ถ้าแกเลิกกับแฟน ฉันจะจีบแก [ความรัก ทางเลือก และตุ๊ด]

ใจจริงอยากจะตั้งชื่อกระทู้ว่า ความรักของตุ๊ดกับชายแท้ แต่คิดว่าจะต้องดราม่าแน่ๆ
เพราะส่วนตัวคิดว่าตัวเองก็ไม่เชื่อเรื่องชายแท้ จะมาอะไรกับตุ๊ดได้ เห็นกระทู้แบบเดียวกันของคนอื่นๆคิดว่าจะต้องเป็นเรื่องแต่ง เรื่องมโนจากกระเทยบอร์ดปาล์ม จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์กับตัวเองค่ะ

ก่อนอื่น ก็คงต้องพูดเหมือนคนอื่นๆมั้ง ว่านี่เป็นเรื่องจริง แต่ส่วนตัวเราคิดว่า ของเราจริงกว่ากระทู้เหล่านั้น เราคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหา เพราะเรามีทางออกให้กับตัวเองแล้ว แต่มันก็เหมือนความอึดอัดทางความรู้สึก ที่เราอยากจะระบาย และคิดว่าที่นี่ ก็น่าจะระบายได้

เราสมมติว่าเราชื่อ "พ" ละกัน เราเป็นตุ๊ดค่ะ แต่....เราเป็นตุ๊ดที่ค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่น แม้แต่หมู่กระเทย หรือตุ๊ดด้วยกัน ก็มักจะไม่ค่อยเข้ากันมากนัก เราไม่ค่อยวี๊ดว้าย เราไม่คำหยาบทุกสี่นาที นานๆทีแต่งหญิง ซึ่งรูปร่างเราก็ค่อนไปทางผู้หญิงประมาณนึงค่ะ คือผอม ตัวเล็ก และผมยาว และด้วยความที่มันเป็นอย่างนั้น แค่เราแต่งหน้า หรือแต่งตัวแบบนิดเดียว ก็เหมือนผู้หญิงได้เลย (เรายังไม่ได้แปลงเพศ และไม่คิดจะแปลง ถ้าตีความกลับว่าเราเป็นเกย์แมนๆที่ออกสาวบางทีก็คงได้) และด้วยลักษณะแบบนี้ เรายังมีกิจกรรมแบบผู้ชายทั่วไปอยู่ เราเล่นดอทเอ ทั้งหนึ่งและสอง เราบ้าเกมส์ เราเล่นกีตาร์ เราไม่ค่อยมีความจุกจิก เราลุยกิจกรรมแมนๆได้ทุกอย่าง และทำมาก่อนแล้ว เราเรียน รด. เราชอบยิงปืน เราเองมีความขัดแย้งในตัวเอง ก็สูงอยู่

เรื่องราวมันเริ่มต้นตรงที่ เราเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า ที่เป็นผู้ชายมาก่อน และยังเป็นผู้ชายอยู่ เราคบกับพี่คนนี้มา 5 ปีตลอดเวลาสมัยเรียนมหาลัย แต่ก็ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง เราก็เลิกรากับเค้าไป แต่..... เราสามารถค่ะ เราเคลียร์กับเค้าจนจบแบบดี คือ เรายังมองหน้ากันติด เราคุยกันได้เหมือนเดิม และเรายังอยู่คอนโดด้วยกันเหมือนเดิม (แชร์ค่าห้องกัน) แฟนเก่าเราไปมีแฟนใหม่เป็นผู้หญิง คบได้แปปเดียวก็เลิก ซึ่งเราก็ไม่ได้อะไร แต่พี่คนนี้เค้ายืนยันสิ่งๆหนึ่งกับเราอยู่อย่างว่า

ชายแท้อย่างเค้า ก็เคยคบเราเป็นแฟน....

เค้ารักเรามาก เค้าทำทุกอย่างเพื่อเรา แต่พี่เค้าอ่อนไหวไปหน่อย คือ เราอยู่กับผู้ชายที่อ่อนไหวมากๆแล้วอึดอัด (เราได้กันแล้ว และมันบ่อยเกินไป นั่นเป็นอีกสาเหตุที่เราทนไม่ได้) เราไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง แต่คือเค้าอ่อนไหวไป เค้าฟูมฟาย เราไม่อยากได้แบบนั้น....และเราเป็นฝ่ายขอเค้าเลิก เราเสียใจ แต่เราก็เลือกแล้ว เราเสียได้ไม่นาน เพราะมันเหมือนทนอึดอัดมานาน ทุกอย่างก็เข้าที่ เราโอเคขึ้น เค้าก็ไปมีคนใหม่ เป็นผู้หญิง เราก็ไม่ได้อะไร ก็ดีแล้ว คือไม่ยุ่ง ไม่อะไรเลย แล้วเราอยู่ด้วยกันได้อย่างคนรู้ใจ เป็นรูมเมทที่น่ารักกันคนนึง

แต่เรื่องของเรามันไม่ใช่กับแฟนเก่าค่ะ มันกับคนใหม่ เราสมมติว่าเค้าชื่อ "ว" แล้วกัน คือ ว. เนี่ย เป็นรุ่นน้องเรา เราเจอเค้าครั้งแรกเลย ตอนเข้าเป็นเด็กม.5 มาเข้าค่ายที่มหาลัย แต่มารู้จักและสนิทกันจริงๆ ก็ตอนที่น้องเข้าได้โควต้ามาเข้ามหาลัยเจ้าค่ายนั้น น้องเค้าเข้าปีหนึ่งแต่เรา จบปี 5 พอดี ก็เลยมีเวลาอยู่ด้วยกันช่วงสั้นๆ ตอนน้องเค้ามาเป็นพี่เลี้ยงค่าย เหมือนที่เราเคยเป็นพี่เลี้ยงน้องเค้า ณ เวลานั้น น้องเค้าเป็นผู้ชายแบบ คมเข้ม เป็นเด็กต่างจังหวัด เขาเข้มจริงๆ (เกือบจะดำได้ละ) เป็นนักบาส ชอบตีกลองสัน เป็นคนกวนตีน ตลก เล่นมุขใต้สะดือบ้าง คือชายแท้เลย แท้แบบ แท๊แท้ ... แล้วเราสนิทกับน้องเค้าได้ไง ก็คือ ดอทเอ เราตีดอท น้องเค้าก็ตีดอท มันเริ่มจากเรื่องง่ายๆนี่แหละ แล้วเราสนิทกัน

ณ เวลานั้น น้องเค้ามีแฟนแล้ว เราก็แค่ปลื้ม แล้วก็มโนตามประสาตุ๊ดว่า ถ้าได้คนที่ตรงข้ามกับคนเก่าแบบนี้ ก็น่าจะดีเหมือนกัน มีอยู่คืนนึงในค่ายที่น้องเค้าเป็นพี่เลี้ยง เราคุยแบบเปิดใจ คุยเรื่องส่วนตัว ส่วนตัวมากๆ แล้วก็ปลื้มน้องเค้าจริงๆ แล้วเราก็ลั่นวาจาไปว่า "ถ้าน้องเค้าเลิกกับแฟน เราจะจีบเค้า" ซึ่งเรารักษาคำพูดนั้นจริงๆ ก็ผู้ชายเค้ามีแฟนแล้ว เราจะไม่เป็นตุ๊ดที่เป็นมือที่สามเด็ดขาด ก็เลยไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้อะไร ค่ายจบ น้องก็กลับบ้านไป รอเปิดเทอมใหม่ ซึ่งเราก็เรียนจบแล้วพอดี ก็คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว

แต่คืนหนึ่ง น้องเค้าก็ทักเฟสเรามา แล้วกชวนเราพูดอะไรแปลกๆ คือน้องเค้าเป็นคนเงียบๆ กวนๆ อยู่ดีดีมาชวนคุยเรื่องฟ้าฝน เรื่องเพลงรัก คือตุ๊ดว่ามันไม่ใช่ ก็เลยเหมือนจับเซนส์อะไรบางอย่างได้ ก็เลยถาน้องเค้าไปว่า "เลิกกับแฟนแล้วใช่มั้ย" แล้วเค้าก็ตอบว่า "อืม แล้วเรารู้ได้ไง" คือแหม เราว่าตุ๊ด และชะนี หลายคน มีเซนส์เรื่องนี้นะ คือผู้ชาย อ่านไม่ยากนะ ก็คือสรุปว่าเค้าเลิกกับแฟน ทีนี้มันก็ถามเราว่า "แล้วเราจะจีบเค้า หรือจีบเพื่อนมัน" คือตอนนั้น มันมีอีกคนนึงค่ะ เป็นเพื่อนมัน หล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกก ขาวตี๋ น่ารัก ทุกวันนี้ก็ยังน่ากินอยู่ แต่ตอนนั้น ก็เพราะมันมีแฟนอยู่แล้ว เราก็มองเรื่อยไป จีบเรื่อยไป แต่พอมันมาถาม เราก็เหมือนกับโดนดึงกลับไปยังคำพูดที่เราพูดไว้ "ถ้าน้องเค้าเลิกกับแฟน เราจะจีบเค้า" เราก็เลยถามมันว่า "ถามทำไม" มันก็หลบเลี่ยงโน่นนี่ จนเรารู้สึกว่า เราอยากเริ่มต้นใหม่ กับอะไรใหม่ๆ แล้วมันเป็นไปได้ไม่ใช่หรือ "ที่ชายแท้ จะมีแฟนเป็นตุ๊ดอย่างเรา" คือมันเกิดกับเรามาแล้ว ครั้งนี้คงไม่ต่างกัน เราก็เลยตอบมันไปว่า "ใช่ เราจะจีบมัน"

และนั่น ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสองปีที่ทำให้เราเรียนรู้อะไรมาอีกมากมายเลย....

[ปีแรก - ปีศาจ หุ่นยนต์ กับตุ๊ดงี่เง่า]

มันกลับมาเปิดเทอมเรียน ในขณะที่เราเข้าทำงานต่อที่มหาลัยเดิม นั้นหมายความว่า เรายังอยู่คอนโดติดกับม.เหมือนเดิม และไป ม. ทุกวัน เด็กปีหนึ่ง กับพี่บัณฑิตที่เป็นตุ๊ด อายุเราต่างกันประมาณ 5 ปี มันเป็นเด็ก เด็กมากจริงๆ แล้วเราก็จีบมันค่ะ เราไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย เราไปหามันที่หอ ที่อยู่ละโยชน์กับหอเรา "ทุกวัน" หอมันอยู่หน้าม. คอนโดเราอยู่หลังม. เราซื้อข้าว ซื้อขนมไปให้มัน ทำตัวเป็นตุ๊ดเปผู้ชายอย่างเต็มที่ และมันก็ไม่ได้แสดงท่าทีอึดอัด หรือต่อต้าน เพราะเราก็ดันชัดเจนกับมันไปแล้ว ว่าเราจะจีบมัน ตลอดหนึ่งปี เราขอย่อยเป็นเรื่องๆว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เป็นที่จดจำไม่ยอมลืม เพราะถ้าเล่าละเอียด ยิ้มจะยาว

เรื่อง ห้องผม ผมอึดอัด
เรื่องนี้ ตีเป็นความผิดเราได้เลยค่ะ เราไปนอนห้องเค้าแบบ Non-Stop คือติดๆกันเป็นเดือนๆ จนทำให้รูมเมทเค้าอึดอัด ซึ่งมันเองก็มาพูดกับเราตรงๆ ว่ามันเริ่มอึดอัด เราเห็นดังนั้น ก็ต้องปรับตัวสิคะ ลดความร่านลง ไปหาเค้าน้อยลง แต่ขนม การติวหนังสือ พาไปซื้อของ พาไปที่นั่นที่นี่ในกรุงเทพ ยังเหมือนเดิม แต่ก็ยังแวะไปนอนบ้าง กันความห่าง อย่างน้อย เค้าต้องเห็นหน้าเราทุกวัน .... เรื่องนี้ ถือเป็นโหมดงี่เง่า ที่อยากจะกลับไปแก้ไขที่สุดตอนนั้น ตุ๊ดไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง

เรื่อง วันเกิดแฟนเก่า
แฟนเก่าของมันเกิดวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งอีกสองวันถัดมาจะเป็นวันเกิดเรา อะไรมันจะติดกันขนาดนี้ ซึ่งมันก็รู้......... คืองี้ กว่าจะมาถึงเหตุการณ์นี้ ก็ผ่านการเทียวไปหามาราวๆเกือบปี มีการปรับความเข้าใจ มีการพูดคุย เคลียร์นั่นนี่กันหลายครั้ง และเราก็รู้สึกว่า เรารู้จักเค้ามามากขึ้นกว่าเดิม แต่.....เรื่องแฟนเก่า เค้ายังคงติดต่อกับแฟนเก่า นางเป็นชะนีที่แปลกค่ะ นางให้ ว. เป็นเสมือนคนพิเศษของนาง ในขณะที่นางมีแฟนใหม่ไปแล้ว นางก็ยังโทรมาหาว. เหมือนแบบ เวลามีปัญหาอะไรกับแฟน ก็โทรมาร่ำไรกับแฟนเก่าไรงี้ มีการสั่งให้ ว. โทรหา โทรปลุก (สิ่งนี้ไม่ได้มโน ข้อมูลมาจากการสอบถามและพูดคุยจากเจ้าตัวเอง) สำหรับเรา เราว่านางทำแบบนี้ไม่ถูก ตำแหน่ง "แฟนเก่า" ไม่มีจริง มีแค่เพื่อน เรากับพี่คนก่อน ก็ไม่จำเป็นจำต้องมาโทรหากันทุกค่ำเช้า เราบอกมันไปตรงๆเลยว่าเราไม่ชอบ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่เราทำตัวเป็นเจ้าเข้าเข้าของเค้า ซึ่งเรารู้ว่ามันไม่ดี แต่เค้า ก็ไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งมาถึงวันเกิด เราพูดตรงๆเลยว่าเรามโน ว่าอยากได้ยินคำอวยพรวันเกิดจากเค้า แค่คำสั้นว่า "แฮปปี้เบิร์ดเดย์" มันก็มีค่าสำหรับเราแล้ว แต่...เค้าไม่ทำ เค้าไม่พูด เค้ากลับโทรไปอวยพรวันเกิดแฟนเก่า ย้อนหลังไปสองวัน ซึ่งเท่ากับว่า เขาอวยพรวันเกิดแฟนเก่า ในวันเกิดเรา ยิ่งไปกว่านั้น เรานั่งอยู่ข้างเขาตลอดเวลาจนเช้า เพื่อรอเพียงคำสั้นๆคำเดียว ซึ่งไม่ได้หลุดออกจากปากมาเลย

จากเรื่องนี้ ทำให้เรารู้เลยว่า เค้าไ่ได้ใส่ใจความรู้สึกเราเลย ทั้งๆที่เราดูแลเค้ามาทุกๆอย่าง และเค้าก็รู้อยู่เต็มอกว่าวันนี้วันเกิดเรา เค้าไม่จำเป็นต้องพุดอวยพรในแบบพิเศษ ถ้าเค้าจะ Judge เราเป็นแค่รุ่นพี่คนหนึ่ง เค้าสามารถหันมาบอกเรา แล้วพูดแบบปกติได้ ซึ่งเค้าไม่ทำ เราเริ่มสงสัยว่าเค้าเป็นคนที่ด้านชาด้านความรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ หรือเป็นปีศาจที่ไม่แคร์ความรู้สึกใครนอกจากตัวเองกันแน่...... วันนั้นเราเสียใจมาก และเป็นการตั้งคำถามครั้งแรกว่า "หรือคนนี้ จะไม่ใช่สำหรับเรา"


เรื่อง เพื่อนผู้เปลี่ยนความคิด
หลังจากวันเกิด มีเหตุการณ์เคลียร์กันยกใหญ่ แล้วมันยืนยันกับเราว่า “ผมไม่คบพี่คับ” ซึ่งนั่นทำให้ตุ๊ดเจ็บมากกกกกกกกก
แต่ตุ๊ดมีรุ่นน้องอยู่คนหนึ่งค่ะ เค้าเป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาตุ๊ดเรื่อง ว. อยู่เสมอ เค้าเป็นไบ และก็เป็นผู้ชายระดับนึงเลย เค้าเป็นช่างภาพอิสระ มีระบบความคิดที่นอกกรอบ เค้าไม่ Eject ความคิดของตุ๊ดเรื่องว. และคอยให้คำแนะนำตุ๊ดอยู่เสมอ เค้าเป็นคนสอนให้ตุ๊ดเชื่อในคำว่า "เป็นไปได้" ซึ่งตัวเองมีพื้นฐานเรื่องนี้อยู่แล้ว ทำให้เรื่องร้ายๆเรื่องการไม่ใส่ใจในความรู้สึกของ ว. ไม่สามารถทำร้ายตุ๊ดได้อีก อาจจะมีบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่นั่นก็เป็นการทดสอบให้ตุ๊ดเข้มแข็งขึ้น แล้วเริ่มมอง ว. ใหม่ บางทีมันอาจจะเป็นเด็กผู้ชายที่เป็นของมันแบบนี้ เพราะมันก็สมเหตุผลกับที่แฟนเก่ามันเลิกไป เพราะสาเหตุเดียวกัน "ว. ไม่แสดงออกทางความรู้สึก" ซึ่งตุ๊ดรู้ว่าชะนีสมัยนี้ เยอะขนาดไหน เรื่องการต้องการแสดงความรักจากผู้ชาย ตุ๊ดเรียนรู้จากรุ่นน้องที่กลายเป็นเพื่อนตุ๊ดคนนี้ว่า

"เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใคร เราต่างหากจะยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็นได้มากแค่ไหน
และเจ๊ (เค้าเรียกเราเจ๊) จะรักเค้าได้จริงๆ และชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองอยู่มั้ย"

นั่นคือสิ่งที่ตุ๊ดหันมามองตัวเอง ตุ๊ดมอง ว. ในแบบที่คนอื่นๆมองหรือเปล่า ถ้าเราจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเค้าล่ะ จะเป็นไปได้มั้ย ตุ๊ดจะให้คำพูดว่า "ถ้าแกเลิกกับแฟน ฉันจะจีบแก" เป็นแค่คำพูดลอยๆแล้วผ่านไปหรือเปล่า ไม่ค่ะ ตุ๊ดไม่ทำ ตุ๊ดเลือกแล้ว ตุ๊ดจะรักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง

ตุ๊ดบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรกับทุกๆอย่างที่เค้าทำ และให้โอกาสมันใหม่ ปีนี้มันไม่ได้อวยพรไม่เป็นไร ปีหน้าก็ได้ ไม่เป็นไรค่ะ (เสียงน้องแม็ค)

“คำว่า “ไม่” มันมีผลแค่เพียงวันนี้ วันพรุ่งนี้ คำว่า “ไม่” จะมีค่าลดลง”

เราเชื่อในคำนี้ เราก็เลยขอเดินต่อ เราไม่ได้รอ ว. แต่เราขอเป็นแฟนว. ตั้งแต่ตอนนี้เลย เราจะทำหน้าที่นั้นเลยโดที่ ว. ไม่ต้องขอ

เพื่อนรุ่นน้องคนนี้ ยังคงอยู่ข้างตุ๊ดจนถึงปัญหาในปัจจุบันค่ะ

เรื่อง ครอบครัว ว.
ก่อนถึงปีใหม่ ตุ๊ดยังคงวนเวียน รักษาความสัมพันธ์ (ที่คงเป็นเราฝ่ายเดียว) กับ ว. ไปเรื่อยๆ เราเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเค้า เค้าไม่ชอบคนจุกจิกจู้จี้ เค้าไม่ชอบให้ใครมาโทรตามตลอดเวลา เค้าชอบไปเล่นบาสกับเพื่อน และไม่มีโมเมนต์ชอบให้ชะนีหรือใครมานั่งเฝ้าข้างสนามบาสด้วย ตุ๊ดเรียนรู้สิ่งที่ขึ้นต้นว่า "ไม่" ของเค้า รวมถึงข้อจำกัดต่างๆ และหาวิธีอยู่กับมันให้ได้ และก็เป็นไปอย่างโอเค ตุ๊ดค่อยๆปรับตัวเอง ไม่งี่เง่า ไม่ตามเทียวอย่างเมื่อก่อน แต่ก็ยังหาวิธีดูแลเค้าได้เหมือนเดิม จนถึงช่วงปีใหม่ เรามีโปรแกรมไปเที่ยวที่บ้านของเค้า จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนรุ่นน้องที่ตุ๊ดเล่าให้ฟังก็ไปด้วย ทุกอย่างดูเหมือนเรียบง่าย แต่สำหรับตุ๊ด ตุ๊ดคิดไกลไปกว่านั้นมาก

เรากำลังไปเจอพ่อแม่เค้า

[ตัวอักษรเกินแล้วง่ะ ต่อข้างล่างนะ]
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่