"หากใครเสนอให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ไม่มีปัญหา แต่อย่าหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณ"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Tony Abbott นายก Australia โว ถ่านหิน ก๊าซ ยังมีใช้ได้อีกหลายร้อยปี!!! แต่ไม่ค้าน ถ้าประชาชนจะเอา Nuclear
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ธันวาคม 2557
เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย เผยทรัพยากรถ่านหินและก๊าซธรรมชาติยังมีมหาศาลใช้ได้ "หลายร้อยปี" แต่พร้อมเปิดโอกาสให้ประเทศเข้าสู่โหมดพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ หลังแดนจิงโจ้กำลังถูกนานาชาติกดดันให้ต้องลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างจริงจัง
ออสเตรเลียเป็นชาติที่ผลิตยูเรเนียมได้มากเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากคาซักสถานและแคนาดา แต่กลับไม่เคยใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์มาก่อน เนื่องจากยังมีทรัพยากรถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งประชาชนก็กังวลในเรื่องความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นานาชาติเรียกร้องให้แคนเบอร์ราต้องแถลงเป้าหมายลดโลกร้อนที่ชัดเจนระหว่างการประชุมสภาพอากาศที่ปารีสในปี 2015 นายกฯ แอบบ็อตต์ จึงเอ่ยในที่สุดว่า เขาไม่เคยต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์
“ในส่วนของนิวเคลียร์นั้น อย่างที่ผมเรียนให้ทราบแล้วในหลายโอกาสว่า ผมไม่ได้ปฏิเสธนิวเคลียร์เลยในทางทฤษฎี” ผู้นำออสซี่กล่าววันนี้(1)
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ผู้นำออสเตรเลียเพิ่งจะยกย่องว่าถ่านหิน “ดีต่อมนุษยชาติ” และถึงขั้นเคยประณามศาสตร์โลกร้อนว่าเป็น “เรื่องเหลวไหล”
เมื่อเทียบต่อหัวประชากรแล้ว แดนจิงโจ้ถือเป็นชาติที่ก่อมลพิษสูงที่สุดในโลกชาติหนึ่ง เพราะรัฐบาลมีนโยบายพึ่งพาพลังงานถ่านหินและเน้นการทำเหมืองเพื่อส่งออก
รแคนเบอร์ราตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 5.0% จากระดับปี 2000 ภายในปี 2020 ขณะที่นักสิ่งแวดล้อมชี้ว่าควรทำให้ได้ถึง 15%
การเปิดประเด็นอภิปรายเรื่องนิวเคลียร์เกิดขึ้นในออสเตรเลีย หลังจากที่สหรัฐฯ และจีนซึ่งเป็น 2 ชาติผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศข้อตกลงร่วมยกระดับต่อสู้การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งทำให้ปัญหาโลกร้อนกลายเป็นวาระการเมืองระดับโลก
แอบบ็อตต์ ยอมรับว่า พลังงานนิวเคลียร์เป็นองค์ประกอบสำคัญของนโยบายพลังงานแบบผสมผสานในหลายๆ ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
“เพราะฉะนั้นผมไม่ได้ต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์เลยในทางทฤษฎี และหากเราจำเป็นต้องลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมาก ก็ต้องไม่ลืมว่านิวเคลียร์เป็นหนทางหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเป็นแหล่งพลังงานที่ปราศจากก๊าซเรือนกระจก”
“ที่ผ่านมาเราไม่เคยพิจารณาเรื่องนี้ เพราะออสเตรเลียไม่ได้ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานเหมือนอย่างหลายๆ ประเทศ เรามีถ่านหินเหลือเฟือ มีก๊าซธรรมชาติมากมาย ถ่านหินและก๊าซที่เรามีอยู่ยังสามารถใช้ได้ไปอีกหลายร้อยปี”
“เราต้องการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยลง และเราพร้อมจะทำ... หากใครเสนอให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในออสเตรเลียก็ไม่มีปัญหา แต่อย่าหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณ” แอบบ็อตต์ กล่าวทิ้งท้าย
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000138160
ตอกย้ำ!!! พลังงาน Nuclear ไม่จำเป็น!!! Tony Abbott นายก Australia โว ถ่านหิน ก๊าซ ยังมีใช้ได้อีกหลายร้อยปี!!!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Tony Abbott นายก Australia โว ถ่านหิน ก๊าซ ยังมีใช้ได้อีกหลายร้อยปี!!! แต่ไม่ค้าน ถ้าประชาชนจะเอา Nuclear
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ธันวาคม 2557
เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย เผยทรัพยากรถ่านหินและก๊าซธรรมชาติยังมีมหาศาลใช้ได้ "หลายร้อยปี" แต่พร้อมเปิดโอกาสให้ประเทศเข้าสู่โหมดพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ หลังแดนจิงโจ้กำลังถูกนานาชาติกดดันให้ต้องลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างจริงจัง
ออสเตรเลียเป็นชาติที่ผลิตยูเรเนียมได้มากเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากคาซักสถานและแคนาดา แต่กลับไม่เคยใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์มาก่อน เนื่องจากยังมีทรัพยากรถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งประชาชนก็กังวลในเรื่องความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นานาชาติเรียกร้องให้แคนเบอร์ราต้องแถลงเป้าหมายลดโลกร้อนที่ชัดเจนระหว่างการประชุมสภาพอากาศที่ปารีสในปี 2015 นายกฯ แอบบ็อตต์ จึงเอ่ยในที่สุดว่า เขาไม่เคยต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์
“ในส่วนของนิวเคลียร์นั้น อย่างที่ผมเรียนให้ทราบแล้วในหลายโอกาสว่า ผมไม่ได้ปฏิเสธนิวเคลียร์เลยในทางทฤษฎี” ผู้นำออสซี่กล่าววันนี้(1)
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ผู้นำออสเตรเลียเพิ่งจะยกย่องว่าถ่านหิน “ดีต่อมนุษยชาติ” และถึงขั้นเคยประณามศาสตร์โลกร้อนว่าเป็น “เรื่องเหลวไหล”
เมื่อเทียบต่อหัวประชากรแล้ว แดนจิงโจ้ถือเป็นชาติที่ก่อมลพิษสูงที่สุดในโลกชาติหนึ่ง เพราะรัฐบาลมีนโยบายพึ่งพาพลังงานถ่านหินและเน้นการทำเหมืองเพื่อส่งออก
รแคนเบอร์ราตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 5.0% จากระดับปี 2000 ภายในปี 2020 ขณะที่นักสิ่งแวดล้อมชี้ว่าควรทำให้ได้ถึง 15%
การเปิดประเด็นอภิปรายเรื่องนิวเคลียร์เกิดขึ้นในออสเตรเลีย หลังจากที่สหรัฐฯ และจีนซึ่งเป็น 2 ชาติผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศข้อตกลงร่วมยกระดับต่อสู้การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งทำให้ปัญหาโลกร้อนกลายเป็นวาระการเมืองระดับโลก
แอบบ็อตต์ ยอมรับว่า พลังงานนิวเคลียร์เป็นองค์ประกอบสำคัญของนโยบายพลังงานแบบผสมผสานในหลายๆ ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
“เพราะฉะนั้นผมไม่ได้ต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์เลยในทางทฤษฎี และหากเราจำเป็นต้องลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมาก ก็ต้องไม่ลืมว่านิวเคลียร์เป็นหนทางหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเป็นแหล่งพลังงานที่ปราศจากก๊าซเรือนกระจก”
“ที่ผ่านมาเราไม่เคยพิจารณาเรื่องนี้ เพราะออสเตรเลียไม่ได้ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานเหมือนอย่างหลายๆ ประเทศ เรามีถ่านหินเหลือเฟือ มีก๊าซธรรมชาติมากมาย ถ่านหินและก๊าซที่เรามีอยู่ยังสามารถใช้ได้ไปอีกหลายร้อยปี”
“เราต้องการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยลง และเราพร้อมจะทำ... หากใครเสนอให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในออสเตรเลียก็ไม่มีปัญหา แต่อย่าหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณ” แอบบ็อตต์ กล่าวทิ้งท้าย
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000138160