สวัสดีค่า พี่เป็นรุ่นพี่เอกวรรณกรรมสำหรับเด็กรุ่นที่ 15 ค่า

ถ้าน้องชอบอะไรเกี่ยวกับเด็ก... น้องมาถูกทางค่ะ
ถ้าน้องชอบอ่าน ชอบหนังสือ... น้องมาถูกทางค่ะ
แต่ถ้าน้องคิดว่าเอกนี้เรียนสบาย... ฟังที่พี่จะเล่าต่อไปนี้ แล้วกลับไปทบทวนดูนะจ๊ะ

ถ้าถามว่าการแข่งขันเข้าเอกนี้สูงมั้ย... พี่บอกได้ว่าสูงค่ะ
เพราะปี ๆ นึงจะรับไม่เกิน 30 คนเท่านั้น โควต้าสอบตรง/แอดมิชชั่น เป็น 50/50 เลย
ในปีที่พี่สอบตรงติด ผู้เข้าสอบ 700 กว่าคน รับแค่ 15 คนค่ะ
เรื่องเตรียมตัวสอบตรง ไม่ยากเลยถ้า "วรรณกรรมสำหรับเด็กคือตัวน้อง"
ข้อสอบค่อนข้างครอบคลุมค่ะ ความรู้ทั่วไปด้านวรรณกรรมฯ (ไม่เฉพาะสำหรับเด็ก)
การแปล การแต่งเรื่อง การวาดภาพ การวิเคราะห์ และด้านภาษาอังกฤษ
(ข้อสอบแยกจากที่ มศว จัดสอบเองนะคะ เท่ากับว่าน้องต้องสอบภาษาอังกฤษ 2 ชุดค่ะ)
ถ้าถามเรื่องการเตรียมตัว... น้องไปอ่านหนังสือนิทาน วรรณกรรมสำหรับเด็กเยอะ ๆ ค่ะ
ไม่มีตำราเล่มไหนจะแนะนำน้องทั้งนั้น และที่สำคัญข้อสอบเป็น "ข้อเขียนล้วน ๆ" ค่า
น้องจะได้พบกับข้อสอบที่ไม่มีวันได้เจอที่ไหน เช่น "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าช้างขึ้น BTS"
หรือ "ถ้าหมาป่าจากเรื่องหนูน้อยหมวกแดงไปพบเจ้าหญิงนิทราอะไรจะเกิดขึ้น"
ถ้าน้องคิดว่าน้องเกิดมาเพื่อเอกนี้จริง ๆ น้องจะรู้สึกได้ทันทีที่ได้อ่านข้อสอบสอบตรงเลยค่ะ ^^

มาถึงเรื่องชีวิตในรั้ว มศว กันบ้างนะคะ
เอกวรรณกรรมสำหรับเด็ก เรียนทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และสื่อต่าง ๆ ค่ะ (วรรณกรรมคือสื่อทุกประเภทค่ะ)

1. เกี่ยวกับเด็ก น้องจะได้เรียน จิตวิทยาเด็ก เพื่อเรียนรู้พัฒนาการของเด็กในช่วงวัยต่าง ๆ
เพื่อผลิตและสื่อสารสื่อที่เหมาะสมกับเด็กในช่วงวัยที่ต่างกัน

2. เกี่ยวกับสื่อสำหรับเด็ก เราเรียนทุกแขนงค่ะ ไม่ว่าจะเป็น นิยาย นิทาน เรื่องสั้น สารคดี วารสาร อนิเมชั่น ละครวิทยุ ฯลฯ
น้องจะได้ผลิตทั้งหลายทั้งปวงที่พี่มามา "ด้วยตัวเอง" ค่ะ และที่เอกนี้ "มีงานกลุ่มน้อยมาก" (มีแค่อนิเมกับละครวิทยุที่งานกลุ่มค่ะ)
ตัวอย่างนะคะ เทอมนึง น้องจะต้องส่ง วารสาร 2 เล่ม นิทาน 1 เล่ม (แบบจัดหน้าเรียบร้อย พิมพ์เป็นเล่มชนิดที่วางขายได้)
รายงานวิเคราะห์วรรณกรรมหัวข้ออิสระ 1 เล่ม (วิชาสัมมนา) ... ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทำ "คนเดียว" ภายในระยะเวลา 3 เดือน ค่ะ
นี่ไม่ใช่เรื่องสมมุตนะคะ นี่คือเรื่องที่น้องจะได้เจอค่ะ ต้องแบ่งเวลาให้ดี ๆ เลย เรียนเอกนี้พลังชีวิตต้องมีมากมายมหาศาล
เอกเราสอบในตารางน้อยมากค่ะ เน้นงานส่งเพียว ๆ (คนเรียนคณะอื่นไม่เข้าใจหรอก ว่าการไม่มีสอบ ไม่ได้หมายความว่าสบายเลยนะ)

3. สายกิจกรรม นอกจากผลิตสื่อแล้ว ก็ต้องเรียนรู้การทำกิจกรรมกับเด็ก การจัดอีเวนท์ต่าง ๆ เช่นกัน
จะมีวิชา "เล่านิทาน" ที่ตอนสอบไฟนอลจะให้น้องไปเล่านิทานให้น้อง ๆ ตัวน้อยได้ฟังกันจริง ๆ
และได้มีบทบาทเป็นผู้จัดงานนิทรรศการด้วยตัวเองในงานแสดงสารนิพนธ์ซึ่งได้จัดที่ TK Park เป็นเวลา 3 วัน เลยค่ะ

4. สายแปล เป็นวิชาเลือกก็จริง แต่ว่าน้องก็ต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับอ่านได้และเขียนคล่องค่ะ
เพราะนอกจากวิชาแปลแล้ว น้องก็ต้องอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ อ่านบทความวิชาการ ที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่ดีค่ะ
และที่สำคัญ ถ้าจะรักการแปลและอยากแปลให้ได้ดีแล้ว ครูที่เอกจะสอนเสมอว่า "เราต้องเก่งภาษาไทยให้มากกว่าภาษาอื่น"
ไม่อย่างนั้นเราจะแปลออกมาได้ดีได้ยังไง จริงมั้ยคะ

5. สายวาด น้องไม่จำเป็นต้องวาดรูปสวยค่ะ ครูเราไม่ได้หวังให้วาดสวยเทพ อนาโตมี่แป๊ะ เหมือนสายวาดสาขาอื่น ๆ
แต่เราเน้นที่การสื่อสาร ความตั้งใจทำผลงาน และสไตล์ เป็นสำคัญค่ะ เราต้องมีความเป็นตัวของตัวเองในลายเส้นที่เราวาด
Simple is the best เพราะคนที่จะดูภาพวาดของเราคือเด็กค่ะ ไม่ใช่กรรมการตัดสินรางวัลประกวดภาพวาดที่ไหน
วิชาวาดการ์ตูน เป็นวิชาบังคับที่น้องจะได้เจอในปีแรก ๆ เลยค่ะ เน้นที่การออกแบบคาแรคเตอร์ ไอเดีย และสไตล์ค่ะ (เน้นมากคำนี้)
วาดไม่เป็น ไม่เคยวาด ไม่เป็นไร แค่อย่าท้อก็พอค่ะ ^^

6. สายบรรณาธิการ วิชาบรรณาธิการเป็นวิชาที่พี่ไม่เคยเรียนค่ะ เพราะเขาเพิ่งเปลี่ยนหลักสูตรกัน (เสียดายมาก)
เลยแนะนำไม่ได้มาก แต่ถ้าน้องอยากทำงานเกี่ยวข้องกับหนังสือ วิชานี้เป็นวิชาที่ "ต้องเรียน" ค่ะ ในประเทศไทยมี
ไม่กี่มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชานี้เป็นวิชาบังคับนะคะ น้องจะได้เรียนกับครูเราที่เป็นนักบรรณาธิการมือต้น ๆ ของไทยเลย (อวยซะหน่อย อิอิ)
เรื่องรายละเอียดพี่ไม่รู้จริง ๆ ค่ะว่าเขาเรียนยังไงบ้าง รอพี่รุ่นปัจจุบันมาตอบเนอะ

7. สายวิเคราะห์ น้องจะได้เรียนวิเคราะห์วรรณกรรมหลากหลายมากค่ะ แม้บางทีชื่อวิชาจะไม่ใช่ เช่น
วรรณกรรมคลาสสิค วรรณกรรมร่วมสมัย น้องจะได้ศึกษาประวัติพัฒนาการความเป็นมาเป็นไปของวรรณกรรมทั่วโลก
วิชาสายนี้เข้าทำนอง "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" นั่นล่ะค่า

จบไปทำงานอะไร?
คำถามยอดฮิตมาก ๆ สำหรับคนทั่วไปที่ไม่เข้าใจเอกเรา
ก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่า "พวกเราไม่ได้ทำได้แค่แต่งนิทาน" แต่เรา "ทำได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเด็ก"
น้องอย่าลืมนะคะว่า "เด็ก" คือสิ่งที่ไม่มีวันจะหายไปจากโลก แต่สาขาวิชาที่เปิดเพื่อเด็กจริง ๆ นั้นมีน้อยมาก
เพื่อนพี่สมัครเป็นแอร์โฮสเตสได้ เพราะได้ภาษีเหนือผู้สมัครอื่น ๆ เรื่อง "เด็ก" นี่ล่ะค่ะ
ส่วนพี่เคยเป็นครูสอนศิลปะ ทำงานด้านผลิตสื่อ และเป็นพิสูจน์อักษรฟรีแลนซ์อยู่ค่ะ
เพื่อน ๆ พี่ ๆ  คนอื่นส่วนมากก็จะอยู่ในแวดวงหนังสือ และสื่อต่าง ๆ นะคะ

ครบมั้ยหว่า... พี่คิดว่าพี่เก็บครบทุกประเด็นนะคะ รอคนอื่น ๆ มาเสริมแล้วกันค่ะ
หวังว่าคำตอบจะเป็นประโยชน์กับน้องไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้าต้องการคำปรึกษาก็ยินดีช่วยเสมอค่ะ
น้องคงสงสัยว่าทำไมมาตอบเอาป่านนี้กันเยอะแยะไปหมด พวกพี่เพิ่งเห็นกระทู้กันค่ะ ๕๕๕
เท่าที่พี่ทราบเอกวรรณกรรมสำหรับเด็กไม่มีเพจใน Facebook นะคะ แต่มีกรุ๊ปรวมรุ่นอยู่ค่ะ
พี่ก็ทราบข่าวกระทู้นี้จากในกรุ๊ป แต่ต้องสอบให้ติดก่อนนะถึงมีสิทธิ์เข้ากรุ๊ปนี้ อิอิ
ข่าวคราวอื่น ๆ ข้อสอบเก่า ๆ ตามอ่านที่เวป Dek-D ลิงค์นี้เลยค่ะ ตำนานมาก ๆ
http://writer.dek-d.com/Naikodlud_Maste/story/view.php?id=56550

อ้อ! อย่างนึง เรื่องการเขียนคำผิดในกระทู้ค่ะ
เรื่องเขียน มศว ผิดไม่อยากให้เป็นประเด็นนะคะ เพราะพี่ก็ทราบว่า มศว ไม่มีจุดตอนเข้าเรียนเหมือนกัน
แต่คำว่า "มนุษย์" มี ย. นะคะ พี่เข้าใจว่าหัวกระทู้แก้ไขไม่ได้แล้ว (ไม่เข้าใจพันธิปเลย)
ที่อยากย้ำคือให้ตรวจทานตัวสะกดก่อนค่ะ ถ้ากระทู้นี้เป็นงานส่งครูในเอก น้องจะโดนคัด 50 จบแน่นอนค่ะ
อ้อ! พี่ยังไม่ได้บอกว่า งานเขียนส่งครูส่วนมาก "เขียนด้วยลายมือ" จ้า
และอย่าคิดว่าคุณครูจะลืม เพราะครูเอกเราจำได้กระทั่งลายมือนิสิตค่ะ ๕๕๕

ขอส่งท้ายด้วยคำฝากจากรุ่นพี่คนนึงที่ไม่มี log in pantip ค่ะ

เราอาจวาดรูปไม่เก่งเท่าศิลปกรรมศาสตร์
เราอาจไม่เก่งด้านภาษาเท่าอักษรศาสตร์
เราอาจไม่เป็นมืออาชีพเท่าสายตรงสายอื่นๆ
ครูเคยบอกว่าเอกเราเรียนเหมือนกับเป็ด
แต่ที่เรามีและโดดเด่นกว่าคนอื่นคือเราเข้าใจเด็กมากกว่า
เพราะเอกเราเรียนเกี่ยวกับเด็ก ทำงานเกี่ยวกับเด็ก เพื่อเด็ก ๆ

หวังว่าจะได้พบน้องในเอกวรรณกรรมสำหรับเด็กนะคะ ^^