สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมา Review การสัมภาษณ์วีซ่า F1 ของ USA ค่ะ
ก่อนอื่นเราจะบอกนี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย
แต่วันนี้เราจะขอมาเล่าประสบการณ์การสัมภาษณ์ visa  F1 ค่ะ
เราจะบอกว่าการสัมภาษณ์ วีซ่าของเราไม่ได้สวยหรูที่ครั้งเดียวผ่านเหมือนใครเค้านะค่ะ

เริ่มแรกต้องขอบอกเลยเรามีความคิดที่จะไปเรียนที่  USA
เราดำเนินเรื่องผ่านเอเจนซี่ที่นึง เรายังไม่ลาออกจากงานที่เราทำนะค่ะ เราก็แอบเร่งๆนิดนึง
เพราะอยากให้ผ่านเรื่องวีซ่าไป จนมาถึงวันนัดสัมภาษณ์ค่ะ

วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ครั้งแรกค่ะเรานัดคิว 7:30
เพราะเห็นเขาบอกกันว่าช่วงเช้ากงศุลมักจะใจดี เราก็ไปแบบมั่นใจค่ะ
เตรียมมาดี อ่านพันทิปเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ไว้เป็นอาทิตย์ พูดเลยตอนนี้วันๆเราแทบไม่จดจ่อกับงานที่ทำอยู่
สนใจแต่เรื่องสัมภาษณ์อย่างเดียว

เราไปถึงสถานฑูตตอน 7:10 โอ้วว..แม่เจ้าคิวยาวมากแต่ไม่เป็นไรเราพร้อมเอกสารครบค่ะ
พอถึงคิวช่วง 7:30 เราก็ได้เข้าไป ฝากมือถือ ตรวจสัมภาระต่างๆ ตรวจเสร็จ
ไปถึงเจ้าหน้าที่คนไทยเช็คเอกสารค่ะ พอเช็คเสร็จ ต่อคิวต่อค่ะ
เตรียมตัวไปด่าน 2 สัมภาษณ์กับคนไทยข้างหน้าค่ะ แต่ข้างหน้ากี่ช่องไม่รู้เราจำไม่ได้
เจ้าหน้าที่ตัดแถวช่วงเราไปช่อง 14-15 ค่ะ
ไปถึงเจ้าหน้าที่คนไทยก็ถามเคยได้ visa usa ไหม, เคยเปลี่ยนชื่อนามสกุลไหม ทำงานที่ไหน
ประมาณนี้ค่ะ เราจำไม่ค่อยได้หมด เสร็จแล้วเขาก็ให้เราพิมพ์ลายนิ้วมือ พิมพ์เสร์จต่อคิวพิมพ์อีกรอบค่ะ
พอพิมพ์เสร็จเราก็นั่งรอ
(ต้องขอบอกก่อนเราสัมภาษณ์เราก็ได้อ่านพันทิปมาเหมือนกันว่าชองไหนโหด เห็นเขาบอกกันช่อง 12 โหด
ช่องคนเกาหลีถามเยอะมาก ช่อง 11 จะใจดี )
ประมาณ 9 โมงถึงคิวเราต่อสัมภาษณ์แล้วค่ะ
พอถึงก่อนหน้าเราเป็นผู้หญิงคนนึงได้ช่อง 12 ค่ะแต่เธอบอกว่าเธอเคยสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่าน
นี่มารอบ 2 สัมภาษณ์กับช่อง 12 ไม่ผ่านเราก็ถามว่าทำไมไม่ผ่านเขาก็บอกเอกสารไม่ครบมั้งค่ะ
ผู้หญิงคนนั้นขอให้เราไปก่อนค่ะช่อง 12 เราก็โอเคไปก็ได้ไม่เป็นไรหรอก ก็เราจะไปเรียนจริงๆหนิ

ไปถึงช่องยิ้มยกมือไหว้งามๆที สวัสดีค่ะ
กงศุล: สวัสดีครับ
กงศุล: ไปทำอะไรที่อเมริกาครับ
เรา: ไปเรียน Intensive Course ค่ะ
กรมศุล: ตอนนี้ทำงานอยู่ไหมครับ ทำที่ไหนครับ
เรา: ทำค่ะ ที่บลาๆ...
กงศุล:ทำมานานเท่าไรแล้วครับ
เรา: ปีกว่าค่ะ
กงศุล: พูดภาษาอังกฤษได้ไหมครับ
เรา: นิดหน่อยค่ะ
กงศุล: ทำไมถึงเลือกรัฐนี้
เรา: เพราะเป็นเมืองที่สวยและเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วยค่ะ
กงศุล: ทำไมถึงอยากไปเรียนที่สหรัฐครับ
เรา: เพราะอยากพัฒนาทางด้านภาษาค่ะ
กงศุล: เรียนเสร็จจะทำไรต่อ
เรา: กลับมาเมืองไทยค่ะแล้วหางานที่เป็นบริษัทต่างชาติ Upgrade salary ตัวเอง
กงศุล: ใครเป็น สปอนเซอร์ ครับ
เรา: คุณพ่อค่ะ
กงศุล: คุณพ่อทำงานอะไร
เรา: เป็น GM ที่บลาๆๆ พร้อมยื่นใบรับรองงานของพ่อและ statement
กงศุล: จะพักกับใครครับ
เรา: กับ Host family ค่ะ

กงศุลพิมต๊อกแต๊กๆๆๆๆๆ ผลปรากฎว่า
เราไม่สามารถอนุญาตให้คุณผ่านวีซ่าได้ในวันนี้ครับ
เราแบบ เหวออจ่ะ!! เหวอไม่พอเรารีบยิงคำถามใส่กรมศุลเลยจ้า
หนูผิดอะไรค่ะก็หนูจะไปเรียนจริงๆหนิค่ะ แล้วไม่ผ่านได้ไงอ่าค่ะ

คำตอบของเขาคือ เราไม่มี Specific Plan พอที่ว่าเรากลับมาจะทำไรยังไง เชิญเคสต่อไปครับ
เวียนหัวเลยยจ่ะ แบบว่า เห้ยก็จะไปเรียนไงไม่มีที่กลับมันเป็นอนาคตป่าวคืองานเรายังไม่แน่ใจ
ว่าพอเรากลับมาจะสมัครงานตำแหน่งไหน ที่บริษัทอะไร
พอเราได้ภาษาช้อยมันก็ต้องมีให้เลือกเยอะสิ เราก็ต้องเลือกหลายๆอย่างประกอบกันหนิ
ตอนนั้นแบบรู้สึกแย่ โทรบอกแม่ โทรบอกเอเจนซี่ว่าเราตอบแบบนี้ๆๆ
มันผิดตรงไหนไม่เห็นจะผิดไรเลยหนิ
เอเจนซี่ก็ดันบอกให้เราลองเปลี่ยนประเทศไหม เราแบบเอิ่มม??
เราบอกเอเจนซี่ว่าคือเราเดินมาถึงขนาดนี้แล้วจ่ายไปขนาดนี้แล้ว เราไม่ได้ทำไรผิดเราไม่เปลี่ยน
เราไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนั้นหรอก!! พี่ช่วยจองวีซ่ารอบต่อไปให้ด้วยเดี๋ยวหนูโอนตังค์ให้ค่ะ หยูจะสัมภาษณ์อีกรอบ!!


เดี๋ยวมาต่อของวันนี้นะค่ะ