Rovio ประกาศปลดพนง.กว่า 110 ราย

กระทู้ข่าว

บริษัทผู้ผลิตเกมดัง Angry Birds ประกาศปรับลดอัตราการว่าจ้างงาน หลังสตูดิโอเกมในเมือง Tampere ประเทศฟินแลนด์ปิดตัวลง

ถึงคราวขาลงเสียแล้ว สำหรับ Rovio ผู้พัฒนาเกมนกโกรธที่เมื่อครั้งหนึ่งเคยเกิดกระแสฟีเวอร์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง ล่าสุด สั่งปิดสตูดิโอเกมในเมือง Tampere ประเทศฟินแลนด์ลง พร้อมๆกับมีการประกาศปลดพนักงานเป็นจำนวนกว่า 110 รายจากพนักงานที่มีอยู่ทั้งหมด 800 ราย อย่างไรก็ตาม การประกาศลดจำนวนพนักงานลงในครั้งนี้ มีจำนวนน้อยกว่าที่เคยประกาศเอาไว้เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

"บริษัท Rovio Entertainment Ltd ได้ข้อสรุปการเจรจาต่อรองพนักงานที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยประกาศไว้ที่ 130 ราย" ตัวแทนจาก Rovio กล่าว ซึ่งภายหลังจากที่ยุติการดำเนินงานในสตูดิโอในเมือง Tampere ลง Rovio จะรวมการดำเนินงานในฟินแลนด์ทั้งหมดไปไว้ที่สำนักงานใหญ่ในเมือง Espoo แทน

ในช่วงต้นปี Rovio ได้ประกาศตัวเลขกำไรสุทธิของปี 2013 ไว้อยู่ที่ 26.9ล้านยูโร (33ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งลดลงกว่าครึ่งหนึ่งของผลกำไรสุทธิในปี 2012 (55.5ล้านยูโร) โดยในเวลานั้น ซีเอฟโอ Herkko Soininen ได้พิจารณาลดเงินลงทุนในกิจการที่นอกเหนือจากธุรกิจเกมมือถือ

อนึ่งในปี 2009 บริษัท Rovio ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการเปิดตัวเกม Angry Birds บนมือถือ ถึงแม้เกมดังกล่าวจะเคยได้รับการพัฒนามาแล้วหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวเกม Angry Birds บริษัทก็ได้มุ่งความสนใจไปที่การแฟรนไชส์ดังกล่าว จนมีการออกเกมมาเป็นซีซั่นๆ อาทิ Angry Birds Seasons ในปี 2010, Angry Birds Rio ในปี 2011, Angry Birds Space, Angry Birds Star Wars และ Bad Piggies ในปี 2012, Angry Birds Friends, Angry Birds Star Wars II และ Angry Birds Go ในปี 2013 และ Angry Birds Epic, Angry Birds Stella และ Angry Birds Transformers ในปีนี้นั่นเอง นอกเหนือจากนี้ ยังได้มีการเปิดตัวช่องการ์ตูนของตัวเอง และมีการจัดจำหน่ายของเล่น รวมถึงสินค้าอื่นๆที่มีรูปตราสัญลักษณ์ของ Angry Birds อีกด้วย อาทิ น้ำอัดลม และลูกอม

ถึงแม้จะปิดสตูดิโอในเมือง Tampere ลง แต่ Rovio ก็ยังคงมีสตูดิโอพัฒนาเกมในเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และมีสำนักงานใหญ่ในเมือง Espoo ประเทศฟินแลนด์ รวมถึงยังมีสาขาย่อยในหลายๆประเทศ ได้แก่ เซียงไฮ้ (จีน), แซนตามอนิกา (รัฐแคลิฟอร์เนีย), โซล (เกาหลีใต้), โตเกียว (ญี่ปุ่น) และลอนดอน

ที่มา CNET
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่