ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมมา ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

Edit กระทู้เพิ่มเติม การผ่าตัดสวนบอลลูนหัวใจไปที่ลิ้นหัวใจเทียม

https://ppantip.com/topic/40547712/

ก่อนอื่นเลย ขอบอกก่อนว่า แท๊กห้องกล้องเพราะมีรูปภาพถ่ายบุคคล
หว้ากอ เป็นกรณีศึกษา
สยาม เกี่ยวกับชีวิตของเราเอง
และ โต๊ะเครื่องแป้ง เกี่ยวกับศัลยกรรมหัวใจดวงน้อยๆของเรานะคะ
หากผิดพลาดประการใดๆก็ตามก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปี 55 แต่เพิ่งสมัครพันทิพได้ไม่นานเลยตั้งใจจะนำเรื่องนี้มาบอกต่อเผื่อใครก็ตามที่กลัวการผ่าตัด เราจะคอยเป็นกำลังใจให้นะคะ

อ่อ...ลืมบอกไปนะคะ ว่าภาพที่ลงอาจจะไม่น่าดูสักเท่าไหร่
แต่ก้อยากให้เห็นค่ะ ว่าเป็นยังไง

เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ
เรา ผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ค่ะ
วันแรกที่เข้าโรงพยาบาล ตอนแรกเลย เราเองไปเตรียมตัวก่อนค่ะ
เพื่อฉีดสี และ ทำบอลลูน ว่าตัวเองมีเส้นไหนที่ตีบบ้าง
อ่อ...ลืมบอกไปว่า เป็นหัวใจ ตีบ รั่ว โต และล้มเหลวค่ะ (ล้มเหลวไม่ได้แปลว่าต้องสิ้นชีพนะคะ)

วันที่สอง ตื่นมาตีสี่ เพื่อจะเข้าห้องผ่าตัด อย่างแรกเลยค่ะ
คุณหมอจำเป็นจะต้องให้เรารมยาสลบก่อนค่ะ เพื่อให้ไม่รู้สึก
ว่าเจ็บ ระหว่างที่ทำ ตื่นมาคุณหมอได้บอกว่า
เอาท่อใส่ลงที่คอนะคะ เพื่อให้หายใจได้ และ ก้ทำการผ่าตัดตรงใกล้ๆหว่างขาค่ะ
ใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมงในการฉีดสีทำบอลลูนค่ะ
พอออกมาตัวเองยังไม่รุ้สึกค่ะ
ว่าทำอะไรไปบ้าง รู้อยู่อย่างเดียวค่ะ
ว่าขยับตัวไม่ได้เลย โดนเชือกมัดที่ขาไว้
มีอ๊อกซิเจนครอบปากอยู่ค่ะ
คุณพยาบาลเอาถุงทรายหนักๆมาวางไว้บนแผล
เพื่อให้กดทับไม่ให้แผลเปิด
ทับไปประมาณ สี่ชั่วโมงได้ค่ะ



หลังจากผ่านไป สี่ชั่วโมง ก้เดินได้ตามปกติ
คุณหมอบอกว่าเก่งมากค่ะ แต่อย่าเพิ่งลงน้ำหนักขาข้างที่ผ่านะคะ

วันที่สาม คุณหมอมาแต่เช้าเพื่อมาบอกว่า ให้ไปผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเทียมได้เลยค่ะ
วันนี้จะเครียดมากหน่อย ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก้พี่สาว
ต่างใจไม่ดี เพราะว่าเห็นว่าเรากลัว
ในใจคิดต่างๆนาๆไปหมดค่ะ ว่าจะตายไม๊
จะตื่นป่าว จะกลายเป็นยังไง ใช้หัวใจเทียมมันจะดีไม๊
คุณหมอแนะนำให้เราเลือก สองแบบค่ะ
ระหว่างลิ้นหัวใจวัว กับ ลิ้นหัวใจที่คล้ายๆสแตนเลสหน่อย
อันนี้ไม่รุ้ว่าเรียกยังไงค่ะ
คุณหมอแนะนำว่าลิ้นหัวใจวัวจะแข็งแรงกว่า แต่อายุการใช้งานน้อยกว่า
ต้องเปลี่ยนทุกๆ สิบห้าปีค่ะ
แต่ถ้าอีกแบบคือ เราจะต้องกินยาละลายลิ่มเลือดตลอดชีวิต
ซึ่งอัตราการเสี่ยงก้จะมีมากกว่า ว่าจะเข้ากันได้ไม๊ด้วยค่ะ
ดังนั้นที่บ้านเลยตกลงกันว่า เอาลิ้นวัวดีกว่า

วันที่สี่ ตื่นมาตีสี่ค่ะ เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด
คุณหมอเดินเข้ามาปลอบแล้วบอกว่า
ยังไงก้จะดูแลเราให้ดีที่สุดเหมือนคนในครอบครัวเลยค่ะ
หลังจากนั้น ก้อาบน้ำแต่งตัว ไหว้คุณพ่อคุณแม่ค่ะ
และก้คุณพยาบาลก้พาลงไปข้างล่างห้องผ่าตัด

ระหว่างที่รอผ่าตัดกำลังง่วงๆซึมๆหลังจากกินยาคลายเครียดมา
มีเสียงข้างๆเรียก จี๊ป จี๊ป เป็นไงบ้าง ตกใจอยุ่สักครู่
เพื่อนสมัยเรียนมัธยมอยู่ในทีมแพทย์ผ่าตัดค่ะ
รู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ และแล้วก้ยืมโทสับเพื่อนหน่อยค่ะ
โทรบอกพ่อแม่และก้แฟนว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ มีเพื่อนอยู่ด้วย
หลังจากนั้นจี๊ปก้เข้าห้องผ่าตัดไปค่ะ

พอผ่าตัดเสร็จคุณหมอบอกกับคุณแม่ว่า น้องจะไม่ตื่นจนกว่าจะวันพรุ่งนี้บ่ายๆ
นะคะ เพราะยายังไม่หมดฤทธิ์ ตอนสองทุ่ม อยู่ดีๆก้ตื่นขึ้นมาค่ะ
รุ้สึกตัวว่าตัวเองเจ็บมากค่ะ จำอะไรไม่ได้
ทุกอย่างในร่างกายมันตึงไปหมด มึนหัวมาก ปวดหัวไปหมดค่ะ
สภาพเหมือนคนอยุ่ในขึ้นโคม่าค่ะ



ที่คอมีท่าอยู่ข้างในรู้แค่ว่าลึกมาก ที่ท้องเจาะไว้สองรู
เพื่อระบายเลือดค่ะ สักพัก พยาบาลเดินมาบอกว่าจะเอาท่อออกจากคอให้นะคะ
จะเจ็บสักหน่อย แล้วก้ดึงออกเลยค่ะ
พอสักพักขอยืมโทรศัพท์พี่พยาบาลโทบอกแม่ค่ะ
ว่าตื่นแล้วนะ ไม่ต้องเป็นห่วง กลับกลายเป็นข้างนอกห้องซีซียูวิ่งกันโกลาหลไปเลย
ค่ะ หมอมาเชคร่างกายบอกปกติดี แล้วก้หลับไป

เช้าวันต่อมาเริ่มพูดได้แล้วค่ะ แต่ยังลุกไม่ได้ขยับไม่ได้ คุณหมอมาเอา

ท่อที่ท้องออกค่ะ เจ็บมากค่ะ หมอบอกว่าทนหน่อยนะ จะเจ็บมากๆเลย
แต่ก้ยังทนค่ะ น้ำตาไหลเลย และแล้วก้จำอะไรไม่ได้เลยค่ะ

วันรุ่งขึ้นพยาบาลบอกว่าลุกไหวไม๊ จี๊ปตอบได้คำเดียวว่าไม่ไหววค่ะ
เค้าถอดท่อปัสสาวะออกแล้ว ให้เดินไปเข้าห้องน้ำเอง ห่างไปสักสิบเมตรค่ะ
ระหว่างที่มองทางเดินเหมือนสักสิบกิโลเลย พยาบาลบอกว่า
ให้หัดเดินไวๆ จะได้กลับบ้านเร็วๆ
ก้เลยเริ่มหัดเดินตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ

พอกลับมาที่เตียงคุณหมอมมาทำแผลให้ค่ะ
เปิดแผลออก ตกใจมากค่ะ
สภาพเป็นอย่างนี้ค่ะ



อีกสามวันต่อมาเราเริ่มเดินเองได้คล่องแล้ว คุณหมอให้กลับบ้านได้ค่ะ
ดีใจมากค่ะ และวันนั้นก้เป็นวันเกิดคุณพ่อด้วยค่ะ
พ่อบอกว่า ได้ลูกกลับคืนมา ก้เป็นของขวัญแล้วค่ะ

ตอนนี้สุขภาพจี๊ปแข็งแรงมากกว่าที่เคยเป็นค่ะ
ไม่เหนื่อย ไม่หอบ มือไม่สั่น ไม่ช๊อก ไม่เป็นลม ไม่หน้ามืด
หายใจได้สะดวก เหมือนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนค่ะ
คนทั่วไปอาจยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็น แต่ว่าไปเช็คก้ไม่เสียหายค่ะ
ตอนนี้มีความสุขมากค่ะ จากยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา
เข้าโรงพยาบาลตลอดเลย ตอนนี้ แข็งแรงแล้วค่า

จี๊ปจะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ
ที่กลัวการผ่าตัด หรือไม่กล้าไปหาหมอเช็คโรคหัวใจค่ะ
ขอบคุณนะคะ


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่