--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่
[CR]--World’s horizon--ทริปแชงกรีล่า ที่ไม่ได้สิ้นสุดแค่แชงกรีล่า-ตอน-ครึ่งวันที่คุนหมิงและมุ่งหน้าสู่ภูเขาหิมะมังกรหยก
http://ppantip.com/topic/32984515
[CR]--World’s horizon--ทริปแชงกรีล่า ที่ไม่ได้สิ้นสุดแค่แชงกรีล่า-ตอน-ถึงแล้วแชงกรีล่าและการเดินทางที่ห้ามหลับ
http://ppantip.com/topic/33010057
[CR]--World’s horizon--ทริปแชงกรีล่า ที่ไม่ได้สิ้นสุดแค่แชงกรีล่า-ตอน-อุทยานย่าติงที่สวยยังกับถูกโฟโต้ชอป
http://ppantip.com/topic/33015905
[CR]--World’s horizon--ทริปแชงกรีล่า ที่ไม่ได้สิ้นสุดแค่แชงกรีล่า-ตอน-แชงกรีล่าครั้งสุดท้ายกับเมืองเก่าสุดแนวต้าลี่
http://ppantip.com/topic/33026487
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ทริปนี้เกิดขึ้นแบบค่อนข้างกระทันหัน เพราะไฟล์ทที่จองไปเนปาลดันถูกยกเลิก แต่ต่อมความอยากก็ยังไม่ยอมหยุดทำงานคุณเพื่อนก็เลยเลยเสนอ ทริป“แชงกรีล่า”ขึ้นมา คือก็เคยได้ยินอ่ะนะ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าสถานที่แห่งนี้มันเป็นยังไง เลยไปขุดคุ้ยหาข้อมูล โดยคนส่วนมาจะเริ่มต้นการเดินทางที่คุนหมิง แล้วก็แวะเที่ยวเมืองระหว่างทาง อย่าง ต้าหลี่และลี่เจียง แล้วไปจบที่ แชงกรีล่า แต่อย่างพวกเรา ไปแค่นี้ยังไม่ฟินพอ มันยังทดแทนทริปเนปาลไม่ได้ เลยตัดสินใจที่จะไปต่อจนถึง อุทยานย่าติง ที่ซึ่งเห็นแค่รูปถ่ายก็ขนลุกละ (เว่อร์มะ)

แต่หนทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และขวากหนามที่สำคัญที่สุดก็คือภาษา เพราะสมาชิกในทริปนี้ไม่มีใครรู้ภาษาจีนเลย มีเพียงแค่เราที่มีประสบการณ์ในการเที่ยวประเทศจีน ซึ่งพอจะทำให้เรารู้ว่าต้องไปเจอกับอะไรบ้าง เราเลยต้องเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมข้อมูลไปให้ได้เยอะที่สุด
อันดับแรก ก็ต้องจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินซะก่อน ซึ่งก็หนีไม่พ้น สายการบินหางแดง เราได้ตั๋วไปกลับ กทม-คุนหมิง มาในราคา 5000 บาท ซึ่งถือว่าไม่แย่นะ เพราะเราจองก่อนบินแค่ไม่ถึง2เดือน  ไม่ต้องเสี่ยงดวงรอข้ามปี และก็ไม่ได้ถูกไปกว่านี้มากนัก

อันดับต่อไปก็จัดการจองโรงแรมหลอกๆ เพราะว่าต้องไปยื่นขอวีซ่า และเรากะว่าจะไป walk in เอา เพราะนอนแค่ที่ละคืน เปลี่ยนเมืองแทบทุกวัน เอาที่มันสะดวกดีกว่า เราใช้ booking.com ค่ะ เพราะแคนเซิ่ลได้ ใครจะจองที่เดียวตลอดทริปก็ได้นะ แต่เราจองไว้2ที่ ที่นึงที่คุนหมิง ส่วนอีกที่อยู่ลี่เจียง เป็นจำนวนทั้งสิ้น 9 คืน

หลังจากได้ตั๋ว ได้โรงแรม(หลอกๆ) ก็ไปจัดการเรื่องวีซ่าจีน หลักฐานที่ต้องเตรียมไป ก็มีแค่ แบบฟอร์มการขอวีซ่า เวอร์ชั่น2013 (http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/bgxz/) เล่มพาสปอร์ตและสำเนาหน้าพาสปอร์ต (ถ้าใครเคยได้วีซ่าจีน ก็ถ่ายไปด้วยค่ะ) ตั๋วเครื่องบิน หลักฐานการจองโรงแรม รูปถ่าย 2 นิ้ว 1 รูป แค่นี้เองค่ะ พวกหน้าบัญชี statement ไม่ต้อง

แต่มีข้อแนะนำนิดนึง แม้ว่าในกฎเค้าจะไม่ได้ขอหนังสือรับรองการทำงาน แต่พกไปก็ดีค่ะ อันนี้ประสบการณ์ตรง เรากับเพื่อนรวม3คนไปขอวีซ่าพร้อมกันค่ะ เพื่อนคนแรกทำงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใครๆก็รู้จัก ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีค่ะ แต่พอถึงเพื่อนคนที่สอง หลังจากเห็นชื่อบริษัท เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าบริษัททำเกี่ยวกับอะไร และพอบอกว่าเป็นสื่อวิทยุโทรทัศน์ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้าทำงานประเภทนี้จะต้องใช้หนังสือรับรองการทำงานด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าไปเที่ยวจริงๆ ไม่ได้ไปทำงาน  เพื่อนคนนี้เลยต้องกลับมาขอใหม่วันหลัง เศร้าเบย พอถึงคิวเราเค้าก็เลยถามว่าบริษัทเราทำอะไร (โดนลูกหลงซะงั้น) เราก็บอกไปว่าสอนภาษาอังกฤษ เค้าก็โอเค ปล่อยผ่าน

หลังจากนั้น 4 วัน ก็ไปรับเล่มค่ะ เตรียมเงินไปเป็นค่าวีซ่า คนละ 1000 บาทเน้อ

ตัวพร้อม ใจพร้อม คุณทำได้ (ไม่เกี่ยววววว!!!!) เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า