สวัสดีค่าเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน
นี่อาจจะไม่ใช่กระทู้แรกของเรา แต่ถือว่าเป็นกระทู้รีวิวภาพยนตร์อันแรกของเราเลยค่ะ หลังจากที่สิงสู่อยู่ในห้องเฉลิมไทยมานานด้วยความชอบดูหนังเป็นงานอดิเรก ได้เม้นท์กระทู้เกี่ยวกับหนังและเห็นรีวิวหนังของสมาชิกท่านอื่นๆ ก็เริ่มมีความรู้สึกว่าอยากตั้งกระทู้รีวิวหนังเองบ้าง 555 ประกอบกับว่ามีเพื่อนๆเราหลายคนไม่มีโอกาสได้ไปดูครบทั้ง 2 เรื่องนี้ บางคนได้ดูเรื่องเดียว เพื่อนๆก็เลยขอร้องให้เรารีวิวให้อ่านในเฟสบุ๊ค เราก็เลยคิดว่า ไหนๆเขียนรีวิวแล้ว ก็ลองเอามาลงในพันทิป เผื่อได้แชร์ประสบการณ์และความคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่นๆที่ได้ดู 2 เรื่องนี้ค่ะ อย่างไรก็ตามถือเป็นการรีวิวครั้งแรกของเราด้วย หากเกิดความผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยเพื่อนสมาชิกทุกๆท่านด้วยนะคะ
สำหรับเรื่องที่เราจะรีวิวนั้น ตามชื่อชื่อกระทู้เลยค่ะ อันเนื่องมาจากเรามีโอกาสได้ดูหนัง 2 เรื่องที่นำเสนอเรื่องราวชีวประวัติของ Yves Saint Laurent สุดยอดดีไซเนอร์ เรื่องแรกคือ Yves Saint Laurent (2014) นักแสดงผู้รับบทท่านอีฟคือ Pierre Niney เรื่องต่อมาคือ Saint Laurent (2014) นักแสดงผู้รับบทท่านอีฟคือ Gaspard Ulliel เราทราบข่าวการสร้างหนังทั้ง 2 เวอร์ชั่นนี้มานาน และลุ้นว่าจะเข้าฉายในไทยมั้ย จนในที่สุดทั้ง 2 เรื่องก็เข้าฉายในไทย เราก็จัดการกวาดเรียบมาทั้ง 2 เวอร์ชั่น ค่ะ แค่โปสเตอร์ ก็เห็นความต่าง...
เริ่มแรกเลย เราได้ทำภาพประกอบมาให้ดูเปรียบเทียบกันให้เห็นจะๆระหว่างโฉมหน้าของบุคคลในประวัติศาสตร์ตัวจริงกับนักแสดงในหนังทั้ง 2 เวอร์ชั่น ประกอบไปด้วย 5 คนนี้ ซึ่งทั้ง 5 โผล่ในหนังทั้งสองเวอร์ชั่นโดยเป็นตัวละครหลักเหมือนกัน ประกอบด้วย
จะเห็นได้ว่าหน้าตาดาราไม่ได้เป๊ะกับตัวจริงมาก มีบางคนที่แอบคล้าย แต่เอาเข้าจริง สำหรับเรามันไม่ค่อยสำคัญนะ เพราะทั้งสองเรื่องนักแสดงสามารถเข้าถึงบทบาทให้เราเห็นได้จริงๆว่าแต่ละคนเป็นใครยังไง มีอารมณ์ความรู้สึก กระทำอะไรบ้าง สรุปว่านักแสดงเล่นดีไม่เสียมู้ด
หากแต่ 2 เรื่องนี้โดยรวมแล้ว...ถึงจะเป็นเรื่องของท่านอีฟเหมือนกัน แต่...สื่อเรื่องราวในช่วงเวลาที่ต่างกัน นำเสนอเรื่องราวชีวิตของท่านอีฟในมุมมองที่ต่างกัน
อันแรก Yves Saint Laurent (2014) ตอนเห็นเวอร์ชั่นนี้ เราคิดว่านักแสดงนำหน้าตาแปลกๆค่ะ 5555 แต่ก็คล้ายท่านอีฟ พอนางสวมบทแบบท่านอีฟก็แบบ เอ้ออออ ใช้ได้เลย 5555 แต่ถ้ากล่าวถึงเวอร์ชั่นนี้โดยรวมแล้ว เราคิดว่ามันคือหนัง อัตชีวประวัติ เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ท่านอีฟสมัยหนุ่มน้อยโนเนม ลากมาจนถึงช่วงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มีการเรียงลำดับถูกต้อง จากต้นเรื่องไปจนท้ายเรื่อง มีสับเปลี่ยนเอาช่วงหลังๆมาเป็นฉากเปิดเรื่อง แต่ก็ยังเข้าใจง่าย ไม่เวียนหัว ไม่สับสน ... 1 ไป 2 ไป 3 ไม่วุ่นวาย เก็บประเด็นหลักที่ควรรู้ ดูง่าย เข้าใจ รู้เรื่อง จบปึ้ง 5555
จากเรื่องนี้ พอจะได้เห็นว่าชีวิตท่านอีฟกว่าจะมาถึงวันที่ประสบความสำเร็จ เขาผ่านความลำบากอะไรมาบ้าง เจอเรื่องอะไรมาบ้าง คนรอบข้างเป็นไงบ้าง และแท้จริงแล้วเขาเป็นคนยังไง ...คือเล่าเรื่องท่านอีฟแบบครอบคลุมครบสดทุกประเด็น แต่... ไม่หวือหวา (ถึงจะมีฉากเอ็กซ์เซ็กซี่พอให้จิกหมอนอยู่บ้างก็เถอะ 555) ไม่รุนแรงเท่าไหร่ ไม่มุ่งนำเสนอแง่ลบ นำเสนอเรื่องราวชีวิตโดยรวมเป็นหลัก นำเสนอสิ่งที่ควรรู้ควรเห็นและควรได้รู้จักในตัวท่านอีฟ
... แต่อีกเวอร์ชั่น คือ Sain Laurent (2014) ตอนใกล้ๆฉายเราเห็นข่าวประโคมกันใหญ่ถึงฉากเปลือยของกัสปาร์ว่าแรงมว๊ากกกกก เด็ดมว๊าก (ซึ่งมันก็เด็ดจริงๆน่ะแหละ เต็มๆจะๆเลย แอร๊ย 5555) แต่มันมีอะไรมากกว่าความแรงตรงนั้น ...
ถ้าได้ดูทั้งเรื่องคือฉากเปลือยมันเป็นแค่พร็อบมาเสริมเนื้อเรื่องที่แรงแล้วให้มันแรงแบบสุดๆ เพราะเวอร์ชั่นนี้นำเสนอชีวิตของท่านอีฟในแง่ที่อารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรงและแปรปรวนของเขา แสดงให้เห็นแรงปรารถนาทั้งทางด้านอาชีพและเรื่องราวส่วนตัว จะได้เห็นว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่างท่านอีฟ เส้นทางชีวิตโรยด้วยดอกกุหลาบแต่มันดันมีหนามปนมาด้วย ....ถึงแม้ชีวิตจะดูเพรียบพร้อมและมีพรสวรรค์ เส้นทางราบเรียบแต่ก็ยังสะดุดได้ คือไม่มีใครมาดักขา แต่คนเรามันก็มีโอกาสสะดุดขาตัวเอง
ถ้าเราอ่านข่าวไม่ผิด รู้สึกว่าเวอร์ชั่นนี้ทางแบรนด์ไม่ได้อนุญาตให้สร้าง(รึเปล่าคะ ?) แต่ในที่สุดหนังได้ออกฉาย ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าทางแบรนด์มีฟี้ดแบ็คยังไงบ้าง 555555 ขอเสียนิดหน่อยของเวอร์ชั่นนี้คือดูไปอาจจะต้องดมยาดมไป ไม่แนะนำสำหรับคนที่ปวดหัวตัวร้อนคล้ายจะเป็นไข้เพราะอาจจะเป็นหนักกว่าเดิม เพราะจะตัดภาพตัดช่วงเวลาแบบมั่วมาก ไม่เรียงลำดับจากต้นไปจบ เริ่มจาก 5 แล้วมา 1 จากไป 7 แล้วค่อยย้อนมา 2 อะไรแบบนี้ ...บางฉากวูบวาบๆๆๆจนจะอ้วก บางฉากก็แช่อืดจนจะหลับ แต่ถ้าดูไปจนจบ จะเข้าใจว่า ทำไมเขาต้องเรียงลำดับแบบนี้ และสุดท้ายแล้วเรื่องนี้ต้องการสื่ออะไร สำหรับเราถือว่าโอเคเลย ดีมากๆ
หากเปรียบเทียบว่าเวอร์ชั่นไหนดีกว่า เราคงไม่อาจตอบได้ค่ะ เพราะส่วนตัวเรา เราชอบทั้ง 2 เรื่องเลย ประทับใจทั้งสองเรื่อง ไม่รู้จะหาข้อติตรงไหนนอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น แต่ก็เห็นหลายๆความคิดเห็นกล่าวว่าเรื่องที่สองสองไม่โอเคเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะการเรียงลำดับเวลาที่ไม่เป็นระเบียบ เข้าใจยาก และการเน้นฉากบางฉากจนน่าเบื่อ
สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูและไม่รู้ว่าควรจะดูอันไหน เราแนะนำเวอร์ชั่นแรกก่อนนะคะ ดูง่ายกว่า 2 แน่นอน เพราะกล่าวถึงบุคคลต่างๆครบถ้วน เรียงลำดับเข้าใจง่าย แต่ถ้าพูดถึงการนำเสนอของหนัง เราขอแนะนำว่า ถ้าอยากเสพชีวิตท่านอีฟแบบเน้นๆ ก็ดูอันแรก แต่ถ้าอยากเอาความรู้สึกล้วนๆแบบอินเนอร์มาเต็ม ก็ดู 2 .... อันแรก ผู้ชมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับท่านอีฟเลย ก็ดูได้ รู้เรื่อง แต่เวอร์ชั่นสอง ดูไปอาจจะงงๆเอ๊ะใครเป็นใครมาไง ไม่ได้เล่าไว้ จู่ๆโผล่มาเลย 5555 แต่ได้ฟาดความมันส์ในอารมณ์แบบเต็มๆค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะ ยาวเกินไปมั้ยเอ่ย มีใครอ่านจบบ้าง 55555 มีคำถามข้อสงสัยหรือติชมได้เลยนะคะ ผิดพลาดตรงไหนบอกเราได้เลยค่ะ เราจะปรับปรุงเผื่อได้มีโอกาสรีวิวอีกเป็นครั้งต่อไป
ขอบคุณมากๆค่า
[CR] [CR] รีวิว YSL 2 เรื่อง "Yves Saint Laurent" และ "Saint Laurent" *สปอยล์เล็กน้อย*
นี่อาจจะไม่ใช่กระทู้แรกของเรา แต่ถือว่าเป็นกระทู้รีวิวภาพยนตร์อันแรกของเราเลยค่ะ หลังจากที่สิงสู่อยู่ในห้องเฉลิมไทยมานานด้วยความชอบดูหนังเป็นงานอดิเรก ได้เม้นท์กระทู้เกี่ยวกับหนังและเห็นรีวิวหนังของสมาชิกท่านอื่นๆ ก็เริ่มมีความรู้สึกว่าอยากตั้งกระทู้รีวิวหนังเองบ้าง 555 ประกอบกับว่ามีเพื่อนๆเราหลายคนไม่มีโอกาสได้ไปดูครบทั้ง 2 เรื่องนี้ บางคนได้ดูเรื่องเดียว เพื่อนๆก็เลยขอร้องให้เรารีวิวให้อ่านในเฟสบุ๊ค เราก็เลยคิดว่า ไหนๆเขียนรีวิวแล้ว ก็ลองเอามาลงในพันทิป เผื่อได้แชร์ประสบการณ์และความคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่นๆที่ได้ดู 2 เรื่องนี้ค่ะ อย่างไรก็ตามถือเป็นการรีวิวครั้งแรกของเราด้วย หากเกิดความผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยเพื่อนสมาชิกทุกๆท่านด้วยนะคะ
สำหรับเรื่องที่เราจะรีวิวนั้น ตามชื่อชื่อกระทู้เลยค่ะ อันเนื่องมาจากเรามีโอกาสได้ดูหนัง 2 เรื่องที่นำเสนอเรื่องราวชีวประวัติของ Yves Saint Laurent สุดยอดดีไซเนอร์ เรื่องแรกคือ Yves Saint Laurent (2014) นักแสดงผู้รับบทท่านอีฟคือ Pierre Niney เรื่องต่อมาคือ Saint Laurent (2014) นักแสดงผู้รับบทท่านอีฟคือ Gaspard Ulliel เราทราบข่าวการสร้างหนังทั้ง 2 เวอร์ชั่นนี้มานาน และลุ้นว่าจะเข้าฉายในไทยมั้ย จนในที่สุดทั้ง 2 เรื่องก็เข้าฉายในไทย เราก็จัดการกวาดเรียบมาทั้ง 2 เวอร์ชั่น ค่ะ แค่โปสเตอร์ ก็เห็นความต่าง...
เริ่มแรกเลย เราได้ทำภาพประกอบมาให้ดูเปรียบเทียบกันให้เห็นจะๆระหว่างโฉมหน้าของบุคคลในประวัติศาสตร์ตัวจริงกับนักแสดงในหนังทั้ง 2 เวอร์ชั่น ประกอบไปด้วย 5 คนนี้ ซึ่งทั้ง 5 โผล่ในหนังทั้งสองเวอร์ชั่นโดยเป็นตัวละครหลักเหมือนกัน ประกอบด้วย
จะเห็นได้ว่าหน้าตาดาราไม่ได้เป๊ะกับตัวจริงมาก มีบางคนที่แอบคล้าย แต่เอาเข้าจริง สำหรับเรามันไม่ค่อยสำคัญนะ เพราะทั้งสองเรื่องนักแสดงสามารถเข้าถึงบทบาทให้เราเห็นได้จริงๆว่าแต่ละคนเป็นใครยังไง มีอารมณ์ความรู้สึก กระทำอะไรบ้าง สรุปว่านักแสดงเล่นดีไม่เสียมู้ด
หากแต่ 2 เรื่องนี้โดยรวมแล้ว...ถึงจะเป็นเรื่องของท่านอีฟเหมือนกัน แต่...สื่อเรื่องราวในช่วงเวลาที่ต่างกัน นำเสนอเรื่องราวชีวิตของท่านอีฟในมุมมองที่ต่างกัน
อันแรก Yves Saint Laurent (2014) ตอนเห็นเวอร์ชั่นนี้ เราคิดว่านักแสดงนำหน้าตาแปลกๆค่ะ 5555 แต่ก็คล้ายท่านอีฟ พอนางสวมบทแบบท่านอีฟก็แบบ เอ้ออออ ใช้ได้เลย 5555 แต่ถ้ากล่าวถึงเวอร์ชั่นนี้โดยรวมแล้ว เราคิดว่ามันคือหนัง อัตชีวประวัติ เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ท่านอีฟสมัยหนุ่มน้อยโนเนม ลากมาจนถึงช่วงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มีการเรียงลำดับถูกต้อง จากต้นเรื่องไปจนท้ายเรื่อง มีสับเปลี่ยนเอาช่วงหลังๆมาเป็นฉากเปิดเรื่อง แต่ก็ยังเข้าใจง่าย ไม่เวียนหัว ไม่สับสน ... 1 ไป 2 ไป 3 ไม่วุ่นวาย เก็บประเด็นหลักที่ควรรู้ ดูง่าย เข้าใจ รู้เรื่อง จบปึ้ง 5555
จากเรื่องนี้ พอจะได้เห็นว่าชีวิตท่านอีฟกว่าจะมาถึงวันที่ประสบความสำเร็จ เขาผ่านความลำบากอะไรมาบ้าง เจอเรื่องอะไรมาบ้าง คนรอบข้างเป็นไงบ้าง และแท้จริงแล้วเขาเป็นคนยังไง ...คือเล่าเรื่องท่านอีฟแบบครอบคลุมครบสดทุกประเด็น แต่... ไม่หวือหวา (ถึงจะมีฉากเอ็กซ์เซ็กซี่พอให้จิกหมอนอยู่บ้างก็เถอะ 555) ไม่รุนแรงเท่าไหร่ ไม่มุ่งนำเสนอแง่ลบ นำเสนอเรื่องราวชีวิตโดยรวมเป็นหลัก นำเสนอสิ่งที่ควรรู้ควรเห็นและควรได้รู้จักในตัวท่านอีฟ
... แต่อีกเวอร์ชั่น คือ Sain Laurent (2014) ตอนใกล้ๆฉายเราเห็นข่าวประโคมกันใหญ่ถึงฉากเปลือยของกัสปาร์ว่าแรงมว๊ากกกกก เด็ดมว๊าก (ซึ่งมันก็เด็ดจริงๆน่ะแหละ เต็มๆจะๆเลย แอร๊ย 5555) แต่มันมีอะไรมากกว่าความแรงตรงนั้น ...
ถ้าได้ดูทั้งเรื่องคือฉากเปลือยมันเป็นแค่พร็อบมาเสริมเนื้อเรื่องที่แรงแล้วให้มันแรงแบบสุดๆ เพราะเวอร์ชั่นนี้นำเสนอชีวิตของท่านอีฟในแง่ที่อารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรงและแปรปรวนของเขา แสดงให้เห็นแรงปรารถนาทั้งทางด้านอาชีพและเรื่องราวส่วนตัว จะได้เห็นว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่างท่านอีฟ เส้นทางชีวิตโรยด้วยดอกกุหลาบแต่มันดันมีหนามปนมาด้วย ....ถึงแม้ชีวิตจะดูเพรียบพร้อมและมีพรสวรรค์ เส้นทางราบเรียบแต่ก็ยังสะดุดได้ คือไม่มีใครมาดักขา แต่คนเรามันก็มีโอกาสสะดุดขาตัวเอง
ถ้าเราอ่านข่าวไม่ผิด รู้สึกว่าเวอร์ชั่นนี้ทางแบรนด์ไม่ได้อนุญาตให้สร้าง(รึเปล่าคะ ?) แต่ในที่สุดหนังได้ออกฉาย ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าทางแบรนด์มีฟี้ดแบ็คยังไงบ้าง 555555 ขอเสียนิดหน่อยของเวอร์ชั่นนี้คือดูไปอาจจะต้องดมยาดมไป ไม่แนะนำสำหรับคนที่ปวดหัวตัวร้อนคล้ายจะเป็นไข้เพราะอาจจะเป็นหนักกว่าเดิม เพราะจะตัดภาพตัดช่วงเวลาแบบมั่วมาก ไม่เรียงลำดับจากต้นไปจบ เริ่มจาก 5 แล้วมา 1 จากไป 7 แล้วค่อยย้อนมา 2 อะไรแบบนี้ ...บางฉากวูบวาบๆๆๆจนจะอ้วก บางฉากก็แช่อืดจนจะหลับ แต่ถ้าดูไปจนจบ จะเข้าใจว่า ทำไมเขาต้องเรียงลำดับแบบนี้ และสุดท้ายแล้วเรื่องนี้ต้องการสื่ออะไร สำหรับเราถือว่าโอเคเลย ดีมากๆ
หากเปรียบเทียบว่าเวอร์ชั่นไหนดีกว่า เราคงไม่อาจตอบได้ค่ะ เพราะส่วนตัวเรา เราชอบทั้ง 2 เรื่องเลย ประทับใจทั้งสองเรื่อง ไม่รู้จะหาข้อติตรงไหนนอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น แต่ก็เห็นหลายๆความคิดเห็นกล่าวว่าเรื่องที่สองสองไม่โอเคเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะการเรียงลำดับเวลาที่ไม่เป็นระเบียบ เข้าใจยาก และการเน้นฉากบางฉากจนน่าเบื่อ
สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูและไม่รู้ว่าควรจะดูอันไหน เราแนะนำเวอร์ชั่นแรกก่อนนะคะ ดูง่ายกว่า 2 แน่นอน เพราะกล่าวถึงบุคคลต่างๆครบถ้วน เรียงลำดับเข้าใจง่าย แต่ถ้าพูดถึงการนำเสนอของหนัง เราขอแนะนำว่า ถ้าอยากเสพชีวิตท่านอีฟแบบเน้นๆ ก็ดูอันแรก แต่ถ้าอยากเอาความรู้สึกล้วนๆแบบอินเนอร์มาเต็ม ก็ดู 2 .... อันแรก ผู้ชมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับท่านอีฟเลย ก็ดูได้ รู้เรื่อง แต่เวอร์ชั่นสอง ดูไปอาจจะงงๆเอ๊ะใครเป็นใครมาไง ไม่ได้เล่าไว้ จู่ๆโผล่มาเลย 5555 แต่ได้ฟาดความมันส์ในอารมณ์แบบเต็มๆค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะ ยาวเกินไปมั้ยเอ่ย มีใครอ่านจบบ้าง 55555 มีคำถามข้อสงสัยหรือติชมได้เลยนะคะ ผิดพลาดตรงไหนบอกเราได้เลยค่ะ เราจะปรับปรุงเผื่อได้มีโอกาสรีวิวอีกเป็นครั้งต่อไป
ขอบคุณมากๆค่า