อุทาหรณ์ ร้านแอร์ ที่ดูเหมือนจะน่าเชื่อถือ มีเว็บไซต์อย่างดี

กระทู้แรกในชีวิต ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ เรื่องเกินได้ราวเดือนเศษๆละ แต่พึ่งว่างมาลง ยาวหน่อยนะ
แท็กถูกหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจว่าแท็กครบด้วย

ธุรกิจกับกลโกงบางทีก็เป็นของคู่กัน จะล้างแอร์ทีไรอย่างกับจับฉลากรางวัล
ไม่รู้ว่าจะโชคดีหรือร้าย ได้ร้านดีก็ดีไป ต่อไปก็ฝากฝังแอร์บ้านเราไว้กับเขายาวๆ
แต่ความโชคดีนั้นเหมือนไม่ค่อยบังเกิดยังไงไม่รู้ หรือบางทีเราก็อาจจะโง่ เข้าใจผิดเอง

ตอนแรกที่เสิร์ชหาบริการล้างแอร์ เราก็เสิร์ช แบบว่า ล้างแอร์ เติมน้ำยาฟรี
เรารู้สึกมีร้านนึงน่าสนใจติดต่อไป ต้องนัด ซึ่งเราไม่รู้จะว่างไหม
เราเลยไปจบอีกร้าน ซึ่งส่วนมากปัจจุบันนี้โปรโมชั่นคล้ายๆ กัน
เติมฟรี 10 ปอนด์ หรือถ้าน้ำยาขาดไม่มาก ระบุเหมือนกันหมด ใช้น้ำยาอย่างดี ของอเมริกา ไม่ใช่จีน

ก่อนจะเข้าสู่การติดต่อ เราบอกก่อนว่าแอร์ใช้ในห้องในห้องคอนโด ใช้งานหนักมาก ใช้แทบทุกวันทั้งวัน
ห้องเราทำอาหารด้วย แม้จะไม่มาก ส่วนมากโดยหม้อหุงข้าว แอร์ไม่เคยล้างเลยตั้งแต่ที่เข้ามาอยู่ 1ปีเศษ เกือบ ปีครึ่ง
แอร์แถมมากับคอนโดเรารู้ดีว่ามันเล็กกว่าขนาดห้อง ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่มีทางเปลี่ยนแอร์ เพราะตั้งใจว่าจะไม่อยู่นาน
จริงๆ ตั้งใจจะเรียกช่างมาล้างหลายรอบแล้ว แต่ก็ตัดสินใจไม่ได้สักที จนมีปัญหาเป่าเบาลงมาก และระดับความเย็นผิดปกติ
แอร์ยังเป่าเย็นนะ แต่มันเบาและความเย็นลดลง เราคิดว่าแอร์มันสกปรกจนตัน
เพราะห้องเราฝุ่นเยอะมาก มาจากไหนไม่รู้ ห้องปิดนะ ไม่มีการเปิดหน้าต่าง/ระเบียง นานๆจะเปิดออกไปที เปิดแล้วปิดทันที แป็บเดียว
มันเคยเป็นแบบนี้นะ แต่ไม่นานไม่เกินวันก็หาย หรือถอดแผ่นกรองไปล้างก็ดีขึ้น แต่ครั้งนี้ 2-3 วัน และเราไม่ได้ถอดแผ่นกรองไปล้าง
คิดว่าถึงแก่เวลาละที่ต้องล้างแอร์สักที

เราติดต่อไปตามเบอร์โทรศัพท์เว็บไซต์หนึ่งชื่อไทยๆ ถามว่าให้ช่างเข้ามาวันนี้ได้ไหม เราอยากให้เข้ามาก่อนบ่ายสาม
คนรับสายบอก ได้ครับๆ เข้าไปได้ช่วงบ่ายหนึ่งไม่เกินบ่ายสองแน่นอน เดี๋ยวให้ช่างติดต่อไปอีกที
สักพักช่างติดต่อมา รีบหรือเปล่าครับ ถ้ายังไงเข้าไปบ่ายสี่ได้ไหม
เราก็ อ้าว ให้บอกว่าเข้ามาก่อนบ่ายสามได้ไง
ช่าง ถึงถามว่ารีบหรือเปล่า  <<<แอบรู้สึกโดนด่า?
เราเลยตอบว่า รีบ
ช่างก็ถามตำแหน่ง บลาๆๆ แล้วก็มาถึง จำเวลาไม่ได้ จำได้แค่ว่าอยู่ราวๆครึ่งชม. (เร็วเนอะ)
มากัน 3-4 คน คนหนึ่งเดินมาเปิดหน้ากากแอร์
อีกคนเข้ามาถึงก็ถาม เช็คน้ำยาแอร์ด้วยหรือเปล่า
เราบอกว่าเช็ค (อันนี้เราผิดเอง เราจำได้ว่าเขาระบุว่าเติมน้ำยาฟรี แต่เราไม่เห็นจำนวนบนเว็บ
อาจจะอ่านไม่ละเอียดหรือไม่ครบทุกหน้าทุกตัว เลยปล่อยให้เช็ค)
เขาก็เดินเอาเกตไปวัดเลย เราเลยถามว่าอ้าวไม่ปิดแอร์ก่อนเหรอ?
(เราเข้าใจว่าล้างแอร์ก่อน ก็ต้องปิดแอร์ก่อน)
ช่างตอบกลับมาวัดน้ำยาต้องเปิดแอร์ <<<อารมณ์เราตอนนั้นเหมือนเด็กโดนดุไงไม่รู้
เขาก็บอกว่าน้ำยาแอร์เหลือ 30 ปอนด์ ต้องเติม 50 ปอนด์นะ <<<เราไม่ได้เดินออกไปดู (ต่อบรรทัดล่าง)
มีการปล่อยน้ำยาหรือไม่อย่างไรเราไม่ทราบ และเราไม่รู้ด้วยว่าศรที่ปล่อยน้ำยาออกอยู่ตรงไหน เราไม่ใช่ช่าง
เราก็ถามราคาว่าเขาคิดยังไง เขาตอบว่า ปอนด์ละ 20 บาท เติมฟรี 10 ปอนด์แรก ก็ต้องเติมอีก 40 เพื่อให้ถึง 80 ปอนด์
เราถามว่าปกติทั่วไปแค่ 75 ปอนด์ไม่ใช่เหรอค่ะ เขาตอบว่า 70-80 ปอนด์
เราถามว่าแอร์เรารั่วหรือซึมเหรอ? น้ำยาถึงเหลือแค่นั้น? (เราทราบดีว่าปอนด์ที่ว่าคือปอนด์ต่อตารางนิ้ว และทราบดีว่า
แอร์เป็นระบบปิดเช่นเดียวกับตู้เย็นจึงถามไปเช่นนั้น)
เขาตอบว่า ไม่ได้รั่วถ้ารั่วต้องหมดแล้ว (อยากบอกเหลือเกินว่ารู้แล้ว แอร์ที่บ้านเคยรั่ว น้ำยาไม่มีเหลือ)
เราเลยถามว่า อ้าวแล้วทำไมมันถึงลดลง?
คำตอบที่เราได้รับคือ ใช้งานหนักก็ลดลง <<<แอบกังขาในใจ ช่างนี่มืออาชีพหรือเปล่า? รบกวนผู้รู้ด้วยนะคะ ใช้งานหนักมันเกี่ยวเหรอค่ะ?
แฟนเราบอกให้เติมไปเลย (แฟนมองว่าเอาน่ะ ซื้อเวลา ไม่ปรึกษาเราสักคำ แต่อย่างว่า
ขืนไปเถียงกะช่างว่าแอร์ทั้งระบบจริงๆมันใช้น้ำยาแอร์ 2 ปอนด์/1กก. เองไม่ใช่เหรอ
คงได้โดยด่าและบอกให้มาเติมเอง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง)
ช่างก็เติมเดี๋ยวนั้นเลย เติมเสร็จก็ให้ดูเกจนะ จริงๆ ให้ดูทั้งก่อนเติมและหลังเติม (ไม่รู้จะดูทำไม รู้ๆอยู่ว่าทำเงินที่ตรงไหน)
ยุ่งกะคอมเพรซเซอร์เสร็จถึงจะจัดการล้างแอร์ อย่างสกปรก เห็นน้ำที่ล้างออกมา ก็นะ ไม่เคยล้างเลยปีครึ่ง
ล้างแอร์ให้ห้องเสร็จก็เอาน้ำฉีดๆ คอมข้างนอก
เราก็ถาม เอ๊ะไม่แกะมาล้างเหรอค่ะ เห็นช่างที่อื่นแกะ (แอร์ที่บ้านเรา)
เขาก็ถามกลับแบบอารมณ์ไม่ค่อยดีในความรู้สึกเรา อาจผิดก็ได้ว่า เขาแกะยังไง
เราก็บอก ไม่ทราบค่ะ ทราบแค่แกะออกมา (เราไม่ใช่ช่าง ถ้าใช่จะจ้างมาทำไม ก็ทำเองแล้วสิ)
เขาก็บอกต่อว่า อย่างงี้แหละสะอาดแล้ว แกะออกมาต่อกลับไปไม่ดีมีเสียงอีก (เราคิดนะ สะอาดแล้ว ไม่แน่ใจ
แต่ต่อกลับไปมีเสียงนี่ไม่ใช่มืออาชีพจริงๆใช่ไหมเนี่ย?)
เสร็จก็เอาเครื่องเป่ามาเป่ากับผ้ามาเช็ด แค่คอยล์เย็น(ตัวแอร์ให้ห้อง) เป่าเน้นๆ แค่ตรงกล่องควบคุม
ตอนประกอบหน้ากากกลับไปยังมีหยดน้ำเกาะอยู่เลย แล้วเปิดแอร์ทันที เอามืออังมีลมออก(แรงด้วย) เคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จก็ไปทันที
(ไม่รอดูว่าแอร์เย็นไม่เย็น คงรีบไปหาลูกค้าคนต่อไป)
ค่าล้าง 400 บาท + ค่าน้ำยา 800 บาท ทั้งสิ้น 1200 บาท (แพงนะ ในมุมมองเรา)

นอกเรื่องอีกนิดก่อนจะต่อ เรามองว่า ถ้าให้เราคิด ต้นทุนค่าวัตถุดิบ ค่าน้ำยาแอร์ เต็มที่เลยกิโลละ 250 บาท ปกติ ถัง 10 กก./1400-1800 บาท
ร้านซื้อเยอะได้ลดอีก เราบวกให้แล้วนะ แล้วของเราแอร์ยังเหลืออยู่ด้วย (ซึ่งเขาปล่อยหรือเปล่าไม่รู้) ต้นทุน 180 บาท เลยอ่ะ บวกให้
ค่าอุปกรณ์ เกจวัด 2500 บาท เท่าที่เจอมา เราไม่รู้ช่างใช้ได้นานแค่ไหน แค่คิดว่าเกิน 5 ปี แถมใช้หลายบ้าน เราตีให้เลยค่าอุปกรณ์ตรงนี้
50 บาท ช่าง 3-4 คน เวลาครึ่งชม. นี่คิดแยกจากล้างแอร์นะ ช่างยุ่งกับคอมเพรซเซอร์ 2 คน ราวๆ ไม่ถึง 10 นาที เราตีให้หมดเลย ทั้ง 4 คนนะ
ต่อเวลาแค่ 10 นาที นี้ 30 บาทต่อคน ถือว่ารวมค่าวิชาชีพของคุณให้ไปแล้วในนี้ รวมค่าแรงคนงาน 120 บาทนะ
ค่ารถเราตีให้ 50 บาท ไปกลับ ทั้งหมด 400 บาท นี่คือแค่เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ + ล้างแอร์ ก็ 800 บาท เราคิดแบบประมาณเกินแล้วนะ
ซึ่งความเป็นจริงมันถูกกว่านี้ ถ้าคิดราคาน้ำยาล้างแอร์เรา 200-500 บาท เราก็ยังพอโอเคนะ
(แอร์ที่บ้านที่รั่ว เติมน้ำยาแอร์ทั้งหมด 500 บาท อยากจะเรียกเจ้านั้นมา แต่คนละฟากกรุงเทพฯ ไม่มาแน่นอน)

ประเด็นสำคัญคือ ล้างแอร์เสร็จ เติมน้ำยาแอร์ด้วย แอร์ควรจะเย็นกว่าก่อนล้าง แต่เปล่าเลย เป่าแค่ลม ลมจริงๆ มีไอเย็นติ๊ดนึงมากะลม
น้อยกว่าก่อนล้างอีก!!! เราก็พยายามคิดแง่ดีนะ มันคงต้องรอสักพัก รอจนข้ามวันก็เหมือนเดิม คืออะไรอ่ะ!!!
เราลองปิดแอร์แล้วเปิดใหม่ด้วยนะ ปิดเป็นชม.เลย เผื่อว่าน้ำที่เขาเป่าไม่แห้งเป็นน้ำแข็งเกาะ หรือไรหรือเปล่า (พยายามคิด + ละนะ)
ดังนั้นเช้าถัดที่เราค้นพบว่ามันยังไม่เย็นเหมือนเดิม ก็โทรไปแจ้ง เขาก็ถามว่าเราสะดวกให้ช่างเข้ามาเลยไหม
เราเลยบอกให้เข้ามาอีกวันละกัน ก็ระบุไป เขาก็บอกว่าเดี๋ยววันนั้นจะให้ช่างติดต่อมาอีกที ถามเบอร์ติดต่อเสร็จเรียบร้อย
วันนั้นเขาก็โทรเข้าเบอร์แฟนเรา เราไม่รู้ตอนนั้น บอกอะไรไม่ได้ ถามแฟนว่าเขาติดต่อมายัง แฟนก็บอกว่าติดต่อมาแล้ว
บอกจะเข้ามาตอน 6 โมง วันนี้ เราก็อ้อ โอเค จนถึงวันนี้ที่ช่างมาแอร์ก็ยังไม่เย็น
ต้องยกเลิกแพลนทุกอย่างที่วางไว้ เพราะช่างทำไม่เรียบร้อย
ท้ายที่สุดช่างเข้ามา 1 ทุ่ม กว่าได้มั้ง ไม่ได้ดูเวลา แฟนว่างั้น

เซ็ทนี้มาสามคน คนละคนกับคราวที่แล้ว ช่างก็ถามว่าช่างเขาทำอะไรไปบ้าง
ก็บอกว่าล้างแอร์ เติมน้ำยา แจ้งว่าเหลือ 30 เติมไปจนครบ 80
เราก็ถามช่างอีกนะว่าระบบแอร์มันระบบปิดไม่ใช่เหรอค่ะ แล้วทำไมมันถึงลดลงได้
ช่างเขาก็ถามนะว่าแอร์ใช้มานานยัง เราก็บอกปีครึ่ง
ช่างบอกว่า ตอนติดตั้งแล้วบรรจุน้ำยาแอร์ พอไหลไปท่อมันเลยลดลงเหลือ 50 <<<ฟังดูมีหลักการดี แต่ไม่รู้จริงเปล่า รบกวนผู้รู้ไขข้อสงสัยด้วยละกันค่ะ
ช่างอีกสองคนก็เอาเกจไปวัด (อีกแล้ว) แล้วก็ทำอะไรไม่รู้ เราเห็นฟุ้งๆ เลยถามว่าทำอะไรค่ะ
ช่างบอกว่า น้ำยาแอร์เกินต้องปล่อยออก เห็นว่าอยู่ราวๆ 90 เท่าไหร่ไม่รู้ แล้วช่างก็บอกว่า น้ำยาแอร์เกินก็ทำให้แอร์ไม่เย็น
ปล่อยออกสักพัก ลมที่เป่าออกมาเริ่มเย็นขึ้น สักพักช่างก็กลับ
ในมุมมองเราช่างคนนี้ก็ดูโอเคหน่อยนะ ไม่รู้ว่าดีจริงหรือเปล่า เพราะมาซ่อมอย่างเดียว

แอร์ทำความเย็นนะ แต่การทำงานเครื่องมันแปลก เราอยู่ของเราทุกวันแทบทั้งวันที่เราเปิด เป็นปีครึ่งละ มีเหรอจะจำความเย็นและการทำงานแอร์ไม่ได้
แอร์ตัดบ่อยกว่าเก่า แล้วก็เวลาที่ตัดนานมากขึ้น แถมตอนที่ตัดเป่าแต่ลมออกมา ซึ่งแต่ก่อนเป่าลมเย็นและตัดแป็บเดียว เย็นกว่านี้ด้วย
อารมณ์แอร์เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน เราอยู่อีกสองวันก็ค่อยติดต่อกลับไปที่ร้าน คิดบวกค่ะคิดบวก คิดว่าแอร์คงยังไม่เสถียร ให้เวลาๆ
บอกเลยหงุดหงิดนะ เรายอมจ่ายแล้วแม้ว่ารู้ว่าหลอกกัน แต่นี่มันไม่ใช่ละป่ะ จ่ายก็แพง แอร์มีปัญหาอีก

เราติดต่อกลับไปที่ร้านอธิบายให้ฟัง บอกว่าแอร์ยังทำงานไม่เป็นปกตินะ มันเย็นแค่ต่ำว่า 20 องศา เกินมาก็ไม่เย็น
แล้วก็บอกว่าในส่วนที่ปล่อยน้ำยาแอร์ไปตรงนี้เป็นความผิดพลาดของช่างคุณ ส่วนต่างที่เติมตรงนี้ก็ควรจะได้คืน
ทางนั้นก็บอกว่าได้ครับ จะจัดการให้ (ไม่คิดเท่าไหร่ว่าจะได้คืน แต่เขารับปาก หลังจากคุยอยู่นาน)
ก็ถามอย่างเดิมให้ช่างเข้ามาเมื่อไหร่ อะไรยังไง แล้วก็จะให้ช่างโทรมา ก็โทรมาหลายเบอร์หลายคนมาก
สุดท้ายช่างที่เข้ามาวันแรกเป็นคนเข้ามาราวบ่ายสาม ช่างมาถึงก็บอกว่านี่ก็เย็นละนะ
เราก็บอกมันไม่ปกติ เถียงกันไปมา ช่างก็บอกว่าตอนแรกที่มา 30% นี่ 99% ถือว่าโอเคแล้ว
(แอร์ตัดเป่าลมและเศษไอเย็นนานกว่าเป่าเย็นนี่คือปกติ? พอละพอดี หงุดหงิดเกินพอ)
เราก็บอกนะว่าเฮ้ยไม่ใช่ละ แอร์เราไม่เคยเป็นแบบนี้
เขาบอกว่าเขาไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้านั้นเป็นไง แล้วแอร์ที่ใช้มา 2 – 3 ปี มันก็เสื่อมสภาพ แล้วแอร์มันเล็กไม่เหมาะกับห้องนี้ <<<ยังไม่ถึงปีครึ่งดีเลย แอร์บ้านเราเกิน 5 ปี ทั้งนั้นไม่มีปัญหา
สุดท้ายเซ็งที่จะเถียง เลยทวงถามเรื่องเงินส่วนต่างที่จ่ายค่าน้ำยาแอร์และที่ปล่อยออกไป
ช่างบอกอะไร เติมเกินก็ดีแล้วนี่ ได้เยอะกว่าที่จ่าย
เราบอกว่าเราคุยกับทางร้านแล้ว ช่างบอกให้คุยกับทางร้านเอง
โทรไปมีคนรับเราก็คุยแจ้งว่าที่คุยไว้ คนรับสายบอกว่าเค้าไม่รู้เรื่อง (เรารู้สึกว่าเสียงคนละเสียงกันค่ะ เราเข้าใจว่าคนละคน มือถือเครื่องเดิมที่เราใช้โทร)
ไอเราก็อ้าวไหงงั้นคุยไว้แล้ว เขาถามกลับโทรมาเมื่อไหร่
เราก็บอกว่าวันนี้แหละ เขาบอกว่าก็เขานั่นแหละรับสาย เขาไม่เคยพูดอย่างนั้น
เราก็เถียงกับนะว่าพูดว่าจะจัดการให้ เขาก็เถียงกลับมาว่าไม่ได้พูดอย่างนั้นเลย
(บอกเลยจุดนั้นสุดจะทน รู้แหละอ้อยเข้าปากช้างแล้วไม่มีทางได้คืนง่ายๆ)
เราก็โอเคได้จะได้ลงพันทิพไว้ แล้ววางสายเลยไม่พูดต่อ แถมไล่ตะเพิดช่างกลับ
(บางคนอาจบอกว่าเราอารมณ์ร้อนอารมณ์ร้ายเราไม่เถียง 5 วันกับการจัดการแอร์ตัวเดียว ทุกครั้งที่ช่างมาเราต้องทำความสะอาดห้องใหญ่ คนอยู่คอนโดจะเข้าใจว่าทำไม ปกติเราก็ทำความสะอาดอยู่แล้วกวาดถูเบาๆ ไม่หนักอะไร แต่ช่างมาทีนี่คือเหมือนบิ๊กคลีนนิ้งประจำปี ขัดแล้วขัดอีก พื้นห้องขาวด้วย)
และที่สำคัญคุยกันแล้วตกลงกันแล้วว่าตรงนี้เป็นความผิดของช่าง ร้านก็รับปากดิบดี

เราจะจดจำไว้ว่าร้านแอร์ร้านนี้กลับกลอก และช่างไม่มีความเป็นมืออาชีพ (อาจมีบางคนมีก็ได้นะ แต่เราไม่เสี่ยงแล้วอ่ะ เหมือนจับฉลากไม่รู้จะส่งใครมา ไม่สนุกแน่นอนต้องลุ้นเนี่ย)
ส่วนต่างนั่นเราจะถือว่าทำทานให้ จะได้หมดเวรกรรมไป ไม่ต้องมาพบเจอกันอีก

มีต่อ ยาวเกิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่