แชร์ประสบการณ์ การรักษา เมื่อลูกมีปานแดงบนหน้า

มาแชร์ประสบการณ์ การพบคุณหมอ และการรักษา ปานแดง แบบ ปานแดงหลอดเลือด (port_wine_stains) ของลูกสาวครับ

จุดประสงค์หลักๆ คาดหวังว่า เพื่อเป็นข้อมูล ในการพิจารณา การรักษาสำหรับคนที่ลูกมีปานครับ เพราะส่วนตัวพบว่าข้อมูลในส่วนนี้
ไม่ได้มีการเผยแพร่ ให้รับทราบอย่างทั่วถึง (ทั้งนี้ส่วนตัว ไม่ได้มีความรู้ทางการ แพทย์ อาจจะใช้คำบางส่วน ไม่ถูกต้อง ต้องอภัยด้วยครับ)

ลูกสาว คลอดออกมามีปานแดง อยู่ที่เปลือกตาซ้าย ไล่ขึ้นไปบนหน้าฝาก ใหญ่ประมาณ ฝ่ามือของเด็ก วางทาบไปบริเวณบนเปลือกตาในแนวตั้ง และมีบริเวณบนศีรษะ ขึ้นไปจากหน้าฝาก ประมาณ 3 เซ็นติเมตร เป็นลักษณะวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซ็นติเมตร

เมื่อคลอด ก็มีความกังวล อยู่เล็กๆ ว่า เป็นลูกสาว มีปานบนใบหน้า จะทำอย่างไรได้บ้าง ก็รอปรึกษาคุณหมอเด็ก ช่วงที่ภรรยาพักพื้น คุณหมอสูติ ก็คุยด้วย ก็บอกว่าปรึกษาคุณหมอเด็กนะ แต่ก็ให้คำแนะนำว่า ไม่ต้องกังวลมาก สมัยนี้ ยุคนี้ เลเซอร์ได้ ไม่มีปัญหา


เมื่อได้คุยกับคุณหมอเด็ก(1) ผมยังคงเน้นไปเรื่องความแข็งแรง ของลูก และการดูแล เป็นหลักก่อน โดยคุณหมอ แจ้งให้ข้อมูลในส่วนของปาน ว่าเป็นปานแดง แบบไม่จาง ทำเลเซอร์ได้ แต่ที่ต้องระวังตอนนี้ คือ
1. เป็นบริเวณตา จึงต้องระวังเรื่องความดันตาจะผิดปกติ ทำให้เป็นต้อหินได้ ต้องตรวจเรื่อยๆ (ผมพาลูกไปตรวจวัดความดันตา ที่ ร.ร.เด็ก ครับ)
2. เป็นบริเวณศีรษะ อาจจะเกิดอาการชักได้ง่ายกว่าเด็กทั่วไป ต้องสังเกต เพียงแต่คุณหมอบางว่า กรณีลูกผมปานที่เป็น ดูแล้วน้อย ไม่น่าส่งผลอะไร (พูดตามตรงครับ ว่าสำหรับผม ปานที่เป็นมันดูเยอะมากครับ ไม่น้อยเลย)

คุณหมอแนะนำว่า รอให้โตหน่อย (ประมาณ 4++ ไปแล้ว) มีภูมิ แล้วค่อยพาไป โรงพยาบาล ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ เช่น รามา จุฬา ศิริราช จะทำเลเซอร์รักษาได้

ช่วงนั้นพอหลังจาก ลูกกินนมได้ ไม่ตัวเหลือง ก็เริ่มคุยกับภรรยา เรื่องปาน เห็น ร.พ. แถวบ้าน มีคุณหมอเฉพาะทางผิวหนังเด็ก(2) อยู่ จึงพาลูกไปพบ คุณหมอดูแล้วบอกว่า เป็นปานแดง แบบไม่จางเอง (บอกให้ search: port wine stains) และหมอบอกว่า ทำเลเซอร์ได้ แต่ไม่ได้ทั้งหมดนะ เพราะอย่างบริเวณคิ้ว ก็คงยิงไม่ได้ ยิงแล้วคิ้วร่วงหมด และให้คำแนะนำว่า รอโตหน่อยแล้วค่อยพาไปเลเซอร์

กลับมารู้สึกกังวลครับ ว่ายังไงดี ตกลงทำให้เลเซอร์ได้ แต่ไม่หมดหรอ หรือไง ไม่สบายใจครับ เป็นห่วงใจลูกในอนาคตครับ

สุดท้าย จึงพาลูกไปพบคุณหมออีกท่าน ที่เป็นหมอประจำของลูกพี่สาว ที่พญาไท3 ซึ่งไกลจากบ้านพอสมควรเลย แต่เป็นหมอเฉพาะทางผิวหนังเด็ก เช่นกัน

คุณหมอได้ ให้คำปรึกษาและอธิบายดีมากครับ เปิดภาพให้ดู ทำให้รู้ว่า
1. ที่ลูกเราเป็น มันน้อยมากจริงๆ เมื่อคุณหมอเปิดรูปในหนังสือให้ดู ว่าเด็กที่เป็น เป็นขนาดไหน บางคนเป็นทั่วศีรษะเลยก็มี
2. คุยแล้ว สบายใจขึ้น ว่าเลเซอร์ได้แน่ๆ ส่วนบริเวณคิ้ว คงต้องปรึกษาหมอเลเซอร์ดู ว่าจะมีแนวทางอย่างไร อย่างไรก็ตาม พอโตขึ้นคิ้วก็ช่วยอยู่แล้ว

ทั้งนี้ช่วงที่ไปนั้น ลูกประมาณ 3 เดือนครับ และก็ตั้งใจไว้ว่า พอซัก 1 ขวบ จะพาลูกไป รามา เพื่อให้หมอที่นั้น แนะนำอีกที

แต่หลังจากที่พบคุณหมอที่พญาไท 3 ไม่นาน พี่สาวก็โทรมาบอกว่า พอดีพาลูกของพี่สาวไปพบคุณหมอมา คุณหมอให้บอกผมว่า ให้ติดต่อ คุณหมอเลเซอร์ที่ศิริราช เพราะคุณหมอ ไปสัมมนา แล้วเจอกับคุณหมอเลเซอร์ที่ศิริราช แล้วคุยเคสนี้ให้ฟัง คุณหมอเลเซอร์ที่ศิริราช บอกให้พาไปหาเลย

ผมจึงโทรไปสอบถามกับศูนย์เลเซอร์ศิริราช ได้พูดคุยกับคุณหมอ(4) และนัดวันเวลา เข้าไปพบที่ศูนย์เลเซอร์ศิริราช เมื่อลูกอายุ 4 เดือน

เมื่อเข้าไปพบ สิ่งที่ได้คุยกับคุณหมอที่ศูนย์เลเซอร์ สำหรับกรณีปานของลูกผม คือ
1. ยิ่งยิงเร็วก็ยิ่งดี เพราะผิวเด็กยังบาง เลเซอร์จะได้ผลดี ทำให้จำนวนครั้งที่ต้องมายิงน้อยครั้งลง
2. กรณีหากต้องวางยา เช่น กรณีลูกผม ที่มีตรงเปลือกตา ซึ่งต้องใส่ที่ป้องกันตา ที่ศิริราช มีหมอวิสัญญี พร้อมดูแล

จาก 4 เดือน ปัจจุบัน ลูกสาว 4 ปี
ตอนแรก ยิงเฉพาะบริเวณหน้าฝาก ใช้วิธีจับช่วยกันจับตัวให้อยู่กับที่ ปิดตา แล้วยิง
จน 2 ขวบนิดๆ เริ่มวางยา เพื่อยิงบริเวณเปลือกตาด้วย
ล่าสุดเมื่อปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ปานลบหายไปจนแทบจะไม่เห็น ถ้าไม่สังเกต ก็จะไม่เห็นแล้ว และคุณหมอแนะนำว่าคงพอสำหรับการยิงแล้วในตอนนี้ (ดีใจสุดๆ ทั้งลูก ทั้งพ่อ แม่)

ข้อมูลเพิ่มเติม
- ลูกสาว ปกติดีทุกครั้งที่ยิง บริเวณที่ยิง ไม่เคยเป็นแผลใดๆ ครับ (แต่คุณหมอก็แนะนำให้ดูทุกครั้งว่ามีพอง เป็นตุ่มน้ำ บ้างหรือเปล่า)
- ลูกสาว เริ่มจะไม่ค่อยชอบไปยิง เมื่ออายุประมาณ 3 ขวบ เพราะไป โรงเรียน แล้วเพื่อนถาม เพราะพอยิงแล้ว บริเวณที่ยิง จะขึ้นเป็นสีช้ำๆ อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์
- ไม่มีคนมาคอยทัก ว่าตาไปโดนอะไรมา หกล้มหรอ เมื่อยิงไปซักประมาณ 5 - 10 ครั้ง (ก่อนหน้านี้อุ้มไปไหน มีคนถามเกือบตลอด)
- ตั้งแต่เกิด จะมีคนมาคอยพูด แม้แต่พยาบาลบางคน ว่าปานของคนรู้จัก หลาน ลูก โตขึ้นแล้วหายเอง ไม่ต้องกังวล หรือให้พระครอบให้ แล้วหาย ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงครับ แต่ไม่ใช่กับทุกคน เพราะปานมีหลายประเภท เข้าใจว่าผู้พูดเจตนาดี เพียงแต่ บางที มันก็จะกลายเป็นทำให้โอกาสในการรักษาที่ถูกต้อง ของคนๆ นั้น อาจช้ากว่าที่เป็นไปได้ก็ได้นะครับ

แนะนำ สำหรับผู้ปกครองที่บุตรหลายมีปาน โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าครับ ลองปรึกษาคุณหมอเด็กดูว่าเป็นปานชนิดไหน เพราะบางชนิด เน้นนะครับว่าบางชนิด ไม่ใช่ทุกชนิด หายเองได้
หากคุณหมอบอกว่าเป็นแบบไม่หายเอง ลองไปปรึกษาที่ผิวหนัง ร.พ. ที่มีความพร้อมครับ เพื่อรับคำปรึกษาจากคุณหมอว่ามีแนวทางอย่างไร แล้วก็คงจะขึ้นกับคุณพ่อ คุณแม่ พิจารณาครับ จะทำ ไม่ทำอย่างไร หรือทำเมื่อไรดี

ข้อมูลเกี่ยวกับปาน ประเภทต่างๆ
http://baby.kapook.com/view58729.html
http://www.inderm.go.th/inderm_sai/skin/skin35.html

ภาพ ปานแดง  จากผนังเส้นเลือดผิดปกติ (Port-Wine Stains)
http://kidshealth.org/parent/medical/heart/port_wine_stains.html

EDIT 12/09/2016
มีหลายท่าน line มาปรึกษา ตามที่เขียนไว้ครับ ส่วนตัวไม่ได้ทำงานมีความรู้ทางการแพทย์ ดังนั้น ข้อเสนอแนะแรก สำหรับ ท่านที่สนใจการรักษาปาน คือ แนะนำให้พบแพทย์ เฉพาะทาง ด้านผิวหนังครับ (บางที่ใช้ว่า เป็นหมอเด็ก กุมารเวชศาสตร์ตจวิทยา) เพื่อวินิจฉัย ว่าเป็นปานประเภทใด หายเองไหม หรือ มีแนวทางในการรักษา อย่างไร หากเป็นปานที่ไม่หายเอง แล้วรักษาด้วยวิธีการใดได้ เลเซอร์ ผ่าตัด หรือ อื่นๆ เพื่อวางแผนการรักษากันต่อไปครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่