ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์จองตั๋วเที่ยวญี่ปุ่น แบบไม่มีแผนล่วงหน้า อันเนื่องจากโปร big point เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา XJ ปล่อยทุกเส้นทาง ทำให้ได้ค่าตั๋ว DMK-KIX ไปกลับ เบ็ดเสร็จที่ 4,550.- บาทและ big point 500 แต้มเท่านั้น (รวมค่าตัดบัตรเครดิตแล้ว) จองเช้าวันศุกร์ 12 ธค. บินบ่ายวันนั้นเลย กลับ 15 ธค. เช้า เครื่องลงตีสี่ มาทำงานต่อตามปรกติ

**เมื่อเช้ายังเห็นตั๋ว ไปกลับ แบบนี้อยู่ อาทิตย์นี้ เป็นอาทิตย์สุดท้าย ใครอยากไป รีบจองด่วน**

หมายเหตุ**กระทู้นี้ไม่มีรูปนะครับ บรรยายล้วนๆ

1. ตัดสินใจ ไป/ไม่ไป
แน่นอนคับ ราคาขนาดนี้ ชาตินี้โอกาสเจอไม่ได้บ่อยนัก ก่อนจองดูว่า มีช่วงเวลาที่จะไปได้มั้ย (พึ่งกลับมาจากทริป DMK-NRT เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา) ก็มีช่วงเดินทางบ่ายวันศุกร์ กลับเช้ามืดวันจันทร์ มาทำงานต่อได้พอดีโดยลาแค่ครึ่งบ่ายวันศุกร์เท่านั้น

อันดับถัดมา ดูการเดินทาง และที่พัก เนื่องจากเครื่องลง KIX ดึกมากและอาจดีเลย์ได้ (แล้วมันก็ดีเลย์จริงๆ) แต่ยังมีหนทางเข้าเมืองอยู่โดยรถบัส  ก็พยายามหาที่พักที่อยู่ในระยะเดินจากที่ลงรถบัสไหว รถมีลง 2 ที่ เอาที่พักถูก จะที่ไหนก็ได้ เพราะนอนไม่นาน คืนวันศุกร์ไม่มีปัญหา แต่วันเสาร์ ที่พักโอซาก้าเต็มหมด เลยลองดูเกียวโต ยังพอมีอยู่ (แต่แพง) ตัดสินใจ จองตั๋วเครื่องบิน คืนแรกนอน โอซาก้า คืนที่สองไปนอนเกียวโต

2. จองตั๋วแล้ว หาที่พักต่อ
หลังจากกะคร่าวๆ ว่าจะนอนไหนบ้างแล้ว ก็รีบจองตั๋วซะ เป็นการันตีว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ คืนแรก จะนอนแถวสนามบิน หรือนั่งบัสเข้าไปนอนในเมือง เปิดเวปจองที่พักทั้งหลาย วนไปวนมาอยู่ร่วมชั่วโมง คิดแล้ว ไปนอนในเมืองดีกว่า ตัวเลือกเยอะ hostel ก็มีคืนละ 2,000 เยนเอง ไม่ต้องรีบร้อนตื่นเช้าด้วย ก็จองที่พักคืนแรกเสร็จ เขียนใบลา เผ่นกลับบ้าน ไปจัดของ เอาพาสปอร์ท ดิ่งไปสนามบิน แล้วค่อยหาที่พักคืนที่สองที่สนามบินเอา

ปรากฏว่าคืนวันเสาร์ที่ญี่ปุ่น เป็นอะไรที่หาที่พักได้ยากมากๆ แม้แต่โรงแรมแคปซูลก็เต็ม หลายๆ เวปรับจองโรงแรม ขึ้นว่าเต็มหมด จนไปเจอ japanican ยังมีโรงแรมเหลืออยู่ที่เกียวโต แต่ก็แพง ห้องเดี่ยวไม่รวมอาหารเช้าคืนละ 21,000 เยน (แพงกว่าตั๋วเครื่องบินอีก) ทำยังไงได้ ไม่มีทางเลือก ก็จองไปแบบไปจ่ายเงินที่โรงแรม กะว่าใช้บัตรเครดิตจ่าย เพราะช่วงนี้อัตราแลกเปลี่ยนต่ำอยู่แล้ว ขอเก็บเงินสดไว้ใช้จ่ายดีกว่า

3. ไปถึงโอซาก้าจนได้
มาถึงแล้วก็รู้ตัวว่าพลาดอย่างแรกคือ อย่าลืมเชคสภาพอากาศอย่างละเอียด เพราะดูมาแต่อุณหภูมิ 1-7 องศา เอาเสื้อกันหนาวมา 2 ตัวก็อยู่ แต่ปรากฏว่าลมแรงถึง > 25 กม.ต่อชั่วโมง เสื้อดันไม่กันลม ก็ยืนตัวสั่นรอรถกันไป

ขึ้นรถบัสมาลง Namba station ถามคนขับรถถึงทางเดินไป เอาแผนที่ให้เค้าดู พบว่า คนญี่ปุ่นอ่านแผนที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ เหมือนเค้าจะสะกดชื่อสถานีไม่ค่อยเหมือนภาษาอังกฤษ เล่นเอาเหนื่อย กว่าจะจับทิศทางไปยังที่พักได้

4. ตะลุยโอซาก้า หาทางไปเกียวโตต่อ
ถึงที่พัก หยิบแผ่นพับทั้งหลายมาดู ปักจุดหมายไปปราสาทโอซาก้า และ เดินๆ แถว สถานีรถไฟ หาทางไปเกียวโตต่อ

ไปปราสาทโอซาก้า ไม่ยาก ขึ้นรถไฟไป เดินๆ จนซื้อตั๋วขึ้น ตัวปราสาทโอซาก้ามี 7 ชั้น มีลิฟท์ขึ้นถึงชั้น 5 (ไม่มีลิฟท์ลง) ถ้าพา สว. มาด้วย จะลำบากมิใช่น้อย เสร็จแล้วตั้งใจเดินเท้าไปเรื่อยๆ ดูบ้านเมืองเค้า ปรากฏว่าหลง!!! ไปโผล่อยู่ถนนละลายทรัพย์ซะงั้น เลยเข้าไปถาม JR Tenma  ว่าไปยังไง เค้าเลยออกตั๋วให้ แล้วบอกว่าไปเปลี่ยนรถที่สถานีโอซาก้านะ

5. ขึ้นรถไฟไปเกียวโต
การขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่น จะมีปัญหาอย่างนึงที่เจอประจำคือ มันไปทางที่เราจะไปหรือเปล่า เพราะชื่อปลายทางของรถสายนั้น เรามักจะไม่รู้จัก แล้วป้ายบอกก็มักจะขึ้นแต่ปลายทางด้วย ต้อง คอยฟังประกาศเอาว่าผ่านสถานีไหนบ้าง ถ้ามีซักชื่อนึงในเส้นทางที่จะไป ก็นั่นแหละ ขึ้นโลด

JR ญี่ปุ่นมีหลายความเร็ว ธรรมดา ด่วน ด่วนพิเศษ ยืนดูป้ายอยู่พักนึง ทำให้รู้ว่า บางทีรถไฟขบวนที่มาทีหลังอาจถึงปลายทางก่อนก็ได้ เห็นคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ก็ขึ้นคันที่มาถึงก่อน มีบางคนที่รออยู่ ยิ่งเจอรถดีเลย์แล้ว ขบวนนั้นจะแน่นมาก เพราะคนรอนาน จับจุดได้ ก็เลยรอต่อไปจนได้ขึ้น รถด่วนที่สุด แถมว่างด้วย นั่งสบายยันเกียวโตเลย

6. ตะลุยเกียวโต 1 คืน 1 วัน
ที่สถานีเกียวโตมี Tourist Information อยู่ ชั้น 2 พนง. พูดอังกฤษได้ชัดแจ๋ว  อยากรู้อะไรถามได้หมด ได้แผนที่มาปักจุดคร่าวๆ ว่าอยากไปไหน แต่ด้วยหน้าหนาวที่มืดเร็ว บวกลมแรง เลยต้องหนีไปเดินเที่ยวในห้างแทน

ตั้งใจไปดูปราสาทสีทอง เลยซื้อตั๋วรถไฟเหมา 1 วันไป เพราะคิดว่ายังไงก็คุ้ม ขึ้น 3 เที่ยวก็คุ้มแล้ว จนมาทราบทีหลังว่า ที่เกียวโต รถประจำทางสามารถพาไปถึงจุดท่องเที่ยวหลักๆ ได้หมด และมีตั๋ววันด้วย แถมมีประกาศบนทีวีตัวโตเบ่อเร่อ ไม่เลยป้ายแน่นอน

อีกเรื่องนึงคือ รถประจำทางที่เกียวโต คิดค่ารถแบบเหมาจ่าย นั่งใกล้ ไกล ราคาเท่ากัน (มีบางแบบคิดตามระยะทาง แต่ออกไปไกล) ซื้อตั๋ววัน ยังไงก็คุ้ม

7. วางแผนเดินทางกลับ
ต้องขึ้นเครื่องที่ KIX ถ้าไปจากเกียวโตมีทางเลือก 2 ทาง คือ

1. รถไฟ ซึ่งถูกกว่า แต่ต้องหิ้วกระเป๋าเปลี่ยนรถ และดูตาราง ดูชานชลา อย่าพลาด หลงมาอดกลับไทยแน่ บางเวลาอาจโชคดีเจอรถที่นั่งต่อเดียว ถึงสนามบินเลยก็มี ต้องดูใน hyperdia เอา

2. รถบัส แพงกว่า แต่ไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งอย่างเดียว ถึงประตูขาออกเลย เหมาะกับคนที่มีกระเป๋าหลายๆ ใบ มีรับจองล่วงหน้าด้วย มั่นใจว่าไม่พลาดแน่

8. กิน/ช้อปปิ้งที่ KIX

ก่อนผ่าน immigration
-อาหารเย็น มีร้านข้าวหน้าเนื้อ เปิด 24 ชั่วโมง ที่ชั้น 2 ราคาแทบเท่ากับในเมือง มากินเอาที่นี่ก็ได้
-มี ไดโสะ อยู่ชั้น 3 ราคาก็ปรกติ
-มีร้านขายของเด็กเล่น ที่เอามาทำกินได้ อยู่ชั้น 3 มีหลายแบบ และแพงกว่าร้านในเมืองอยู่ซัก 10-20 เยน มาซื้อเอาที่นี่ก็ได้ มีหลายแบบมากกว่าในเมืองอีก

หลังผ่าน immigration
-Royze และของกินอื่นๆ หลังจากผ่าน immigration มาแล้ว ให้เลี้ยวขวา มีร้านที่ปิดดึกอยู่ อยากซื้ออะไรให้ซื้อที่นี่ทั้งหมด เพราะไปที่เกท จะเจอแต่ความเงียบเหงา เพราะร้านปิดหมด