กลางปีที่แล้ว ผมสมัครบัตร Family Plus ของ SCB เพราะได้ Cash Back 1% (บัตรที่ใช้อยู่ Cash Back 0.5%)
ปรากฏว่าไม่ผ่านครับ ตอนนั้นขี้เกียจเรื่องมาก ก็เลยทำเป็นแบบฝากค้ำประกันไปวงเงิน 20,000 บาท

ก็ใช้บัตรมาเรื่อยๆ ยอดประมาณ 12,000 บาท/เดือน ชำระโดยหักบัญชีเต็มวงเงิน แต่เนื่องจากวงเงินไม่ค่อยพอ
ก็เลยต้องจ่ายก่อนแทบทุกเดือน (คือตอนทำก็ลืมไปว่า วงเงินจะต้องพอกับยอดใช้จ่ายสองเดือน เพราะจะมีช่วง
คาบเกี่ยวด้วย)

ตอนนี้ครบปีแล้ว ก็เลยไปยื่นเอกสารขอปรับเป็นพิจารณาเครดิต และยกเลิกเงินค้ำประกัน โดยยื่น
- รายได้ 56,000 บาท/เดือน เนื่องจากที่บริษัทไม่มีสลิปเงินเดือน จึงยื่นหนังสือรับรองรายได้ และใบหักภาษี ณ ที่จ่าย
- บัญชีออมทรัพยที่เงินเดือนเข้า และเนื่องจากจะโอนเงินทั้งหมดมาอีกเล่ม (ต่างจังหวัดกัน) จึงยื่นเล่มนั้นไปด้วย
- บัญชีเงินฝากประจำ ที่ฝากมาแล้วปีเศษ จำนวน 3 เล่ม เป็นเงิน 600,000 บาท

ผลก็คือไม่ผ่านอีกเหมือนเดิม พนักงานบอกว่าในโปรแกรมระบุสาเหตุว่า ใบสมัครซ้ำซ้อน ผมก็งง เพราะยื่นเอกสาร
ไปแค่ครั้งเดียว สอบถามไปสอบถามมาได้ความว่า
- เงินฝากประจำต้อง 1 ล้านบาท (ตอนแรกบอกว่า 5 แสนบาท)
- บัญชีเงินเดือนผมไม่หมุนเวียน อันนี้ผมงงมาก ถามพนักงานที่สาขาว่าหมายความว่าอย่างไร พนักงานติดต่อไป
ฝ่ายเพิ่มวงเงิน (หลังจากที่โทรไป 2 - 3 ฝ่าย แล้ว) เขาให้เหตุผลว่า เงินเดือนผมเข้ามาในบัญชีแล้ว แต่ผมถอนไป
จนเกือบหมด นั่นคือจะต้องมีเงินเหลือในบัญชีแต่ละเดือนอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเงินเดือน

ผมก็เลยแย้งไปว่า บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยมันน้อยมาก ผมก็เลยไม่ทิ้งเงินไว้ในบัญชีมากนัก เงินที่เหลือแต่ละเดือน
ผมจะเอาไปฝากเข้าบัญชี ME by TMB พนักงานก็เลยเสนอว่าลองยื่น Statement ของ ME เข้าไปดู โดยพิมพ์ออกมา
จากเว็บแล้วให้สาขาของ TMB ประทับตรารับรองมา

ผมก็เลยบอกไปว่า บัญชี ME by TMB มันไม่มีสาขาหรอก ผมเปิดบัญชีทางอินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำ และก็คิดว่ามันไม่น่า
จะใช้ได้ ก็เลยไม่ได้ยื่นมาตั้งแต่แรก พนักงานก็บอกว่าลองยื่นไปดู ผมก็เลยพิมพ์ Statement ออกมา ยอดเงินราว
320,000 บาท โดยจะมีเงินโอนเข้ามาเรื่อยๆ ทุกเดือน

ตอนนี้ก็เลยกลับมารออีกรอบ เพราะทางเลือกของผมมีไม่ค่อยมากนัก เนื่องจากแถวบ้านผมมีธนาคารอยู่แค่ 4 + 2
ธนาคารเท่านั้น (กสิกรไทย, กรุงไทย, กรุงเทพ และไทยพาณิชย์ บวกกับ ออมสิน และ ธกส.) บัตรที่ Cash Back ดีๆ
ก็น่าจะมีเฉพาะของ SCB

บางคนอาจจะสงสัยว่า ในเมื่อผมก็มีบัตรอยู่แล้ว ทำไมต้องมาวุ่นวายยกเลิกการค้ำประกันอีก คำตอบก็คือ
- เพราะบัตรแบบค้ำประกัน ไม่มีโอกาสเพิ่มวงเงินนอกจากจะเพิ่มการค้ำ แต่ถ้าเป็นแบบพิจารณาเครดิตก็อาจเพิ่มวงเงินได้
- เพราะอยากเอาเงินไปฝากวิธีอื่น เนื่องจากบัญชีฝากประจำ 12 เดือน ได้ดอกเบี้ยแค่ 1.70% เท่านั้น
- เพราะเห็นสัญญาค้ำประกันแล้ว ไม่อยากทำธุรกรรมอื่นกับ SCB อีกเลย

ลองดูตัวอย่างสัญญาบางข้อครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สัญญาจำนำสิทธิการรับเงินฝาก
            9. ในกรณีที่ผู้จำนำมีหนี้ไม่ว่าประเภทใดตามสัญญานี้ และ/หรือ สัญญาอื่นอยู่กับธนาคารและผู้จำนำมีบัญชีเงินฝากไม่ว่า
ประเภทใดอยู่กับธนาคาร และ/หรือ เงินอื่นใดก็ตามที่มีอยู่กับธนาคาร และ/หรือ เงินที่ผู้จำนำมีสิทธิจะได้รับคืนจากธนาคาร รวมทั้ง
เงินที่ผู้จำนำเป็นเจ้าของหรือเป็นเจ้าหนี้ธนาคาร ผู้จำนำตกลงยินยอมให้เป็นสิทธิของธนาคารที่จะใช้ดุลพินิจหักเงินดังกล่าวไม่ว่า
ประเภทหนึ่งประเภทใดหรือทุกประเภท เพื่อชำระหนี้ที่ผู้จำนำมีอยู่กับธนาคารได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้จำนำทราบก่อน

หนังสือขอให้ธนาคารหักบัญชี
                         1. เจ้าของบัญชีขอให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากตามจำนวนหนี้ของเจ้าของบัญชี และ/หรือ ของลูกหนี้ที่
มีอยู่กับธนาคาร และ/หรือ บุคคลภายนอก โดยธนาคารมีสิทธิที่จะหักจากบัญชีเงินฝากได้ทุกประเภท โดยเลือกหักจากบัญชีใดก่อน
หรือหลัง และเป็นจำนวนแต่ละบัญชีเท่าใดก็ได้ตามที่ธนาคารจะพิจารณาเห็นสมควร เพื่อนำไปชำระหนี้ซึ่งเจ้าของบัญชี และ/หรือ
ลูกหนี้มีอยู่ต่อธนาคาร และ/หรือ บุคคลภายนอกนั้นได้ทันที เมื่อหนี้นั้นถึงกำหนดชำระโดยไม่จำต้องบอกกล่าวแก่เจ้าของบัญชี
ก่อน และให้เป็นสิทธิของธนาคารที่จะหักเงินจากบัญชีเงินฝากแต่เพียงบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ รวมทั้งหากหนี้หลายประเภทถึง
กำหนดชำระพร้อมกัน ธนาคารจะเลือกหักเงินจากบัญชีเงินฝากของเจ้าของบัญชีเพื่อนำไปชำระหนี้ประเภทหนึ่งประเภทใด หรือ
หลายประเภทแต่เพียงบางส่วนหรือทั้งหมด และตามลำดับก่อนหลังอย่างใดก็ได้

ใครมีคำแนะนำอะไรบ้างครับ