Wind Energy - ของแท้ หรือของเทียม หรือจะเป็นมหกรรมต้มตุ๋นที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
จริงๆแล้วผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นหรอก แต่พอดีมันมีอะไรบางอย่างตะหงิดๆหลังมีข่าวออกมาในวันนี้
เมื่อราว 2 - 3 เดือนที่แล้ว ผมได้รับการติดต่อจากมาร์เก็ตติ้งโบรก ASP บอกว่า บริษัทจะมีการนำเสนอข้อมูลของบริษัทที่จะทำพลังงานลมแห่งหนึ่ง ชื่อว่า บริษัท Wind Energy ซึ่งจะทำฟาร์มกังหันลมในประเทศไทยที่ห้วยบง นครราชสีมา
โดยบริษัทแห่งนี้ต้องการขายหุ้นแบบ pre-IPO คือยังไม่ได้เข้าตลาดนะ แต่ต้องการเงิน ต้องการออกหุ้นให้กับนักลงทุนบางส่วนก่อน หลังจากนั้นมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนผ่านการทำ IPO ราวเดือนตุลาคมปี 2558
มีข้อแม้ว่า นักลงทุนจะต้องซื้อไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท และจัดสรรให้กับผู้ที่เสนอยอดซื้อสูงสุดก่อน!!!! ในราคาหุ้นละราว 570 บาท
สิ่งที่ทำให้ผมไม่สนใจมันตั้งแต่ต้นเลยก็คือ
1. ทำไมผมจะต้องจ่ายเงิน 570 บาทต่อหุ้นแล้วทิ้งเงินเอาไว้อย่างนั้น ทำอะไรกับมันไม่ได้แล้วก็รอว่าปีหน้าหุ้นผมจะซื้อขายในตลาด แล้วถ้ามันเข้าตลาดไม่ได้ล่ะ???
2. บริษัทจะทำพลังงานลม จนถึงปัจจุบันมีมูลค่าตลาด ถ้านับที่ราคาขาย 570 บาทก็เฉียด 1 แสนล้านบาทแล้ว กับโครงการที่ยังไม่สำเร็จ จ่ายไฟยังไม่ได้ ผมว่ามันขายฝันมากเกินไป
3. ผมได้ยินข่าวว่ามาว่า ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ มีประวัติไม่ค่อยโปร่งใสเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงที่หลบไปอยู่ต่างประเทศมานับ 10 ปี
ก่อนจะเล่าเรื่องต่อไป อยากให้รู้ว่า DEMCO ได้เข้าถือหุ้นของ Wind Energy ด้วยในสัดส่วนราว 4% และที่ราคาหุ้น DEMCO ปรับแรงขึ้นมาก็เพราะกระแสข่าวการทำ IPO ของ Wind Energy ในปีหน้า รวมทั้งเรื่องเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นด้วย (แปลกดีนะ บริษัทยังไม่ได้ขายไฟเลย ทำไมถึงมีรายได้มากพอจ่ายปันผลให้กับ DEMCO ได้)
โดย DEMCO นั้น ทางเจ้าของมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายนพพร และได้เข้าร่วมกับนายนพพรตั้งแต่สมัยที่นายนพพรเริ่มขายฝันพลังงานลมด้วยการก่อตั้งบริษัท Sustainable Energy จะทำพลังงานลมที่เขาค้อ โดยการเข้าซื้อของ DEMCO มีเงื่อนไขว่า ต้องให้งานในการก่อสร้างต่างๆกับ DEMCO แต่ตอนนี้โครงการที่เขาค้อเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะได้ข่าวว่าไม่ผ่าน EIA เมื่อหลายปีมาแล้ว
และเรื่องที่น่าตลกที่สุดก็คือ
นายนพพร มีชื่อติดเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย ของ Forbes Thailand โดยมีทรัพย์สินเป็นมูลค่าถึง 26076 ล้านบาท โดยถือหุ้นใน Wind Energy ราว 2 ใน 3 เริ่มทำธุรกิจพลังงานทางเลือกในปี 2548 ด้วยการสนับสนุนเงินทุนจาก นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ซึ่งก็ติดอันดับร่ำรวยอันดับที่ 44
พออ่านประวัตินายประเดช ก็บอกว่าเคยทำงานอยู่การไฟฟ้า ก่อนตั้งบริษัท DEMCO เข้าร่วมลงทุนระยะแรกเริ่มกับ Wind Energy ที่ก่อตั้งโดยนายนพพร โดยถือหุ้น 24% ใน Wind Energy โดยปีที่ผ่านประเดช ขายหุ้น DEMCO เพื่อเอาไปซื้อหุ้น SUPER
อ่านแล้วเป็นไงดีล่ะครับ มีความรู้สึกเหมือนเป็นขบวนการอะไรบางอย่างหรือเปล่า??
และที่น่าพิศวงมากที่สุดก็คือ ข่าวที่ออกมาเมื่อเช้านี้ เกี่ยวกับการจับแก๊งค์อุ้มทวงหนี้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อกับตระกูล "อัครพงษ์ปรีชา" ที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้
โดยมีการจับผู้ต้องหาได้ 2 คน คดีดักอุ้มนายบัญฑิต โชติวิทยะกุล โดยได้มีการซักทอดว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้รับการว่าจ้างจาก "นายนพพร ศุภพิพัฒน์" เพื่ออุ้มนายบัณฑิตข่มขู่ขอลดหนี้สินที่ตัวเองติดค้างอยู่ จาก 120 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท โดยจะให้ค่าจ้าง 10% จากหนี้ที่ลดได้ หรือราว 10 ล้านบาท
อ่านแล้วก็ได้แต่สงสัย คนที่รวยระดับ 2 หมื่นกว่าล้าน มีชื่อจนติดอันดับนิตยสารชื่อดังอย่าง Forbes
ทำไมถึงไม่มีเงินคืนหนี้ 120 ล้านบาท แถมยังเข้าไปพัวพันกับคดีสุดอื้อฉาวในขณะนี้อีกด้วย
งานนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง และผมบอกตรงๆ ผมชักไม่แน่ใจความเป็นมาของบุคคลคนนี้เสียแล้ว เพราะลองค้นหาดู ประวัติของเขาช่วงที่ไปอยู่เมืองนอกราว 10 ปี นั้นเป็นปริศนาอย่างมาก แต่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า เขาปิดบริษัทหนีหนี้มาจากเมืองนอก
งานนี้ นักลงทุนขาใหญ่ที่ซื้อหุ้น pre-IPO ของ Wind Energy ไปคงมีหนาวๆร้อนๆ เพราะไม่รู้หากสาวลึกลงไปเรื่อยๆแล้ว จะไปเจอะอะไรไม่ชอบมาพากลใน Wind Energy หรือไม่
รวมไปถึงหุ้นอย่าง DEMCO ที่มีการเข้าไปมีส่วนร่วมกับนายนพพรตั้งแต่เข้ามาทำธุรกิจพลังงานทดแทน จะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น DEMCO ที่ขึ้นมา นักวิเคราะห์ไม่ได้รวมเอาเรื่องของ Wind Energy เข้าไปด้วยอยู่แล้ว
แต่ผลกระทบทางจิตวิทยาล่ะ จะมีหรือไม่ คงต้องมาตามดูกัน
เพราะประเด็นที่น่าสนใจตอนนี้คือ Wind Energy จะเป็นการตั้งบริษัทจริงๆ หรือเป็นเกมโกยเงินกันแน่!!!! เนื่องจากผู้ก่อตั้งดูไม่น่าเชื่อถือเอาอย่างมากทีเดียว
Cr:wattana
ขออนุญาตนำมาแชร์ต่อ เผื่อมีประโยชน์กับนักลงทุนรายย่อยในห้องสินธรนี้ครับ
Wind Energy - ของแท้ หรือของเทียม หรือจะเป็นมหกรรมต้มตุ๋นที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
จริงๆแล้วผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นหรอก แต่พอดีมันมีอะไรบางอย่างตะหงิดๆหลังมีข่าวออกมาในวันนี้
เมื่อราว 2 - 3 เดือนที่แล้ว ผมได้รับการติดต่อจากมาร์เก็ตติ้งโบรก ASP บอกว่า บริษัทจะมีการนำเสนอข้อมูลของบริษัทที่จะทำพลังงานลมแห่งหนึ่ง ชื่อว่า บริษัท Wind Energy ซึ่งจะทำฟาร์มกังหันลมในประเทศไทยที่ห้วยบง นครราชสีมา
โดยบริษัทแห่งนี้ต้องการขายหุ้นแบบ pre-IPO คือยังไม่ได้เข้าตลาดนะ แต่ต้องการเงิน ต้องการออกหุ้นให้กับนักลงทุนบางส่วนก่อน หลังจากนั้นมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนผ่านการทำ IPO ราวเดือนตุลาคมปี 2558
มีข้อแม้ว่า นักลงทุนจะต้องซื้อไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท และจัดสรรให้กับผู้ที่เสนอยอดซื้อสูงสุดก่อน!!!! ในราคาหุ้นละราว 570 บาท
สิ่งที่ทำให้ผมไม่สนใจมันตั้งแต่ต้นเลยก็คือ
1. ทำไมผมจะต้องจ่ายเงิน 570 บาทต่อหุ้นแล้วทิ้งเงินเอาไว้อย่างนั้น ทำอะไรกับมันไม่ได้แล้วก็รอว่าปีหน้าหุ้นผมจะซื้อขายในตลาด แล้วถ้ามันเข้าตลาดไม่ได้ล่ะ???
2. บริษัทจะทำพลังงานลม จนถึงปัจจุบันมีมูลค่าตลาด ถ้านับที่ราคาขาย 570 บาทก็เฉียด 1 แสนล้านบาทแล้ว กับโครงการที่ยังไม่สำเร็จ จ่ายไฟยังไม่ได้ ผมว่ามันขายฝันมากเกินไป
3. ผมได้ยินข่าวว่ามาว่า ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ มีประวัติไม่ค่อยโปร่งใสเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงที่หลบไปอยู่ต่างประเทศมานับ 10 ปี
ก่อนจะเล่าเรื่องต่อไป อยากให้รู้ว่า DEMCO ได้เข้าถือหุ้นของ Wind Energy ด้วยในสัดส่วนราว 4% และที่ราคาหุ้น DEMCO ปรับแรงขึ้นมาก็เพราะกระแสข่าวการทำ IPO ของ Wind Energy ในปีหน้า รวมทั้งเรื่องเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นด้วย (แปลกดีนะ บริษัทยังไม่ได้ขายไฟเลย ทำไมถึงมีรายได้มากพอจ่ายปันผลให้กับ DEMCO ได้)
โดย DEMCO นั้น ทางเจ้าของมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายนพพร และได้เข้าร่วมกับนายนพพรตั้งแต่สมัยที่นายนพพรเริ่มขายฝันพลังงานลมด้วยการก่อตั้งบริษัท Sustainable Energy จะทำพลังงานลมที่เขาค้อ โดยการเข้าซื้อของ DEMCO มีเงื่อนไขว่า ต้องให้งานในการก่อสร้างต่างๆกับ DEMCO แต่ตอนนี้โครงการที่เขาค้อเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะได้ข่าวว่าไม่ผ่าน EIA เมื่อหลายปีมาแล้ว
และเรื่องที่น่าตลกที่สุดก็คือ
นายนพพร มีชื่อติดเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย ของ Forbes Thailand โดยมีทรัพย์สินเป็นมูลค่าถึง 26076 ล้านบาท โดยถือหุ้นใน Wind Energy ราว 2 ใน 3 เริ่มทำธุรกิจพลังงานทางเลือกในปี 2548 ด้วยการสนับสนุนเงินทุนจาก นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ซึ่งก็ติดอันดับร่ำรวยอันดับที่ 44
พออ่านประวัตินายประเดช ก็บอกว่าเคยทำงานอยู่การไฟฟ้า ก่อนตั้งบริษัท DEMCO เข้าร่วมลงทุนระยะแรกเริ่มกับ Wind Energy ที่ก่อตั้งโดยนายนพพร โดยถือหุ้น 24% ใน Wind Energy โดยปีที่ผ่านประเดช ขายหุ้น DEMCO เพื่อเอาไปซื้อหุ้น SUPER
อ่านแล้วเป็นไงดีล่ะครับ มีความรู้สึกเหมือนเป็นขบวนการอะไรบางอย่างหรือเปล่า??
และที่น่าพิศวงมากที่สุดก็คือ ข่าวที่ออกมาเมื่อเช้านี้ เกี่ยวกับการจับแก๊งค์อุ้มทวงหนี้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อกับตระกูล "อัครพงษ์ปรีชา" ที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้
โดยมีการจับผู้ต้องหาได้ 2 คน คดีดักอุ้มนายบัญฑิต โชติวิทยะกุล โดยได้มีการซักทอดว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้รับการว่าจ้างจาก "นายนพพร ศุภพิพัฒน์" เพื่ออุ้มนายบัณฑิตข่มขู่ขอลดหนี้สินที่ตัวเองติดค้างอยู่ จาก 120 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท โดยจะให้ค่าจ้าง 10% จากหนี้ที่ลดได้ หรือราว 10 ล้านบาท
อ่านแล้วก็ได้แต่สงสัย คนที่รวยระดับ 2 หมื่นกว่าล้าน มีชื่อจนติดอันดับนิตยสารชื่อดังอย่าง Forbes
ทำไมถึงไม่มีเงินคืนหนี้ 120 ล้านบาท แถมยังเข้าไปพัวพันกับคดีสุดอื้อฉาวในขณะนี้อีกด้วย
งานนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง และผมบอกตรงๆ ผมชักไม่แน่ใจความเป็นมาของบุคคลคนนี้เสียแล้ว เพราะลองค้นหาดู ประวัติของเขาช่วงที่ไปอยู่เมืองนอกราว 10 ปี นั้นเป็นปริศนาอย่างมาก แต่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า เขาปิดบริษัทหนีหนี้มาจากเมืองนอก
งานนี้ นักลงทุนขาใหญ่ที่ซื้อหุ้น pre-IPO ของ Wind Energy ไปคงมีหนาวๆร้อนๆ เพราะไม่รู้หากสาวลึกลงไปเรื่อยๆแล้ว จะไปเจอะอะไรไม่ชอบมาพากลใน Wind Energy หรือไม่
รวมไปถึงหุ้นอย่าง DEMCO ที่มีการเข้าไปมีส่วนร่วมกับนายนพพรตั้งแต่เข้ามาทำธุรกิจพลังงานทดแทน จะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น DEMCO ที่ขึ้นมา นักวิเคราะห์ไม่ได้รวมเอาเรื่องของ Wind Energy เข้าไปด้วยอยู่แล้ว
แต่ผลกระทบทางจิตวิทยาล่ะ จะมีหรือไม่ คงต้องมาตามดูกัน
เพราะประเด็นที่น่าสนใจตอนนี้คือ Wind Energy จะเป็นการตั้งบริษัทจริงๆ หรือเป็นเกมโกยเงินกันแน่!!!! เนื่องจากผู้ก่อตั้งดูไม่น่าเชื่อถือเอาอย่างมากทีเดียว
Cr:wattana
ขออนุญาตนำมาแชร์ต่อ เผื่อมีประโยชน์กับนักลงทุนรายย่อยในห้องสินธรนี้ครับ