รีวิว เชียงคานในสายลมหนาว ขึ้นภูทอกดูทะเลหมอก ชิมของอร่อย ปล่อยใจไว้ที่ริมโขง

สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเจ้าของกระทู้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^_^
    



ทริปนี้ไม่ใช่ทริปแรก แต่เป็นการไปเที่ยวจ.เลยครั้งแรกของเราค่ะ จุดมุ่งหมายของการไปเที่ยวเชียงคานเพราะอยากไปสัมผัสอากาศเย็นๆ (ถึงขั้นหนาวเลยเมื่อไปถึง) อยากเห็นทะเลหมอก และเก็บประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเองค่ะ ขอแบ่งเนื้อหาการรีวิวออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ 1.การเดินทาง 2.ที่พัก 3.อาหารการกิน 4.สถานที่ท่องเที่ยวและของฝาก นะคะ จุ๊บๆ






1.ศุกร์หรรษา ออกเดินทางกันเถอะ
เราออกเดินทางจากหมอชิตกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่เชียงคานโดยรถทัวร์ เพราะเราคิดว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับคนไม่มีรถ และรถทัวร์ก็มีไปถึงที่เชียงคานเลย โดยเราเริ่มวางแผนว่าจะไปเที่ยวเชียงคานตั้งแต่เดือน ต.ค.และได้ค้นหาข้อมูลดูรีวิวต่างๆทั้งเรื่องการเดินทางและเรื่องที่พักจากกระทู้เก่าๆในพันทิปและเว็บไซต์ หลังจากนั้นจึงลองเข้าไปค้นหาตั๋วรถทัวร์เส้นทางกรุงเทพ-เชียงคาน ซึ่งเท่าที่เราทราบคือมี 2 บริษัทที่ให้บริการคือ “บขส.999” และ “แอร์เมืองเลย”

ตอนแรกเราเลือกจองตั๋วรถทัวร์ของ บขส.999 ผ่านเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th/ ทั้งไปและกลับ (ไปศุกร์ที่ 12 ธ.ค. และกลับวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค.) แต่เมื่อเข้าไปหาเที่ยวรถแล้วปรากฏว่ารถ VIP (ม4ก-ราคา 756บ.) เต็ม เหลือแต่รถธรรมดา (ม4ข-ราคา 486บ.) และในเว็บของ busticket มีโปรโมชั่นทั่วไปคือจองไป-กลับลดค่าตั๋ว 10% ดังนั้นถ้าเราจะจองตั๋วรถคนละประเภทจะไม่สามารถจองพร้อมกันได้ค่ะ ต้องจองขาไป-ขากลับแยกกัน เมื่อทำการจองตั๋วเสร็จแล้วก็แค่ ปริ้นต์ใบจองไปชำระเงินที่ 7/11 ภายในวันที่กำหนดค่ะ(จะภายใน 23.00 น.ของวันที่จอง) และเมื่อชำระเงินแล้ว ระบบจะส่งเมล์ยืนยันให้เราทางอีเมล์ที่เราใช้สมัครล็อกอินเข้าเว็บไซต์เพื่อยืนยันสถานะการจองของเราอีกทีนึง และเมื่อทำการจองเรียบร้อยแล้ววันเดินทางต้องไปรับตั๋วจริงที่เค้าเตอร์ของ บขส.999 ที่หมอชิตก่อนขึ้นรถประมาณสักครึ่งถึง 1 ชม.ด้วยนะคะ




หมายเหตุ* การจองตั๋วรถทัวร์ผ่าน http://www.busticket.in.th/  ต้องทำการลงทะเบียนเพื่อล็อกอินเข้าจองตั๋ว การสมัครลงทะเบียนไม่ยุ่งยาก และเมื่อได้รหัสผ่านมาแล้ว สามารถใช้เมล์และรหัสดังกล่าวจองตั๋วผ่านเว็บไซต์นี้ได้ตลอดเลยค่ะ และการจองตั๋วผ่านเว็บไซต์จะมีการบวกค่าทำเนียมการดำเนินการที่นั่งละ 18 บาท และสามารถซื้อประกันภัยเพิ่มได้ที่นั่งละ 25 บาท อ่อ และยังมีค่าบริการชำระค่าจองตั๋วที่ 7/11 อีก 15 บาทด้วย

แต่..! มีเรื่องให้ยุ่งยากนิดหน่อยคือเราจองตั๋วรถทัวร์ขาไปผิดวันค่ะ ฮ่าๆๆ อันนี้เราเบลอเองตอนกดจองในเว็บทำให้ต้องไปขอเปลี่ยนตั๋วที่เคาเตอร์ขายตั๋วรถ บขส.999 ที่หมอชิต ซึ่งตามนโยบายของบขส.สามารถเลื่อนตั๋วได้ 1 ครั้งไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ถ้าคืนตั๋วจะโดนหัก 10%จากค่าตั๋ว และไม่คืนเงินในส่วนที่เป็นค่าประกันภัยและค่าดำเนินการค่ะ เราจึงขอเลื่อนตั๋วเป็นวันศุกร์ที่ 12 ธ.ค.เวลา 20.00 น.และขากลับเราคืนตั๋วของบขส. และได้เดินไปจองตั๋วของบริษัท แอร์เมืองเลย ซึ่งคนขายบอกว่าเป็นรถ VIP 27 ที่นั่ง รถใหม่ด้วย ราคา 565บ. ก็เลยซื้อตั๋วขากลับของแอร์เมืองเลย วันที่ 14 ธ.ค.57 เวลา 18.50น.




สำหรับรถ ม4ข ของบขส.นั้นเป็นแบบ 46 ที่นั่ง (ระยะเวลาเดินทาง 10 ชม.) ค่อนข้างแคบพอสมควร สำหรับผู้หญิงขาจะพอดี แต่สำหรับผู้ชายที่ขายาวกว่าอาจมีปัญหาเวลาที่คนด้านหน้าเหยียดเบาะนอนได้ค่ะ อันนี้เป็นข้อเสียเลย และรถคันที่เราไปขาไปนั้น ดันมีกลิ่นห้องน้ำโชยขึ้นมาตั้งแต่รถเริ่มออกยังไม่ทันพ้นกรุงเทพเลย น้องพนักงานเสริฟอาหารเอาสเปรย์ดับกลิ่นฉีดก็ช่วยได้พักนึง บนรถจะมีบริการแจกน้ำเปล่าและขนมบนรถค่ะ และจะจอดให้รับประทานอาหารที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยใช้หางตั๋วแลกรับอาหารได้ เราไปขึ้นรถที่หมอชิตเดินหาชานชาลาที่ 85 ตั้งนาน ขอให้จำไว้ว่าชานชาลาที่ 85 อยู่ติดกับชานชาลาที่ 1 นะคะ ออกจากตึกจำหน่ายตั๋วเดินไปทางซ้ายสุดค่ะ และจุดขึ้นรถกลับที่เชียงคานจะเป็นจุดเดียวกับที่ลงรถ อยู่บริเวณเยื้องๆตลาดเทศบาลเชียงคานค่ะ

ส่วนรถของแอร์เมืองเลยตอนขากลับ ซึ่งเป็นรถ VIP 27 ที่นั่ง แถวละ 3 ที่นั่ง (ระยะเวลาเดินทาง 9 ชม.) เป็นรถคันใหม่จริงๆค่ะ เบาะกว้างมาก และช่องวางขาก็กว้าง ผ้าห่มไม่เหม็น และที่สำคัญไม่มีกลิ่นรบกวนเลย ชนะรถ 999 ไปเลยค่ะ ฮ่าๆๆ และอีกอย่างที่เราประทับใจคือมีช่องเสียบสาย USB ให้ที่นั่งละ2ช่อง อยู่ใต้ที่เท้าแขนตรงกลางระหว่างที่นั่งคู่ สามารถใช้เสียบสายชาร์ตไอโฟนได้ เล่นเกม เล่นเน็ตแบตหมดก็ชาร์ตได้เลย มีขนมและน้ำแจกบนรถ และแวะให้ลงเข้าห้องน้ำกินข้าว (ขออภัยจำสถานที่ไม่ได้เพราะง่วงนอนมากค่ะ ฮ่าๆ) ส่วนจุดขึ้นรถที่เชียงคานของบริษัทแอร์เมืองเลยจะอยู่บริเวณเดียวกับจุดจอดรถของบขส.ค่ะ ถ้าเดินมาทางตลาดเทศบาลจะเจอท่ารถบขส.ก่อน เดินเลยไปเลี้ยวขวา 50 เมตรจะเจอท่ารถของแอร์เมืองเลย




เรามาถึงเชียงคานเวลาประมาณ 6.00 น. จะมีพี่ๆบริการรถสกายแลป (คล้ายๆรถตุ๊กตุ๊ก) มายืนสอบถามหากเราต้องการไปสถานที่ต่างๆ บางคนเดินลงจากรถก็ติดต่อรถสกายแลปไปภูทอกเลย แต่เราเลือกที่จะเดินลากกระเป๋าไปที่พักค่ะ อยากเดินชมเมืองตอนเช้าๆ หนาวๆ ด้วย เดินมาเรื่อยๆ ตามคนข้างหน้าผ่านหน้าตลาดเทศบาลเชียงคาน ใครอยากถึงเร็วๆก็ขึ้นรถสกายแลปไปโลดดดดดดเลย


จากหน้าตลาดเทศบาลเดินตรงผ่านสุวรรณรามา จนมาถึงถนนศรีเชียงคาน ข้ามถนนมาอีกฝั่งเดินลงไปในซอย 9 (ล่าง) จนมาถึงถนนคนเดินเชียงคาน เดินเลาะไปเรื่อยๆเพื่อไปที่พักของเราค่ะที่อยู่ระหว่างช่วงซอย 16-17 เราเดินวนไปวนมาเดินหลงไปอีกทางด้วยค่ะจนต้องกางแผนที่ดูว่าตัวเองอยู่ที่ไหน จึงเดินต่อถูก ฮ่าๆๆ

เมื่อเดินลงมาถึงถนนคนเดินจะพบกับนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่รอใส่บาตรข้าวเหนียวนั่งเรียงรายอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก เราจึงรีบเดินไปที่พัก สวัสดีคุณตาเจ้าของที่พัก แนะนำตัวว่าเราคือคนที่จองห้องไว้ คุณตาก็รับไหว้และบอกให้เราฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้เลย เพราะห้องยังไม่ว่าง ให้ไปเดินเล่นก่อน เราเห็นว่าคุณตากำลังจะใส่บาตรจึงถามว่าจะซื้อชุดใส่บาตรได้ที่ไหน คุณตาจึงเข้าบ้านไปจัดข้าวเหนียวให้เราคนละกระติ๊บพร้อมผลไม้และขนมเล็กน้อย ในราคาชุดละ 50 บาท พร้อมสอนเราใส่บาตรข้าวเหนียวด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่เชียงคานอย่างสุขใจค่ะ






เมื่อตักบาตรเสร็จก็ฝากกระเป๋าคุณตาไว้ ขอเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน ผัดแป้งแต่งหน้า และถือกล้องไปเดินถ่ายรูปเล่นเรื่อยๆ และหาอาหารเช้าทาน รอเวลาเช็คอินท์เข้าห้องค่ะ










บรรยายกาศสบายๆ ลมพัดเย็นๆ ที่ถนนชายโขงเชียงคานและบริเวณจุดชมวิวริมโขงค่ะ




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่