก็กดให้บัตรคิวไปสิ คือต้องมายืนรอเรียงแถว 2-3แถวเป็นเวลา 1-1.5 ชม. เพื่ออออออ อย่างเราวันนี้เราต้องไปทำธุระต่ออีก ต้องยกเลิกธุระนั้นเลย เพราะรอวีซ่า 3 ชม.
- การรับวีซ่า เจ้าหน้าที่ที่ให้วีซ่า มีแค่ 1 คนคือ counter 3 แล้วเวลายื่นบัตรคิวพร้อมใบเสร็จสีเหลืองให้ เค้าก็จะหาทีละเล่มๆ จากตัวย่อหน้าวีซ่า เช่น Axxxxxx Bxxxxxx ไปเรื่อย ๆ
- เรื่องเจ้าหน้าที่ยังไม่จบ คือคนที่ได้คิวที่ 3/9/10 รันไปเรื่อยๆ เมื่อหาวีซ่าไม่เจอ ก็จะให้ไปรอก่อนแล้วกดคิวใหม่ต่อ พอถามว่าต้องให้รอเมื่อไหร่ ก็บอกว่าสักพัก โดยที่ไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน เล่มวีซ่าก็จะทะยอยมาใส่ตะกร้าเรื่อยๆ พอจนท.ที่เค้าเตอร์ได้วีซ่าตะกร้าใหม่ ก็จะเปิดดูทีละเล่มและเอาใส่ category A B C ไป ซึ่งทำให้เสียเวลามากกกกกก คนที่ได้คิวต้นๆเหมือนเรา ยื่นวีซ่าปกติวันที่ 15/12 ต้องมารับ 17/12 แต่ก็ยังหาไม่เจอ คือยังปั๊มไม่เสร็จหรืออย่างไรไม่ทราบ ทำให้การรับเล่มล่าช้ามาก แล้วคิวที่คนมารับวันนี้คือ 100 กว่าๆ แต่เพิ่งรันคิวได้ 57 คนตอนประมาณ 15.30 น. ทุกคนเริ่มอารมณ์เสีย
- อยากจะขอฝากไว้ว่า ถ้ามีวีซ่า UK AMERICA เชงเก้น ออสเตรเลีย ที่ยังไม่หมดอายุนี่ apply online ได้เลย ไม่ต้องมายื่นแบบนี้ คนที่ได้ visa america 10 ปี่ถือว่าโชคดีมากก เหมือนได้เข้าไต้หวันฟรี 10 ปี
- เราชอบไต้หวันนะ อาหารอร่อย ไปปีนเขาก็สนุกดี แต่ระบบการขอวีซ่าที่แย่แบบนี้ก็ทำเราเอือมเหมือนกัน
- ได้ข่าวว่าจะยกเลิกวีซ่า ไม่รู้จะรุ่งหรือจะรอดหรือจะให้ apply visa ตามเดิม คือไต้หวันนี่เป็นประเทศที่กลัวคนชาติอื่นเข้าไปโรบินฮู้ดมากๆๆๆๆ
- ได้บ่นแล้ว ไปละค่ะ ไต้หวันน่าเที่ยว แต่การขอวีซ่าเองห่วยมาก(ย้ำล้านรอบ)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น