แม่พาผู้ชายเข้ามาอาศัยในบ้าน ผมควรทำอย่างไรดีครับ

จริงๆเรื่องก็เกิดขึ้นนานแล้วครับ แต่เกริ่นก่อนนะครับ คือโดยปกติแล้ว บ้านนั้นมีแม่อยู่คนเดียว เพราะพอผมเรียนจบ ก็ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพและเช่าหออยู่ แต่ก็จะกลับบ้านประมาณเดือนละครั้ง บ้านผมไม่ได้ร้ำรวยอะไรมาก แต่มีพอกินพอใช้สบายๆ และผมก็จัดการการเงินของผมเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครทั้งสิ้น สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองได้

เรื่องก็มีอยู่ว่า แม่ผมพาผู้ชายคนนึงเข้ามาอาศัยในบ้านครับ อ่อนกว่าแม่มาก แต่ก็แก่กว่าผมเยอะอยู่ ซึ่งเขาก็เอาลูกมาด้วย 2 คน เด็กประมาณอายุไม่ถึง 10 ขวบทั้งสองคน เขามาอยู่ได้นานสมควร เรียกได้ว่า เงินหรือค่าใช้จ่ายก็รวมกันกับแม่แล้ว คือเวลาเขาทำงานได้เงินมา แม่ผมก็เป็นคนจัดการทั้งหมดแหละครับ ไม่ว่าจะเรื่องซื้อของใช้ของกิน ออมเงินเข้าธนาคาร แต่ผมก็รู้สึกไม่ชอบอยู่ดี ใครก็ไม่รู้ เราไม่รู้จัก มาอยู่ในบ้าน อยู่กับแม่ แถมเอาเด็กมาด้วย

ผู้ชายคนนั้นเขาก็ไม่ใช่คนร่ำรวยเลยครับ คือเป็นช่าง รับเหมาก่อสร้างอะไรประมาณนั้น ซึ่งก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมรู้สึกไม่ชอบ ลูกๆของเขาก็ดื้อมาก ประมาณว่าลูกคนงานอะครับ เล่นอะไรก็สกปรก เสียงดัง เนื้อตัวมอมแมม แล้วมานั่งที่โซฟาที่ผมชอบนอน กินอะไรก็หกเลอะเทอะ แม่ผมก็ด่าเด็กพวกนั้นตลอดว่า นี่อยู่ในบ้านนะ ไม่ใช่แคมป์คนงาน คือแบบตะคอกแบบเหมือนเป็นคนบ้าเลยครับ ผมอายเพื่อนบ้านมาก จนผมสงสัยอยู่ในใจว่า แม่อยู่แบบนี้แม่มีความสุขแล้วหรอ

บ้านก็มีสภาพรกเล็กน้อย คือของบางอย่างก็วางกองๆไว้ ข้าวของของเขาและเด็กๆ และก็มีของที่เขาใช้ในงานก่อสร้าง และดูเหมือนไม่ค่อยทำความสะอาดด้วยครับ คือชั้นวางทีวีชั้นวางของนี่ ผมเอานิ้วไปป้ายนี่ฝุ่นเครอะเลย พิ้นก็เหนียว ไม่รู้เด็กพวกนี้มันเล่นอะไรหรือกินอะไรหกเลอะเทอะ ปกติแล้วแม่ผมจะเป็นคนชอบทำความสะอาดมาก

คือผมก็ไม่ได้จะดูถูกเขาอะนะ แต่แบบ เขาก็ไม่ค่อยฉลาด ไม่ได้เรียนหนังสือ จัดการไม่เป็น ทำงานก็ผิดพลาด พองานผิดพลาดกำไรก็ได้น้อย (คือเวลาคุยโทรศัพท์กับแม่ แม่ผมจะเล่าให้ฟังตลอดว่า ที่บ้านมีอะไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง) แต่แม่ผมก็พยายามบอกว่า เขาก็ไม่ใช่คนกินเหล้าเมายาอะไร กินเหล้าไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่สูบบุหรี่(ผมเกลียดบุหรี่มาก) แต่เขาก็ให้เกียรติผมอยู่ คือ ไม่ทำตัวเป็นพ่อ มาบอกนู้นบอกนี้ผม  ส่วนตัวเด็กๆนั้นผมก็พูดได้เต็มปากเลยว่าไม่ฉลาด  7 ขวบแล้วยังเขียนหนังสือไม่ได้ ถึงจะได้ไปโรงเรียนก็เถอะ

ผมรู้สึกหงุดหงิดรำคาญมากๆเวลาที่พวกนี้อยู่ในบ้าน แต่ผมจะทำไรได้ จะให้บอกแม่ว่ายังไง ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย มาเป็นเดือนๆแล้วครับ

จุดที่ทำให้ผมรู้สึกปรี๊ดแตกจนต้องมาเขียนกระทู้นี้คือ เมื่อวันก่อน ผมกลับไปบ้าน ก็อยู่กันตามปกติ ผมก็กินข้าวแล้วก็นั่งเล่นคอมแล้วก็เข้านอน คือผมจะนอนอยู่ในห้องของผมคนเดียว เด็กๆจะนอนอยู่ห้องโถง ส่วนแม่กับผู้ชายคนนั้นนอนที่ห้องโถงอีกห้องนึง (มีห้องนอนอีกห้องนึง แต่ไม่นอน ใช้เก็บของ ไม่รู้ทำไม) ฉากสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนเข้าห้องคือ เขานอนที่พื้น ส่วนแม่ผมนอนโซฟา ผมก็เข้าห้องไปนอน แต่ปกติผมไม่ปิดประตูและหน้าต่างเพราะอากาศจะได้ถ่ายเท พอตื่นขึ้นมารู้สึกตัวอีกทีประมาณตี 5 ห้องมืดไปหมดเลยครับ เพราะประตูกับหน้าต่างถูกปิดมิดชิด ผมเลยลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่าง (หน้าต่างมันเชื่อมกับห้องโถง ไม่ใช่เปิดไปนอกบ้าน) แล้วผมก็ได้ยินเสียงคุยกันแบบ กิ๊กกั๊กๆ (คือถึงตรงนี้แล้วไม่ต้องอธิบายก็คงเข้าใจสินะครับ) คือผมก็ไม่รู้ว่าเขาทำกันถึงขนาดไหนอะนะครับ เพราะแม่ผมก็แก่แล้ว ผมก็ไม่อยากปีนออกไปดู ไม่เปิดประตูเพราะเขาจะเห็นเลยว่าผมออกไป แต่ก็รู้ว่าไม่ได้นอนแยกกันแบบที่ผมเห็นก่อนนอนแน่ๆ ผมนี่ช็อกเลย

คือผมก็เคยคิดไว้แล้วแหละครับว่ามันอาจจะเป็นแบบนี้ แต่บอกตรงๆ ผมรับไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร ทำหน้าเซ็งทั้งวัน แต่จริงๆแล้วไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะจนหรือจะรวยหรือจะทำอาชีพอะไร มาทำอะไรแบบนี้ในบ้าน ผมก็ไม่ชอบใจอยู่ดีแหละครับ แล้วอีกอย่างผมก็สงสัยอยู่ในใจว่า ถ้าแม่จะหาผู้ชายใหม่ หาให้ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือไง คือแบบนี้เหมือนผู้ชายมาเกาะอะครับ ผมไม่โอเคเลย

ก่อนที่ผมจะเขียนกระทู้นี้ ผมก็คิดในใจว่า จะบอกแม่ไปตรงๆ ว่าไม่ชอบ ไม่ชอบพวกนี้ รังเกียจด้วยซ้ำ รังเกียจที่จะใช้โถส้วมเดียวกัน รังเกียจที่จะซักผ้ารวมกัน อยากให้แม่บอกให้เขาเก็บข้าวของออกไปซะ แต่ระหว่างนั้นผมก็เก็บบ้านไปด้วย ผมเจ้าระเบียบมาก ทนไม่ได้เวลาเห็นของกองไม่เป็นที่ เลยจัดๆ แล้วไปเปิดลิ้นชักนู้นลิ้นชักนี้ แล้วก็คุ้ยไปเจอของเก่าๆของแม่ พวกรูปถ่าย จดหมาย เอกสารไรเงี้ยครับ คุ้ยไปคุ้ยมาก็ยิ่งมันส์ คุ้ยไปเรื่อยๆ ไปเจอสมุดที่แม่เคยฝึกเขียนภาษาอังกฤษ (สมุดนั้นมันก่อนที่ผมจะเรียนจบมัธยมอีกครับ) เพราะมีอยู่ช่วงนึงแม่พยายามหาคู่ชาวต่างชาติตามเว็บไซต์หรือที่คนแนะนำมาอะครับ ก็ในนั้นก็เขียนหลายประโยค ผมไปเจอคำนึงคือ "I feel lonely" ผมน้ำตาซึมเลยครับ แม่ผมอยู่คนเดียวมานาน ผมไม่ได้อยู่บ้านมาหลายปีครับ เรียนมหาลัยต่างจังหวัด ไกลมาก ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เรียนจบก็ไปทำงานกรุงเทพเลย  ผมก็เลยคิดว่า ถ้าผู้ชายคนนั้นไปแล้ว แม่ผมจะทำยังไง เพราะแม่ผมก็ขับรถไม่เป็น จะไปขายของถ้าไม่มีคนช่วยก็ลำบาก และอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งถ้ามาคิดดูแล้ว เขาก็ช่วยแม่ผมหลายอย่าง ดูแลและทำให้อยู่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ผมก็ไม่ต้องมาลำบากหรือกังวลว่าแม่จะเป็นยังไง เพราะผมก็มีเป้าหมายชีวิตของผมอยู่และผมจะไม่ยอมให้อะไรมาขัดขวางเป็นอันขาด

แม่ผมก็เล่าให้ฟังเรื่องแผนการเงินอยู่ ซึ่งผมก็ค่อนข้างมั่นใจอยู่ว่าแม่จัดการได้ ส่วนเรื่องอื่นๆผมก็พยายามปล่อยเลยตามเลย เพราะผมวางแผนว่าจะไม่กลับไปเหยียบบ้านนั้นอีกแล้ว

ขอบคุณที่ให้พื้นที่ระบาย และใครมีประสบการณ์ที่คล้ายกันนี้หรืออยากจะแนะนำอะไรผมก็เชิญเลยครับ จะยินดีมาก
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อดทนเพื่อแม่ครับ แกคงเหงา อะไรที่แม่ทำแล้วมีความสุข ไม่เพิ่มความทุกข์ให้แกทำไปเถอะครับ

คุณมองอยู่ห่างๆ คอยช่วยเหลือเวลาที่แม่มีปัญหาก็ok แล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่