สวัสดีครับ กลับมาเจอกันอีกครั้งนะครับ คราวนี้โอกาสเหมาะได้ไปญี่ปุ่นช่วงใบไม้แดง
แต่ไปช่วงนี้มีอุปสรรคเยอะแยะมากมาย
รูปถ่ายก็บางทีมาแบบทุลักทุเลครับ แต่ก็จะพยายามเอามาลงให้ได้ดูกันนะครับ

ก่อนจะเข้ามาดูรีวิวของผม รบกวนอ่านก่อนนะครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รสนิยมการกิน การเที่ยว และความเห็นต่างๆ เป็นรสนิยม และความเห็นส่วนตัวนะครับ
รู้สึกยังไงก็บอกไปอย่างนั้น อันไหนอร่อยก็บอกอร่อย อันไหนเฉยๆ ก็บอกเฉยๆ อันไหนไม่อร่อยก็บอกไม่อร่อย
ไม่เกี่ยวกับราคาแพงหรือถูก เพราะเคยมีคนว่ามา ว่าคุณจ่ายเงินแค่นี้แล้วคุณจะคาดหวังให้มันอร่อยได้ยังไง
แล้วบางทีรูปเยอะ เพราะอยากเอามาลงให้ได้ดูน่ะครับ ถ้าใครไม่ชอบรูปเยอะก็ขออภัยนะครับ

รีวิวที่ผ่านมาครับ
็Hokkaido-Tokyo Day 1 : http://ppantip.com/topic/31882345
็Hokkaido-Tokyo Day 2 : http://ppantip.com/topic/31887349
็Hokkaido-Tokyo Day 3 : http://ppantip.com/topic/31891771
็Hokkaido-Tokyo Day 4 : http://ppantip.com/topic/31896360
็Hokkaido-Tokyo Day 5 : http://ppantip.com/topic/31900859
็Hokkaido-Tokyo Day 6 : http://ppantip.com/topic/31942710
็Hokkaido-Tokyo Day 7 : http://ppantip.com/topic/31942762

******************************************************************************

แผนในการเดินทางคราวนี้ ขอบอกว่านรกมากๆ ครับ
เพราะความโลภจากการซื้อ JR Pass มาแล้ว
ถึงทำแผนเรียบร้อยแล้ว แต่พออ่านรีวิวคนโน้นคนนี้แล้วก็มีที่อยากจะไปเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คิดว่า เรามี JR Pass นี่นา ใช้ให้คุ้มสิ
ทำให้ตารางสุดท้ายที่ได้มา แน่นเอี๊ยด แบบเวลาเป๊ะๆ มากๆ
จะยังไง ลองตามผมมาเลยครับ

เริ่มจากสนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องออกเที่ยงคืนกว่า ของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557
JAL ที่ลงโอซาก้า ที่นั่งผมเอนไม่ค่อยได้ นอนก็ไม่ค่อยสบาย พอจะได้นอน เปิดไฟเสิร์ฟอาหารเช้าละ!!!
แลดูแอร์มีความสุขตอนได้ปลุกผู้โดยสารมากินข้าวตอนตี5 (คิดเอาเอง)
อาหารบนเครื่องตอนเช้า


จืดสนิทเลยครับ หรือว่ามันเช้าเกินไป (ตี3 ตี4 บ้านเรา) เลยไม่อยากอาหารก็ไม่รู้ครับ

ถึงสนามบินคันไซ โอซาก้า ประมาณ 8 โมงเช้า แต่เครื่องมาถึงเร็ว เลยออกมาได้เร็ว
แต่ก็ไปไหนไม่ได้ เพราะสั่ง Pocket Wifi ไว้ รับที่ไปรษณีย์ แต่ไปรษณีย์มันเปิด 9 โมงเช้า ก็เลยต้องรอจนกว่าไปรษณีย์จะเปิด
ดังนั้น ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาเที่ยวให้รับมาจากไทยเลยนะครับ
พอดีผมมีปัญหากับเครื่องที่รับที่ไทย เลยเปลี่ยนบริษัทเช่ากระทันหัน มารับที่ญี่ปุ่น
แล้วแจ็คพ็อตมันก็มาโดนที่ผมจนได้ Pocket Wifi เดี้ยงจ้า
ใบการใช้งานที่แนบมาก็มี Line ติดต่อเผื่อกรณีเครื่องขัดข้อง แต่...ไม่มีเน็ทใช้ แล้วจะติดต่อยังไงล่ะจ๊ะ
ก็เลยใช้มือถือที่โรมมิ่งมา โทรเข้าเบอร์บริษัทเช่า wifi ที่โตเกียว
คนญี่ปุ่นรับ พูดอะไรก็ไม่รู้ ผมงี้เลยวางสาย และตั้งสติ ในใบการใช้งาน บอกว่าให้ติดต่อตอนบ่ายโมง
โอเค หมายความว่าอย่างน้อยครึ่งวันเช้า เราก็จะไม่มีเน็ทใช้สินะ

ดีที่วางแผนการเดินทางมาก่อนแล้ว ใส่รอบรถไฟ เวลารถไฟไว้หมดแล้วก็เลยพอจะคลำๆ ไปได้

แผนวันนี้คือเอากระเป๋าไปฝากที่ สถานีนัมบะก่อน แล้วนั่งรถไฟไปเที่ยวนารา

ก็มาซื้อ Pass กันก่อน มาเที่ยวคราวนี้เลือกใช้ Kansai Thru Pass แบบ 3 วัน 5,200 เยน
ก็ใช้บัตรนี้นั่งรถไฟ Nankai Airport Exp. ไปลง Namba (แต่ถ้าจะนั่ง Rapit ต้องเสียเพิ่ม 510 เยน นะครับ)
เพื่อจะไปต่อรถไฟ Kintetsu Nara Line ไปนารา
แต่...สถานี Namba เป็นสถานีที่ใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เดินไกลมาก กว่าจะไปถึง Kintetsu ดังนั้น ใครวางแผนจะเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีนี้ก็ต้องเผื่อเวลาไว้หน่อยนะครับ

ขอโทษที่แรกๆ ยังไม่มีรูปเท่าไหร่นะครับ เพราะโอซาก้าเคยมาแล้วก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปสถานีอะไรไว้
แล้วก็ยังเซ็งๆ กับ Pocket wifi เลยไม่มีอารมณ์ทำไรครับ

ผมนั่งมาลงที่สถานี Yamatosaidaiji ก่อน แล้วเปลี่ยนรถไฟไปนั่ง Kintetsu Kyoto/Kashihara Line เพื่อไปสถานี Nishiokyo
สถานีเล็กๆ เอง


มาวัดนี้ครับ Yakushiji Temple


เก็บเงินก่อนเข้าทุกวันเลย รู้สึกว่าหมดเงินไปเยอะกับค่าเข้าวัด แหะๆ


เช้าๆ ยังไม่ค่อยมีคน




ฟ้าใสดีครับ


เจดีย์คู่อันโด่งดัง แต่...มันปิดปรับปรุงอันนึงอ่ะ เศร้าจริง
เลยถ่ายมาได้แค่ข้างเดียว


ส่วนอื่นๆ ขออภัยสำหรับทริปนี้นะครับ ผมมาดูรูปทีหลัง เห็นว่าตัวเองถ่ายรูปเอียง (กราบ)


วัดนี้จะมีสองฝั่งนะครับ ข้ามถนนไปอีกฝั่งที่มีเป็นเหมือนอาคารอะไรซักอย่าง แต่ถ่ายได้แค่นี้


ข้างบนเหมือนมีลูกแก้วอะไรอยู่ แต่ช้อนกล้องถ่ายได้แค่นี้อ่ะครับ 555


เดินจนเห็นว่ามีเวลาเหลือ ก็เลยจะไปที่วัด Toshodaiji ต่อ
ในแผนที่เหมือนใกล้เนาะ


มันก็พอเดินได้จริงๆ นะ แต่รู้สึกว่าไกลอ่ะ 555




เสร็จแล้ว เดินกลับทางเดิมครับ ไปสถานี Nishinokyo เพื่อนั่งรถกลับไปสถานี Yamatosaidaiji
เพื่อจะไป Heijo Palace
ในเวปบอก เดินชิวๆ ซึ่งชิวจริงๆ ครับ ไกลมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่ฟ้าใสดีมากวันนี้


มองไปอีกฝั่งเห็นประตู แต่ไม่เดินไปหานะจ๊ะ ไกล


แล้วก็เดินกลับไปสถานี Yamatosaidaiji (จริงๆ จากนี่นั่งรถบัสไปเมืองนาราเลยก็ได้นะครับ)
ระหว่างทางพึ่งนึกออก ว่าตั้งแต่ลงเครื่องมายังไม่ได้กินอะไรเลย
เริ่มมองหาอะไรกิน เจอห้างนี้ระหว่างทาง


เข้าไปชั้นใต้ดิน มีร้านอาหารเยอะดี เห็นร้านแกงกะหรี่อันนี้ต่อคิวเยอะ จัดไปครับ


ข้าวแกงกะหรี่หอยนางรมทอด สำหรับผมเฉยๆ นะครับ ไม่ได้อะไรมากมาย แต่คนมารอคิวกินเยอะจัง


กินเสร็จ บ่ายโมงพอดี เลยรีบโทรหา Pocket Wifi ทันที
คุยนานมาก จนเหงื่อแตก(เพราะโรมมิ่ง)
สรุปสุดท้ายแก้ปัญหาโดยการ Reset เครื่อง ...ง่ายเงี้ยะอ่ะนะ ปล่อยให้ไม่มีเน็ทใช้ตั้งครึ่งวัน
พนักงานบอกว่า น้อง Line มาก็ได้นะคะคราวหลัง จะได้ไม่ต้องเสียค่าโทรโรมมิ่งมา
... คือ...ผมใช้เน็ทไม่ได้ป่ะพี่

แก้ปัญหาเรียบร้อย ไปกันต่อจาก Yamatosaidaiji ไปที่สถานี Kintetsu Nara


ไปวัด Kohfukuji ก่อนเลย เห็นในแผนที่ใกล้ๆ เลยเดินเอาครับ
ระหว่างทาง เจอใบไม้แดงให้ชื่นหัวใจบ้าง




กวางที่ดูไร้พิษสง แต่มีคนเตือนว่ากวางที่นาราโหดร้ายมาก (เอ๊ะ ใช้ศัพท์ถูกมั้ยนะ)


ถึงวัดแล้วครับ


เด็กมาทัศนศึกษาเยอะมากเลย


ต่อกันด้วยวัด Todaiji วัดนี้หลงยาก เพราะแค่ตามฝูงชนไปก็จะเจอ


สวยดีครับ และใหญ่โตมาก








ด้านใน


เสาไม้อันลือชื่อ แต่ไม่กล้าลอด กลัวติด อายคนอื่นเค้า


ด้านนอก


เป้าหมายต่อไปคือ ศาลเจ้า Kasuga Taisha
ดูแผนที่แล้ว เดินชิวๆ ได้อีกแล้ว เอาเข้าจริงๆ ไกลอีกแล้ว 555
ระหว่างทางให้ได้ถ่ายรูปบ้าง




เห็นแบบนี้คือมาถูกทางละ


ถึงซะที เหงื่อเต็มตัวเลยครับ




พอ (คิดว่า) เก็บ RC ได้ครบแล้ว ก็เดินทางกลับโอซาก้าครับ