ใครเบื่อแฟนอยากเลิกกับแฟน ยกมือขึ้น !! บอกแบบนี้ไม่ได้ยุให้เลิกกับแฟนนะครับ ถ้าพอรักษาได้
ก็รักษากันไปครับ ถ้าพอเยียวยาได้ ก็เยียวยากันไป ปรับความเข้าใจกันไปครับ กระทู้นี้เหมาะสำหรับ
คนที่ลองมาหลายวิธีแล้ว ไม่ได้ผลแล้วรู้สึกว่าทุกข์ทรมานกับการใช้ชีวิตคู่จนรู้สึกว่าอยากแยกตัวออกห่าง
เอาละ...วันนี้ จขกท อยากจะแบ่งปันวิธีเลิกกันแฟนแบบวิถีพุทธ ซึ่ง จขกท
ได้ทำการทดลองมาแล้ว จากประสบการณ์จริง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่ว่ากันนะครับ แต่ถ้าใครลองมาหลายวิธีแล้วตัดใจเลิกไม่ได้สักที
จขกท ขอท้าครับ.... ไม่ได้ขอให้เชื่อครับ.........
ทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ เรื่องของคนสองคนนั้นมันมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย เชื่อว่าหลายคน
ก็จะบอกว่าทำไมไม่ทำแบบนั้นละ แก้แบบนี้ละ ผมไม่สามารถเอาสิ่งที่พบเจอมาตลอด ๗ ปีมาเขียน
ลงในนี้ได้ทุกแง่ทุกมุมนะครับ แค่อยากจะเสนอแง่มุมจากตัวที่ผมได้ทดลองอาจจะไม่ถูกต้องสะทั้งหมด
หรืออาจจะใช้ไม่ได้ผลกับบางคนครับ เพราะทางเลือกในชีวิต ขีดความอดทน วิธีคิดแต่ละคนต่างกันไปครับ
มันไม่มีอะไร สำเร็จ ที่ใช้กันได้ทุกคนทุกกรณีครับ.....
มาเริ่มกันเลยครับ
ย้อนกลับไปเมื่อ ๘ ปีที่แล้วก่อนที่ จขกท จะตัดสินใจแต่งงาน เคยมีโอกาสไปปฎิบัติธรรมที่วัดมาบจันทร์ จังหวัดระยอง จำได้ว่า
ตอนถวายเพล พระอาจารย์อนันต์ เจ้าอาวาสวัดมาบจันทร์ ท่านได้สอบถามคนที่ไปทำบุญว่า "คนที่มีครอบครัวอาตมาถามจริงๆ ว่า
ถ้าวันนี้เลือกได้ จะอยากย้อนเวลากลับไปโสตไหม อาตมาเชื่อว่าหลายคนอยากเลือกอยู่คนเดียวมากกว่า" จขกทเอง ฟังแล้วก็ยังนึก
ไม่ออกว่าที่ว่าการมีคู่มันทุกข์นั้น มันทุกข์อย่างไร เปรียบเสมือน "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า"
หลายคนคงมีความเชื่อเหมือนผมว่า ถ้าอยากเจอคนดีๆ เราก็ต้องไปที่ดีๆ เช่นวัดเป็นต้น จขกท ก็เคยเชื่อแบบนั้นครับ ด้วยความที่
จขกท เป็นคนชอบไปปฎิบัติธรรม วันหนึ่งจึงได้มีโอกาสเจอ ผญ คนหนึ่งที่มาบวชที่วัดที่ จขกท ไปปฎิบัติธรรม จากเริ่มต้นคบกันแบบ
กัลยาณมิตรแล้วก็ค่อยๆพัฒนากันเป็นแฟน จนสุดท้ายตัดสินใจแต่งงานหลังจากดูใจกันมา ๑ ปี ถึงแม้ว่าตอนนั้น พ่อและแม่ของ
จขกท จะไม่เห็นด้วย เพราะพ่อแม่ เคยไปสืบมาว่า แฟนเรานั้นเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง แต่ด้วยความดื้นรั้น
คำเตือนนั้นก็มิได้เป็นผลครับ......
ต้องขอเล่า Background ของแฟนผมสักเล็กน้อยครับ แฟนเก่า จขกท เป็นลูกคนมีเงินครับ เธอมีรถยนต์ขับตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
มีคนดูแลตั้งแต่เด็กไม่เคยทำงานใดๆทั้งสิ้นครับ จริงๆทุกคนมีข้อเสียครับ เธอก็มีข้อเสียไม่น้อยเหมือนกันแต่ประเด็นนี้ผมขอห้ามไปก่อนนะครับ
จริงๆจะว่าไปเธอเองก็มีข้อดีอยู่บ้างเหมือนกัน เธอชอบไปปฎิบัติธรรมที่วัดถึงแม้ว่า การไปดังกล่าวเธอคาดหวังว่าจะได้บุญเยอะๆจากการไปวัด
เพื่อส่งผลให้เธอได้ร่ำรวยมีเงินทอง ซึ่งประเด็นนี้น่าสนใจนะครับ คนไปวัดปฎิบัติมีหลายเหตุผล บางคนต้องการไปเพื่อหลุดพ้น บางคน
ต้องการไปเพื่อให้ชีวิตเจริญร่ำรวย ซึ่งตรงนี้ จขกท ก็พลาดลืมคิดไปในตอนนั้นครับ
วิธีเลิกกับแฟนแบบวิถีพุทธ ใครอยากเลิกกับแฟนเชิญทางนี้ เขียนจากประสบการณ์จริง
ก็รักษากันไปครับ ถ้าพอเยียวยาได้ ก็เยียวยากันไป ปรับความเข้าใจกันไปครับ กระทู้นี้เหมาะสำหรับ
คนที่ลองมาหลายวิธีแล้ว ไม่ได้ผลแล้วรู้สึกว่าทุกข์ทรมานกับการใช้ชีวิตคู่จนรู้สึกว่าอยากแยกตัวออกห่าง
เอาละ...วันนี้ จขกท อยากจะแบ่งปันวิธีเลิกกันแฟนแบบวิถีพุทธ ซึ่ง จขกท
ได้ทำการทดลองมาแล้ว จากประสบการณ์จริง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่ว่ากันนะครับ แต่ถ้าใครลองมาหลายวิธีแล้วตัดใจเลิกไม่ได้สักที
จขกท ขอท้าครับ.... ไม่ได้ขอให้เชื่อครับ.........
ทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ เรื่องของคนสองคนนั้นมันมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย เชื่อว่าหลายคน
ก็จะบอกว่าทำไมไม่ทำแบบนั้นละ แก้แบบนี้ละ ผมไม่สามารถเอาสิ่งที่พบเจอมาตลอด ๗ ปีมาเขียน
ลงในนี้ได้ทุกแง่ทุกมุมนะครับ แค่อยากจะเสนอแง่มุมจากตัวที่ผมได้ทดลองอาจจะไม่ถูกต้องสะทั้งหมด
หรืออาจจะใช้ไม่ได้ผลกับบางคนครับ เพราะทางเลือกในชีวิต ขีดความอดทน วิธีคิดแต่ละคนต่างกันไปครับ
มันไม่มีอะไร สำเร็จ ที่ใช้กันได้ทุกคนทุกกรณีครับ.....
มาเริ่มกันเลยครับ
ย้อนกลับไปเมื่อ ๘ ปีที่แล้วก่อนที่ จขกท จะตัดสินใจแต่งงาน เคยมีโอกาสไปปฎิบัติธรรมที่วัดมาบจันทร์ จังหวัดระยอง จำได้ว่า
ตอนถวายเพล พระอาจารย์อนันต์ เจ้าอาวาสวัดมาบจันทร์ ท่านได้สอบถามคนที่ไปทำบุญว่า "คนที่มีครอบครัวอาตมาถามจริงๆ ว่า
ถ้าวันนี้เลือกได้ จะอยากย้อนเวลากลับไปโสตไหม อาตมาเชื่อว่าหลายคนอยากเลือกอยู่คนเดียวมากกว่า" จขกทเอง ฟังแล้วก็ยังนึก
ไม่ออกว่าที่ว่าการมีคู่มันทุกข์นั้น มันทุกข์อย่างไร เปรียบเสมือน "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า"
หลายคนคงมีความเชื่อเหมือนผมว่า ถ้าอยากเจอคนดีๆ เราก็ต้องไปที่ดีๆ เช่นวัดเป็นต้น จขกท ก็เคยเชื่อแบบนั้นครับ ด้วยความที่
จขกท เป็นคนชอบไปปฎิบัติธรรม วันหนึ่งจึงได้มีโอกาสเจอ ผญ คนหนึ่งที่มาบวชที่วัดที่ จขกท ไปปฎิบัติธรรม จากเริ่มต้นคบกันแบบ
กัลยาณมิตรแล้วก็ค่อยๆพัฒนากันเป็นแฟน จนสุดท้ายตัดสินใจแต่งงานหลังจากดูใจกันมา ๑ ปี ถึงแม้ว่าตอนนั้น พ่อและแม่ของ
จขกท จะไม่เห็นด้วย เพราะพ่อแม่ เคยไปสืบมาว่า แฟนเรานั้นเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง แต่ด้วยความดื้นรั้น
คำเตือนนั้นก็มิได้เป็นผลครับ......
ต้องขอเล่า Background ของแฟนผมสักเล็กน้อยครับ แฟนเก่า จขกท เป็นลูกคนมีเงินครับ เธอมีรถยนต์ขับตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
มีคนดูแลตั้งแต่เด็กไม่เคยทำงานใดๆทั้งสิ้นครับ จริงๆทุกคนมีข้อเสียครับ เธอก็มีข้อเสียไม่น้อยเหมือนกันแต่ประเด็นนี้ผมขอห้ามไปก่อนนะครับ
จริงๆจะว่าไปเธอเองก็มีข้อดีอยู่บ้างเหมือนกัน เธอชอบไปปฎิบัติธรรมที่วัดถึงแม้ว่า การไปดังกล่าวเธอคาดหวังว่าจะได้บุญเยอะๆจากการไปวัด
เพื่อส่งผลให้เธอได้ร่ำรวยมีเงินทอง ซึ่งประเด็นนี้น่าสนใจนะครับ คนไปวัดปฎิบัติมีหลายเหตุผล บางคนต้องการไปเพื่อหลุดพ้น บางคน
ต้องการไปเพื่อให้ชีวิตเจริญร่ำรวย ซึ่งตรงนี้ จขกท ก็พลาดลืมคิดไปในตอนนั้นครับ