วามสำเร็จกว่าจะได้มา มันไม่ง่ายเลย เพราะต้องผ่านปัญหาอุปสรรคต่างๆ มากมาย ต้องมีความมานะ มุ่งมั่น อดทน สิ่งเหล่านี้เป็นบันไดแห่งความสำเร็จของมนุษย์ทุกคน

        นักกีฬาก็เช่นกัน ต้องใช้บันไดเหล่านี้เพื่อนำพาตนเองไปสู่ความสำเร็จ แม้พลาดพลั้งหกล้มก็ต้องลุกขึ้นสู้ให้ได้ ไม่มีใครที่ไม่เคยล้ม อยู่ที่ว่าวันใดล้มแล้ว จะลุกขึ้นมาสู้ต่อหรือเปล่า

        เช่นเดียวกับ ''น้องมด'' วิภาวี ศรีทอง วัย 14 ปี นักตบสาวเลือดใหม่ของทีมสุพรีม-บดินทร ที่กำลังเป็นดาวรุ่งน่าจับตามองคนหนึ่งของวงการลูกยางเมืองไทย
      ''น้องมด'' เริ่มเล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่ 6 ขวบ เนื่องมาจากการที่คุณครูพละสอนการจับมือและเห็นถึงทักษะที่ดีของ ''น้องมด'' เลยจับให้มาเล่นวอลเลย์บอลแบบจริงๆ จังๆ ประกอบกับตัวเองชอบวอลเลย์บอลอยู่แล้วด้วย เมื่อความชอบบวกกับโอกาสจึงได้มาเป็นน้องมดแห่งสุพรีม-บดินทรวันนี้

        ''ตอนนั้นอยู่ป.1 ชอบวอลเลย์บอลอยู่แล้วมันน่าสนุกดี เห็นรุ่นพี่หลายคนเล่นก็อยากเล่นบ้าง วิชาพละครูก็สอนเล่น เห็นว่าพอเล่นได้ก็เลยจับให้ไปเล่นให้กับโรงเรียนอนุบาลพาน (ป่ากว๋าวมิตรภาพที่ 68) จ.เชียงราย ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าและเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมทีมวอลเลย์บอล''

        ไม่ว่าจะทำงานหรือเรียนย่อมเจอปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ก็เหมือนกับนักตบสาวจากเชียงราย ที่กว่าจะผ่านมาได้ถึงจุดนี้ ย่อมเจอปัญหามากมาย โดยเฉพาะความกดดันเมื่ออยู่ในสนามแข่ง การแข่งขันไม่ใช่การซ้อมเล่นกันจริงเอาผลแพ้ชนะจริง เพราะฉะนั้นนักกีฬาต้องลดความตื่นเต้น คุมเกมให้อยู่ และแน่นอนต้องทนต่อแรงกดดันภายใต้สภาวะเกมที่มันบีบคั้นให้ได้ ด้วยวัยเพียง 14 ปี ซึ่งถือว่าเด็กมาก น่าจะใช้เวลาเรียน เล่น เที่ยวเหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่นไม่ต้องกดดันอะไร แต่น้องมดเลือกทางนี้ ทางที่จะเป็นเป้าหมายต่อไปในอนาคต

        ''ตอนแรกที่เริ่มเล่นวอลเลย์บอล พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังสนับสนุนด้วยการส่งให้มาเรียนต่อม.1 ที่โรงเรียนบดินทรเดชา เพื่อเล่นวอลเลย์บอลโดยเฉพาะ''

        นอกจากพ่อแม่ของน้องมดสนับสนุนให้มาเล่นวอลเลย์บอลที่กรุงเทพฯ แล้ว ยังเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้น้องมดฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาต่างๆ มาได้

        ''เวลาเจอเรื่องหนักใจ มีปัญหาก็ไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง ก็ได้ข้อคิดกำลังใจที่ดี บางครั้งก็เหนื่อยก็ท้อเหมือนกันนะ แต่พอเล่าให้พ่อแม่ฟัง เขาก็เข้าใจเป็นกำลังใจให้ มันเลยเป็นแรงผลักดันและเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ลุกขึ้นมาสู้ต่อได้''

        ประสบการณ์ที่น้องมดสั่งสมมากว่าสิบปี ทำให้น้องมดได้เข้าร่วมทีมวอลเลย์บอลของโรงเรียนบดินทรเดชาที่กวาดแชมป์มาแล้วหลายรายการ ล่าสุดคว้าแชมป์เยาวชนซีเล็คทูน่า, แชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จ.มหาสารคาม และช้างซูเปอร์แชมป์รุ่นอายุ 14 ปี

        ''ได้ประสบการณ์มากมายกับการเล่นวอลเลย์บอล ได้เพื่อนพี่ที่น่ารักคอยแนะนำ มีโค้ชที่คอยสอนให้ความรู้ เป็นความผูกพันที่หาจากไหนไม่ได้ค่ะ''

        ''อนาคตก็ตั้งเป้าไว้ว่าอยากเล่นวอลเลย์บอลเป็นอาชีพเลย ตอนนี้เพิ่งขึ้นม.3 และก็อยากต่อม.ปลายที่นี่เพื่อเล่นวอลเลย์ให้กับบดินทรค่ะ''

        ฟอร์มการเล่นตอนนี้ของน้องมดถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นที่น่าพอใจ แม้จะพลาดแชมป์ซีเล็คทูน่าประชาชน ข แต่ก็ได้รับประสบการณ์กลับไปมากมาย สำหรับน้องมดแล้วถือว่ายังมีโอกาสอีกนานในการสั่งสมเทคนิคต่างๆมาสู้รบปรบมือกับคู่แข่งได้อย่างแน่นอน

        นิพน แจ่มแจ้ง ผู้ฝึกสอนทีมสุพรีม-บดินทร เล่าถึงนักตบสาวดาวรุ่งคนนี้ว่า มดเป็นเด็กที่พัฒนาขึ้นมา ถ้าลองให้คะแนนทุกแมตช์ที่มดเล่นมาให้คะแนนเปรียบเทียบกันจะดีกว่าเด็กคนอื่น ทนต่อความกดดันทนต่อสภาวะของเกมที่บีบคั้นได้ดี ถือว่าใจใช้ได้ อนาคต มดไปได้ไกลแน่ ถ้ากายพร้อม ใจพร้อม แต่ยังต้องเพิ่มเติมอีกเยอะในส่วนแรกเลยคือเรื่องกล้ามเนื้อ

        ''แต่มดยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องเพิ่มกล้ามเนื้อเพราะยังเด็กอยู่ เทคนิคต่างๆ ต้องค่อยๆเพิ่ม เพราะเทคนิคบางอย่างเนี่ยเพิ่มไปตอนนี้ ความแข็งแรงไม่ถึงก็ไม่เกิดประโยชน์ อย่างเช่นพี่เขากระโดดเร็วกระโดดสูง แต่มดเนี่ยพละกำลังของกล้ามเนื้อยังแข็งแรงไม่พอ มันก็กระโดดไม่ทัน กระโดดไม่สูงอย่างนี้ เป็นต้น สำหรับเด็กคนนี้อนาคตไกลแน่ๆ ครับ''

        ด้วยความสามารถด้านกีฬาลูกยาง ทักษะและไหวพริบ ส่งให้เจ้าตัวก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ร่วมกับรุ่นพี่และสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งในไม่ช้านี้น้องมดจะมีโอกาสพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพอย่างเต็มตัวอีกทั้งยังเป็นอนาคตสำหรับทีมชาติ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศดั่งเช่นรุ่นพี่ในปัจจุบัน

        จับตามองดาวรุ่งจากเชียงรายในสังเวียนลูกยาง เชื่อว่าสักวันเธอจะเป็นสตาร์ของวงการวอลเลย์บอลไทยอย่างแน่นอน