สิ่งใดที่ มมม ไม่อยากเชื่อหากมีอยู่ในพระไตรปิฎก ก็จะอ้างกาลามสูตรว่าอย่าไปเชื่อตามตำรา
แต่สิ่งใดที่ มมม เชื่อ ก็จะอ้างตามตำราเช่นกัน

อย่างเช่น นางอัมพปาลี ที่เป็นโอปติกะกำเนิดที่ใต้ต้นมะม่วง มมม จะไม่เชื่อ เพราะมีในพระไตรปิฎก
แต่จุลินทรีย์วิวัฒนาการจนกลายเป็นคน มมม จะเชื่อทันทีแม้ว่าจะเป็นแค่ตำราที่สอนกันมา
โดยบอกว่า
เขามีการเรียนการสอน ไปทั่วโลก
อยากรู้อยากทราบ เปิดหาดูในกูเกิลเลย
มีข้อมูลเพียบ

เรื่อง นรก สวรรค์ ในพระไตรปิฎก มมม ไม่เชื่อ แม้จะมีคนบอกให้พิสูจน์ โดยถือศีลให้บริสุทธิ์
แล้วนั่งสมาธิให้จิตนิ่ง อ่อนโยนควรแก่การงาน แล้วจึงโน้มไปเพื่อให้เห็นสวรรค์ หรือ นรก
มมม ไม่ยอมพิสูจน์เพราะมันยาก ได้แต่บอกให้คนอื่นอธิบาย และให้นำ นรก สวรรค์ มาแสดงให้เห็น
แต่พอเรื่อง สวรรค์ในอก นรกในใจ เมื่อมีคนบอกว่านำมาแสดงให้เห็นซิ มองมุมใหม่กลับบอกว่าต้องพิสูจน์เอง
โดยให้ไปเตะพ่อตัวเอง หรือไปทำสิ่งชั่วๆ สิ่งที่คนดีๆไม่ทำกัน และชัดกับหลักกาลามสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้

ทั้งๆที่การพิสูจน์เพื่อให้เห็นนรกสวรรค์ ตามที่พระไตรปิฎก หรือพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ หรือ ครูบาอาจารย์กล่าวไว้
เป็นสิ่งที่เป็นกุศล เป็นสิ่งที่วิญญูชน หรือ บัณฑิต สรรเสริญ กลับไม่กล้าพิสูจน์ ทั้งที่เป็นไปตามกาลมสูตร
แต่สิ่งที่ มมม ให้คนอื่นพิสูจน์นั้น เป็นสิ่งที่เป็นอกุศล เป็นสิ่งที่วิญญูชนหรือบัณฑิต ติเตียน และขัดกับหลักกาลามสูตร
มมม ก็พยายามที่จะให้ผู้อื่นพิสูจน์อยู่ร่ำไป

การที่ มมม ปฏิเสธ พระไตรปิฎกเพราะเหตุว่าไม่ให้เชื่อในตำรา แต่กลับเชื่อตำราที่ท่านพุทธทาสแต่ง
มมม บอกว่าอ่านแต่หนังสือท่านพุทธทาส แต่ไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก แต่กลับทราบว่าตำราที่ท่านพุทธทาสแต่งนั้น
ได้คัดเลือกเอาแต่แก่นของคำสอนของพระพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎก(ภาษาบาลี) และเชื่อตามนั้นทันที

ผมจึงไม่แน่ใจว่า มมม รู้เกี่ยวกับ กาลามสูตรจริงๆ หรือ แค่ยกมาเพื่อสนับสนุน ทิฐิ ของตนเองเท่านั้น
หรือว่าเพราะไม่อ่านพระไตรปิฎก จึงเข้าใจความหมายของกาลามสูตรผิดๆ และนำมาใช้ผิดๆ