ต้องขอโทษกับบางล็อกอินที่สัญญาเอาไว้ด้วยนะครับที่โพสต์ช้า พอดีว่าตัวผมอยากรอดู Suzuki Cup รอบรองให้จบเสียก่อนพอจบแล้วก็รอให้กระแสความดีใจเริ่มซาอีกหน่อยก่อนก็เลยทำให้เลทออกมาอีก พอจบแล้วดันมาเขียนเพิ่มเขียนไปเขียนมายาวจนเลอะเทอะ เลยลบออกไปหลายหน้ากว่าจะได้เอามาโพสต์ ยังไงก็ต้องขอโทษจริงๆครับ
สิ่งที่ผมอยากพูดถึงครั้งนี้คือ การยกระดับวงการฟุตบอลไทย โดยมี ฟุตบอล U-23 ชิงแชมป์เอเชีย เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ ที่ยกเรื่องนี้มาพูดเพราะผมอยากให้ทุกคนได้ติดตามรายการนี้อย่างเข้าใจถึงคุณค่า และความสำคัญ ที่ไม่ใช่แค่การชิงโควต้าไปโอลิมปิคเท่านั้น และรวมถึงความคาดหวังจากศักยภาพความพร้อมของเรา ซึ่งรายการนี้อาจจะเป็นรายการใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ก็จริง และในความเป็นจริงมันก็คือรายการที่อัพเกรดขึ้นมาจากปรีโอลิมปิคเดิมนั่นแหล่ะ แต่มันถูกเพิ่มความสำคัญขึ้น ทำให้มีคุณค่าและมีมาตรฐานในระดับสากลขึ้น จากเดิมที่ถ้าได้อันดับ 1-3 รายการปรีโอลิมปิค คุณก็แค่ได้โควต้าไปโอลิมปิค แต่ไม่ได้ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการในระดับสากลว่าคุณคือแชมป์ของทวีป แต่เมื่อการแข่งขันถูกปรับปรุงรายการเสียใหม่จนกลายเป็น U23 ชิงแชมป์เอเชีย คุณค่าของมันถูกยกขึ้นมาให้เหมือนกับ ฟุตบอล ยูโร U21 หรือ U20 ชิงแชมป์อเมริกาใต้ แชมป์รายการนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นแชมป์เอเชียในรุ่น U-23 เช่นกัน และนั่นหมายความว่าถ้าเราทำผลงานในรายการนี้ได้ดี หรือเทียบเท่ากับเอเชี่ยนเกมส์ ก็หมายความว่า U23 เราจะเป็นอันดับที่ 4 ของทวีปในรายการอย่างเป็นทางการจริงๆ
ทั้งหมดมันอาจจะเป็นเรื่องยากและดูเข้าข้างตัวเองไปซักนิด แต่ก็ต้องบอกว่าในรายการนี้เราคงไม่หวังแค่อันดับ 4 เท่านั้นหรือพูดให้ดูทะเยอทะยานซักหน่อยก็คือแค่อันดับ 4 มันคงไม่เพียงพอเสียแล้วกับความคาดหวังของแฟนบอลไทยในตอนนี้เพราะกระแสฟุตบอลทีมชาติที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การทวงแชมป์ซีเกมส์คืนมาได้ ไปคว้าอันดับ 4 เอเชี่ยนเกมส์มาได้อย่างน่าประทับใจ และกำลังเล่นอย่างได้ใจแฟนบอลชาวไทยเพื่อไล่ล่าแชมป์อาเซียนให้กลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 12 ปี ซึ่งไม่ว่าผลสุดท้ายเราจะทำได้หรือไม่ จุดเชื่อมต่อหลังจากนี้อาจจะเป็นจุดสำคัญที่สุดจุดนึงที่อาจจะช่วยยกระดับฟุตบอลทีมชาติไทยในทุกๆด้านต่อจากนี้จนทุกๆคนที่พอนึกย้อนกลับไปแล้วอาจจะคาดไม่ถึงว่าที่ผ่านมาการบริหารจัดการทีมชาติที่ดูอีเหละเขะขะ จะมีผลที่แฝงไว้ถึงต้นต่อของความล้มเหลวของทีมชาติมากขนาดนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นแหล่ะ คือจุดสำคัญ ที่ทำให้ที่ผ่านมาทีมชาติเราขาดความต่อเนื่องจนทำให้ไม่พัฒนามานาน ทั้งความต่อเนื่องในการบริหารจัดการ การต่อยอดบุคลาการ การจัดการการบริหารงานของทีมชาติชุดต่างๆ และนี่แหล่ะคือเหตุผลสำคัญที่ผมยกเรื่องนี้มาพูด
U-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอยต่อสำคัญของการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย
สิ่งที่ผมอยากพูดถึงครั้งนี้คือ การยกระดับวงการฟุตบอลไทย โดยมี ฟุตบอล U-23 ชิงแชมป์เอเชีย เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ ที่ยกเรื่องนี้มาพูดเพราะผมอยากให้ทุกคนได้ติดตามรายการนี้อย่างเข้าใจถึงคุณค่า และความสำคัญ ที่ไม่ใช่แค่การชิงโควต้าไปโอลิมปิคเท่านั้น และรวมถึงความคาดหวังจากศักยภาพความพร้อมของเรา ซึ่งรายการนี้อาจจะเป็นรายการใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ก็จริง และในความเป็นจริงมันก็คือรายการที่อัพเกรดขึ้นมาจากปรีโอลิมปิคเดิมนั่นแหล่ะ แต่มันถูกเพิ่มความสำคัญขึ้น ทำให้มีคุณค่าและมีมาตรฐานในระดับสากลขึ้น จากเดิมที่ถ้าได้อันดับ 1-3 รายการปรีโอลิมปิค คุณก็แค่ได้โควต้าไปโอลิมปิค แต่ไม่ได้ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการในระดับสากลว่าคุณคือแชมป์ของทวีป แต่เมื่อการแข่งขันถูกปรับปรุงรายการเสียใหม่จนกลายเป็น U23 ชิงแชมป์เอเชีย คุณค่าของมันถูกยกขึ้นมาให้เหมือนกับ ฟุตบอล ยูโร U21 หรือ U20 ชิงแชมป์อเมริกาใต้ แชมป์รายการนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นแชมป์เอเชียในรุ่น U-23 เช่นกัน และนั่นหมายความว่าถ้าเราทำผลงานในรายการนี้ได้ดี หรือเทียบเท่ากับเอเชี่ยนเกมส์ ก็หมายความว่า U23 เราจะเป็นอันดับที่ 4 ของทวีปในรายการอย่างเป็นทางการจริงๆ
ทั้งหมดมันอาจจะเป็นเรื่องยากและดูเข้าข้างตัวเองไปซักนิด แต่ก็ต้องบอกว่าในรายการนี้เราคงไม่หวังแค่อันดับ 4 เท่านั้นหรือพูดให้ดูทะเยอทะยานซักหน่อยก็คือแค่อันดับ 4 มันคงไม่เพียงพอเสียแล้วกับความคาดหวังของแฟนบอลไทยในตอนนี้เพราะกระแสฟุตบอลทีมชาติที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การทวงแชมป์ซีเกมส์คืนมาได้ ไปคว้าอันดับ 4 เอเชี่ยนเกมส์มาได้อย่างน่าประทับใจ และกำลังเล่นอย่างได้ใจแฟนบอลชาวไทยเพื่อไล่ล่าแชมป์อาเซียนให้กลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 12 ปี ซึ่งไม่ว่าผลสุดท้ายเราจะทำได้หรือไม่ จุดเชื่อมต่อหลังจากนี้อาจจะเป็นจุดสำคัญที่สุดจุดนึงที่อาจจะช่วยยกระดับฟุตบอลทีมชาติไทยในทุกๆด้านต่อจากนี้จนทุกๆคนที่พอนึกย้อนกลับไปแล้วอาจจะคาดไม่ถึงว่าที่ผ่านมาการบริหารจัดการทีมชาติที่ดูอีเหละเขะขะ จะมีผลที่แฝงไว้ถึงต้นต่อของความล้มเหลวของทีมชาติมากขนาดนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นแหล่ะ คือจุดสำคัญ ที่ทำให้ที่ผ่านมาทีมชาติเราขาดความต่อเนื่องจนทำให้ไม่พัฒนามานาน ทั้งความต่อเนื่องในการบริหารจัดการ การต่อยอดบุคลาการ การจัดการการบริหารงานของทีมชาติชุดต่างๆ และนี่แหล่ะคือเหตุผลสำคัญที่ผมยกเรื่องนี้มาพูด