ตราบใดที่ “ความโลภ” ยังอยู่คู่กับมนุษย์ เมื่อนั้นมิจฉาชีพก็ยังคงหาเครื่องตกเงินมาหลอกลวงคนโลภ คนมักง่าย ที่อยากออกแรงน้อย แต่ได้ผลตอบแทนสูงเกินแรงกายแรงปัญญาอยู่เสมอ
ทั้งนี้รูปแบบเครื่องตกเงินของมิจฉาชีพนั้นมักมาในรูปแบบเดิมๆ นั่นคือ เป็น “การลงทุนสำเร็จรูป” ที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ใส่เงิน หรือวางเงิน แล้วรอรับผลตอบแทน เพียงเท่านี้ก็ได้รับผลตอบแทนชนิดหาที่ใดในโลกไม่ได้อีกแล้ว
9-10% ต่อเดือน หากคิดแบบโง่ๆง่ายๆ ก็เท่ากับ 108-120% ต่อปี เงินที่เราใส่วันนี้ จะกลายเป็นเท่าตัวภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี
เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนอื่นๆแล้ว ต้องถือว่าโฆษณาชวนเชื่อนี้น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว เพราะเมื่อเทียบกับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างการลงทุนในหุ้น ยังทำผลตอบแทนได้เฉลี่ยเพียง 10-15% ต่อปีเท่านั้น (สำหรับมนุษย์ธรรมดาทั่วไปนะ)
ที่สำคัญ! ยิ่งถ้าชวนเพื่อนมาร่วมลงทุน ผลตอบแทนก็จะยิ่งสูงขึ้น เพราะจะได้กินหัวคิวจากการเสียรู้ของเพื่อนอีกต่อหนึ่ง หรือพูดง่ายๆ ว่า ยิ่งชวนเพื่อนมาเจ็บตัวได้มาก ยิ่งรวย ว่ากันอย่างนั้น
......................................................................................................................
แล้วคนส่วนใหญ่หลงไปติดกับดักพวกมันได้อย่างไร?
เจ้ามิจฉาชีพพวกนี้เก่งครับ พวกมันจะสร้างระบบออนไลน์ของมันให้ดูดี มีเว็บไซต์สวยงาม โดยอ้างว่าเป็นบริษัทที่ระดุมทุนไปลงทุนกองทุนในต่างประเทศ หรือบ้างก็อ้างว่าไปสร้างธุรกิจอีคอมเมอร์ส เพื่อแบ่งกำไรกับผู้ลงทุน
วิธีหลอกเราง่ายๆ ที่ทำให้เราตื่นเต้นก็คือ เมื่อเราวางเงินลงทุน สมมติ 50,000 บาท เว็บเหล่านี้ก็จะทำระบบบัญชีที่ตกแต่งขึ้นเอง โชว์ตัวเลขในบัญชี (account บนอินเทอร์เน็ต) ของเราว่า แต่ละเดือนมีเงินเพิ่มขึ้น 5,000 บาท ทุกเดือนๆ (หรือเท่ากับผลตอบแทน 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน)
มนุษย์เรานี่ก็แปลก แค่ตัวเลขทางบัญชี เงินยังไม่ได้รับจริง แต่ก็ตื่นเต้น เก็บความมั่งคั่งไว้คนเดียวไม่ได้ ต้องบอก ต้องชวนเพื่อน บ้างด้วยความหวังดีอยากเห็นเพื่อนรวยด้วย แต่บ้างก็เลวร้าย ชวนเพื่อน เพราะอยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
เมื่อคนมาร่วมลงทุนกันได้มากพอสมควร เว็บเหล่านี้ก็จะปิดตัวลง แล้วหอบเอาเงินหลายสิบหลายร้อยล้านไป อำพรางตัวสักพัก ก่อนที่จะกลับมาในมุขใหม่ ในแบบที่คนซึ่งไม่รู้จักหลาบจำ ต้องตกเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สรุปตัวเลขกำไรที่เห็นว่าได้เยอะๆ คอมมิชชั่นที่โชว์ในบัญชีว่ามีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อันตรธานหายไปพร้อมเงินต้นทั้งหมดของเราและผองเพื่อน
แล้วเมื่อถึงวันนั้น คนที่รู้ว่าถูกหลอก ก็จะร้องโวยวายออกสื่อกันอีกครั้ง อย่างกรณีล่าสุดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อย่าง “แชร์เฟสบุ๊ค” ก็เป็นหนึ่งของกรณีต้มตุ๋นที่ว่านี้ด้วยเหมือนกัน
ครั้งแรกที่ผมได้ยินข่าวแชร์ดังกล่าว ผมรู้สึกประหลาดใจกับคนท่ีกล้าเล่นแชร์กับคนที่เราไม่รู้จัก และไม่มีตัวตนให้จับต้องได้อย่างทางเฟสบุ๊คอยู่เหมือนกัน
เพราะขนาดคนสนิทและไว้ใจกัน ยังเบี้ยวแชร์กันออกถมเถ แล้วนี่คนที่แม้แต่หน้าก็ไม่เคยเห็น ชื่อจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่เรากลับกล้าโอนเงินก้อนใหญ่ของเราให้เขาไปหน้าตาเฉยได้ยังไง
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์อาจเคยกล่าวไว้ว่า “มีอยู่สองสิ่งที่ไม่ที่สิ้นสุด นั่นคือจักรวาลและความโง่เขลาของมนุษย์ แต่ผมไม่แน่ใจเท่าใดนักว่าจักรวาลเป็นเช่นนั้น”
ตราบใดก็ตามที่ความโลภยังคงอยู่ในใจนักลงทุนผู้มักง่าย ตราบนั้นมิจฉาชีพผู้ฉ่อฉลก็ยังจะคงมีอยู่ต่อไป เป็นวัฎสงสารแบบนี้ไม่รู้จักจบสิ้น
บอกอีกครั้งเป็นครั้งที่ร้อย
“รวยเร็วเป็นไปได้ รวยง่ายๆ ไม่มี” นะครับ
Credit :
http://www.moneycoach4thai.com/%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88/
แชร์ลูกโซ่... เกมการเงินของคนโกง
ทั้งนี้รูปแบบเครื่องตกเงินของมิจฉาชีพนั้นมักมาในรูปแบบเดิมๆ นั่นคือ เป็น “การลงทุนสำเร็จรูป” ที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ใส่เงิน หรือวางเงิน แล้วรอรับผลตอบแทน เพียงเท่านี้ก็ได้รับผลตอบแทนชนิดหาที่ใดในโลกไม่ได้อีกแล้ว
9-10% ต่อเดือน หากคิดแบบโง่ๆง่ายๆ ก็เท่ากับ 108-120% ต่อปี เงินที่เราใส่วันนี้ จะกลายเป็นเท่าตัวภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี
เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนอื่นๆแล้ว ต้องถือว่าโฆษณาชวนเชื่อนี้น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว เพราะเมื่อเทียบกับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างการลงทุนในหุ้น ยังทำผลตอบแทนได้เฉลี่ยเพียง 10-15% ต่อปีเท่านั้น (สำหรับมนุษย์ธรรมดาทั่วไปนะ)
ที่สำคัญ! ยิ่งถ้าชวนเพื่อนมาร่วมลงทุน ผลตอบแทนก็จะยิ่งสูงขึ้น เพราะจะได้กินหัวคิวจากการเสียรู้ของเพื่อนอีกต่อหนึ่ง หรือพูดง่ายๆ ว่า ยิ่งชวนเพื่อนมาเจ็บตัวได้มาก ยิ่งรวย ว่ากันอย่างนั้น
......................................................................................................................
เจ้ามิจฉาชีพพวกนี้เก่งครับ พวกมันจะสร้างระบบออนไลน์ของมันให้ดูดี มีเว็บไซต์สวยงาม โดยอ้างว่าเป็นบริษัทที่ระดุมทุนไปลงทุนกองทุนในต่างประเทศ หรือบ้างก็อ้างว่าไปสร้างธุรกิจอีคอมเมอร์ส เพื่อแบ่งกำไรกับผู้ลงทุน
วิธีหลอกเราง่ายๆ ที่ทำให้เราตื่นเต้นก็คือ เมื่อเราวางเงินลงทุน สมมติ 50,000 บาท เว็บเหล่านี้ก็จะทำระบบบัญชีที่ตกแต่งขึ้นเอง โชว์ตัวเลขในบัญชี (account บนอินเทอร์เน็ต) ของเราว่า แต่ละเดือนมีเงินเพิ่มขึ้น 5,000 บาท ทุกเดือนๆ (หรือเท่ากับผลตอบแทน 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน)
มนุษย์เรานี่ก็แปลก แค่ตัวเลขทางบัญชี เงินยังไม่ได้รับจริง แต่ก็ตื่นเต้น เก็บความมั่งคั่งไว้คนเดียวไม่ได้ ต้องบอก ต้องชวนเพื่อน บ้างด้วยความหวังดีอยากเห็นเพื่อนรวยด้วย แต่บ้างก็เลวร้าย ชวนเพื่อน เพราะอยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
เมื่อคนมาร่วมลงทุนกันได้มากพอสมควร เว็บเหล่านี้ก็จะปิดตัวลง แล้วหอบเอาเงินหลายสิบหลายร้อยล้านไป อำพรางตัวสักพัก ก่อนที่จะกลับมาในมุขใหม่ ในแบบที่คนซึ่งไม่รู้จักหลาบจำ ต้องตกเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สรุปตัวเลขกำไรที่เห็นว่าได้เยอะๆ คอมมิชชั่นที่โชว์ในบัญชีว่ามีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อันตรธานหายไปพร้อมเงินต้นทั้งหมดของเราและผองเพื่อน
แล้วเมื่อถึงวันนั้น คนที่รู้ว่าถูกหลอก ก็จะร้องโวยวายออกสื่อกันอีกครั้ง อย่างกรณีล่าสุดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อย่าง “แชร์เฟสบุ๊ค” ก็เป็นหนึ่งของกรณีต้มตุ๋นที่ว่านี้ด้วยเหมือนกัน
ครั้งแรกที่ผมได้ยินข่าวแชร์ดังกล่าว ผมรู้สึกประหลาดใจกับคนท่ีกล้าเล่นแชร์กับคนที่เราไม่รู้จัก และไม่มีตัวตนให้จับต้องได้อย่างทางเฟสบุ๊คอยู่เหมือนกัน
เพราะขนาดคนสนิทและไว้ใจกัน ยังเบี้ยวแชร์กันออกถมเถ แล้วนี่คนที่แม้แต่หน้าก็ไม่เคยเห็น ชื่อจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่เรากลับกล้าโอนเงินก้อนใหญ่ของเราให้เขาไปหน้าตาเฉยได้ยังไง
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์อาจเคยกล่าวไว้ว่า “มีอยู่สองสิ่งที่ไม่ที่สิ้นสุด นั่นคือจักรวาลและความโง่เขลาของมนุษย์ แต่ผมไม่แน่ใจเท่าใดนักว่าจักรวาลเป็นเช่นนั้น”
ตราบใดก็ตามที่ความโลภยังคงอยู่ในใจนักลงทุนผู้มักง่าย ตราบนั้นมิจฉาชีพผู้ฉ่อฉลก็ยังจะคงมีอยู่ต่อไป เป็นวัฎสงสารแบบนี้ไม่รู้จักจบสิ้น
บอกอีกครั้งเป็นครั้งที่ร้อย “รวยเร็วเป็นไปได้ รวยง่ายๆ ไม่มี” นะครับ
Credit : http://www.moneycoach4thai.com/%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88/