ผมจะเล่าเหตุการณ์สั้นๆให้ฟัง
ผมเองเป็นชายวันกลางคนอายุ 30 ก็คบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีอายุ 21 (กำลังเรียน)
ซึ่งเราก็คบหาดูใจกันเป็นแฟน จนเรามีอะไรกันอย่างลึกซึ้ง
หลังจากที่มีอะไรกันแล้ว ผมรู้สึกว่าเธอเริ่มเปลี่ยน และ ต้องการอะไรมากขึ้น ซึ่งผมเองก็ พยายามทำให้เธอมั่นใจมากขึ้นโดย
" ผมเคยบอกเธอว่า ถ้าเรียนจบ (ตอนนี้ผมเรียนต่อปริญญาโท) ผมจะขอแต่งงาน
ผมเคยพาเธอแนะนำให้พ่อและแม่รู้จัก รวมถึง บอกทุกคนว่าเป็นแฟนผมนะ
เธอสามารถเข้าออกบ้านผมได้ โดยที่แม่ผม เองก็ไม่ได้ว่าอะไร (ท่านบอกว่า ถ้าจะรักกัน ก็ห้ามไม่ได้)
ผมเลิกเที่ยวกลางคืน และ เลิกไปทำตัวหน้าม่อ เหมือนที่เคยเป็นอยู่เมื่อตอนโสด
ผมบอกรักเธอทุกครั้ง ที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน อย่างที่เล่าให้ฟังล่ะครับ ว่าผมจริงจัง กับเธอแค่ไหน
แต่ทุกอย่างที่ผมทำ ผมรู้สึกว่าเธอไม่เคยพอเลย "
สาเหตุที่ผมคิดแบบนั้นมีดังนี้ครับ
1. ด้วยมูลเหตุ ผมเองก็ใช้ชีวิตโสดมานาน และ โลดโผนพอสมควรในเรื่องผู้หญิง
เธอมักไม่เชื่อใจผม กลัวผมจะไปมีคนอื่น หรือ อะไรก็แล้วแต่
แต่ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากตัวผมเองก็ไม่สามารถลบอดีตได้
แต่ ผมเชื่อว่า ผมเองก็ ทำปัจจุบันให้ดีได้ผมคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด
เพราะว่าผมรักเธอที่ตัวตนไม่ใช่ร่างกาย แต่เธอมักจะคิดเสมอว่า สุดท้ายแล้วผมต้องทิ้งเธอ
ผมต้องทำอะไรให้เธอกลับมาเชื่อมั่นในตัวผม
2. บ่อยครั้งที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน มักจะมีบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ ของผม โทรมา ชวนไปนั่นไปนี่
ในระหว่างที่อยู่กับเธอ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ผมเองก็ ปฏิเสธ แต่เนื่องจากผมเองก็มีภาระหน้าที่
ที่เลี่ยงไม่ได้ ผมเองมีความจำเป็นต้องไป มีอยู่หลายครั้ง
ที่ญาติผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งครูบาอาจารย์ มาชวน ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้
ผมเลยต้องตอบรับนัดไป ซึ่งผมรู้อยู่แล้วล่ะ ว่า ถ้าผมตอบรับ มันจะเกิดอะไรขึ้น
เป็นอย่างที่ผมคิด
ทันที ที่ผมตอบรับ (เธอก็ได้ยิน) เธอจะเก็บกระเป๋า แล้วเดินออกไป อย่างไม่แยแสผม
พร้อมกับบอกผมว่า ผมให้เขาได้เท่านี้ แล้วเธอจะพรรณนาไปถึงเรื่องตอนมีอะไรกันครั้งแรก
ซึ่งเธอ มักบอกผมเสมอว่า เธอให้ผมหมดทั้งตัวและทั้งใจ แต่เธอไม่เคยได้รับอะไรเลย
ผมพยายาม อธิบาย อยากให้เธอเข้าใจ ว่าผมเองก็ มีอะไรที่ต้องทำนะ มาอยู่กับเธอตลอดเวลาไม่ได้
แต่เธอมักบอกผมว่า "เธอเข้าใจ เธอชินแล้ว (ทั้งๆที่น้ำตาไหล) หรือ
ไม่ก็ ทำไมต้องอธิบายด้วย ไม่อยากฟังคำอธิบาย"
บางครั้ง ผมเองก็ต้องเสียงาน เสียการเรียน เพื่อ มาอยู่กับเธอ เนื่องจากผมไม่อยากเสียเธอไป
เหตุการณ์แบบนี้เป็น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า วนเวียน มาตลอด
พักหลังยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่ม เสียความเป็นตัวตน เสียงาน เสียคำพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่ ผมเริ่มรู้สึกว่า
เมื่อครั้งผมเป็นโสด ชีวิตและหน้าที่การงานของผม ไม่เคยเป็นแบบนี้ มันทำให้ผมกลับมานึกว่า
ถ้ามีแฟนแล้วสูญเสียความเป็นตัวเอง ควรมีหรือไม่ แต่ถ้าผมทิ้งเธอไป
ผมเองก็ต้องเสียใจเหมือนกัน (เพราะผมเองก็รักเธออยู่)
ช่วย แนะนำทีครับ ว่าผมควรทำอย่างไร ผมไม่เข้าใจ ถ้าผมจะมีคนรัก ผมจะไม่เหลือเวลา
ส่วนตัวเลยใช่ไหม หรือผม ควรปรับตัว
อย่างไรให้รักษาและอยู่ด้วยกันให้รอด ผมไม่อยากเลิกทั้งๆ ที่รักกัน
ต้องทำยังไง ถึงจะคบกันรอด
ผมเองเป็นชายวันกลางคนอายุ 30 ก็คบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีอายุ 21 (กำลังเรียน)
ซึ่งเราก็คบหาดูใจกันเป็นแฟน จนเรามีอะไรกันอย่างลึกซึ้ง
หลังจากที่มีอะไรกันแล้ว ผมรู้สึกว่าเธอเริ่มเปลี่ยน และ ต้องการอะไรมากขึ้น ซึ่งผมเองก็ พยายามทำให้เธอมั่นใจมากขึ้นโดย
" ผมเคยบอกเธอว่า ถ้าเรียนจบ (ตอนนี้ผมเรียนต่อปริญญาโท) ผมจะขอแต่งงาน
ผมเคยพาเธอแนะนำให้พ่อและแม่รู้จัก รวมถึง บอกทุกคนว่าเป็นแฟนผมนะ
เธอสามารถเข้าออกบ้านผมได้ โดยที่แม่ผม เองก็ไม่ได้ว่าอะไร (ท่านบอกว่า ถ้าจะรักกัน ก็ห้ามไม่ได้)
ผมเลิกเที่ยวกลางคืน และ เลิกไปทำตัวหน้าม่อ เหมือนที่เคยเป็นอยู่เมื่อตอนโสด
ผมบอกรักเธอทุกครั้ง ที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน อย่างที่เล่าให้ฟังล่ะครับ ว่าผมจริงจัง กับเธอแค่ไหน
แต่ทุกอย่างที่ผมทำ ผมรู้สึกว่าเธอไม่เคยพอเลย "
สาเหตุที่ผมคิดแบบนั้นมีดังนี้ครับ
1. ด้วยมูลเหตุ ผมเองก็ใช้ชีวิตโสดมานาน และ โลดโผนพอสมควรในเรื่องผู้หญิง
เธอมักไม่เชื่อใจผม กลัวผมจะไปมีคนอื่น หรือ อะไรก็แล้วแต่
แต่ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากตัวผมเองก็ไม่สามารถลบอดีตได้
แต่ ผมเชื่อว่า ผมเองก็ ทำปัจจุบันให้ดีได้ผมคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด
เพราะว่าผมรักเธอที่ตัวตนไม่ใช่ร่างกาย แต่เธอมักจะคิดเสมอว่า สุดท้ายแล้วผมต้องทิ้งเธอ
ผมต้องทำอะไรให้เธอกลับมาเชื่อมั่นในตัวผม
2. บ่อยครั้งที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน มักจะมีบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ ของผม โทรมา ชวนไปนั่นไปนี่
ในระหว่างที่อยู่กับเธอ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ผมเองก็ ปฏิเสธ แต่เนื่องจากผมเองก็มีภาระหน้าที่
ที่เลี่ยงไม่ได้ ผมเองมีความจำเป็นต้องไป มีอยู่หลายครั้ง
ที่ญาติผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งครูบาอาจารย์ มาชวน ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้
ผมเลยต้องตอบรับนัดไป ซึ่งผมรู้อยู่แล้วล่ะ ว่า ถ้าผมตอบรับ มันจะเกิดอะไรขึ้น
เป็นอย่างที่ผมคิด
ทันที ที่ผมตอบรับ (เธอก็ได้ยิน) เธอจะเก็บกระเป๋า แล้วเดินออกไป อย่างไม่แยแสผม
พร้อมกับบอกผมว่า ผมให้เขาได้เท่านี้ แล้วเธอจะพรรณนาไปถึงเรื่องตอนมีอะไรกันครั้งแรก
ซึ่งเธอ มักบอกผมเสมอว่า เธอให้ผมหมดทั้งตัวและทั้งใจ แต่เธอไม่เคยได้รับอะไรเลย
ผมพยายาม อธิบาย อยากให้เธอเข้าใจ ว่าผมเองก็ มีอะไรที่ต้องทำนะ มาอยู่กับเธอตลอดเวลาไม่ได้
แต่เธอมักบอกผมว่า "เธอเข้าใจ เธอชินแล้ว (ทั้งๆที่น้ำตาไหล) หรือ
ไม่ก็ ทำไมต้องอธิบายด้วย ไม่อยากฟังคำอธิบาย"
บางครั้ง ผมเองก็ต้องเสียงาน เสียการเรียน เพื่อ มาอยู่กับเธอ เนื่องจากผมไม่อยากเสียเธอไป
เหตุการณ์แบบนี้เป็น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า วนเวียน มาตลอด
พักหลังยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่ม เสียความเป็นตัวตน เสียงาน เสียคำพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่ ผมเริ่มรู้สึกว่า
เมื่อครั้งผมเป็นโสด ชีวิตและหน้าที่การงานของผม ไม่เคยเป็นแบบนี้ มันทำให้ผมกลับมานึกว่า
ถ้ามีแฟนแล้วสูญเสียความเป็นตัวเอง ควรมีหรือไม่ แต่ถ้าผมทิ้งเธอไป
ผมเองก็ต้องเสียใจเหมือนกัน (เพราะผมเองก็รักเธออยู่)
ช่วย แนะนำทีครับ ว่าผมควรทำอย่างไร ผมไม่เข้าใจ ถ้าผมจะมีคนรัก ผมจะไม่เหลือเวลา
ส่วนตัวเลยใช่ไหม หรือผม ควรปรับตัว
อย่างไรให้รักษาและอยู่ด้วยกันให้รอด ผมไม่อยากเลิกทั้งๆ ที่รักกัน