ก่อนอื่นต้องมารู้จักการเกิดภาพเคลื่อนไหวและเฟรมเรทก่อน        
         ภาพเคลื่อนไหวที่เราเห็นกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจากโทรทัศน์หรือในโรงภาพยนต์ล้วนเกิดจากการนำภาพนิ่งหลายๆภาพมาเรียงซ้อนกันจนกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว โดยที่ในแต่ละภาพนิ่งนั้นจะปรากฎให้เราเห็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นก็จะปรากฎภาพนิ่งต่อไปอีกเป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเหมือนกัน แล้วจากนั้นก็จะปรากฎภาพนิ่งถัดไป เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จากการที่ภาพนิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปเร็วมาก ทำให้สายตาเราสังเกตการเปลี่ยนแปลงแต่ละภาพไม่ทัน เราจึงเห็นภาพนิ่งที่มาปรากฎต่อเนื่องกันเหล่านี้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวเกิดขึ้น




         อัตราการปรากฎของภาพนิ่งเหล่านี้ต่อหน่วยเวลาเราเรียกว่า เฟรมเรท(frame rate) เช่น 24 fps ก็คือ 24 frame per second หมายความว่า ใน 1 วินาที เราจะเห็นภาพนิ่งทั้งหมด 24 ภาพ โดยใน 1 ภาพจะปรากฎบนหน้าจอเพียง 1/24 หรือ 0.042 วินาที เมื่อภาพแรกปรากฎบนหน้าจอเป็นเวลา 0.042 วินาทีแล้ว ภาพที่ 2 ก็มามาปรากฎบนหน้าจอต่อจากภาพแรกเป็นเวลา 0.042 วินาทีเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นก็จะปรากฎภาพที่ 3 ต่อ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบ 24 ภาพ ใน 1 วินาที


จากรูปเป็นการแสดงให้เห็นความต่างกันระหว่าง 24 fps และ 60 fps ซึ่ง 24 fps จะใช้ภาพทั้งหมด 24 ภาพ ในการแสดงภาพเคลื่อนไหว 1 วินาที ในขณะที่ 60 fps จะใช้มากถึง 60 ภาพ

         โรงภาพยนต์โดยทั่วไปจะฉายที่ 24 fps ส่วนโทรทัศน์ทั่วไปจะฉายที่ 25 fps (ระบบ PAL) หรือ 29.97 fps (ระบบ NTSC) ยิ่ง fps มาก ภาพยิ่งลื่นไหล ดูนุ่มนวลและเสมือนจริงมากขึ้น เพราะใน 1 วินาที สามารถแสดงภาพได้เยอะกว่า ถ้าเราสังเกตุดีๆจะเห็นว่าภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนต์มาตรฐานทั่วไปนั้น ในฉากที่มีภาพเคลื่อนไหวที่เร็วมาก เช่น ม้าวิ่ง คนวิ่ง รถวิ่ง การหมุนฉากไปเร็วๆ หรืออะไรก็ตามที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จะเห็นว่าภาพจะเบลอและไม่เห็นรายละเอียดมากนัก เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ จึงมีระบบ High Frame Rate (HFR) ขึ้นมา เพื่อมาแก้ปัญหาในส่วนของภาพที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วให้มีรายละเอียดมากขึ้น มีภาพเบลอลดลง มีความชัดเจนของภาพ มีความนุ่มนวลของภาพเพิ่มขึ้น และแน่นอนสิ่งที่ตามมาคือสามารถลดการล้าของสายตาแม้จะดูภาพยนตร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

         ตัวอย่างการเปรียบเทียบภาพที่แสดงผลที่ 24 fps, 48 fps และ 60 fps จะเห็นว่า ที่เฟรมเรทน้อยๆ ในกรณีที่มีวัตถุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจะเห็นภาพเบลอมาก และจะลดลงเมื่อเฟรมเรทสูงขึ้น
















การฉายภาพเคลื่อนไหวที่เฟรมเรตสูงขึ้น ย่อมหมายถึงความนุ่มนวลของการเคลื่อนไหว ที่ดูเป็นธรรมชาติต่อสายตามนุษย์มากขึ้น นอกจากนี้ ผู้กำกับ เจมส์ แคเมรอน อาจจะสร้าง Avatar 2 ที่เฟรมเรตสูงๆ เช่นกัน ซึ่งอาจหมายถึง 48 fps หรือ 60 fps ในอนาคต

ภาพยนต์เรื่อง The Hobbit : The Battle Of Five Armies จะฉายในระบบ HFR ที่ 48 fps เฉพาะโรงภาพยนต์ที่รองรับการฉายในระบบ HFR เท่านั้น ส่วนโรงที่ไม่รองรับการฉายในระบบ HFR จะฉายที่ 24 fps เหมือนหนังทั่วๆไป

สาขาโรงภาพยนต์ที่มีโรงที่รองรับการฉายในระบบ HFR ได้แก่

SF
กรุงเทพทุกสาขา
ต่างจังหวัด
เมญ่า เชียงใหม่,พรอมเมนาดา เชียงใหม่, เซ็นทรัล ภูเก็ต, เซ็นทรัล ขอนแก่น, เซ็นทรัลพัทยาบีช และเซ็นทรัลพัทยา
https://www.facebook.com/WeLoveSF/photos/a.151087775832.142970.148069940832/10152912668265833/?type=1&theater

เมเจอร์ฯ
กรุงเทพ
เมกา ซีนีเพล็กซ์, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ฯสุขุมวิท, เมเจอร์ฯ เซ็นทรัล พระราม 3, พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ฯ รัชโยธิน, เอสพลานาด รัชดาภิเษก, เมเจอร์ฯ โลตัส บางกะปิ, เมเจอร์ฯ แฟชั่น ไอส์แลนด์, เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย, เมเจอร์ฯ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ฯ ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ฯ เซ็นทรัล พระราม 2
ต่างจังหวัด
กรุงศรี ไอแมกซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่
กรุงศรี ไอแมกซ์ หาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์
http://www.majorcineplex.com/cinemas/




อ้างอิง
[1] http://gamedevelopment.tutsplus.com/tutorials/an-introduction-to-spritesheet-animation--gamedev-13099
[2] https://documentation.apple.com/en/finalcutpro/usermanual/index.html#chapter=D%26section=1%26tasks=true
[3] http://3defence.blogspot.com/2012/04/frame-rates-introduction-into-debate.html
[4] http://www.christiedigital.com/en-us/cinema/cinema-projection-solutions/high-frame-rates/pages/default.aspx
[5] http://www.bbc.co.uk/rd/blog/2014/08/higher-frame-rate-television-for-future-broadcasts-at-the-commonwealth-games-but-i-already-have-a-100hz-tv