ก่อนอื่นขอเล่าถึงที่มาที่ไปที่ทำให้เรากลุ้มใจ จนทนไม่ไหว ต้องมาโพสต์ถาม และขอแชร์ประสบการณ์ เผื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ที่กำลังจะถอดเหล็กจัดฟันนะคะ
คือ...เราดัดฟันที่คลินิคทันตกรรมที่มีชื่อเสียงและขึ้นชื่อว่าแพงมากแห่งหนึ่งค่ะ ด้วยปัญหาที่มากมายในช่องปากและด้วยอายุ จึงเลือกจัดแบบ ดามอน ซึ่งก่อนจัดทางคลีนิคก้แจ้งราคาไว้ 67,000 บาท ถ้าชำระครบยังจัดไม่เสร็จจัดต่อให้ฟรีค่ะ ซึ่งเราก็โอเคตกลงค่ะ
พอเริ่มทำติดเครื่องมือไปได้ 2-3 เดือน คุณหมอแจ้งว่ากรามเราไม่พอดีกัน ต้องใส่เครื่องมือขยายกรามบนล่าง ซึ่งต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 15,000 บาท เราก็อึ้งไป 1 รอบ ช็อคกับราคารวม(ตก 80,000 สินะ) แต่ก้อพอทำใจได้ ก็เริ่มทำมาแล้วนี่และหมอบอกว่าเคสเราควรจะใส่ เราก็เชื่อหมอค่ะ
ผ่านมา 2ปีครึ่ง ค่ารักษาของเราก็ครบตามที่ตกลงกันไว้ หมอบอกจะเอาเหล็กออกแล้วนะ เราก็ทักไว้..ว่ามันยังไม่เข้าเลยนะคะ หมอจึงให้ใส่ต่ออีก 1เดือน ตอนแรกก็คิดว่าคิดไปเอง กลับมาจึงยิ้มให้คนรอบข้างดูทุกคนก็ยืนยันว่ามันเบี้ยวจริงๆๆ
จากนั้นคลีนิคก็โทรมาแจ้งนัดถอดเหล็ก ซึ่งเราก็คิดว่าจะยังไม่ถอด และเหตุการณ์ก็เริ่มต้นจากตรงนี้ค่ะ >>> พอพบหมอ..หมอยืนยันว่าเคสหนูมันไม่สามารถเข้าไปได้มากกว่านี้นะคะและให้เราพิมพ์รีเทนเนอร์ ทั้งๆที่เรารู้สึกว่าฟันไม่เข้าที่และมันยังเบี้ยวๆอยู่มากเลย (หมอแจ้งว่าวันนี้มีค่ารีเทนเนอร์บนล่าง 15,000 บาท เราก็งงๆว่า อ้าว มันไม่ได้รวมอยู่ในแพ็คเก็จหรอ แต่ก็โอเคเราคงอ่านเงื่อนไขไม่ดีเองแต่แรก..รวมจัดฟันครั้งนี้ 95,000 บาทแล้วสินะ) หลังพิมพ์เสร็จจึงตัดสินใจบอกหมอให้ดูอีกทีว่ามันยังเบี้ยวนะคะ ด้านนึงมันยังไม่เข้า หมอจึงกรอฟันบน (สั้นลงนิดนึงเลย T_T) และล่างส่วนที่มีปัญหา เพิ่มแรงดังฟันให้ แล้วให้ใส่ต่ออีกเป็นรอบที่ 2 จากนั้นก็โดนเรียกไปชำระเงิน ..ตอนนั้น ก็แอบคิดว่าที่พิมพ์ไปเมื่อกี๊ เค้าคงยังไม่เอาไปทำมั๊ง เพราะหมอเพิ่งดึงให้ต่ออีก ถ้าทำมาแล้วใส่ไม่ได้ หมอคงต้องทำใหม่ เพราะหมอพิมพ์ขณะยังจัดฟันไม่เสร็จ (แต่เราคิดผิดค่ะ!)
พอนัดถัดมา หมอถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็บอกว่ามันเริ่มตรงและเข้ามามากขึ้นแล้วค่ะ ซึ่งรอบนี้เรารู้สึกว่ามันดีขึ้นมากๆจริงๆ เรามีความสุขมาก (ฟันข้างในเค้าทำดีอยู่แล้ว ส่วนข้างนอกเราอยากให้ได้ประมาณนี้แหละ ^^ พอใจแล้วค่ะ) หมอจึงเปลี่ยนรูปแบบที่รัดให้ใหม่ และรอบนี้ให้ใส่แบบไม่ต้องรัดยาง เพื่อดูความคงรูปของฟัน นี่เป็นรอบที่ 3
และเมื่อถึงวันนัดถัดมา ช่องว่างที่หมอเคยดึงให้ในรอบที่ 2 นั้นเริ่มห่างออกมาอีกแล้ว >0<" แต่ไม่เบี้ยวเหมือนก่อนหน้านี้ รอบนี้เราจึงตั้งใจว่าจะแจ้งหมอให้รัดเข้ามาให้อีก1เดือนแล้วค่อยพิมพ์รีเทนเนอร์ใหม่เดือนหน้า ซึ่งน่าจะสวยได้เหมือนเดือนที่แล้ว แต่พอเข้าห้องตรวจ..หมอบอกว่าวันนี้ต้องถอดแล้วนะ เราก็บอกว่าน่าจะยังถอดไม่ได้นะคะ ให้หมอดูก่อน แล้วก็อ้าปากให้หมอดูด้วยความมั่นใจว่าถ้าหมอเห็นการเปลี่ยนแปลงก็คงจะยังไม่ให้ถอด แต่ระหว่างที่หมอตรวจ ก็พูดด้วยน้ำเสียงดุๆว่า "หนูมีปัญหาอะไรอีกคะ..วันนี้หมอต้องถอดแล้วนะ" ซึ่งตรงนี้เสียความรู้สึกมากค่ะ ี้เราก็ไม่รู้ว่าควรจะทำไงดี เพราะเคยขอเลื่อนมา และก็โดนกรอฟันบนไปแล้วด้วย ใจกลัวว่าถ้าบอกหมอจะโดนกรอฟันบนจนสั้นลงไปอีก จึงยอมให้ถอดเครื่องมือทั้งหมดออก (คิดว่าถ้ารับตัวเองไม่ได้จริงๆ คงต้องไปจัดใหม่ที่อื่น TT ) จากนั้นหมอก็เอารีเทนเนอร์ที่เคยทำไว้เมื่อ 2-3 เดือนก่อน มาดูแล้วบอกว่าฟันบนคงใส่ไม่ได้แล้ว ต้องพิมพ์ใหม่ และคิดค่ารีเทนเนอร์อันใหม่อีก 6,000 บาท O,O! (รวมเป็น 20,000 บาทเฉพาะค่ารีเทนเนอร ์!!!!!) นัดมารับรีเทนเนอร์อีก1อาทิตย์หลังจากถอดเหล็กไปแล้ว (ฟันยิ่งห่างไปใหญ่ T-T)
สรุปว่าเราเสียค่าใช้จ่ายในการจัดฟันครั้งนี้ไปทั้งสิ้น 110,000 บาท //หลบไปร้องไห้แป๊บ ไม่รวมค่าใช้จ่ายยิบย่อยในการเคลียร์ อุด ขูดหินปูนและอื่นๆนะคะ แถมยังโดนถอดเครื่องมือทั้งๆที่ฟันยังห่าง ที่เลวร้ายไปอีกคือตอนนี้ฟันหน้าบนสั้นเลยค่ะ ทั้งๆที่ก่อนจัดเป็นฟันกระต่าย แต่ตอนนี้เวลาพูดหรือคุยจะมองไม่เห็นเลย เหมือนไม่มีฟันหน้า T.T เห็นแต่ฟันล่าง ตลกมาก..ไม่มีความมั่นใจเวลาคุยกับคนอื่นเลยค่ะ
ใครกำลังจะถอดเหล็ก ระวังอย่าพลาดแบบเรานะคะ ถ้ายังไม่พอใจผล
>>> อย่ายอมพิมพ์รีเทนเนอร์ก่อนเด็ดขาด !! <<<
และที่อยากรู้ สงสัยคือ เรื่องรีเทนเนอร์ ใครเคยเจอเคสแบบนี้บ้างคะ แล้วปกติคนไข้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่ารีเทนเนอร์ที่ทำมาแล้วใส่ไม่ได้ เองหรอคะ แบบนี้มันเป็นปกติหรือผิดปกติคะ ? ตอนนี้รู้สึกแย่มากค่ะ ทั้งเรื่องฟัน ทั้งค่าใช้จ่ายที่บานปลาย =_=
ถามคนจัดฟัน เฉพาะค่ารีเทนเนอร์จ่ายไป 20,000 บาท แบบนี้ผิดปกติไหมคะ?
คือ...เราดัดฟันที่คลินิคทันตกรรมที่มีชื่อเสียงและขึ้นชื่อว่าแพงมากแห่งหนึ่งค่ะ ด้วยปัญหาที่มากมายในช่องปากและด้วยอายุ จึงเลือกจัดแบบ ดามอน ซึ่งก่อนจัดทางคลีนิคก้แจ้งราคาไว้ 67,000 บาท ถ้าชำระครบยังจัดไม่เสร็จจัดต่อให้ฟรีค่ะ ซึ่งเราก็โอเคตกลงค่ะ
พอเริ่มทำติดเครื่องมือไปได้ 2-3 เดือน คุณหมอแจ้งว่ากรามเราไม่พอดีกัน ต้องใส่เครื่องมือขยายกรามบนล่าง ซึ่งต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 15,000 บาท เราก็อึ้งไป 1 รอบ ช็อคกับราคารวม(ตก 80,000 สินะ) แต่ก้อพอทำใจได้ ก็เริ่มทำมาแล้วนี่และหมอบอกว่าเคสเราควรจะใส่ เราก็เชื่อหมอค่ะ
ผ่านมา 2ปีครึ่ง ค่ารักษาของเราก็ครบตามที่ตกลงกันไว้ หมอบอกจะเอาเหล็กออกแล้วนะ เราก็ทักไว้..ว่ามันยังไม่เข้าเลยนะคะ หมอจึงให้ใส่ต่ออีก 1เดือน ตอนแรกก็คิดว่าคิดไปเอง กลับมาจึงยิ้มให้คนรอบข้างดูทุกคนก็ยืนยันว่ามันเบี้ยวจริงๆๆ
จากนั้นคลีนิคก็โทรมาแจ้งนัดถอดเหล็ก ซึ่งเราก็คิดว่าจะยังไม่ถอด และเหตุการณ์ก็เริ่มต้นจากตรงนี้ค่ะ >>> พอพบหมอ..หมอยืนยันว่าเคสหนูมันไม่สามารถเข้าไปได้มากกว่านี้นะคะและให้เราพิมพ์รีเทนเนอร์ ทั้งๆที่เรารู้สึกว่าฟันไม่เข้าที่และมันยังเบี้ยวๆอยู่มากเลย (หมอแจ้งว่าวันนี้มีค่ารีเทนเนอร์บนล่าง 15,000 บาท เราก็งงๆว่า อ้าว มันไม่ได้รวมอยู่ในแพ็คเก็จหรอ แต่ก็โอเคเราคงอ่านเงื่อนไขไม่ดีเองแต่แรก..รวมจัดฟันครั้งนี้ 95,000 บาทแล้วสินะ) หลังพิมพ์เสร็จจึงตัดสินใจบอกหมอให้ดูอีกทีว่ามันยังเบี้ยวนะคะ ด้านนึงมันยังไม่เข้า หมอจึงกรอฟันบน (สั้นลงนิดนึงเลย T_T) และล่างส่วนที่มีปัญหา เพิ่มแรงดังฟันให้ แล้วให้ใส่ต่ออีกเป็นรอบที่ 2 จากนั้นก็โดนเรียกไปชำระเงิน ..ตอนนั้น ก็แอบคิดว่าที่พิมพ์ไปเมื่อกี๊ เค้าคงยังไม่เอาไปทำมั๊ง เพราะหมอเพิ่งดึงให้ต่ออีก ถ้าทำมาแล้วใส่ไม่ได้ หมอคงต้องทำใหม่ เพราะหมอพิมพ์ขณะยังจัดฟันไม่เสร็จ (แต่เราคิดผิดค่ะ!)
พอนัดถัดมา หมอถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็บอกว่ามันเริ่มตรงและเข้ามามากขึ้นแล้วค่ะ ซึ่งรอบนี้เรารู้สึกว่ามันดีขึ้นมากๆจริงๆ เรามีความสุขมาก (ฟันข้างในเค้าทำดีอยู่แล้ว ส่วนข้างนอกเราอยากให้ได้ประมาณนี้แหละ ^^ พอใจแล้วค่ะ) หมอจึงเปลี่ยนรูปแบบที่รัดให้ใหม่ และรอบนี้ให้ใส่แบบไม่ต้องรัดยาง เพื่อดูความคงรูปของฟัน นี่เป็นรอบที่ 3
และเมื่อถึงวันนัดถัดมา ช่องว่างที่หมอเคยดึงให้ในรอบที่ 2 นั้นเริ่มห่างออกมาอีกแล้ว >0<" แต่ไม่เบี้ยวเหมือนก่อนหน้านี้ รอบนี้เราจึงตั้งใจว่าจะแจ้งหมอให้รัดเข้ามาให้อีก1เดือนแล้วค่อยพิมพ์รีเทนเนอร์ใหม่เดือนหน้า ซึ่งน่าจะสวยได้เหมือนเดือนที่แล้ว แต่พอเข้าห้องตรวจ..หมอบอกว่าวันนี้ต้องถอดแล้วนะ เราก็บอกว่าน่าจะยังถอดไม่ได้นะคะ ให้หมอดูก่อน แล้วก็อ้าปากให้หมอดูด้วยความมั่นใจว่าถ้าหมอเห็นการเปลี่ยนแปลงก็คงจะยังไม่ให้ถอด แต่ระหว่างที่หมอตรวจ ก็พูดด้วยน้ำเสียงดุๆว่า "หนูมีปัญหาอะไรอีกคะ..วันนี้หมอต้องถอดแล้วนะ" ซึ่งตรงนี้เสียความรู้สึกมากค่ะ ี้เราก็ไม่รู้ว่าควรจะทำไงดี เพราะเคยขอเลื่อนมา และก็โดนกรอฟันบนไปแล้วด้วย ใจกลัวว่าถ้าบอกหมอจะโดนกรอฟันบนจนสั้นลงไปอีก จึงยอมให้ถอดเครื่องมือทั้งหมดออก (คิดว่าถ้ารับตัวเองไม่ได้จริงๆ คงต้องไปจัดใหม่ที่อื่น TT ) จากนั้นหมอก็เอารีเทนเนอร์ที่เคยทำไว้เมื่อ 2-3 เดือนก่อน มาดูแล้วบอกว่าฟันบนคงใส่ไม่ได้แล้ว ต้องพิมพ์ใหม่ และคิดค่ารีเทนเนอร์อันใหม่อีก 6,000 บาท O,O! (รวมเป็น 20,000 บาทเฉพาะค่ารีเทนเนอร ์!!!!!) นัดมารับรีเทนเนอร์อีก1อาทิตย์หลังจากถอดเหล็กไปแล้ว (ฟันยิ่งห่างไปใหญ่ T-T)
สรุปว่าเราเสียค่าใช้จ่ายในการจัดฟันครั้งนี้ไปทั้งสิ้น 110,000 บาท //หลบไปร้องไห้แป๊บ ไม่รวมค่าใช้จ่ายยิบย่อยในการเคลียร์ อุด ขูดหินปูนและอื่นๆนะคะ แถมยังโดนถอดเครื่องมือทั้งๆที่ฟันยังห่าง ที่เลวร้ายไปอีกคือตอนนี้ฟันหน้าบนสั้นเลยค่ะ ทั้งๆที่ก่อนจัดเป็นฟันกระต่าย แต่ตอนนี้เวลาพูดหรือคุยจะมองไม่เห็นเลย เหมือนไม่มีฟันหน้า T.T เห็นแต่ฟันล่าง ตลกมาก..ไม่มีความมั่นใจเวลาคุยกับคนอื่นเลยค่ะ
ใครกำลังจะถอดเหล็ก ระวังอย่าพลาดแบบเรานะคะ ถ้ายังไม่พอใจผล
>>> อย่ายอมพิมพ์รีเทนเนอร์ก่อนเด็ดขาด !! <<<
และที่อยากรู้ สงสัยคือ เรื่องรีเทนเนอร์ ใครเคยเจอเคสแบบนี้บ้างคะ แล้วปกติคนไข้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่ารีเทนเนอร์ที่ทำมาแล้วใส่ไม่ได้ เองหรอคะ แบบนี้มันเป็นปกติหรือผิดปกติคะ ? ตอนนี้รู้สึกแย่มากค่ะ ทั้งเรื่องฟัน ทั้งค่าใช้จ่ายที่บานปลาย =_=