สวัสดีค่ะเพื่อนๆสาวห้องแป้ง วันนี้เราเกิดอยากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยากทดลอง พิสูจน์อะไรขึ้นมาซะงั้นละค่ะ อะฮิ้ง~~ เคยเห็นวิดีโอตัวนึง (จำที่มาไม่ได้แล้ว..... ) ใน VDO เขาจะพูดเรื่องโลชั่นว่าช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้จริงไหมให้เอามาลองทากับผลไม้ ถ้าผลไม้ยังคงสภาพใกล้เคียงกับสภาพเดิม ถือว่าเป็นโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื่นที่ดีมากๆ ก็เลยสงสัยว่าเอิ่มมมม.. เจ้าโลชั่นที่เราใช้กันเนี่ยมันใช้ได้ผลดีจริงๆรึเปล่า? หรือทุกวันนี้ที่คิดว่าผิวเราดีขึ้นนี่ เราแค่มโนไปเองล้วนๆ อย่างงี้ต้องพิสูจน์กันละจ้า......
ยิ่งใกล้หน้าหนาวแบบนี้ ยิ่งต้องเทสว่าโลชั่นทาผิวที่เราใช้ จะทำให้เรารับมือกับหนาวนี้ไปได้อย่างสวยงามรึป่าว?? โอเค!! รื้อของในบ้านมาจับทดลองซะ ในตู้เย็นมีผลไม้อยู่ 3 อย่าง คือ แอปเปิ้ล สาลี่ และฝรั่ง
ส่วนโลชั่นที่เราลองหยิบมาทดลองมี 3 ตัว คือ Nivea , Jergens สูตร Ultra Healing Extra แล้วก็ Snail White Body Booster ค่ะ ที่เลือก 3 ยี่ห้อนี้ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เพราะเป็นยี่ห้อที่เรามีที่บ้านอยู่แล้ว Nivea นี่เป็นขวดที่ซื้อตอนเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วลืมเอาครีมไป ไม่ค่อยได้ใช้บ่อย แต่ Jergens นี่ใช้มานานแล้วค่ะ ใช้ตามพี่สาว ส่วน Snail White Body Booster เพิ่งซื้อลองมาใช้ได้ซักพักนึง (เห็นพรีเซนเตอร์ ชมพู่ อารยา ละอยากลองบ้างง่ะ ทำตาม สวยสวย อิอิ)
มาเริ่มกันเลย.... เริ่มต้นเราเอาผลไม้มาหั่นผ่าครึ่งออกมาเป็น 2 ซีกค่ะ เพื่อที่เอาโลชั่น มาทาๆ ถูๆ ตรงเนื้อผลไม้ โดยที่ฝั่งซ้ายสุดจะไม่ได้ทาโลชั่น และเรียงมาจะเป็น Jergens Nivea และ Snail White body booster ตามลำดับค่ะ
พอทาเสร็จแล้วก็จะออกมาฉ่ำๆวาวๆแบบนี้เลย
สังเกตว่าที่เนื้อผลไม้จะชุ่มไปด้วยโลชั่นของทั้ง 3 ตัวนะคะ โดยที่ปริมาณการทา เรากะเองด้วยสายตาค่ะ ซึ่งพยายามทาให้เท่าๆกันทั้งหมดเลย แล้วก็วางตากลมเอาไว้ หลังจากนั้นก็รอเวลาค่ะ เพื่อที่จะสังเกตผลเป็นระยะๆ
2 ชั่วโมงผ่านไป มาดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง…
จากการสังเกต เนื้อผลไม้ทั้ง 3 ยี่ห้อมีความเปลี่ยนแปลที่แตกต่างกันออกไปค่ะ โดยเราจะแบ่งออกเป็นชนิดๆ ดังนี้
1. แอปเปิ้ล
- ลูกทีไม่ได้ทา เริ่มเหี่ยวและมีสีเหลืองบริเวณรอยขอบนิดหน่อย
- Jergens ยังคงความชุ่มชื้นได้ดี มีสีเหลืองเล็กๆ
- Nivea เริ่มเหี่ยวและมีสีเหลืองน้ำตาลๆบริเวณเนื้อผลไม้แบบเป็นวงกว้าง
- Snail White body booster ยังมีความชุ่มชื่น เริ่มเป็นสีเหลืองนิดหน่อย แต่ไม่มาก
2. สาลี่
ในส่วนของสาลี่ยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่างจากการสังเกตด้วยสายตามานัก แต่ที่เห็นได้ชัดคือตัวที่ไม่ได้ทาโลชั่นจะค่อนข้างแห้งกว่า 3 ตัวที่เหลือ
3. ฝรั่ง
ในส่วนของฝรั่งก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของสีแน่ชัด
- ลูกที่ไม่ได้ทาครีมจับแล้วจะค่อนข้างแห้ง
- Jergens เนื้อโลชั่นยังคงเกาะอยู่บนหน้าผิวผลไม้ ยังคงดูเหนอะๆแบบเห็นได้ชัด เรียกว่าซึมช้ามาก ถ้าเทียบกับ Nivea และ Snail White body booster ที่ตอนนี้โลชั่นซึมลงไปหมดแล้ว
5 ชั่วโมงผ่านไป..
เมื่อเวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง สามารถสรุปผลการทดลองทาครีมที่ผลไม้ได้ดังนี้ค่ะ
1. แอปเปิ้ล
- ลูกที่ไม่ได้ทา ถึงเนื้อผลไม้จะมีสีเหลืองไม่มาก แต่เปลือกตรงขอบจะเหี่ยวๆช้ำๆกว่าทั้ง 3 ลูกที่ทาโลชั่นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
- Jergens แอปเปิ้ลดูสภาพดี ไม่คล้ำหรือเหี่ยวเหมือนลูกอื่นๆ
- Nivea แอปเปิ้ลมีสีเหลืองน้ำตาลๆบริเวณตามรอยขอบ และเนื้อผลไม้มากกว่าอันอื่นๆ
- Snail White body booster แอปเปิ้ลมีสีเหลืองน้ำตาลๆเช่นกัน
2. สาลี่
ในเรื่องของการสังเกต จะเห็นว่าทั้ง 4 ลูก สีของสาลี่ไม่ต่างกันมากนัก แต่เมื่อลองเอามือสัมผัสจะรู้สึกถึงความต่างกัน ดังนี้
- ลูกที่ไม่ได้ทา ผิวของสาลี่จะค่อนข้างแห้งแบบแข็งๆสากๆกว่าลูกอื่นๆ
- Jergens ผิวของสาลี่ค่อนข้างแห้ง ตามสภาพที่โดนทิ้งตากลมไว้ แต่สีไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก
- Nivea อันนี้จับแล้วจะรู้สึกสากรองลงมาจากสาลี่ที่ไม่ได้ทาโลชั่นเลยค่ะ แปลกใจกับสีที่มองจากสายตาเหมือนกัน เพราะดูเหมือนจะไม่เหี่ยว แต่พอจับแล้วก็แห้งพอสมควรเหมือนกัน
- Snail White body booster ผิวของสาลี่นุ่มกว่า และชุ่มชื่นทั้ง 3 ลูกที่เหลือ ถึงจะมองด้วยตาจะสีเหมือนกับลูกอื่นๆก็เถอะ
3.ฝรั่ง
เหมือนกับสาลี่ข้างบนคือ จากการสังเกต สีความคล้ำของฝรั่งจะไม่ค่อยต่างกันทั้ง 4 ลูก
แต่จากผิวสัมผัส Snail White body booster จะยังนิ่มและชุ่มชื่นกว่า Nivea และ Jergens ค่ะ
สรุปกันเลยนะคะ
จากการทดสอบทั้งหมดของ 3 ยี่ห้อนี้ เราขอให้คะแนนตามนี้ค่ะ
-
Snail White Body Booster เราให้ 8 /10 ในด้านความเข้มข้นเนื้อครีม และความชุ่มชื่นและการซึมเข้าสู่ผิวค่ะ
เพราะผลทดสอบที่ออกมา พอได้สัมผัสกับผิวผลไม้ ทำให้รู้สึกว่า เนื้อผลไม้ยังชุ่มชื่นอยู่
-
Jergens เราให้ 6.5/10 เพราะว่า ครีมซึมช้าเกิน
ผลการทดสอบที่ออกมา jergens ก็คงความชุ่มชื้นได้ดีนะคะ โดยเฉพาะแอปเปิ้ล แต่ขอหักคะแนนตรงที่ซึมช้า จริงๆถ้าใครเคยทาเจอร์เก้น ก็จะรู้สึกว่าซึมช้านิดนึง แต่ถ้าใครผิวแห้งก็อาจจะชอบได้
-
Nivea Dry Skin Therapy Serum เราให้ 6/10 เพราะว่าดูแล้วไม่ค่อยคงความชุ่มชื่น ตามผลการทดลองที่ออกมาก็จะเห็นว่า เนื้อผลไม้ที่ทา nivea จะแห้งๆไป
และงานนี้ถึงผลไม้ที่ทาด้วยโลชั่นทั้ง 3 ยี่ห้อ จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังไงแล้ว การทาโลชั่นก็ยังดีกว่าไม่ดูแลผิวเลยนะคะ เราว่าลองใช้ดูตามที่แต่ละคนชอบดีกว่า
ยังไงหน้าหนาวนี้ อย่าลืมดูแลรักษาทั้งผิวหน้าและผิวกายด้วยนะคะ จะได้มาสวยปิ๊งรับลมหนาวกัน สำหรับวันนี้ขอจบการทดลองเพียงเท่านี้ค่ะ ^^ ใครเคยเทส อะไรที่คล้ายๆแบบเราแชร์มาให้อ่านกันบ้างนะเราว่าสนุกให้ประโยชน์ด้วยจ้า
เมื่อชะนีขี้สงสัยลองเอาโลชั่นทาผิวมาทาผลไม้..จะเป็นยังไง? มาดูกัน!
ยิ่งใกล้หน้าหนาวแบบนี้ ยิ่งต้องเทสว่าโลชั่นทาผิวที่เราใช้ จะทำให้เรารับมือกับหนาวนี้ไปได้อย่างสวยงามรึป่าว?? โอเค!! รื้อของในบ้านมาจับทดลองซะ ในตู้เย็นมีผลไม้อยู่ 3 อย่าง คือ แอปเปิ้ล สาลี่ และฝรั่ง
ส่วนโลชั่นที่เราลองหยิบมาทดลองมี 3 ตัว คือ Nivea , Jergens สูตร Ultra Healing Extra แล้วก็ Snail White Body Booster ค่ะ ที่เลือก 3 ยี่ห้อนี้ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เพราะเป็นยี่ห้อที่เรามีที่บ้านอยู่แล้ว Nivea นี่เป็นขวดที่ซื้อตอนเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วลืมเอาครีมไป ไม่ค่อยได้ใช้บ่อย แต่ Jergens นี่ใช้มานานแล้วค่ะ ใช้ตามพี่สาว ส่วน Snail White Body Booster เพิ่งซื้อลองมาใช้ได้ซักพักนึง (เห็นพรีเซนเตอร์ ชมพู่ อารยา ละอยากลองบ้างง่ะ ทำตาม สวยสวย อิอิ)
มาเริ่มกันเลย.... เริ่มต้นเราเอาผลไม้มาหั่นผ่าครึ่งออกมาเป็น 2 ซีกค่ะ เพื่อที่เอาโลชั่น มาทาๆ ถูๆ ตรงเนื้อผลไม้ โดยที่ฝั่งซ้ายสุดจะไม่ได้ทาโลชั่น และเรียงมาจะเป็น Jergens Nivea และ Snail White body booster ตามลำดับค่ะ
พอทาเสร็จแล้วก็จะออกมาฉ่ำๆวาวๆแบบนี้เลย
สังเกตว่าที่เนื้อผลไม้จะชุ่มไปด้วยโลชั่นของทั้ง 3 ตัวนะคะ โดยที่ปริมาณการทา เรากะเองด้วยสายตาค่ะ ซึ่งพยายามทาให้เท่าๆกันทั้งหมดเลย แล้วก็วางตากลมเอาไว้ หลังจากนั้นก็รอเวลาค่ะ เพื่อที่จะสังเกตผลเป็นระยะๆ
2 ชั่วโมงผ่านไป มาดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง…
จากการสังเกต เนื้อผลไม้ทั้ง 3 ยี่ห้อมีความเปลี่ยนแปลที่แตกต่างกันออกไปค่ะ โดยเราจะแบ่งออกเป็นชนิดๆ ดังนี้
1. แอปเปิ้ล
- ลูกทีไม่ได้ทา เริ่มเหี่ยวและมีสีเหลืองบริเวณรอยขอบนิดหน่อย
- Jergens ยังคงความชุ่มชื้นได้ดี มีสีเหลืองเล็กๆ
- Nivea เริ่มเหี่ยวและมีสีเหลืองน้ำตาลๆบริเวณเนื้อผลไม้แบบเป็นวงกว้าง
- Snail White body booster ยังมีความชุ่มชื่น เริ่มเป็นสีเหลืองนิดหน่อย แต่ไม่มาก
2. สาลี่
ในส่วนของสาลี่ยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่างจากการสังเกตด้วยสายตามานัก แต่ที่เห็นได้ชัดคือตัวที่ไม่ได้ทาโลชั่นจะค่อนข้างแห้งกว่า 3 ตัวที่เหลือ
3. ฝรั่ง
ในส่วนของฝรั่งก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของสีแน่ชัด
- ลูกที่ไม่ได้ทาครีมจับแล้วจะค่อนข้างแห้ง
- Jergens เนื้อโลชั่นยังคงเกาะอยู่บนหน้าผิวผลไม้ ยังคงดูเหนอะๆแบบเห็นได้ชัด เรียกว่าซึมช้ามาก ถ้าเทียบกับ Nivea และ Snail White body booster ที่ตอนนี้โลชั่นซึมลงไปหมดแล้ว
5 ชั่วโมงผ่านไป..
เมื่อเวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง สามารถสรุปผลการทดลองทาครีมที่ผลไม้ได้ดังนี้ค่ะ
1. แอปเปิ้ล
- ลูกที่ไม่ได้ทา ถึงเนื้อผลไม้จะมีสีเหลืองไม่มาก แต่เปลือกตรงขอบจะเหี่ยวๆช้ำๆกว่าทั้ง 3 ลูกที่ทาโลชั่นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
- Jergens แอปเปิ้ลดูสภาพดี ไม่คล้ำหรือเหี่ยวเหมือนลูกอื่นๆ
- Nivea แอปเปิ้ลมีสีเหลืองน้ำตาลๆบริเวณตามรอยขอบ และเนื้อผลไม้มากกว่าอันอื่นๆ
- Snail White body booster แอปเปิ้ลมีสีเหลืองน้ำตาลๆเช่นกัน
2. สาลี่
ในเรื่องของการสังเกต จะเห็นว่าทั้ง 4 ลูก สีของสาลี่ไม่ต่างกันมากนัก แต่เมื่อลองเอามือสัมผัสจะรู้สึกถึงความต่างกัน ดังนี้
- ลูกที่ไม่ได้ทา ผิวของสาลี่จะค่อนข้างแห้งแบบแข็งๆสากๆกว่าลูกอื่นๆ
- Jergens ผิวของสาลี่ค่อนข้างแห้ง ตามสภาพที่โดนทิ้งตากลมไว้ แต่สีไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก
- Nivea อันนี้จับแล้วจะรู้สึกสากรองลงมาจากสาลี่ที่ไม่ได้ทาโลชั่นเลยค่ะ แปลกใจกับสีที่มองจากสายตาเหมือนกัน เพราะดูเหมือนจะไม่เหี่ยว แต่พอจับแล้วก็แห้งพอสมควรเหมือนกัน
- Snail White body booster ผิวของสาลี่นุ่มกว่า และชุ่มชื่นทั้ง 3 ลูกที่เหลือ ถึงจะมองด้วยตาจะสีเหมือนกับลูกอื่นๆก็เถอะ
3.ฝรั่ง
เหมือนกับสาลี่ข้างบนคือ จากการสังเกต สีความคล้ำของฝรั่งจะไม่ค่อยต่างกันทั้ง 4 ลูก
แต่จากผิวสัมผัส Snail White body booster จะยังนิ่มและชุ่มชื่นกว่า Nivea และ Jergens ค่ะ
สรุปกันเลยนะคะ
จากการทดสอบทั้งหมดของ 3 ยี่ห้อนี้ เราขอให้คะแนนตามนี้ค่ะ
- Snail White Body Booster เราให้ 8 /10 ในด้านความเข้มข้นเนื้อครีม และความชุ่มชื่นและการซึมเข้าสู่ผิวค่ะ
เพราะผลทดสอบที่ออกมา พอได้สัมผัสกับผิวผลไม้ ทำให้รู้สึกว่า เนื้อผลไม้ยังชุ่มชื่นอยู่
- Jergens เราให้ 6.5/10 เพราะว่า ครีมซึมช้าเกิน
ผลการทดสอบที่ออกมา jergens ก็คงความชุ่มชื้นได้ดีนะคะ โดยเฉพาะแอปเปิ้ล แต่ขอหักคะแนนตรงที่ซึมช้า จริงๆถ้าใครเคยทาเจอร์เก้น ก็จะรู้สึกว่าซึมช้านิดนึง แต่ถ้าใครผิวแห้งก็อาจจะชอบได้
- Nivea Dry Skin Therapy Serum เราให้ 6/10 เพราะว่าดูแล้วไม่ค่อยคงความชุ่มชื่น ตามผลการทดลองที่ออกมาก็จะเห็นว่า เนื้อผลไม้ที่ทา nivea จะแห้งๆไป
และงานนี้ถึงผลไม้ที่ทาด้วยโลชั่นทั้ง 3 ยี่ห้อ จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังไงแล้ว การทาโลชั่นก็ยังดีกว่าไม่ดูแลผิวเลยนะคะ เราว่าลองใช้ดูตามที่แต่ละคนชอบดีกว่า
ยังไงหน้าหนาวนี้ อย่าลืมดูแลรักษาทั้งผิวหน้าและผิวกายด้วยนะคะ จะได้มาสวยปิ๊งรับลมหนาวกัน สำหรับวันนี้ขอจบการทดลองเพียงเท่านี้ค่ะ ^^ ใครเคยเทส อะไรที่คล้ายๆแบบเราแชร์มาให้อ่านกันบ้างนะเราว่าสนุกให้ประโยชน์ด้วยจ้า