น้องสี่คิดว่า ข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะ
เลยรวบรวมข้อมูลเท่าที่จะหาได้มาสรุปเป็นตาราง Excel ให้เพื่อนๆ ดูกันน้า ≧▽≦ ♥
(ที่มาของข้อมูล : BSIS 2.2 By บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง)
สรุปยอดซื้อ-ยอดขาย SET ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
(ยอดซื้อ-ขายใน ปี 2014 ทั้งปีจะยังไม่ Net สุทธินะ ต้องรออีก 3 สัปดาห์ แต่โดยมรวมสามารถนำมาประเมินเบื้องต้นได้)
1. ต่างชาติ
ยังคง Net Buy สะสมอยู่ราวๆ 230,000 ล้านบาทและมักจะเทขายหนักๆ ในช่วงวิกฤตต่างๆ ตามวาระครับ
2. กองทุน
พึ่งจะมาสะสมหนักๆ ในช่วงปี 2013 และ 2014 (มากสุดที่เข้ามาเก็บคือปี 2008 Net Buy ประมาณ 45,000 ล้านบาท)
3. โบรคเกอร์
ลักษณะการลงทุนเป็นระยะสั้นและมักจะไม่ถือหุ้นข้ามปี เป็นแนวเก็งกำไรซะมากกว่า
ดังนั้นเค้าไม่ค่อยสนใจในการลงทุนระยะยาวสักเท่าไหร่
4. รายย่อย
รายย่อยนั้นมียอดขาย Net Sell ที่ราวๆ 327,000 ล้านบาท อาจมองเป็นยอดที่แปลกดีเหมือนกัน
แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส โดยจะเห็นได้ว่า ในปี 2008 ได้สร้างเซียน VI มาหลายท่าน เพราะเค้าซื้อหุ้นเพื่อลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม
คำถามที่พบบ่อย
1. การที่เข้าใจกันว่า ต่างชาติขายหมดแล้ว?
Ans : ยังไม่หมด ยังเหลืออีก 230,000 ล้านบาท !!!
2. รอบนี้ใครดัน SET มาที่ 1600 จุดอีกครั้ง?
Ans : กองทุนดัน ดันแบบรุนแรงด้วยนะ สังเกตจากยอด Net Buy ปี 2013 + 2014 รวมกันได้ประมาณ 155,500 ล้านบาท
แปลว่าถ้ามองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1992 - 2012 ยอดซื้อ-ขายของกองทุนทั้งหมด คือ Net Sell !!!
แล้วทำไมกองทุนถึงทุ่มซื้อในปี 2013 + 2014 ล่ะ? ก็น่าคิดดีนะว่าเป็นเพราะเหตุใด??
กองทุนมองการเปิด AEC ? ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง AEC ?? หรือลากมาเพื่อทุบ SET เปิด Short TFEX ? หรืออย่างไร???
จุดนี้น่าจะยังเป็นปริศนาอยู่ กองทุนเท่านั้นแหละที่รู้ เวลาเท่านั้นคือคำตอบ
3. บางท่านมองว่า "โบรคเกอร์คือผู้ร้าย"?
Ans : น้องสี่มองว่า โบรคเกอร์คือผู้สร้างสีสันในตลาดหุ้นมากกว่านะ
อย่างที่เกริ่นไปในช่วงแรกๆ ลักษณะการลงทุนของโบรคเกอร์จะเป็นการ "ลงทุนระยะสั้น" สังเกตได้จากยอด Net Buy หรือ Net Sell ปีต่อปี
จะเห็นได้เลยว่า แทบจะไม่ได้ถือข้ามปีเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าถือก็ถือในปริมาณน้อยมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับทาง "ต่างชาติ และกองทุน"
4. รายย่อยเป็นแมลงเม่าตลอดไปไหม?
Ans : น้องสี่มองว่า ก็ไม่เสมอนะ เพราะว่าในช่วงวิกฤตต่างๆ ที่ต่างชาติขายหนักๆ
การที่รายย่อยเข้าไปซื้อเก็บช่วงนั้น น้องสี่มองว่าเป็นช่วงเก็บหุ้นจังหวะที่ถูกต้องนะ (แต่อาจต้องใช้กราฟประกอบ หรือเทคนิตอื่นๆ มาช่วยนะ)
ดังจะเห็นได้ว่า ในปี 2008 ที่รายย่อยได้เก็บหุ้นไป ผ่านมา 6 ปี ได้เกิดเซียน VI ขึ้นมากมาย
เพราะเค้าซื้อหุ้นในธุรกิจที่ดี ดีในที่นี้คือมี Growth!! แล้วไม่ขายนั่นเอง
ดังนั้น "วิกฤตคือโอกาส"
5. จึงเป็นคำถามที่ว่า ณ SET 1600 จุด (หรือมากกว่า) เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนหรือเปล่า?
Ans : ..................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
☆·.¸¸.·´¯`·.¸¸.¤ ~♡のⓛⓞⓥⓔ♡~
น้องสี่ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ และนักลงทุนทุกท่าน ประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุน
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" นะครับ
https://www.facebook.com/StockTrader.Club
▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ ตารางสรุปยอด Net Buy และ Net Sell ทั้งหมด (ในช่วงประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมา) ลองมาดูน้าาาา ≧▽≦ ♥ █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂
เลยรวบรวมข้อมูลเท่าที่จะหาได้มาสรุปเป็นตาราง Excel ให้เพื่อนๆ ดูกันน้า ≧▽≦ ♥
(ที่มาของข้อมูล : BSIS 2.2 By บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง)
สรุปยอดซื้อ-ยอดขาย SET ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
(ยอดซื้อ-ขายใน ปี 2014 ทั้งปีจะยังไม่ Net สุทธินะ ต้องรออีก 3 สัปดาห์ แต่โดยมรวมสามารถนำมาประเมินเบื้องต้นได้)
1. ต่างชาติ
ยังคง Net Buy สะสมอยู่ราวๆ 230,000 ล้านบาทและมักจะเทขายหนักๆ ในช่วงวิกฤตต่างๆ ตามวาระครับ
2. กองทุน
พึ่งจะมาสะสมหนักๆ ในช่วงปี 2013 และ 2014 (มากสุดที่เข้ามาเก็บคือปี 2008 Net Buy ประมาณ 45,000 ล้านบาท)
3. โบรคเกอร์
ลักษณะการลงทุนเป็นระยะสั้นและมักจะไม่ถือหุ้นข้ามปี เป็นแนวเก็งกำไรซะมากกว่า
ดังนั้นเค้าไม่ค่อยสนใจในการลงทุนระยะยาวสักเท่าไหร่
4. รายย่อย
รายย่อยนั้นมียอดขาย Net Sell ที่ราวๆ 327,000 ล้านบาท อาจมองเป็นยอดที่แปลกดีเหมือนกัน
แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส โดยจะเห็นได้ว่า ในปี 2008 ได้สร้างเซียน VI มาหลายท่าน เพราะเค้าซื้อหุ้นเพื่อลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม
คำถามที่พบบ่อย
1. การที่เข้าใจกันว่า ต่างชาติขายหมดแล้ว?
Ans : ยังไม่หมด ยังเหลืออีก 230,000 ล้านบาท !!!
2. รอบนี้ใครดัน SET มาที่ 1600 จุดอีกครั้ง?
Ans : กองทุนดัน ดันแบบรุนแรงด้วยนะ สังเกตจากยอด Net Buy ปี 2013 + 2014 รวมกันได้ประมาณ 155,500 ล้านบาท
แปลว่าถ้ามองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1992 - 2012 ยอดซื้อ-ขายของกองทุนทั้งหมด คือ Net Sell !!!
แล้วทำไมกองทุนถึงทุ่มซื้อในปี 2013 + 2014 ล่ะ? ก็น่าคิดดีนะว่าเป็นเพราะเหตุใด??
กองทุนมองการเปิด AEC ? ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง AEC ?? หรือลากมาเพื่อทุบ SET เปิด Short TFEX ? หรืออย่างไร???
จุดนี้น่าจะยังเป็นปริศนาอยู่ กองทุนเท่านั้นแหละที่รู้ เวลาเท่านั้นคือคำตอบ
3. บางท่านมองว่า "โบรคเกอร์คือผู้ร้าย"?
Ans : น้องสี่มองว่า โบรคเกอร์คือผู้สร้างสีสันในตลาดหุ้นมากกว่านะ
อย่างที่เกริ่นไปในช่วงแรกๆ ลักษณะการลงทุนของโบรคเกอร์จะเป็นการ "ลงทุนระยะสั้น" สังเกตได้จากยอด Net Buy หรือ Net Sell ปีต่อปี
จะเห็นได้เลยว่า แทบจะไม่ได้ถือข้ามปีเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าถือก็ถือในปริมาณน้อยมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับทาง "ต่างชาติ และกองทุน"
4. รายย่อยเป็นแมลงเม่าตลอดไปไหม?
Ans : น้องสี่มองว่า ก็ไม่เสมอนะ เพราะว่าในช่วงวิกฤตต่างๆ ที่ต่างชาติขายหนักๆ
การที่รายย่อยเข้าไปซื้อเก็บช่วงนั้น น้องสี่มองว่าเป็นช่วงเก็บหุ้นจังหวะที่ถูกต้องนะ (แต่อาจต้องใช้กราฟประกอบ หรือเทคนิตอื่นๆ มาช่วยนะ)
ดังจะเห็นได้ว่า ในปี 2008 ที่รายย่อยได้เก็บหุ้นไป ผ่านมา 6 ปี ได้เกิดเซียน VI ขึ้นมากมาย
เพราะเค้าซื้อหุ้นในธุรกิจที่ดี ดีในที่นี้คือมี Growth!! แล้วไม่ขายนั่นเอง
ดังนั้น "วิกฤตคือโอกาส"
5. จึงเป็นคำถามที่ว่า ณ SET 1600 จุด (หรือมากกว่า) เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนหรือเปล่า?
Ans : ..................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
☆·.¸¸.·´¯`·.¸¸.¤ ~♡のⓛⓞⓥⓔ♡~
น้องสี่ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ และนักลงทุนทุกท่าน ประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุน
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" นะครับ
https://www.facebook.com/StockTrader.Club