แฟนเก่าเพื่อน = ต้องห้าม? ลองมาอ่านเรื่องนี้กัน

ปล. แท็กถนนนักเขียน > แต่งเรื่องสั้น เผื่อนักเขียนท่านใดจะอยากได้พล็อตแนวๆ นี้ไปเขียนนะคะ

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าทั้งหมดที่กำลังจะเล่าคือความจริง เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ถูกเขียนลงในสมุดแล้ว และขณะนี้กำลังรีไรท์ลงพันทิป เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่ขาดตอน และจขกท.ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ผู้ใดเสียหาย แต่แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ได้ประสบมาก็เท่านั้น เพราะงั้นขอร้อง อย่ามาดราม่าแข่งกับเรื่องของอิชั้น! ไม่ชอบก็ปิดไป จบนะ! ขี้เกียจมานั่งอ่านคอมเม้นมุ้งมิ้งๆ โอเค เริ่ม!

ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน
เรากำลังศึกษาอยู่ที่ไฮสคูลแห่งหนึ่งในตปท.(ขอไม่บอกว่าประเทศไหน) ตอนนั้นอยู่เกรด 11 แล้ว เป็นปีสุดท้ายพอดี และความรักอันหวานชื่นก็จบลงในเทอมที่สอง ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนๆ ที่ต้องคอยปลอบ ชวนไปนู่นมานี่จนรู้สึกว่าลืมได้แล้ว และก็เป็นเรื่องปกติที่คนไทยจะสนิทสนมกัน เพราะก็มีกันอยู่ไม่กี่คน ตอนนั้นเพื่อนเราคนหนึ่งก็อกหักเหมือนกัน (แทนว่าอาร์ละกัน) อาร์เลิกกับแฟนเพราะตัวมันเองนั่นแหละที่เจ้าชู้ ไปคบซ้อนจนโดนจับได้ แฟนเลยบอกเลิก ด้วยความที่เจอปัญหาเดียวกัน จึงทำให้เริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ มีอะไรอาร์ก็จะบอกเราคนเดียว จนเพื่อนคนอื่นๆ เริ่มไม่พอใจที่เห็นเราสนิทกับอาร์มากเกินไป จนเกิดเป็นช่องว่างระหว่างพวกมัน และก็มีคนคอยเตือนอยู่บ่อยๆ ว่าอย่าไปคบกับอาร์มาก มันไว้ใจไม่ค่อยได้ ไม่ใช่คนดีนักหรอก เราก็เฉยๆ ปล่อยให้มันผ่านหู้ซ้ายทะลุหูขวาไป อยู่มาวันหนึ่งก็มีนร.ชายเข้ามาใหม่ (คนไทย) เห็นแว่บแรก บอกเลยว่าเหมือนกับแฟนเก่าอาร์มาก อาร์ก็บอกว่าทำให้นึกถึงแฟนเก่าเหมือนกัน ทำไปทำมาอาร์ก็สารภาพว่าชอบนร.ใหม่คนนี้ และก็กำลังดูใจกันอยู่ จนในที่สุดทุกคนก็รู้ว่าพวกมันคบกัน เราก็ยินดีด้วย แต่อาร์ก็ยังไม่วายครวญครางถึงแฟนเก่า บอกว่าดีกว่าอย่างนู้นอย่างนี้ และทุกครั้งที่แฟนเก่าโพสท์รูปกับผญ.อื่น ก็จะมาดราม่ากับเรา และมีการบอกด้วยว่าสวยไม่เห็นเท่ามันเลย! เราเลยเตือนว่ามันมีใหม่แล้ว เลิกคร่ำครวญถึงคนเก่าสักที เดี๋ยวคนใหม่จะหึงเอา แล้วเรื่องนี้เลยเงียบไปตั้งแต่ตอนนั้น

ประจวบเหมาะกับที่ตอนนั้นที่ไทยมีเรื่องบางอย่าง เรา น้องชายและพ่อเลยต้องบินกลับมาไทย และพรหมลิขิตก็เล่นตลกเสียจริง! ตอนที่เรากำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนในสนามบิน เราเห็นผู้ชายสี่คนยืนอยู่ตรงด้านบน สองในนั้นคือรุ่นน้องที่รร. และพอขึ้นมาจนถึงเราก็แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่คิดไว้ แฟนเก่าของอาร์! (ขอแทนว่าซีละกัน) ณ วินาทีนั้นเราเรียกชื่อเขาออกมาดังๆ และเขาก็ดูตกใจมาก เขาทำหน้างงใส่เรา (เพราะไม่เคยเจอกันเลย หรือบางทีเจอกันแบบผ่านๆ ส่วนมากจะเห็นในภาพมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ไม่ซี้กับอาร์) เราเลยรู้ว่ารุ่นน้องสองคนนั้นเป็นน้องชายของเขา และก็ยังมีพี่ชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนโต อ้อ ลืมบอกว่าซีเรียนอยู่คอลเลจ เราก็ยังไม่ได้แนะนำตัวเองว่าเป็นใคร ยอมรับว่าแค่เผลอหลุดปากเรียกชื่อออกไปเท่านั้น เพราะไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ แต่ก็ต้องรีบไปละ เดี๋ยวไม่ทันไฟลท์บิน

หลังจากนั้นประมาณสักอาทิตย์หนึ่ง เราก็กลับไปเรียนต่อ พร้อมกับเล่าให้อาร์ฟังเรื่องที่เจอซี อาร์ก็เฉยๆ ตอนนั้นเรากำลังกิ๊กๆ กับคนเกาหลีในรร.เลยรอเมสเสจเข้ามือถือ (คนที่นู่นนิยมส่ง sms เพราะตกถูกกว่าและตอนนั้นไลน์ยังไม่เป็นที่นิยม) สักพักก็มีเมสส่งมา แต่กลับเป็นเบอร์แปลก ตอนแรกก็คิดว่าหนุ่มเกาคงใช้เบอร์เพื่อนส่งมาเพราะแบตหมด แต่พอเปิดข้อความอ่าน อ่าวไม่ใช่แฮะ ข้อความถูกส่งมาว่า "จำผมได้ไหม เราเจอกันอาทิตย์ก่อน" งง งงมาก เลยตอบกลับไปว่า "วันๆ หนึ่งฉันเจอคนเยอะแยะมากมาย จำไม่ได้หรอก ซอรี่" หลังจากนั้นเขาเลยเฉลยว่าเป็นซี! เราก็ เฮ้ย! เอาเบอร์กุมาจากไหนวะ? และเหมือนรู้ทัน มีข้อความส่งมาอีกฉบับ บอกว่า "บีเป็นคนให้เบอร์กับผมเอง" บีคือเพื่อนของเราอีกคนหนึ่งที่รู้จักซีเหมือนกัน บีก็บอกว่า "ซีอยากได้เลยให้ไป" สักพักซีก็ส่งเมสมาอีกว่า "เราเป็นเพื่อนกันได้ไหม"
เรา : ได้สิ แน่นอน ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ฉันชื่อ...นะ
ซี : ผมรู้แล้วว่าคุณชื่ออะไร วันนี้บีกับผมจะไปกินข้าวกัน คุณสนใจไปด้วยกันไหม
เรา : ก็ได้ แต่อยู่นานไม่ได้นะ
บทสนทนาก็ประมาณนี้ จำแบบแม่นๆ ไม่ค่อยได้ ตอนนั้นเราไม่ได้เอะใจอะไรเลย เพราะเห็นว่าซีเป็นคนเฟรนด์ลี่และรู้จักกับเพื่อนเราในรร.เกือบหมดทุกคน เราเลยคิดว่าเขาคงแค่อยากหาเพื่อนเพิ่ม และไม่เห็นว่าเป็นเรื่องผิดถ้าจะคบซีเป็นเพื่อน เพราะจากที่ฟังเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร และอาร์เองก็เป็นฝ่ายผิดตอนเลิกกัน

สถานที่นัดพบคือร้านอาหารที่อยู่ในหอพักของซี (ซึ่งเราก็เคยพักกับซีแต่ย้ายออกมาอยู่กับพ่อแล้ว) คนในนั้น รวมถึงเจ้าของร้านอาหารเลยรู้จักเราเป็นอย่างดี ที่สำคัญ แฟนเก่าเราก็อยู่หอนี้แหละค่า นั่งได้สักพัก ซีก็มา เราก็ทานข้าวกันพร้อมเฮฮาปาร์ตี้ แน่นอนไม่ได้มีแค่เรากับซี แต่มีเพื่อนๆ อีก 3-4 คนร่วมโต๊ะด้วย และด้วยเหตุผลนี้ยิ่งทำให้เราคิดว่า ซีไม่ได้คิดอะไรแน่นอน แค่อยากจะสังสรรค์ซะมากกว่า อีกอย่างตอนคุยกันซีก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะแตะเนื้อต้องตัวเราเลย แต่ยอมรับว่าเขาค่อนข้างที่จะสนอกสนใจเรามากกว่าคนอื่น รวมถึงหาเรื่องที่คิดว่าเราน่าจะชอบมาคุย แต่ก็นั่นแหละ เราคิดว่าเพราะเขารู้จักคนอื่นดีแล้ว เลยอยากผูกสัมพันธ์กับเราบ้าง (หัวช้ามากกับเรื่องแบบนี้) คุยไปเรื่อยๆ ซีก็เริ่มถามว่าจะต่อที่ไหน เราเลยบอกจะกลับไทย เท่านั้นแหละ ทั้งโต๊ะนี่เงียบเป็นเป่าสาก เรารับรู้ถึงอะไรบางอย่างในแววตาของเขา แต่คิดว่าคงแค่ตกใจ เพราะคนอื่นเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เหมือนกัน สักพัก เราก็เห็นผู้ชายคุ้นหน้าเดินควงกับผู้หญิงลงมาและผ่านเราไป ในใจเริ่มเดือดปุดๆ เพราะเขาคนนั้นคือแฟนเก่าเรากับแฟนใหม่ของเขา ที่พากันขึ้นไปถึงบนห้อง! พอพวกมันเดินผ่านไปได้สักพัก เราก็แหกปากกรี๊ดอย่างเจ็บแสบ ซีถามว่าเป็นอะไร บีเลยเป็นคนตอบว่านั่นน่ะแฟนเก่าเราเอง ซีและทุกคนเลยปลอบเราใหญ่ เราก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้เหลือเยื่อใยแล้ว แค่แค้นเท่านั้น! ตอนนั้นก็เย็นมากละ เลยขอตัวกลับบ้าน (อาร์ทเมนท์) ซีเลยอาสาไปส่ง เพราะซีมีรถ แต่เราปฏิเสธ ก็เกรงใจนี่หว่า คนเพิ่งรู้จักกันด้วย พอกลับถึงห้อง ทำนู่นทำนี่เสร็จ เปิด msn (ตอนนั้นยังมี msn จ้า 555) ตามปกติ รุ่นน้องคนหนึ่งก็ทักมา เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอาร์
รุ่นน้อง : กุถามอะไรมืงอย่างดิ (พูดจาเป็นกันเอง ไม่ถือ เพราะอายุต่างกันไม่มาก)
เรา : ได้ดิ มีไรวะ
รุ่นน้อง : มืงรัก (ชื่อหนุ่มเกา) ใช่ป่ะ? มืงจะไม่มีทางเปลี่ยนใจถึงแม้มีคนอื่นมาจีบมืงใช่มะ?
เรา : ทำไมมืงถามแบบนี้วะ เหมือนจะมีคนมาจีบกุงั่นแหละ
รุ่นน้อง : มืงรู้ใช่ไหมว่าซีชอบมืง?
เรา : (ตกใจมาก ตั้งสมาธิก่อนพิมพ์ตอบ) มืงจะบ้าเหรอ แค่เพื่อนกันเว้ย วันนี้กุยังไปแดรกข้าวกับมันมาอยู่เลย ไม่มีแนวโน้มว่ามันจะจีบกุเลยนะ
รุ่นน้อง : มันปิ๊งมืงตั้งแต่ที่สนามบิน มันไล่หาเฟสมืงจนเจอ เปิดภาพมืงดูทั้งวัน เพ้อถึงมืงกับบีตลอดเลย
โอ้ พระ เจ้า! ตกกะใจยกกำลังสอง
ครืนๆ เสียงโทรศัพท์ดัง ซีโทรมา! ชั่งใจอยู่นาน สุดท้ายก็กดรับ คิดในใจว่าต้องหาคำตอบให้ได้ ว่ามันคิดยังไงกันแน่
ซี : เฮ้ เทดดี้
เรา : วอท เทดดี้อะไร?
ซี : ชื่อใหม่ของคุณไง เทดดี้ คุณเหมือนตุ๊กตาหมี ผมเลยตั้งให้
เรา : โทรมามีอะไรหรือเปล่า (ทำเสียงไม่พอใจนิดหน่อย)
ซี : ผมแค่โทรมาเช็คว่าคุณถึงบ้านปลอดภัยดีหรือเปล่า
เรา : แค่นั้นส่งเมสเสจมาก็ได้ ไม่ต้องโทรมาหรอก เปลือง
ซี : ทำไมเหมือนคุณไม่อยากคุยกับผมเลย เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยนี่นา
เรา : ฉันยุ่งนิดหน่อย วางสายก่อนนะ
เราก็วางสายไป หลังจากนั้นมีเมสเสจเข้ามา "พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนเดี๋ยวผมไปรับ" หึ! มืงจะตื๊อกุอีกนานไหม รำคาญและนะ เราเลยส่งข้อความกลับไปว่า "ฉันไปไม่ได้หรอก ขอโทษนะ" และเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เราเลยคิดว่า สงสัยคงยกธงขาวแล้ว แต่! ผิดคาดค่า วันรุ่งขึ้น น้องของซีเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารและยื่นช็อกโกแล็ตให้เรา พร้อมกับบอกว่า จากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร อาร์ก็อยู่ที่โต๊ะและแซวๆ ว่าฮอตนะเนี่ย เรากับบีเลยหันมายิ้มแห้งๆ ใส่กัน (ถ้ามืงรู้ว่าคนที่ให้ช็อกกุเป็นแฟนเก่ามืง มืงจะพูดแบบนี้ไหมฮะ) ถึงตอนนั้นเราเลยคิดว่าต้องพูดตรงๆ ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ไม่งั้นเรื่องต้องบานปลายแน่ๆ ไวดังนึก มีเมสเข้ามาจากซี บอกว่าอยู่หน้ารร.แล้ว เราเลยขอตัวกลับก่อน ที่จอดรถจะอยู่ห่างจากตัวรร.พอสมควร เลยไม่มีใครเห็นว่าใครมารับ พอไปถึง เราก็ไม่รู้ว่าคันไหน เพราะมีรถจอดค่อนข้างเยอะ สักพักก็มีคนตะโกนเรียกชื่อ และก็ลงมาจากรถสีขาวคันหนึ่ง พอลงมาซีก็ชี้รถตัวเองและบอกว่า "เซย์ไฮทูบัมเบิ้ลบีสิ" เราก็มองๆ รถคันนั้นแล้วขำ คือมันไม่มีส่วนไหนเหมือนบัมเบิ้ลบีเลยย่ะ! เรากำลังจะกระโดดเข้าประตูหลัง ซีก็บอกว่า นั่งหน้าสิ เราเลยเปลี่ยนมานั่งหน้าแทน รถวิ่งออกไปโดยที่ซีบอกว่าจะพาไปส่งที่อพาร์ทเมนท์ เราเลยคิดว่าจะเคลียร์ระหว่างทางเลย แต่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นรถก็จอดลงหน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง เราโมโหมาก "ไหนยูบอกว่าจะไปส่งไอที่บ้านไง" "คุณรู้ตัวไหมว่าคุณนั่งทำหน้าบึ้งตลอดทางเลย กินไอศครีมหน่อยนะ จะได้รู้สึกดีขึ้น" แมร่ง! มัดมือชกนี่หว่า แต่อีกใจก็คิดว่าดีเหมือนกัน จะได้เคลียร์กันให้รู้เรื่องแบบไม่มีอะไรติดค้าง พอเข้าไปในร้าน เราก็กะจะไม่สั่งอะไรละ แต่ฮีตื๊อต่อหน้าเด็กเสิร์ฟและด้วยความกดดัน จึงสั่งไอศครีมมาถ้วยนึง ไอศครีมมาไวใช้ได้ พร้อมกับบทสนทนาที่เริ่มขึ้น
ซี : อร่อยไหม
เรา : อร่อยดี
ซี : หน้าคุณดูมีชีวิตชีวาขึ้นมานิดแล้ว (ยิ้ม)
เรา : คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทกับอาร์ (เข้าเรื่องทันที)
ซี : (หุบยิ้ม ทำหน้าบอกบุญไม่รับ) อย่าพูดถึง black history ของผมได้ไหม
เรา : นี่คุณกำลังต่อว่าเพื่อนสนิทฉันอยู่นะ
ซี : ผมแค่พูดความจริง ผมมีความสุขน้อยมากตอนคบกับอาร์ คุณไม่รู้หรอกว่ากี่ครั้งแล้วที่ผมจับได้ว่าเธอนอกใจผม
เรา : งั้นเหรอ ฉันคิดว่าคุณชอบผู้หญิงอย่างเธอซะอีก
ซี : ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าเธอสวย แต่นิสัย ผมรับไม่ได้
เรา : แล้วคุณชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะ (ถามหยั่งเชิง)
ซี : (จ้องตาไม่กะพริบ) ชอบผู้หญิงที่ ง่ายๆ สบายๆ เป็นตัวของตัวเองสูง และมีความจริงใจให้กันเสมอ
เรา : (เริ่มคิดละว่าเป็นกุแน่)
ซี : แล้วคุณล่ะชอบผู้ชายแบบไหน
เรา : ไม่มีสไตล์ที่ชอบหรอก ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
ซี : แล้วตอนนี้คุณชอบใครอยู่หรือเปล่า
เรา : มีสิ เขาเป็นคนเกาหลี
ซี : (ทำหน้าเหลอหลา) อยู่รร.เดียวกันเหรอ
เรา : ใช่ แล้วคุณล่ะชอบใครอยู่หรือเปล่า (เหล่ตามองอย่างจับผิด)
ซี : ก็มีอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะสมหวังหรือเปล่า เหมือนว่าเธอจะไม่ชอบผม
เรา : จำได้หรือเปล่า ที่คุณเคยถามว่าเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม ฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนกันแบบนี้แหละ
ซี : (จ๋อยแต่ฝืนยิ้ม)
ที่สำคัญก็มีแค่นี้ เราก็คิดว่าเคลียร์จบแล้ว แต่เปล่า! คิดหรือว่าฮียอมแพ้ง่ายๆ เพราะเรื่องแค่นี้? น้อยไปสิ! ตั้งแต่นั้นมา ทุกเช้าซีจะส่งเมสมา good morning Teddy และก็ชวนคุยอีกยาวๆ จนเรารำคาญเลยถามกลับไปว่า ไม่เบื่อเหรอส่งมาทุกวัน เขาบอกไม่เบื่อ และก็ยังส่งมาอีกเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ เราเริ่มลังเลละว่าจะบอกอาร์ดีไหม แต่เราคิดว่าบอกไปอาร์อาจจะโกรธเรา เราเลยคิดว่า ไม่บอกแล้วกัน ก็กุบริสุทธิ์ใจนี่ ปรบมือข้างเดียวไม่ดังซะอย่าง ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับหนุ่มเกาหลีก็ดูจะไปด้วยกันได้ดี อาจจะเรียกได้ว่ากิ๊กๆ ยังไม่เป็นแฟนกัน แต่ต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง เลยคิดว่าเดี๋ยวซีคงเลิกราไปเอง มีอยู่วันหนึ่ง ซีมารับน้องที่รร. (ทั้งที่ปกติไม่เคยมารับเอง) และถามถึงเรากับรุ่นน้อง เรานี่เผ่นกลับแทบไม่ทัน เรื่องราวมันเป็นแบบนี้เรื่อยมาจนเหมือนรุ่นน้องที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับอาร์จะทนไม่ไหว ทายซิว่าเกิดอะไรขึ้น....
ปิ๊งป่อง! มันบอกพี่มันค่ะ!!!
(ตัวหนังสือจะเต็มแล้ว อ่านต่อด้านล่างนะ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่