สวัสดีครับ สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/32923977 วันนี้มีโอกาสได้ทดลองขี่บนถนนจริง เลยขออณุญาติรีวิวให้ชมแบบสั้นๆ มือใหม่หัดรีวิวผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ ปล ผมไม่ใช่เซลล์ และ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆทั้งสิ้นกับบริษัท แค่อยากรีวิวนวัตกรรมดีๆที่เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับประเทศไทยบวกกับเป็นความชอบส่วนบุคคลมานานแล้ว เริ่มกันเลยครับ
- Zero Motorcycles เป็นรถจักรยายนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า100เปอร์เช็นต์ นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ไทยยานต์ยนต์ (มีโชว์รูมและศูนย์บริการอยู่ใกล้ๆ VW วิภาวดี ติดกับ BMW และ Ducati )
- ตัวผลิตภัณฑ์ คิดค้น ทดสอบ ผลิต ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจำหน่ายมีให้เลือก 4 รุ่น 4 สไตล์ แบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้ครับ
Zero DS เป็นรถสไตล์ Dual Sport แฮนด์กว้าง ตำแหน่งนั่งหลังตรง บังโคลนสูง ลุยทางฝุ่นได้บ้าง
Zero S เป็นรถสไตล์ Sport แฮนด์แคบลง ลักษณะท่านั่งต้องก้มตัวลงมากกว่ารุ่น DS
Zero SR คล้ายรุ่น S แต่จะให้อัตราเร่ง ความเร็ว แรงบิด แรงม้า มากที่สุด แรงสุด
Zero FX เป็นรถสไตล์ Enduro แฮนด์กว้าง เบาะนั่งสูง แรงบิดสูง ช่วงล่างรับแรงสะเทือนได้ดี
- รูปภาพของแต่รุ่น
รุ่นDS
รุ่น S
รุ่น SR
รุ่น FX
- ราคาจำหน่าย
690,000 บาท สำหรับรุ่น DS และ S
630,000 บาท สำหรับรุ่น FX
870,000 บาท สำหรับรุ่น SR
สอบถามจากผู้จำหน่าย โดนภาษีนำเข้า 100เปอร์เช็นต์ครับ รวมค่าขนส่ง ค่าmargin ฯลฯ จึงทำให้ราคาสูงมาก ปล ซึ่งราคาจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาก็ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
อ้างอิงจากราคาหน้าเวปไซต์ Zero Motorcycles
- สเปคของแต่ละรุ่น
จากโบรชัวร์ของทางบริษัทครับ
อันนี้จากเวปไซต์ของผู้ผลิตครับผม
http://www.zeromotorcycles.com/zero-s/specs.php รุ่น S และ SR
http://www.zeromotorcycles.com/zero-ds/specs.php รุ่น DS
http://www.zeromotorcycles.com/zero-fx/specs.php รุ่น FX
- การปรับโหมดการขับขี่
ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้3แบบครับ คือ eco sport custom
โดยโหมด custom ตัวรถสามารถปรับแต่งparameterตามการใช้งานได้โดยผ่าน application บน smartphone ผ่าน bluetooth ครับผม
- การจดทะเบียน
จดทะเบียนได้ครับ
- สำหรับใครที่สนใจจะทดลอขี่ สามารถทดลองได้ทุกรุ่นที่โชว์รูมZeroวิภาวดีรังสิตได้เลยครับผม แต่งตัวรัดกุม+เตรียมใบขับขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยนะครับ สามารถทดลองขี่ออกถนนใหญ้เหมือนการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันกันได้เลยครับ ส่วนตัวผมเลือกทดลองขี่รุ่น FX และ รุ่น S ซึ่งเป็นทรง เอนดูโร่ และ สปอร์ท โดยส่วนตัวประทับใจ รุ่น FX มากกว่าครับ
รุ่น FX ตัวรถจะเป็นทรง Enduro ตัวรถค่อนข้างสูง ให้แรงบิดดีมาก ระบบเบรคและช่วงล่างทำได้ดีเอาอยู่แน่นอน มีระบบABSมาให้สำหรับmodel 2015 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100km/h ภายใน4วินาที หลังจากได้ลองบนถนนจริงๆ พุ่งมากๆครับ ให้กำลังแรงบิดที่มาตั้งแต่ 0รอบบิดปุ๊บมาปั๊ป หน้าแทบยกเลยครับ มือใหม่ๆถ้าไปลองคุมรถไม่เก่งอาจจะกระเด็นหลุดจากแฮนด์ได้ระวังด้วยครับ
ใต้เบาะนั่งจะบรรจุแบตเตอรี่ได้สองโมดูล สามารถถอดแต่ละโมดูลได้ แต่จะมีผลให้ กำลังม้า แรงบิด ระยะทางที่วิ่งได้ ลดลงไปครับ
ตัวรถค่อนข้างสูงนะครับ จขกท สูง180cm ยังต้องเขย่งประมาณนี้อะครับ คันนี้ลุยน้ำได้ 1เมตรสบายๆครับ มอเตอร์ซีลมาอย่างดี
คุมง่าย ให้อัตราเร่งที่ดีมาๆครับ ขี่ช้าก็ไม่หงุดหงิด ขี่เร็วก็โคตรทันใจ
เรือนไมล์บอกความเร็วเป็นดิจิตอล และค่าต่างๆ เช่น ระดับพลังงาน โหมดต่างๆ อุณหภูมิ เวลา trip odometer
มอเตอร์เป็นแบบ DC ไร้แปลงถ่าน ระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อมระบบ regenerative braking ชาร์จไฟกลับเข้าแบตขณะลดความเร็ว หมดห่วงว่ารถไฟฟ้าจะไม่มีengine brake ผมลองแล้วก็รุ้สึกโอเคเลยครับ ถอนคันเร่งก็มีแรงหน่วงใช้ได้เลย ไม่มากไม่น้อยไป กำลังดี
สายไฟสำหรับชาร์จครับ ตัวอแดปเตอร์จะอยู่ในรถครับ ไปไหนมาไหน พกสายไปเส้นเดียวพอ สามารถเสียบกับ outlet 110 หรือ 220 VAC ได้สบายๆครับ
จุดชาร์จจะอยู่ใต้เบาะด้านข้างซ้ายของตัวรถครับ แค่เอาสายไฟที่ให้มา เสียบกับoutletที่บ้าน อีกข้างหนึ่งเสียบกับตัวรถ แค่นี้ก็ชาร์จได้ละครับ
ฝาปิดกันน้ำกันฝุ่นช่องชาร์จที่ติดกับตัวรถ
เปิดมาหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
ไฟสถานะการชาร์จสีเขียวขึ้นโชว์ แสดงการชาร์จ
รุ่น FX และ รุ่น DS ครับผม
รุ่นS
รุ่นS
รุ่นDS
รุ่นDS
สรุป #1
ข้อดี
1 ให้อัตราเร่งดีมากๆ มอเตอร์สามารถสร้างแรงบิดได้เต็มที่ตั้งแต่ออกตัวไม่มีรอรอบ
2 ไม่มีชุดเกียร์ ชุดคลัทช์ ส่งกำลังจากมอเตอร์ผ่านสายพานสู่ล้อเลย การศูนย์เสียประสิทธิภาพจึงน้อยกว่า
3 ไม่ปล่อยมลพิษ ทั้งทางเสียง และ อากาศ
4 ไม่ต้องการการบำรุงรักษาใดๆตลอดอายุการใช้งาน สิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนและดูแลมีแค่สายพาน ผ้าเบรก ยาง ล้อ แบตเตอรรี่(ตามอายุการใช้งาน)
ข้อเสีย
1 ราคาที่ค่อนข้างสูง
2 ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จจากเทคโนโลยีแบตเตอรรี่ ณ ปัจจุบัน ถือว่ายังไม่ตอบโจทย์คนไทย
3 ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จ
4 เสียงเงียบ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง
ภาพรวม
- เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจมากๆ เทคโนโลยีๆต่างถูกคิดค้นและวิจัยมาอย่างดี
- ขี่แล้วมีแต่คนมองครับ เอ๊ะรถอะไรแปลกดี จอดติดไฟแดงมีคนถามแน่นอน และ ออกตัวแบบไม่มีใครตามทันแม้แต่bigbikeบางรุ่น
- การคอนโทรลรถ น้ำหนัก บาลานซต่างๆ ไม่ต่างอะไรกับbigbike มั่นใจเชื่อถือได้
คร่าวๆประมาณนี้ครับ เดี่ยวมาเขียนต่อ ขอบคุณสำหรับการรับชมครับ ภาค1ครับผม
[CR] ทดลองขี่ Zero Motorcycles มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงจากUSA (ภาค1)
- Zero Motorcycles เป็นรถจักรยายนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า100เปอร์เช็นต์ นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ไทยยานต์ยนต์ (มีโชว์รูมและศูนย์บริการอยู่ใกล้ๆ VW วิภาวดี ติดกับ BMW และ Ducati )
- ตัวผลิตภัณฑ์ คิดค้น ทดสอบ ผลิต ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจำหน่ายมีให้เลือก 4 รุ่น 4 สไตล์ แบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้ครับ
Zero DS เป็นรถสไตล์ Dual Sport แฮนด์กว้าง ตำแหน่งนั่งหลังตรง บังโคลนสูง ลุยทางฝุ่นได้บ้าง
Zero S เป็นรถสไตล์ Sport แฮนด์แคบลง ลักษณะท่านั่งต้องก้มตัวลงมากกว่ารุ่น DS
Zero SR คล้ายรุ่น S แต่จะให้อัตราเร่ง ความเร็ว แรงบิด แรงม้า มากที่สุด แรงสุด
Zero FX เป็นรถสไตล์ Enduro แฮนด์กว้าง เบาะนั่งสูง แรงบิดสูง ช่วงล่างรับแรงสะเทือนได้ดี
- รูปภาพของแต่รุ่น
รุ่นDS
รุ่น S
รุ่น SR
รุ่น FX
- ราคาจำหน่าย
690,000 บาท สำหรับรุ่น DS และ S
630,000 บาท สำหรับรุ่น FX
870,000 บาท สำหรับรุ่น SR
สอบถามจากผู้จำหน่าย โดนภาษีนำเข้า 100เปอร์เช็นต์ครับ รวมค่าขนส่ง ค่าmargin ฯลฯ จึงทำให้ราคาสูงมาก ปล ซึ่งราคาจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาก็ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
อ้างอิงจากราคาหน้าเวปไซต์ Zero Motorcycles
- สเปคของแต่ละรุ่น
จากโบรชัวร์ของทางบริษัทครับ
อันนี้จากเวปไซต์ของผู้ผลิตครับผม
http://www.zeromotorcycles.com/zero-s/specs.php รุ่น S และ SR
http://www.zeromotorcycles.com/zero-ds/specs.php รุ่น DS
http://www.zeromotorcycles.com/zero-fx/specs.php รุ่น FX
- การปรับโหมดการขับขี่
ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้3แบบครับ คือ eco sport custom
โดยโหมด custom ตัวรถสามารถปรับแต่งparameterตามการใช้งานได้โดยผ่าน application บน smartphone ผ่าน bluetooth ครับผม
- การจดทะเบียน
จดทะเบียนได้ครับ
- สำหรับใครที่สนใจจะทดลอขี่ สามารถทดลองได้ทุกรุ่นที่โชว์รูมZeroวิภาวดีรังสิตได้เลยครับผม แต่งตัวรัดกุม+เตรียมใบขับขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยนะครับ สามารถทดลองขี่ออกถนนใหญ้เหมือนการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันกันได้เลยครับ ส่วนตัวผมเลือกทดลองขี่รุ่น FX และ รุ่น S ซึ่งเป็นทรง เอนดูโร่ และ สปอร์ท โดยส่วนตัวประทับใจ รุ่น FX มากกว่าครับ
รุ่น FX ตัวรถจะเป็นทรง Enduro ตัวรถค่อนข้างสูง ให้แรงบิดดีมาก ระบบเบรคและช่วงล่างทำได้ดีเอาอยู่แน่นอน มีระบบABSมาให้สำหรับmodel 2015 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100km/h ภายใน4วินาที หลังจากได้ลองบนถนนจริงๆ พุ่งมากๆครับ ให้กำลังแรงบิดที่มาตั้งแต่ 0รอบบิดปุ๊บมาปั๊ป หน้าแทบยกเลยครับ มือใหม่ๆถ้าไปลองคุมรถไม่เก่งอาจจะกระเด็นหลุดจากแฮนด์ได้ระวังด้วยครับ
ใต้เบาะนั่งจะบรรจุแบตเตอรี่ได้สองโมดูล สามารถถอดแต่ละโมดูลได้ แต่จะมีผลให้ กำลังม้า แรงบิด ระยะทางที่วิ่งได้ ลดลงไปครับ
ตัวรถค่อนข้างสูงนะครับ จขกท สูง180cm ยังต้องเขย่งประมาณนี้อะครับ คันนี้ลุยน้ำได้ 1เมตรสบายๆครับ มอเตอร์ซีลมาอย่างดี
คุมง่าย ให้อัตราเร่งที่ดีมาๆครับ ขี่ช้าก็ไม่หงุดหงิด ขี่เร็วก็โคตรทันใจ
เรือนไมล์บอกความเร็วเป็นดิจิตอล และค่าต่างๆ เช่น ระดับพลังงาน โหมดต่างๆ อุณหภูมิ เวลา trip odometer
มอเตอร์เป็นแบบ DC ไร้แปลงถ่าน ระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อมระบบ regenerative braking ชาร์จไฟกลับเข้าแบตขณะลดความเร็ว หมดห่วงว่ารถไฟฟ้าจะไม่มีengine brake ผมลองแล้วก็รุ้สึกโอเคเลยครับ ถอนคันเร่งก็มีแรงหน่วงใช้ได้เลย ไม่มากไม่น้อยไป กำลังดี
สายไฟสำหรับชาร์จครับ ตัวอแดปเตอร์จะอยู่ในรถครับ ไปไหนมาไหน พกสายไปเส้นเดียวพอ สามารถเสียบกับ outlet 110 หรือ 220 VAC ได้สบายๆครับ
จุดชาร์จจะอยู่ใต้เบาะด้านข้างซ้ายของตัวรถครับ แค่เอาสายไฟที่ให้มา เสียบกับoutletที่บ้าน อีกข้างหนึ่งเสียบกับตัวรถ แค่นี้ก็ชาร์จได้ละครับ
ฝาปิดกันน้ำกันฝุ่นช่องชาร์จที่ติดกับตัวรถ
เปิดมาหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
ไฟสถานะการชาร์จสีเขียวขึ้นโชว์ แสดงการชาร์จ
รุ่น FX และ รุ่น DS ครับผม
รุ่นS
รุ่นS
รุ่นDS
รุ่นDS
สรุป #1
ข้อดี
1 ให้อัตราเร่งดีมากๆ มอเตอร์สามารถสร้างแรงบิดได้เต็มที่ตั้งแต่ออกตัวไม่มีรอรอบ
2 ไม่มีชุดเกียร์ ชุดคลัทช์ ส่งกำลังจากมอเตอร์ผ่านสายพานสู่ล้อเลย การศูนย์เสียประสิทธิภาพจึงน้อยกว่า
3 ไม่ปล่อยมลพิษ ทั้งทางเสียง และ อากาศ
4 ไม่ต้องการการบำรุงรักษาใดๆตลอดอายุการใช้งาน สิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนและดูแลมีแค่สายพาน ผ้าเบรก ยาง ล้อ แบตเตอรรี่(ตามอายุการใช้งาน)
ข้อเสีย
1 ราคาที่ค่อนข้างสูง
2 ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จจากเทคโนโลยีแบตเตอรรี่ ณ ปัจจุบัน ถือว่ายังไม่ตอบโจทย์คนไทย
3 ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จ
4 เสียงเงียบ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง
ภาพรวม
- เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจมากๆ เทคโนโลยีๆต่างถูกคิดค้นและวิจัยมาอย่างดี
- ขี่แล้วมีแต่คนมองครับ เอ๊ะรถอะไรแปลกดี จอดติดไฟแดงมีคนถามแน่นอน และ ออกตัวแบบไม่มีใครตามทันแม้แต่bigbikeบางรุ่น
- การคอนโทรลรถ น้ำหนัก บาลานซต่างๆ ไม่ต่างอะไรกับbigbike มั่นใจเชื่อถือได้
คร่าวๆประมาณนี้ครับ เดี่ยวมาเขียนต่อ ขอบคุณสำหรับการรับชมครับ ภาค1ครับผม