สำนักงาน ก.พ. จะเปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาลเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาในประเทศ ประจำปี 2558 (ทุน UIS) จำนวน 93 ทุน ในระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม 2557 – 13 มกราคม 2558 ทางอินเทอร์เน็ต ที่
http://uis.ocsc.go.th
ผู้มีสิทธิสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนฯ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. เป็นผู้ที่
จะศึกษาในชั้นปีสุดท้ายหลักสูตรระดับปริญญาตรีของสถาบันการศึกษาในประเทศ
ในปีการศึกษา 2558 และมีอายุไม่เกิน 25 ปี นับถึงวันที่ 13 มกราคม 2558 ในสาขาวิชาดังนี้
1.1
สายวิทยาศาสตร์ (สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ/สาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ/สาขาวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ/สาขาวิชาคอมพิวเตอร์/สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์/สาขาวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ/สาขาวิชาเกษตรศาสตร์/สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์/สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์/สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์/สาขาวิชากายภาพบำบัด/สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย/สาขาวิชาทันตแพทยศาสตร์ สาขาวิชาเทคนิคการแพทย์/สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์/สาขาวิชาแพทยศาสตร์/สาขาวิชาเภสัชศาสตร์/สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์/สาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์/สาขาวิชากายอุปกรณ์ศาสตร์/สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์/สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช/สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์/สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ/สาขาวิชาเทคโนโลยีโทรคมนาคม/สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม/สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์) โดยมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมา
ไม่ต่ำกว่า 2.75
1.2
สายสังคม (สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์/สาขาวิชานิติศาสตร์/สาขาวิชารัฐศาสตร์/สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ/สาขาวิชาบริหารธุรกิจ/สาขาวิชาการบัญชี/สาขาวิชาการจัดการ/สาขาวิชาสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์/สาขาวิชานิเทศศาสตร์/หรือสาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์) โดยมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมา
ไม่ต่ำกว่า 3.00
2. เป็นผู้ไม่อยู่ระหว่างการรับทุนที่มีข้อผูกพันในการชดใช้ทุน
3. เป็นผู้ที่มีศีลธรรม วัฒนธรรม และความประพฤติดี
4. สำหรับภิกษุสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาล ฯ ทั้งนี้ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 6 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538
หลักสูตรการสอบ
1. สอบข้อเขียน : วิชาภาษาอังกฤษ และ วิชาความสามารถทั่วไปเชิงวิชาการ
2. ประเมินความเหมาะสมในการรับทุน
โอกาสในการรับทุน แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
1.
ระยะที่ 1 รับทุนรัฐบาลเพื่อศึกษาในชั้นปีสุดท้าย (ที่มหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน) จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีตามโครงสร้างหลักสูตร ทั้งนี้ ต้องใช้ระยะเวลาศึกษาไม่เกิน 1 ปี
2.
ระยะที่ 2 เมื่อจบการศึกษาและบรรจุเข้ารับราชการแล้วเป็นเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ศึกษาในชั้นปีสุดท้ายแล้ว จะได้รับทุนรัฐบาลเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในหรือต่างประเทศ ตามเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนด โดยภายหลังสำเร็จการศึกษาต้องกลับมาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนเป็นระยะเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ศึกษาระดับปริญญาโท ในส่วนราชการเดิมที่ได้รับการบรรจุ
ข้อดีของทุนประเภทนี้
1. การแข่งขันน้อย เนื่องจากรับสมัครจากผู้ที่กำลังจะขึ้นปีสุดท้ายเท่านั้น ทำให้มีโอกาสได้รับทุนสูงกว่าทุนประเภทอื่นซึ่งรับสมัครจากคนทั้งประเทศ
2. เมื่อจบการศึกษาชั้นปริญญาตรี จะบรรจุเข้ารับราชการในทันที
3. ได้มีประสบการณ์ในการทำงานก่อนที่จะไปศึกษาระดับปริญญาโทในต่างประเทศ
4. ขณะไปศึกษาต่อต่างประเทศจะได้รับการนับอายุราชการด้วย
5. ขณะไปศึกษาต่อต่างประเทศนอกจากเงินทุน(ค่าเทอม+ค่ากินอยู่ 100%)แล้ว ยังได้รับเงินเดือนข้าราชการในประเทศไทยด้วย
ผู้สนใจโปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในประกาศรับสมัครสอบได้ทาง Internet ในเว็บไซต์
http://uis.ocsc.go.th หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน ก.พ. หมายเลข 02-547-1907, 02-547-1911 และ 02-547-1916
โอกาสครั้งเดียวในชีวิต!!!! ทุน ก.พ. ศึกษาต่อในต่างประเทศ สำหรับน้องๆในมหาวิทยาลัยที่กำลังจะขึ้นปีสุดท้าย เท่านั้น!!!!
ผู้มีสิทธิสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนฯ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. เป็นผู้ที่จะศึกษาในชั้นปีสุดท้ายหลักสูตรระดับปริญญาตรีของสถาบันการศึกษาในประเทศ ในปีการศึกษา 2558 และมีอายุไม่เกิน 25 ปี นับถึงวันที่ 13 มกราคม 2558 ในสาขาวิชาดังนี้
1.1 สายวิทยาศาสตร์ (สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ/สาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ/สาขาวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ/สาขาวิชาคอมพิวเตอร์/สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์/สาขาวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ/สาขาวิชาเกษตรศาสตร์/สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์/สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์/สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์/สาขาวิชากายภาพบำบัด/สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย/สาขาวิชาทันตแพทยศาสตร์ สาขาวิชาเทคนิคการแพทย์/สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์/สาขาวิชาแพทยศาสตร์/สาขาวิชาเภสัชศาสตร์/สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์/สาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์/สาขาวิชากายอุปกรณ์ศาสตร์/สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์/สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช/สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์/สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ/สาขาวิชาเทคโนโลยีโทรคมนาคม/สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม/สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์) โดยมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 2.75
1.2 สายสังคม (สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์/สาขาวิชานิติศาสตร์/สาขาวิชารัฐศาสตร์/สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ/สาขาวิชาบริหารธุรกิจ/สาขาวิชาการบัญชี/สาขาวิชาการจัดการ/สาขาวิชาสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์/สาขาวิชานิเทศศาสตร์/หรือสาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์) โดยมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.00
2. เป็นผู้ไม่อยู่ระหว่างการรับทุนที่มีข้อผูกพันในการชดใช้ทุน
3. เป็นผู้ที่มีศีลธรรม วัฒนธรรม และความประพฤติดี
4. สำหรับภิกษุสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาล ฯ ทั้งนี้ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 6 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538
หลักสูตรการสอบ
1. สอบข้อเขียน : วิชาภาษาอังกฤษ และ วิชาความสามารถทั่วไปเชิงวิชาการ
2. ประเมินความเหมาะสมในการรับทุน
โอกาสในการรับทุน แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
1. ระยะที่ 1 รับทุนรัฐบาลเพื่อศึกษาในชั้นปีสุดท้าย (ที่มหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน) จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีตามโครงสร้างหลักสูตร ทั้งนี้ ต้องใช้ระยะเวลาศึกษาไม่เกิน 1 ปี
2. ระยะที่ 2 เมื่อจบการศึกษาและบรรจุเข้ารับราชการแล้วเป็นเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ศึกษาในชั้นปีสุดท้ายแล้ว จะได้รับทุนรัฐบาลเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในหรือต่างประเทศ ตามเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนด โดยภายหลังสำเร็จการศึกษาต้องกลับมาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนเป็นระยะเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ศึกษาระดับปริญญาโท ในส่วนราชการเดิมที่ได้รับการบรรจุ
ข้อดีของทุนประเภทนี้
1. การแข่งขันน้อย เนื่องจากรับสมัครจากผู้ที่กำลังจะขึ้นปีสุดท้ายเท่านั้น ทำให้มีโอกาสได้รับทุนสูงกว่าทุนประเภทอื่นซึ่งรับสมัครจากคนทั้งประเทศ
2. เมื่อจบการศึกษาชั้นปริญญาตรี จะบรรจุเข้ารับราชการในทันที
3. ได้มีประสบการณ์ในการทำงานก่อนที่จะไปศึกษาระดับปริญญาโทในต่างประเทศ
4. ขณะไปศึกษาต่อต่างประเทศจะได้รับการนับอายุราชการด้วย
5. ขณะไปศึกษาต่อต่างประเทศนอกจากเงินทุน(ค่าเทอม+ค่ากินอยู่ 100%)แล้ว ยังได้รับเงินเดือนข้าราชการในประเทศไทยด้วย
ผู้สนใจโปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในประกาศรับสมัครสอบได้ทาง Internet ในเว็บไซต์ http://uis.ocsc.go.th หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน ก.พ. หมายเลข 02-547-1907, 02-547-1911 และ 02-547-1916