เคยได้ยินแต่แม่ผัว-ลูกสะใภ้ ตอนนี่กลับมาเจอ พ่อผัว-ลูกสะใภ้ ซะงั้น มีใครเจอเหมือนเราบ้างคะ ??

** ออกตัวก่อนนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หลังจากที่ตามอ่านของคนอื่นมานานมากๆๆ ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ **

เรากับแฟนคบกันตอนเรียน ม. ที่ ตจว. แถวๆ กทม.ค่ะ คบกันตั้งแต่ ปี 1 จนตอนนี้ อายุ 27 แล้วค่ะ ซึ่งพ่อแม่แฟน และครอบครัวของเราก้รับรู้มาโดยตลอด เพราะตอนไปหาแฟนที่หอพักแถว ม. ก้จะเจอเราตลอด เค้าก้พาไปทานข้าว ไปเที่ยวบ้าง แล้วแต่สะดวก (แฟนอยู่หอนอก ส่วนเราอยู่หอใน ปี 3-4 ย้ายไปอยู่ด้วยกัน อันนี้แม่แฟนรู้คนเดียว) หลังเรียนจบ เราก้ย้ายมาทำงานใน กทม. เพราะแฟนเปนคนกรุงเทพ ส่วนเราบ้านอยู่ ตจว. ไกลจาก กทม. ประมาณ 8-9 ร้อย กม.

เรามาเช่าหอพักอยู่แถวๆบ้านแฟน ส่วนแฟนก้อยู่บ้านกับครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง (เป็นคนจีนแท้ๆ) ตอนเข้ามาอยู่ กทม. แรกๆ พ่อแม่แฟนก้ดีกับเรามากค่ะ คอยดูแลเรื่อฝอาหารการกิน ที่พัก และก้การไปทำงาน (เรากับแฟนทำงาน บ. แถวๆบ้านค่ะ ตอนเที่ยงแฟนจะไปรับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน) อาจะเปนเพราะตอนปี 4 แฟนเราป่วยหนักมากค่ะ เกือบเป็นอัมพาตท่อนล่างจนเดินไม่ได้ ตอนนั้นอยู่ไกลจากพ่อแม่ ก้มีเราคนเดียวที่คอยดูแล ทั้งพาไปหาหมอตามหมอนัด และดูแลเรื่องส่วนตัว เพราะแฟนเราแทบทำอะไรเองไม่ค่อยได้เนื่องจากอาการป่วย แต่ก้พยายามเรียนให้จบปี 4 ให้ได้ (นี่คือสาเหตุที่เราย้ายไปอยู่ด้วยกันค่ะ)

ขอเล่านิดนึงนะคะ คือบ้านแฟนค่อนข้างมีฐานะค่ะ แต่เค้าให้แฟนเราไปรักษาโดยใช้สิทธิบัตรทอง เราเรียนอยู่ ตจว. พอจะหาหมอก้เลยต้องนั่งรถกันมาใน กทม. เพื่อไปเข้าคิวตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะใช้สิทธิ แล้วที่บ้านก้แค่ไปส่งที่รพ. ส่วนเรื่องเข้าคิวพาไปตรวจ รอตรวจเราเป็นคนจัดเองเองทั้งหมดค่ะ แม่เค้าให้เงินไว้แค่ พันเดียว ถ้าเหลือก้ต้องคืนนะคะ ตอนนั้นคือลำบากมากค่ะ แฟนปวดหลังจนทรมาน แต่เราก้ช่วยอะไรไม่ได้เลย ได้แค่คอยดูแล ไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าทำไมถึงขี้เหนียวกับเรื่อง คชจ. ในการรักษาพยาบาลลูกชายได้ขนาดนี้ ตอนไปช้อปซื้อของให้ตัวเองนะคะ ครีมกระปุกละหมื่น ซื้อได้ง่ายๆเลยค่ะ

หลังจากทำงานไปได้สัก 6 เดือน พ่อแฟนก้เริ่มบ่นว่าอยู่หอพักมันเปลืองเงิน ให้เราย้ายเข้าไปอยู่บ้านเดียวกับน้องสาวเค้า เรียกอาละกันนะคะ อาแกเปน ผญ. ไม่แต่งงาน อยู่บ้านทาวเฮ้าคนเดียว เค้าจะให้เราเข้าไปแบ่งห้องในบ้านอยู่ และก้จ่ายค่าเช่าให้อาค่ะ เราก้คิดว่าก้ดี ตอนแรกจ่ายค่าหอเดือนละ 4500 ร่วมน้ำไฟ แต่ไปอยู่กะอาจ่ายให้เค้า 3000 รวมน้ำไฟ ยังไงก้ยังช่วยประหยัดได้ด้วย (เรื่องค่าเช่าเราเสนอไปเองค่ะ ตอนแรกเค้าบอกจากเอาแค่ 2000 แต่เราว่าน่าเกลียด ก้เลยให้ 3000) ห้องก้เล็กมากค่ะ ขนาดประมาณ 3×3 ม. ไม่มีเฟอ เราต้องซื้อเฟอเข้าไปเองหมด เรากะอาสนิทกันอยู่บ้างค่ะ ตอนเที่ยงก้มากินข้าวบ้นเค้านี่แหละค่ะ พ่อแฟนเป็นคนบอกให้ทำไว้ให้กินทุกวัน

อาแกเปน ผญ. โสดที่แก่แล้ว อายุเกือบ 50 แกก้จะคอยจับผิดตลอดเวลาแล้วไปบอกพ่อ ตอนแรกๆก้ไม่รู้นะคะ เรื่องมันมาแตกตอนหลัง เอาแบบย่อๆนะคะ อยู่กะเค้ามา ปีครึ่ง เรื่องมันเยอะมากค่ะ

เรื่องแรก.. อาบอกเราว่าไม่ต้องทำงานบ้านนะ เพราะเราทำแล้วไม่สะอาด ไม่ถูกใจเค้า เค้าทำเองดีกว่า เราก้เกรงใจ ก้ทำบ้างค่ะ เราจะกวาดถูบ้านทุกวันเสาอาทิต เพราะวันธรรมดาเค้าจะทำเสดก่อนที่เราจะกลับจากทำงาน บางทีวันเสาอาทิตเราไปเที่ยวห้างหรือไปธุระกับแฟน บอกเค้าว่าเดี๋ยว 4 โมงกลับมาถูบ้านให้นะ วันนั้นกลับมาเค้าก้กวาดถูเสดหมดแล้วค่ะ ยิ่งเร่บอกว่าจะกลับมาทำให้ ก้จะยิ่งรีบทำ ไม่ให้เราทำ เราก้คิดว่า เออ ช่างมันละกัน ก้บอกแล้วนี่ ประมานนี้

แต่ !! เค้าไปบอกพ่อว่าเราไม่ช่วยทำงานบ้านเลย เค้าเหนื่อยกลับมาจากขายของ ยังต้องมาเหนื่อยทำงานบ้านอีก สักพักพ่อก้ว่าบ่นเราค่ะ ว่าอยู่ด้วยกันก้ต้องช่วยเหลือกัน งง ค่ะ ไม่รู้จะพูดยังไง พอบอกไปว่าเค้าไม่ให้ทำ พ่อก้บอกว่าถึงเค้มไม่ให้ทำ ก้ต้อฝช่วยอยู่ดี ไม่ใช่วันหยุดทีเอาแต่เที่ยว จบเลยค่ะ แบบนี้

หลังจากย้ายเข้าไปอยู่ได้สัก 4 เดือน เราก้ไม่กลับไปกินข้าวเที่ยงกะเค้าอีกนะคะ หากินเอาแถวที่ทำงาน แฟนก้เหมือนกันค่ะ เพราะไม่อยากให้เค้าบ่นว่าเราไปทำเค้าลำบาก ทั้งๆที่ตอนแรกพ่อเปนคนสั่งให้ไปกิน เพราะไม่อยากให้เปลืองเงิน และให้เราจ่ายเปนค่ากับข้าวให้แทน

เรื่องที่ 2 ช่วงนั้นเราได้งานใหม่ ได้เงินเดือนเยอะขึ้น ก้เลยอยากได้ไอโฟน ตอนแรกใช้ บีบี รุ่นถูกๆค่ะ ก้ไปซื้อมาเครื่องนึง แฟนก้ไม่ได้ว่าอะไร (แฟนใช้ไอโฟนอยู่แล้วค่ะ) อาก้เอาไปบอกพ่อ โดนด่าอีกตามระเบียบค่ะ ว่าใช้เงินเปลือง ไม่รู้จักคิด บลาๆๆ

เรื่องที่ 3 อยู่กันไปได้สัก 2-3 เดือน เริ่มรู้สึกอึดอัด เราทำงานหยุดเสาอาทิต พอวันหยุดพ่อก้พูดว่าให้ไปช่วยอาขายของ เค้าขายของในตลาดตอนเช้าค่ะ ก่อนไปทำงานตอนเช้าก้ต้องไปช่วยขายของก่อน แล้วค่อยไปทำงาน สรุปว่าก้ให้ไปช่วยทุกวัน ต้องตื่นตั้งแต่เช้า แม้กระทั่งวันหยุด บอกตรงๆช่วงนั้นมี ปห. ที่ทำงานด้วย ยิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่ แต่เราก้ไปทุกวันนะคะ เสาอาทิตตื่น 6.30 ไปขายของตอน 7.00 แล้วรอรับอากลับบ้านตอน 11 โมง คือใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับเค้า ช่วงนั้นเหนื่อยมากค่ะวันหยุดเสาอาทิตแทบไม่มีเวลาเปนของตัวเอง

นอกจากนี้ วันเสาอาทิตตอนเย็นยังต้องไปกวาดถูทำความาะอาดบ้านแฟนอีกนะคะ แฟนเราเค้าก้เกรงใจแย่งไปทำเองไม่ให้เราทำ แต่พ่อก้มองอยู่เราก้เลยต้องบอกว่าไม่เปนไร เดี๋ยวช่วยทำ

เรื่องที่ 4 ตอนเช้าแฟนเราจะขับรถมารับไปส่งที่บีทีเอสทุกวันค่ะ แต่อากับพ่อก้เอามาว่าเราว่าทำไมต้องให้ไปส่ง ทำไมไปเองไม่ได้ แล้วพอแฟนเราปวดหลัง ก้เอามาพูดว่าเปนเพราะต้องคอยขับรถพาเราไปโน่นนี่ ไม่ได้พักผ่อน เราเองมีรถก้ยังโทรให้แฟนมาหาตลอด แทนที่จะขับไปทำธุระเอง

(ยังไม่หายป่วยนะคะ แต่ดีขึ้นบ้าง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ได้รับการรักษาแค่ยาแก้ปวดกับนวดกายภาพบำบัดนิดหน่อยค่ะ เพราะพ่อแม่บอกว่าให้ทำงานเกบเงินไปรักษาเอาเอง ตรงนี้บอกตรงๆเกลียดมาก แฟนก้ไม่พอใจ แต่ทำไรไม่ได้ค่ะ)

คือตรงนี้เราไม่รู้จะพูดยังไงนะคะ บ้านแฟนกะบ้านอา อยู่ห่างกันแค่ 1 ซอย แล้วการที่ ผญ. จะอยากให้แฟนมาหาหรือไปรับส่งไปทำงานนี่มันผิดมากหรอคะ แล้วการที่ได้รับการรักษาแค่นั้น มันไม่หายหรอก แต่พอปวดเอว ปวดหลังขึ้นมาก้กลายเป็นความผิดเรา ตัวพ่อกะอาเองก้ชอบใช้งานแฟนเราตลอด เหนื่อยใจค่ะ

** เรื่องยาวมาก ขอโทษด้วยนะคะ ขอไปอาบน้ำก่อนค่ะ **
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
คุณจะกลัวทำไมคะ เค้าไม่แคร์คุณขนาดนั้นแล้ว
อ่านแล้วปรี๊ด ค่าเช่าก็ให้แล้ว ยังจะมาใช้ทำงานอีก ทั้งงานราษฎร์งานหลวง ไหนจะต้องออกค่ากับข้าวให้อีก จะบ้าเหรอ
คือเราคำนวณแล้วคุณอยู่หอ 4500 สบายใจชิวๆ กับจ่ายให้อา 3000   พร้อมต้องมีค่านั่นนี่ให้เค้าอีก แถมต้องช่วยทำงานอีกเสาร์อาทิตย์  งานบ้าน งานขายของ
เราว่ามาเช่าหออยู่น่ะคุ้มกว่าค่ะ คุ้มกว่ากันเยอะมากกกกกกกก
ย้ายออกมาได้แล้วเราก็ดีใจด้วย
อีกนิด แหม่ ซื้อไอโฟน ใช้เงินไม่รู้จักคิด?  แล้วลูกคุณพ่อก็ใช้ไอโฟน หมายความว่าไม่รู้จักคิดเหมือนกันด้วยใช่ไหม  ขอเงินคุณพ่อหรือก็เปล่า ยังจะมายุ่ง


เรื่องแต่งงานนี่ ให้หัวหน้าหรืออาจารย์ของแฟนไปแทนได้ไหม  คุยทาบทามกันไว้ก่อน  กันชาวบ้านนินทา
แทนที่คุณจะห่วงพ่อแม่แฟนว่าจะไม่พอใจ คุณห่วงที่บ้านคุณห่วงความรู้สึกพ่อแม่คุณดีกว่าไหมคะ
พ่อแม่แฟนไม่พอใจก็ช่างเค้าเถิด อยู่มาขนาดนี้ จิกใช้เราขนาดนี้ ยังไม่คิดจะรับผิดชอบรับเราเป็นสะใภ้เลย จะไปห่วงเค้าทำไมอีกคะ
ไหนๆก็ต่างคนต่างอยู่แล้ว   เราไม่ได้ล้ำเส้นเค้า เราก็ไม่ต้องไปแคร์หรอกค่ะ เราอยู่ของเรานี่นา
คุยกับแฟนดูค่ะ ว่าแฟนจะว่ายังไง  อย่าห่วงแค่พ่อแม่คนอื่น  ห่วงพ่อแม่เราด้วยค่ะ  
พ่อแม่เราต้องมาก่อน  เรื่องนี้ก็ไม่ได้ไปล้ำเส้นอะไรเพียงแต่มันสมควรแก่เวลาแล้ว  
คนที่รักเราที่สุดคือพ่อแม่เรา คนที่เหนื่อยยากเลี้ยงเรามาก็พ่อแม่เรา  อย่าไปยอมให้คนอื่นโขกสับอะไรมากมายค่ะ
ตอนนี้คุณก็เริ่มคุยกับแฟนได้แล้วค่ะ ถึงเรื่องอนาคต เริ่มเก็บเงินกันได้แล้ว เผื่อแต่งงานจะได้ไม่มีปัญหาอีก ดูแล้วทางบ้านแฟนคุณคงยากที่จะควักช่วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่