เคยเป็นไหมเวลาใกล้เรียนจบ แล้วนึกเสียดายเรื่องเพื่อน

จะบอกว่าตอนเข้ามหาลัยใหม่ ก็มาอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่มีเพื่อนจากโรงเรียนเดียวกัน เป็นเพื่อนร่วมสาขาเลย ต่อมาก็ได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งเพราะนิสัยเป็นคนเฮฮา ตลกเหมือนกัน ไปไหนด้วยกันบ่อย บางทีก็ไปนอนหอเพื่อนบ้าง แต่มีช่วงประมาณภาคเรียนที่ 2 ปี 2 เพื่อนผมคนนี้ แทบจะไม่ช่วยงานกลุ่มเลย เพราะไม่ชอบในตัวอาจารย์ผู้สอน(แทบไม่อยากเข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ) ผมก็ได้คาดคั้น แต่ก็ไล่ออกจากกลุ่มไม่ได้หรอกเพราะความเป็นเพื่อน+เพื่อนในแก๊งค์อีกคนมาช่วยพูดด้วย เรื่องเลยจบไป แต่ความรู้สึกดีผมขนาดนั้นกับมันก็ลดลงไป หลังจากนั้นมันก็สนิทกับเพื่อนที่ช่วยพูดมากขึ้น(เพื่อนที่ช่วยพูดกับผมเปรียบเสมือนเป็นที่ปรึกษาชีวิตได้เลยจนปัจจุบัน) กับผมก็ยังอยู่แก๊งค์เดียวกันเหมือนเดิม คุยเล่นปกติ แต่ก็ไม่ค่อยไปไหนด้วยกัน เพราะบางทีมองหน้าบางทีก็หมั่นไส้ แต่บางทีมันก็ชวนผมไปเที่ยวต่างจังหวัด ตอนแรกผมก็เกือบจะไม่ไป แต่เพราะความใจอ่อนนี่หละเลยไป ก็เริ่มกลับมาสนิทขึ้นอีกครั้งแต่ก็ไม่เหมือนตอนปี1ถึงก่อนมีเรื่อง แล้วพอมาวันหนึ่งช่วงภาคเรียนที่ 2 ปี 3 ได้เกิดมีเรื่องอีกครั้งเพราะมันปากเสียยุ่งเรื่องส่วนตัว ก่อนหน้านั้นก็มีพูดเล่นแต่ไม่คิดถึงอารมณ์ผมขณะนั้น ผมเลยต่อว่าอย่างรุนแรง ช่วงปิดเทอมก็ต่างคนต่างอยู่บ้านของตัวเองที่กรุงเทพฯ(เปิดเทอมจะอยู่หอเพราะเรียนต่างจังหวัด) แล้วมีอยู่วันหนึ่งผมเช็คอินลงเฟสว่าได้ไปที่นี่ ปรากฎว่ามันจะไปที่นี่เหมือนกัน ผมบอกผมนัดกับเพื่อนแล้ว(ไม่ใช่เพื่อนที่มหาลัย แต่เป็นเพื่อนเก่าที่สนิทกันมาก) แล้วมันมาคอมเม้นว่ากำลังไปที่นั่นเหมือนกัน(เหมือนอยากเจอผม ผมพูดตัดบทห้วนๆไปว่านัดกับเพื่อนเก่าแล้ว) ด้วยเพื่อนผมขี้น้อยใจเลยลบผมออกจากเฟส กว่าจะคืนดีกันก็ 2 เดือน ก็ต่างคนต่างขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างแสดงออกไปในทางที่ผิด ผมเองก็บอกว่าผมจะพยายามปล่อยเรื่องไม่เป็นเรื่องออกไป ตอนนั้นก็ขึ้นปี 4 ไปแล้ว หลังจากนั้นก็พูดเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาเกือบทุกวัน(ต่างคนต่างเปลี่ยนไปตอนปี1) อาจจะฝากถึงรุ่นน้องบ้างตอนอยู่กับรุ่นน้อง ผมก็ยินดีกับมันด้วยที่มันได้เพื่อนที่รู้ใจแล้ว(ปัจจุบันผมก็ยังอยู่แก๊งค์เดียวกับมันนะ) ส่วนผมหรอเพื่อนที่มหาลัยตอนนี้ก็ไม่มีใครสนิทถึงขั้นพิเศษ ปัจจุบันก็ชอบทำอะไรเรื่อยเปื่อยที่หอคนเดียวมากกว่า(ผมมีงานเสริมที่ต้องทำมากมายเพื่อเงินด้วย อีกอย่างเพราะมีเพื่อนเก่านี่แหละตอนกลับบ้านหรือปิดเทอมจะเดินเล่นเกือบทุกวันที่อยู่กรุงเทพฯ) แต่ก็นั่นแหละกับเพื่อนมหาลัยคนนั้นผมก็แคร์ความรู้สึกเขานะ(แต่นั่นแหละนะเขาเองก็ไม่ได้สนิทกับเราเหมือนเดิมแล้ว ก็ไม่ได้ชวนไปไหน ตบหัวเล่นเหมือนเมื่อก่อน) แต่ก็นะอยากให้เขาสอนเต้นตามที่เคยคุยกันไว้นานแล้วก่อนจบการศึกษาจากไป #น่าจะสนิทกันมากกว่านี้ #ทุกอย่างเหมือนการดำเนินชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่