จริงๆเคยมีหลายท่านตั้งกระทู้เรื่อง ภาพถ่ายจากภาพขาว-ดำ เป็นภาพสีไปหลายกระทู้แล้วนะครับ (รวมถึงกระทู้ภาพถ่ายในอดีตอีกพอสมควร)
ส่วนตัวผมติดตามผลงานของศิลปินที่สรรสร้างภาพเหล่านี้อยู่ครับ มีภาพใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ
ภาพที่ชัดเจขึ้น มันทำให้เราได้เพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์ กับช่วงเวลานั้นๆได้ชัดเจนขึ้น
กระทู้นี้ผมจะขอเลือกเฉพาะส่วนของภาพพอตเทรทของบุคคลแต่ละท่านในอดีต พร้อมชีวประวัติของท่านเหล่านั้นมานะครับ
(รูปต้นฉบับผมจะใส่นะครับ เพราะเดี๋ยวจะโหลดเยอะไป)
รูปส่วนใหญ่จะเป็นผลงานของคุณ Dana Keller
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.danarkeller.com/
https://www.facebook.com/HistoryInColor?fref=ts
เป็นหลักนะครับ ส่วนของศิลปินท่านอื่นๆจะกำกับไว้ที่รูปอีกรอบครับ
1. The First Lady of American Cinema
Lillian Diana Gish (1893 – 1993)
"สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของวงการภาพยนต์อเมริกา" (ฉายาของ Gish ในช่วงแรกคือ The First Lady of the Silent Screen )
Gish เป็นนักแสดงหญิงคนแรกๆของเมืองแห่งมายา....ฮอลลีวู้ด
สร้างชื่อเสียงโด่งดังมากในช่วงยุคหนังเงียบ ไปจนถึงยุคที่ภาพยนต์เริ่มมีเสียงจากนักแสดง เป็นคนเขียนบท และเป็นผู้กำกับ
Gish โลดแล่นในวงการบันเทิงยาวนานถึง 75 ปี (1912-1987) ก่อนจะเสียชีวิตเมื่ออายุ 99 ปี
ชีวิตของ Gish ผ่านอะไรมาเยอะมากครับ ทั้งช่วงที่รุ่งเรืองในยุคหนังเงียบ และเริ่มตกต่ำลงในยุคหนังที่มีเสียงเข้ามา (แต่ก็ยังถือว่าดังนะ)
โดนขึ้น Blacklist จากวงการภาพยนต์ด้วยเป็นหนึ่งในผู้คัดค้านไม่ให้อเมริกากระโดดเข้าร่วมสงครามโลกครั้งสอง
(จนต้องโดนจับเซ็นสัญญาว่าจะไม่ต่อต้านแล้ว จึงได้แสดงภาพยนต์ต่อไป)
Colorized by Dana Keller
รูปต้นฉบับครับ (ไม่ทราบผู้ถ่าย) ถ่ายเมื่อปี 1920
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. "The Red Baron"
Manfred Albrecht Freiherr von Richthofen (1892 – 1918)
นักบินเครื่องบินรบชาวเยอรมัน ในสมัยสงครมโลกครั้งที่ 1
ผู้ได้ฉายามาจากการใช้เครื่องบิน Albatros D.III Serial No. 789/16 ที่พ่นสีแดงสดทั้งลำ
(แต่เครื่องบิน Fokker Dr. I ปีก 3 ชั้น จะป็นสิ่งที่คนจดจำได้มากกว่า)
และยังมีฉายาอื่นๆที่ปีกมรณะสีแดงนี้โฉบผ่านเข้าไป
เช่นในฝรั่งเศสจะเป็น "Le Diable Rouge" (Red Devil) และ "Le petit Rouge" (Little Red)
ส่วนในอังกฤษท่าบารอนสีแดงจะถูกเรียกว่า "Red Knight"
Richthofen ทำสถิติยิงเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามตกถึง 80 ลำ (สถิติมากที่สุดคือ ยิงเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามตก 4 ลำในวันเดียว)
อย่างไรก็ตามงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา วันสุดท้ายของชีวิตนักบินผู้ยิ่งใหญ่แห่งเยอรมันคือวันที่ 11 เม.ย. 1918
(เพียงสองสัปดาห์ก่อนครบวันเกิดอายุ 26 ปีของเขา)
ขณะที่เครื่อง Fokker Dr.I ของ Richthofen บินอยู่บริเวณทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ฝูงบินเขาก็ถูกโจมตี
กระสุน .303 นัดหนึ่งพุ่งมาถูกปอดและหัวใจของ Richthofen เครื่องของเขาพุ่งกระแทกพื้น
(จริงๆพบว่าตัวเครื่องบินเสียหายน้อยมาก แต่ดันโดนขโมย/แยก ชิ้นส่วนโดยพวกนักสะสมของ "Souvenir hunters" ซะโกร๋นเลย)
Richthofen เสียชีวิตเกือบจะทันที ในท่าทางที่ยังเหมือนขับเครื่องบินตามปกติ
บทสุดท้ายของยอดเสืออากาศแห่งเยอรมันคือ ข้อความเล็กๆว่า
"Richthoven (ชื่อสะกดผิดด้วยนะ) died 21 April 1918, from wounds sustained in combat"
*พิธีศพของเขาได้จัดอย่างสมเกียรติของ “บารอนสีแดง ผู้เคยครอบครองแผ่นฟ้า” นะครับ”
Colorized by Dana Keller
รูปต้นฉบับ ไม่ทราบผู้ถ่าย ถ่ายเมื่อปี 1917
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. Slivers, the Baseball Clown
Frank Oakley (1871–1916) ” The Man who never made any one cry in his life”
ตัวตลกหน้าขาวที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น ชื่อในคณะละครสัตว์คือ Sliver
การแสดงที่สร้างชื่อให้ Frank มากที่สุดคือ A one-man baseball game
เป็นการแสดงที่ Frank จะแสดงเป็นนักเบสบอลของทั้งสองทีมด้วยตัวเองคนเดียว
ชีวิตของ Frank รุ่งเรืองมากเรื่อยๆ จนกระทั่งการมาถึงของยุคภาพยนต์ และชายที่ชื่อ Charlie Chaplin
(ในยุครุ่งเรือง Frank สามารถทำเงินได้อย่างน้อย 1,000$ ต่อสัปดาห์ แต่ในช่วงตกต่ำเขาทำเงินได้เพียง 75$ ต่อสัปดาห์)
ประกอบกับปัญหาเรื่องสุขภาพจากผลของสารตะกั่วที่ใช้ทาหน้าเพื่อให้หน้าขาว
ทำให้เขามีปัญหาเรื่องหัวเข่า และการทรงตัวจนทำการแสดงไม่ได้ และต้องประกาศถอนตัวจากวงการไปด้วยอายุที่ไม่มากนัก
(ช่วงที่ Frank ตกต่ำ เขาพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งทั้งรัดคอตัวเอง พยายามจะใช้แก๊สฆ่าตัวเอง แต่ก็มีคนช่วยมาได้ตลอด)
หลังจากนั้นอีกหลายปีเขาพยายามจะกลับมาแสดงแต่ก็หมดสติระหว่างการแสดง จนต้องแบกออกจากเวที
จากเหตุการณืนี้ทำให้โอกาสในการกลับไปยืนบนเวทีของ Frank ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ตัวตลกที่เคยยิ่งใหญ่แห่งยุค ตอนนี้โดดเดี่ยว ไม่มีเงิน ไม่มีงาน และกำลังจะถูกไล่ออกมาจากห้องเช่าเล็กๆ
ในวันถัดมา Frank จึงทำการฆ่าตัวตายด้วยการยิงตัวเอง
ปิดฉากชีวิตของ Frank Oakley ชายผู้ที่ไม่เคยทำให้ใครต้องร้องไห้
แต่ใครจะรู้ไหมว่าเขาต้องไห้มามากแค่ไหน
(คิดถึงเพลง I Started A Joke ของ Bee Gees ขึ้นมาทันใด)
*จริงๆแล้ว Frank ถือเป็นต้นแบบของตัวตลกรุ่นหลังๆหลายๆคน รวมทั้ง Charlie Chaplin ก็บอกว่านับถือ Frank มาก
เขาเป็นคนแรกที่นำรองเท้าหัวโตๆ อันใหญ่ๆ ที่ตัวตลกชอบใส่ มาใช้ครับ
Colorized by Dana Keller
ภาพต้นฉบับ ถ่ายเมื่อปี 1904 โดยความอนุเคราะห์จาก Gene Wolande
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถนำสีสันของรูปในอดีตกลับมา Part. บุคคลในอดีต
ส่วนตัวผมติดตามผลงานของศิลปินที่สรรสร้างภาพเหล่านี้อยู่ครับ มีภาพใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ
ภาพที่ชัดเจขึ้น มันทำให้เราได้เพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์ กับช่วงเวลานั้นๆได้ชัดเจนขึ้น
กระทู้นี้ผมจะขอเลือกเฉพาะส่วนของภาพพอตเทรทของบุคคลแต่ละท่านในอดีต พร้อมชีวประวัติของท่านเหล่านั้นมานะครับ
(รูปต้นฉบับผมจะใส่นะครับ เพราะเดี๋ยวจะโหลดเยอะไป)
รูปส่วนใหญ่จะเป็นผลงานของคุณ Dana Keller
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นหลักนะครับ ส่วนของศิลปินท่านอื่นๆจะกำกับไว้ที่รูปอีกรอบครับ
1. The First Lady of American Cinema
Lillian Diana Gish (1893 – 1993)
"สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของวงการภาพยนต์อเมริกา" (ฉายาของ Gish ในช่วงแรกคือ The First Lady of the Silent Screen )
Gish เป็นนักแสดงหญิงคนแรกๆของเมืองแห่งมายา....ฮอลลีวู้ด
สร้างชื่อเสียงโด่งดังมากในช่วงยุคหนังเงียบ ไปจนถึงยุคที่ภาพยนต์เริ่มมีเสียงจากนักแสดง เป็นคนเขียนบท และเป็นผู้กำกับ
Gish โลดแล่นในวงการบันเทิงยาวนานถึง 75 ปี (1912-1987) ก่อนจะเสียชีวิตเมื่ออายุ 99 ปี
ชีวิตของ Gish ผ่านอะไรมาเยอะมากครับ ทั้งช่วงที่รุ่งเรืองในยุคหนังเงียบ และเริ่มตกต่ำลงในยุคหนังที่มีเสียงเข้ามา (แต่ก็ยังถือว่าดังนะ)
โดนขึ้น Blacklist จากวงการภาพยนต์ด้วยเป็นหนึ่งในผู้คัดค้านไม่ให้อเมริกากระโดดเข้าร่วมสงครามโลกครั้งสอง
(จนต้องโดนจับเซ็นสัญญาว่าจะไม่ต่อต้านแล้ว จึงได้แสดงภาพยนต์ต่อไป)
Colorized by Dana Keller
รูปต้นฉบับครับ (ไม่ทราบผู้ถ่าย) ถ่ายเมื่อปี 1920
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. "The Red Baron"
Manfred Albrecht Freiherr von Richthofen (1892 – 1918)
นักบินเครื่องบินรบชาวเยอรมัน ในสมัยสงครมโลกครั้งที่ 1
ผู้ได้ฉายามาจากการใช้เครื่องบิน Albatros D.III Serial No. 789/16 ที่พ่นสีแดงสดทั้งลำ
(แต่เครื่องบิน Fokker Dr. I ปีก 3 ชั้น จะป็นสิ่งที่คนจดจำได้มากกว่า)
และยังมีฉายาอื่นๆที่ปีกมรณะสีแดงนี้โฉบผ่านเข้าไป
เช่นในฝรั่งเศสจะเป็น "Le Diable Rouge" (Red Devil) และ "Le petit Rouge" (Little Red)
ส่วนในอังกฤษท่าบารอนสีแดงจะถูกเรียกว่า "Red Knight"
Richthofen ทำสถิติยิงเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามตกถึง 80 ลำ (สถิติมากที่สุดคือ ยิงเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามตก 4 ลำในวันเดียว)
อย่างไรก็ตามงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา วันสุดท้ายของชีวิตนักบินผู้ยิ่งใหญ่แห่งเยอรมันคือวันที่ 11 เม.ย. 1918
(เพียงสองสัปดาห์ก่อนครบวันเกิดอายุ 26 ปีของเขา)
ขณะที่เครื่อง Fokker Dr.I ของ Richthofen บินอยู่บริเวณทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ฝูงบินเขาก็ถูกโจมตี
กระสุน .303 นัดหนึ่งพุ่งมาถูกปอดและหัวใจของ Richthofen เครื่องของเขาพุ่งกระแทกพื้น
(จริงๆพบว่าตัวเครื่องบินเสียหายน้อยมาก แต่ดันโดนขโมย/แยก ชิ้นส่วนโดยพวกนักสะสมของ "Souvenir hunters" ซะโกร๋นเลย)
Richthofen เสียชีวิตเกือบจะทันที ในท่าทางที่ยังเหมือนขับเครื่องบินตามปกติ
บทสุดท้ายของยอดเสืออากาศแห่งเยอรมันคือ ข้อความเล็กๆว่า
"Richthoven (ชื่อสะกดผิดด้วยนะ) died 21 April 1918, from wounds sustained in combat"
*พิธีศพของเขาได้จัดอย่างสมเกียรติของ “บารอนสีแดง ผู้เคยครอบครองแผ่นฟ้า” นะครับ”
Colorized by Dana Keller
รูปต้นฉบับ ไม่ทราบผู้ถ่าย ถ่ายเมื่อปี 1917
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. Slivers, the Baseball Clown
Frank Oakley (1871–1916) ” The Man who never made any one cry in his life”
ตัวตลกหน้าขาวที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น ชื่อในคณะละครสัตว์คือ Sliver
การแสดงที่สร้างชื่อให้ Frank มากที่สุดคือ A one-man baseball game
เป็นการแสดงที่ Frank จะแสดงเป็นนักเบสบอลของทั้งสองทีมด้วยตัวเองคนเดียว
ชีวิตของ Frank รุ่งเรืองมากเรื่อยๆ จนกระทั่งการมาถึงของยุคภาพยนต์ และชายที่ชื่อ Charlie Chaplin
(ในยุครุ่งเรือง Frank สามารถทำเงินได้อย่างน้อย 1,000$ ต่อสัปดาห์ แต่ในช่วงตกต่ำเขาทำเงินได้เพียง 75$ ต่อสัปดาห์)
ประกอบกับปัญหาเรื่องสุขภาพจากผลของสารตะกั่วที่ใช้ทาหน้าเพื่อให้หน้าขาว
ทำให้เขามีปัญหาเรื่องหัวเข่า และการทรงตัวจนทำการแสดงไม่ได้ และต้องประกาศถอนตัวจากวงการไปด้วยอายุที่ไม่มากนัก
(ช่วงที่ Frank ตกต่ำ เขาพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งทั้งรัดคอตัวเอง พยายามจะใช้แก๊สฆ่าตัวเอง แต่ก็มีคนช่วยมาได้ตลอด)
หลังจากนั้นอีกหลายปีเขาพยายามจะกลับมาแสดงแต่ก็หมดสติระหว่างการแสดง จนต้องแบกออกจากเวที
จากเหตุการณืนี้ทำให้โอกาสในการกลับไปยืนบนเวทีของ Frank ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ตัวตลกที่เคยยิ่งใหญ่แห่งยุค ตอนนี้โดดเดี่ยว ไม่มีเงิน ไม่มีงาน และกำลังจะถูกไล่ออกมาจากห้องเช่าเล็กๆ
ในวันถัดมา Frank จึงทำการฆ่าตัวตายด้วยการยิงตัวเอง
ปิดฉากชีวิตของ Frank Oakley ชายผู้ที่ไม่เคยทำให้ใครต้องร้องไห้
แต่ใครจะรู้ไหมว่าเขาต้องไห้มามากแค่ไหน
(คิดถึงเพลง I Started A Joke ของ Bee Gees ขึ้นมาทันใด)
*จริงๆแล้ว Frank ถือเป็นต้นแบบของตัวตลกรุ่นหลังๆหลายๆคน รวมทั้ง Charlie Chaplin ก็บอกว่านับถือ Frank มาก
เขาเป็นคนแรกที่นำรองเท้าหัวโตๆ อันใหญ่ๆ ที่ตัวตลกชอบใส่ มาใช้ครับ
Colorized by Dana Keller
ภาพต้นฉบับ ถ่ายเมื่อปี 1904 โดยความอนุเคราะห์จาก Gene Wolande
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้