ฉันคิดไม่ดี หรือ พ่อแม่รังแกฉัน ?

---
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ตามหลักพระพุทธศาสนา มันไม่มีเรื่องบังเอิญ มันมีแต่เรื่อง ของกรรมและผลของกรรมที่ทำไว้และกำลังทำ

การได้มาเกิดเป็นพ่อเป็นแม่เป็นลูกก็เพราะชนกกรรม

การที่เรารับผลในภาระที่ผู้อื่นก่อในชาตินี้มันก็อาจเป็นได้ที่อดีตเราเคยก่อภาระไว้ให้ผู้อื่นแก้ไขมาก่อน

เรื่องกรรมและผลของกรรมเป็นเรื่องซับซ้อน ถ้าคุณเคยอ่านเรื่อง นพ.อาจินต์ บุญเกตุ ที่ป่วยด้วยไมเกรนรุนแรง และเข้ารับการผ่าตัดสมองด้วยวิธีที่ยังไม่ทันสมัยโดยการเจาะกะโหลกเอาอุปกรณ์เข้าไปขูดปลายรากประสาทให้ตายโดยไม่ใช้ยาชาหรือยาสลบ ต้องร้องเจ็บปวดทรมานหยั่งหมูหยั่งหมาที่เขาจะเอาไปฆ่า โดยมีผีเด็กที่เป็นลูกในอดีตชาติมาช่วยและบอกว่า เพราะอดีตชาติคุณพ่อเคยเป็นราชมัล ทำหน้าที่ลงโทษนักโทษ และไปทรมานจำเลยคนหนึ่งถึงแก่ความตายด้วยการบีบขมับ

เพราะฉนั้นผลของกรรมที่เรารับอยู่ขณะนี้อาจเป็นการชดใช้ในการกระทำของตนเองในอดีตก็ได้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนให้ทำบุญไว้ดีแล้วในกาลก่อนก็จริง แต่ทรงให้ความสำคัญกับการกระทพในปัจจุบันขณะที่สุด คือปัจจุบันกรรม

และชีวิตมีปกติควบคู่กับปัญหาชีวิตอยู่แล้วไม่ว่าคุณจะเป็นคนดี คุณก็เผชิญปัญหาแบบคนดี ไม่จะรวย จะจน จะสูงศักดิ์ หรือต่ำต้อยล้วนมีปัญหาชีวิตในแบบของตัวเองทั้งสิ้น

และคุณไม่สามารถใช้สติปัญญาในระดับเดียวกับปัญหา เพื่อแก้ปัญหานั้นได้นอกจากด้วยระดับสติปัญญาที่เหนือกว่า

เท่าที่ผมพิจารณา ความรักสุขรักสบายใช้เงินเกินตัวของคุณแม่คุณไม่ได้พึ่งเป็นเมื่อวาน แต่วันนี้ยังไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนมาทำร้ายเรียกชำระหนี้ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาตามจับว่าไปประกอบมิจฉาอาชีวะหรือเป็นขโมยแต่อย่างใด

มันแสดงให้เห็นว่า ท่านยังมีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของตนอยู่

ผมเริ่มงานเมื่อ 20 ปีก่อน อายุ 22 ปี เงินเดือน 7,500 เป็นผู้ช่วยผู้สอบบัญชี(ที่สำนักงานบัญชีมีชื่อระดับโลกแห่งหนึ่ง) ผมให้แม่ 4,000 ครับ 3,500 เป็นค่าทุกอย่างยกเว้นทานข้าวบ้าน 1 มื้อและไม่มีค่าเช่าบ้านเพราะครอบครัวมีบ้านของตนเอง

ด้วยเงิน 3,500 ผมเก็บหอมไปเรียนต่อในสาขาวิชาชีพที่สูงขึ้น  เมื่อทำงานครบ 2 ปี  อายุ  24 ปี ผมสอบได้เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตครับ พออายุ 25 ปี ผมเปลี่ยนงานเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชี ด้วยเงินเดือน 50,000 ครับ อายุ 35 ปี ผมเลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการอาวุโสด้วยเงินเดือน 200,000 บาทครับ

ทั้งหมดทั้งมวลหลังเรียนจบ ป.ตรี ผมขวนขวายพัฒนาตนเองตลอดจากเงินเก็บที่เก็บได้จากเงินเดือนหลังให้แม่ครึ่งหนึ่ง


ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะยังไม่เข้าไปแก้ปัญหาให้แม่ขณะนี้ครับเพราะมันเป็นเรื่อง เตี้ยอุ้มคล่อมครับ ทำนองช่วยตัวเองยังไม่รอดไปช่วยคนอื่นพาลจะจมน้ำด้วยกันทั้งคู่

ผมเป็นคุณจะเจียดส่วนหนึ่งของเงินเดือนให้ท่านสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น(ค่าอาหาร,ค่าอยู่อาศัย,ค่ายา) และเก็บหอมที่เหลือนำไปพัฒนาตนเองจนวันนึงที่เราแข็งแรงพอ(มีรายได้มากพอ)จึงค่อยเข้าไปแก้ปัญหาหนี้ของท่านครับ

ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะยังไม่เอาปัญหาหนี้ของแม่มาเป็นปัญหาของผม ปัญหาที่ต้องคิดและแก้ขณะนี้ คือจะพัฒนาศักยภาพของตัวเองจนมีรายได้สูงขึ้นได้ยังไงตะหากนะครับ

ขอให้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับบุพการีในฐานะที่เป็นพุทธมามกะครับ

และขอให้ใช้สติปัญญาในระดับที่เหนือกว่าปัญหานะครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่