ตอนนี้ลูกอยู่อนุบาล2 ค่ะ รร.เอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในจังหวัด เพิ่งจะมาเปิดสาขาที่นี่ไม่นาน
เหตุผลที่ย้าย คือ เราไม่ชอบวิธีการสอนอ่านภาษาไทยของเขาค่ะ และหลายๆอย่าง ประกอบกับอยากให้ลูกได้เรียน
โรงเรียนทางเลือกเพราะพิจารณาดูแล้ว น่าจะเป็นแนวทางที่ใช่สำหรับเด็กที่มีพฤติกรรมแบบลูกเรา
เมื่อหา รร.ใหม่ได้แล้วก็เข้าไปคุย สอบถาม เยี่ยมชม ได้คุยกัย ผอ. ก็พอใจค่ะ ใช่แบบที่เราต้องการ
จึงตกลงใจจะย้ายมาที่นี่ ทางผอ.บอกว่าตอนนี้มีเด็กย้ายตามผู้ปกครองไป1คนพอดี สามารถรับลูกเราเข้าเรียนได้
เราก็เลยโอเค กลับไปเตรียเอกสาร อีกไม่กี่วันทาง รร.โทรมาตามให้ไปชำระเงินถ้าจะเข้าเรียน เพร่ะมีผู้ปกครองท่านอื่น
มาสอบถามเช่นกัน ไม่งั้นเราจะเสียสิทธิ์ เราก็โอเค จ่ายไปทั้งค่าเทอม ค่าชุดนักเรียน แต่วันที่ไปจ่ายเงิน
ดันมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราคิดมาก นอนไม่หลับเลยค่ะ วันนั้นทางโรงเรียนจัดกิจกรรมวันพ่อ กว่าเราจะไปถึง
ทั้งเด็กทั้งครูกลับกันหมดแล้ว ผอ.โทรมาถาม.และก็นัดกันบ่าย2 โมง เราไปถึงก่อนก็นั่งรอ แล้วก็มีผู้ปกครองคู่นึงพา
ลูกชาย2คนเข้ามาเช่นกัน มารอติวกับ ผอ. เห็นว่านัดไว้ .(โรงเรียนนี้เล็กๆค่ะ เปิดมาไม่นาน เพิ่ง มีนักเรียนแค่ชั้น ป.3 เท่านั้น)
เด็กก็เล่นเตะบอลกันใกล้ๆเรา พ่อแม่รุ้สึกจะเป็นหมอ ก็ได้แต่บอกลูกว่าไม่เล่นตรงนี้นะคะ . แต่ลูกก็ไม่ฟัง ยังคงเล่นต่อไป
จนในที่สุดก็เตะบอลมาโดนเรา แม่เขาก็พูดว่า เห็นมั้ย.แม่บอกแล้วว่าไม่ให้เล่นไงคะ...... แล้วก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีการบอกให้ลูกขอโทษ ตัวเองก็ไม่ขอโทษแทนลูก เด็กเองก็เฉยๆ เราอึ้งเลยค่ะ นี่มันอะไรกัน เราไม่เจ็บหรอกที่โดนบอล
แต่เราแปลกใจที่ทำไมคุณหมอไม่สอนลูกให้ขอโทษคนอื่น ถ้าเป็นเราเราคงต้องขอโทษเองด้วยซ้ำ รึว่าเห็นเราดูธรรมดาๆ
ไม่ใช่คนทำงานดีๆแน่ๆ เลยเฉยๆ. เรางงมากค่ะ
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พอไปพบผอ. ว่าจะถาม แต่ก็เจอเหตุการณ์ที่อึ้งอีก คือ เด็กลูกหมอกับลูกผอ.เป็นเพื่อนกัน มาติวหนังสือด้วยกัน
นั่นก็ไม่แปลก ที่แปลกคือ เด็กทุกคนไม่เกรงกลัวใคร ไม่หลบไม่ย้ายที่ให้ผู้ใหญ่ ทางผอ.ก็คุยดีกับเด็กมากจนเหมือนเกรงใจพ่อแม่เขารึเปล่า
แต่กับเราก็คุยดีค่ะ . เรานั่งอยู่ก็คิดแล้ว ที่นี่จะสอนเรื่องมารยาทแบบไทยๆให้เด็กมั้ยนะ คือเราย้ายหนี รร.คริสมาเพื่ออยากให้ลูกได้เรียน
พระพุทธศาสนาได้เรียนคุณธรรม จริยธรรมให้มากยิ่งขึ้นด้วย เราผิดหวังพอสมควรที่เจอแบบนี้แต่ก็ไม่ได้คุยให้ใครฟัง
เครียดค่ะ.รึว่าเราจะคิดมากไปเองคะ . และถ้าเราไม่ย้ายลูกมาแล้วเราจะขอเงินคืนบ้างจะได้มั้ยคะ กลุ้มค่ะ
คิดมากไปหรือเปล่ากับโรงเรียนใหม่ของลูก กลุ้มใจค่ะ
เหตุผลที่ย้าย คือ เราไม่ชอบวิธีการสอนอ่านภาษาไทยของเขาค่ะ และหลายๆอย่าง ประกอบกับอยากให้ลูกได้เรียน
โรงเรียนทางเลือกเพราะพิจารณาดูแล้ว น่าจะเป็นแนวทางที่ใช่สำหรับเด็กที่มีพฤติกรรมแบบลูกเรา
เมื่อหา รร.ใหม่ได้แล้วก็เข้าไปคุย สอบถาม เยี่ยมชม ได้คุยกัย ผอ. ก็พอใจค่ะ ใช่แบบที่เราต้องการ
จึงตกลงใจจะย้ายมาที่นี่ ทางผอ.บอกว่าตอนนี้มีเด็กย้ายตามผู้ปกครองไป1คนพอดี สามารถรับลูกเราเข้าเรียนได้
เราก็เลยโอเค กลับไปเตรียเอกสาร อีกไม่กี่วันทาง รร.โทรมาตามให้ไปชำระเงินถ้าจะเข้าเรียน เพร่ะมีผู้ปกครองท่านอื่น
มาสอบถามเช่นกัน ไม่งั้นเราจะเสียสิทธิ์ เราก็โอเค จ่ายไปทั้งค่าเทอม ค่าชุดนักเรียน แต่วันที่ไปจ่ายเงิน
ดันมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราคิดมาก นอนไม่หลับเลยค่ะ วันนั้นทางโรงเรียนจัดกิจกรรมวันพ่อ กว่าเราจะไปถึง
ทั้งเด็กทั้งครูกลับกันหมดแล้ว ผอ.โทรมาถาม.และก็นัดกันบ่าย2 โมง เราไปถึงก่อนก็นั่งรอ แล้วก็มีผู้ปกครองคู่นึงพา
ลูกชาย2คนเข้ามาเช่นกัน มารอติวกับ ผอ. เห็นว่านัดไว้ .(โรงเรียนนี้เล็กๆค่ะ เปิดมาไม่นาน เพิ่ง มีนักเรียนแค่ชั้น ป.3 เท่านั้น)
เด็กก็เล่นเตะบอลกันใกล้ๆเรา พ่อแม่รุ้สึกจะเป็นหมอ ก็ได้แต่บอกลูกว่าไม่เล่นตรงนี้นะคะ . แต่ลูกก็ไม่ฟัง ยังคงเล่นต่อไป
จนในที่สุดก็เตะบอลมาโดนเรา แม่เขาก็พูดว่า เห็นมั้ย.แม่บอกแล้วว่าไม่ให้เล่นไงคะ...... แล้วก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีการบอกให้ลูกขอโทษ ตัวเองก็ไม่ขอโทษแทนลูก เด็กเองก็เฉยๆ เราอึ้งเลยค่ะ นี่มันอะไรกัน เราไม่เจ็บหรอกที่โดนบอล
แต่เราแปลกใจที่ทำไมคุณหมอไม่สอนลูกให้ขอโทษคนอื่น ถ้าเป็นเราเราคงต้องขอโทษเองด้วยซ้ำ รึว่าเห็นเราดูธรรมดาๆ
ไม่ใช่คนทำงานดีๆแน่ๆ เลยเฉยๆ. เรางงมากค่ะ
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พอไปพบผอ. ว่าจะถาม แต่ก็เจอเหตุการณ์ที่อึ้งอีก คือ เด็กลูกหมอกับลูกผอ.เป็นเพื่อนกัน มาติวหนังสือด้วยกัน
นั่นก็ไม่แปลก ที่แปลกคือ เด็กทุกคนไม่เกรงกลัวใคร ไม่หลบไม่ย้ายที่ให้ผู้ใหญ่ ทางผอ.ก็คุยดีกับเด็กมากจนเหมือนเกรงใจพ่อแม่เขารึเปล่า
แต่กับเราก็คุยดีค่ะ . เรานั่งอยู่ก็คิดแล้ว ที่นี่จะสอนเรื่องมารยาทแบบไทยๆให้เด็กมั้ยนะ คือเราย้ายหนี รร.คริสมาเพื่ออยากให้ลูกได้เรียน
พระพุทธศาสนาได้เรียนคุณธรรม จริยธรรมให้มากยิ่งขึ้นด้วย เราผิดหวังพอสมควรที่เจอแบบนี้แต่ก็ไม่ได้คุยให้ใครฟัง
เครียดค่ะ.รึว่าเราจะคิดมากไปเองคะ . และถ้าเราไม่ย้ายลูกมาแล้วเราจะขอเงินคืนบ้างจะได้มั้ยคะ กลุ้มค่ะ