ไม่มีไรมาก แค่อยากอวด!!! ทาสีผนังใหม่ให้หลานถ่ายรูป Selfie :]

ไม่มีไรมาก แค่อยากอวด!!! ทาสีผนังใหม่ให้หลานถ่ายรูป Selfie :]

เรื่องของเรื่องคือ หลานชอบมาเล่นที่บ้านทุกวันเสาร์ แล้วชอบอะไรที่เป็นสีๆ ทั้งกระดาษปกรายงาน แมกกาซีน ของเล่นสีๆ น้องแกดึงทึ้งหมด
ก็เลยอนุมานเอาว่าหลานน่าจะชอบสี (คุยกับหลานไม่รู้เรื่อง เพราะยังไม่พูดเป็นคำ เลยเดาเอง) 555

เลยเกิด idea ว่าทำยังให้ให้บ้านเราสดสนมีสีสันมากขึ้น เอาไว้ให้เด็กเล็กๆอยากมาเล่นที่บ้าน ก็เลย เจอผนังเก่าๆ ที่ลานจอดรถหน้าบ้านว่าเป็นอิฐบล๊อคๆ แล้วน่าจะสวยและเรียกความสนใจเด็กๆได้ ก็เลยจัด สีขนาดเล็กๆ 1/4 แกลลอน มา 5-6 สี ที่เป็นสีแนวสดใสหน่อยๆครับ  
(อันนี้เป็นสีที่เหลือจากการใช้งานทาแต่งบ้านคราวที่แล้ว ยังไม่หมด เพราะทาแค่ตัดขอบ และ Topครัว พื้นที่เล็กๆในคอนโดครับ) แต่สียังไม่หลากหลายถูกใจ เลยไปซื้อเพิ่มอีกสองสี จากร้านศูนย์ผสมสีแถวบ้านครับ

(เรื่องสีเท่าที่รู้ก็เลือกจากพัดสีที่ร้านได้ทั่วไป หาไม่ยากที่ผสมสีได้ตามที่เราต้องการ ผสม3นาทีเสร็จ)

ว่าแล้วก็เกณฑ์น้องสาวในบ้านมาช่วยกันทาคนละสี จะได้มีส่วนร่วมกันคนละนิดคนละหน่อย
อุปกรณ์ที่ใช้ก็หาได้ทั่วไป ได้แก่
1. ผนังเปล่าๆ ที่เช็ดทำความสะอาดคราบฝุ่นก่อน
2. สีทาผนัง (อันนี้ใช้ TOA Supershiled สีทาภายนอกครับ เพราะต้องโดนแดดทุกวัน เอาทน 15 ปีเท่าหลานโตเลย 555)  
    (สีที่ใช้ขนาด 1/4 แกลลอน ครับ ทาครอบคลุมพื้นที่ได้ประมาณ 4 ตารางเมตร สำหรับการทา 2 เที่ยว)
3. แปรงทาสี
    (ใช้อันเดียว ทาไปล้างไปก็ได้ครับ แต่ว่าเราขี้เกียจ อยากล้างแปรงทีเดียว เลยไปยืมพ่อมา)
4. กระป๋องล้างแปรง (กะละมังอะไรก็ได้ครับ)



Step by Step  กับการทาสี DIY ง่ายมากกกก
1. เช็ดทำความสะอาดคราบฝุ่นผง[บนผนัง ให้เรียบร้อยครับ (นึกถึงผู้หญิงแต่งหน้าก็ต้องล้างหน้าก่อนนะครับ) เพื่อป้องกันคราบสกปรกไปผสมกับสีที่จะทา
โชคดีที่ถามกับคนขายพบว่า จริงๆแล้วต้องทาสีรองพื้นก่อนนะครับ แล้วค่อยทาสีทับหน้า แต่ว่าอันนี้เพิ่งทาไปไม่นานครับ ฟิล์มยังสภาพดีอยู่ ยังไงใครจะทาสีบ้านถ้าสีเก่าลอกพัง อย่าลืม ทาสีรองพื้นก่อนนะครัย สำคัญมากๆ :]

(ดูจากสภาพพื้วปูนจริงๆ ผ้าฉาบเรียบจะสวยกว่านี้ะครับ แต่เร็วๆนี้อาจมีแผนทำบ้านใหม่ เลยรอทำทีเดียว)
(สำหรับบ้านเก่าจะมีฝุ่นตามร่องครับ ต้องใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดครบสกปรกออกก่อนการทาสี)

2. ว่าแล้วก็เริ่มภารกิจได้เลยครับ กับการจับคู่สีที่คิดว่าเหมาะสมสวยพอดึงดูดความสนใจเด็กๆได้


3. เริ่มจากการลงสีแรกก่อนด้วยความตื่นเต้น เพราะกลัวว่าจะออกมาแล้วสวยอย่างที่ตั้งใจไหม
ในขั้นตอนนี้ควรวางแผนให้ดีนะครับว่าจะทาตรงไหนสีอะไร ไม่งั้นจะงง แต่เราก็กะๆเอาแหละ เอาให้มัน บาลานซ์ จังหวะให้เข้าที่เข้าทาง


4. ทยอยลงสีไปเรื่อยๆครับ แค่ระวังไม่ให้สีเลอะ เปื้อนผนังบล๊อคอื่น ไม่งั้นต้องซ่อมสีใหม่ เลยทาแบบละเมียดมาก
ปกติจะต้องมีสีเลอะเสื้อ อันนี้ทาแบบจับจีบครับ มือและเสื้อเลยยังสะอาดดีอยู่ ฮิฮิ
เพิ่งรู้ว่า ทาสีเองได้ง่ายจัง
ในระหว่างทีทา น้องสาวขอ Selfie เลยจัดให้ประกอบครับ



5. ในระหว่างทาก็เจอสีหยดลงมาที่พื้นครับ โชคดีที่ไม่เลอะผนัง เลยจัดแจงเอากระดาษหนังสือพิมพ์มาช่วยรอกับเปื้อนครับ

6. ทาสีไป ก็รอให้สีแห้งนิดนึงแล้วค่อยทาซ้ำครับ เพราะสีจริงๆให้ดีที่สุดควรทาสองรอบ เพื่อให้กลบสีเก่ามิดครับ

7. เก็บงานนิดหน่อย ก็เสร็จและ รอรับหลานได้เลย


ในระหว่างที่ทาสีอยู่นั้นก็ เด็กแถวบ้านเดินผ่านมา ตาเป็นประกายเชียว ขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย จะเอาไปอวดเพื่อนก็จัดให้
สรุปคือ โดนเด็กข้างบ้าน ใช้บริการคนแรกเลย  555  สงสัยน่าจะมาถูกทางสำหรับ ผนัง Colorful ขนาดนี้ !!!!


แล้วแล้วก็ได้เวลาที่หลานมาถึง ก็ดูสนใจนะ จับสีไปมาอยู่ห้านาที โชคดีที่สีแห้งแล้ว ก็จับๆได้ ปลอดภัยไม่เลอะมือ
แล้วหลานแกก็ไปสนใจน้องหมาหน้าบ้านแทน ... กำ!!!

แต่ก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวครับ เพราะว่าพี่สะไภ้ขอ Selfie เอง จนในที่สุดก็ๆได้ภาพน่ารัก สวยๆ กับผนังสีแจ่มๆ colorful แบบนี้มาแหละครับ
สรุปว่า Happy มีความสุขกันถ้วนหน้า



ปล.ตามไป Follow หลานได้ที่ Facebook:เด็กชายต้นโพธิ์  (หลานน่ารักแอ๊บแบ๊วมากกกก)

จริงแล้วยังพอมีสีเหลืออยู่นะครับ เพราะสีกระป๋องเล็ก 1/4 แกลลอน ทาได้เยอะมากกว่าที่คิดนะ
ตอนนี้ยังพอมีสีเหลลืออยู่บ้างครับ เล็งไว้ว่าอาจจะเอาไปทาผนังหัวนอนในบ้านด้วย เพราะใช้นิดเดียวก็เพิ่มลูกเล่น สีสันให้บ้านได้


สำหรับการทาสีครั้งแรกๆ ยังไม่ชำนาญก็ประมาณนี้ครับ อาจไม่เนี๊ยบเท่าจ้างช่างมาทาสีบ้าน แต่ก็ภูมิใจครับ :]
ที่สำคัญอยากได้สีไหน ทาตรงไหน ยังไงเราเลือกได้เองหมดเลย
ดังนั้น มีนโยบายสนับสนุนทาสี DIY ครับ เพราะง่ายและทำได้เองครับ ประหยัดค่าช่างได้เยอะครับ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่