ถ้าเมืองไทยมีระบบแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ คิดว่าวงการ e-commerce จะเป็นอย่างไร?

กระทู้คำถาม
ปัจจุบันผมทำธุรกิจขายของออนไลน์ครับ ในแต่ละวันก็จะได้พูดคุยกับร้านค้าต่างๆในเครือ อัพเดทข่าวคราวนู่นนี้เป็นประจำ แต่ว่าพักหลังมานี่เริ่มเจอเอามาแชร์กันบ่อย ว่าโดนลูกค้าโกงบ้าง ร้านค้าตัวแทนโกงบ้าง รับเงินไปแต่ไม่ส่งของ หรือได้ของไม่ตรงกับที่ซื้อ หรือแม้แต่สั่งของแต่ไม่โอนเงิน หรือแจ้งโอนเท็จ จนกลายมาเป็นดราม่าในเว็บแห่งนี้อยู่เนืองๆ

ทั้งฝั่งคนซื้อและคนขายที่ตกเป็นผู้ถูกกระทำ เมื่อความเจ็บแค้นเจ็บใจมันถูกสั่งสมไว้ (ส่วนตัวแล้วยังไม่เคยเจอกับตัวเอง แต่คนรอบตัวเจอกันครบ) จากทั้งช่องโหว่ของกฎหมายก็ดี หรือแม้แต่การเลือกปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ เช่น ถ้าคิดจะฟ้องร้องก็ต้องไปหาเก็บหลักฐานมาเอง เป็นต้น พอคนกลุ่มนี้เขาไม่มีที่ระบาย ก็เลยกลายเป็นทำได้แค่ เอาลงประจารในโลกออนไลน์ เพื่อหวังว่าคนอื่นที่เข้ามาเห็น จะได้ไม่ต้องหลงกลหรือตกเป็นเหยื่อของมิชฉาชีพพวกนี้

ประเด็น #1
จะเป็นอย่างไรถ้าเมืองไทยมีการพัฒนาระบบ Blacklist ที่รวบรวมรายชื่อบุคคลที่ฉ้อโกงผู้อื่น เช่นว่า ก่อนซื้อของออนไลน์ปกติเราก็จะเชคประวัติคนขายจาก google ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นมาเชคประวัติจากในระบบแบบนี้ด้วย และถ้ามีชื่อในฐานข้อมูล ระบบก็จะแสดงประวัติที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาไว้ให้ดู ว่าเคยไปทำอะไรกับใครมาบ้าง

ประเด็น #2
เพื่อนๆคิดว่าการมีระบบแบบนี้ บรรยากาศการขายของออนไลน์ในบ้านเราจะดีขึ้นหรือเปล่า? หรือมันจะแย่ลงกว่าเดิมเพราะจะเต็มไปด้วยความระแวง


ก็เริ่มต้นจากคุยกันเล่นๆในกลุ่มคนขายของออนไลน์ครับ เพราะที่ผ่านมาถ้าผู้ซื้อโดนร้านไหนโกงก็มักจะเอามาลง Pantip ตลอด จนกลายเป็นบางร้านที่มีกรณีข้อพิพาทก็โดนข่มขู่ว่าจะเอามาลง Pantip ด้วยถ้าไม่ยอมทำตามที่อยากได้(ทั้งที่ลูกค้าผิดเต็มๆ) ซึ่งบางร้านก็ยอมเพื่อรักษาชื่อเสียงทางธุรกิจ ในทางกลับกันเวลาร้านค้าโดนผู้ซื้อโกงหรือเอารัดเอาเปรียบ กลับไม่มีเครื่องมือต่อกรได้เลย (ตกอยู่ในสภาพจำยอม)

ใครมีความคิดเห็นอย่างไรสามารถแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่