AJD - กล้าชี้แจงตรงๆ น่าชื่นชม ดีกว่าอีกหลายบริษัท แต่คำชี้แจงนั้นยอมรับไม่ได้
AJD ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุผลการที่ต้องเพิ่มทุน PP ในราคา 0.10 บาท และตอบคำถามที่ตลาดถามมาครบทุกข้อ
อ่านแล้วผมซูฮกพี่เลยครับ กล้าทำก็กล้ารับแบบแมนๆ ชี้แจงได้ตรงตามความต้องการของตัวเองมาก ดีกว่าอีกหลายบริษัทที่ยิ่งชี้แจงยิ่งงง เพราะมันบอกว่า "ไม่มีอะไร" 5555
มาถึงตรงนี้ บอกก่อนว่า เรื่องการ "เพิ่มทุน" ดังกล่าว น่าจะยังไม่ถูกยกเลิกนะครับ เพราะบริษัทเลือกที่จะชี้แจง และหวังจะดันการขายหุ้น PP ครั้งนี้ให้ได้ มาดูกันว่าสาระสำคัญของการชี้แจงเป็นยังไง
1. ความจำเป็นที่ต้องเพิ่มทุนมหาโหดครั้งนี้ หลักๆ "บริษัทไม่ได้ต้องการเงิน" แต่ต้องการ "connection ทางธุรกิจ" จากบุคคลเหล่านี้ เพราะบริษัทกำลังมีโครงการขยายไปต่างประเทศหลังเปิด AEC ส่วนเงินที่ได้มาก็เอามาเป็นเงินทุนหมุนเวียน จะได้ไม่ต้องกู้แบงก์
2. คณะกรรมการตรวจสอบมี 3 ท่าน ไม่มีท่านใดเห็นด้วยกับการเพิ่มทุน PP นี้เลย เพราะไม่เหมาะสม เอาเปรียบรายย่อย แต่กรรมการคนอื่นจะเอาอ่ะ ดังนั้นมตินี้จึงได้มาโดยวิธี "พวกมากลากไป"
สำหรับเหตุผลว่า ทำไมถึงเพิ่มทุนที่ 10 สตางค์ นั่นก็เพราะปัจจุบัน EPS หรือกำไรต่อหุ้นของบริษัทอยู่ที่ราว 0.005 บาท จึงขายหุ้น PP ที่ราคาที่ควรเป็นโดยมี PE 20 เท่า
เอ่อ พี่ครับ พี่กำลังจะบอกว่า ราคาเหมาะสมที่ PE20 เท่าควรอยู่แค่ 10 สตางค์ คิดเป็นราคาก่อนแตกพาร์ที่ 50 สตางค์ แล้วทำไมตอนขาย IPO พี่ทำราคา 2.50 บาทล่ะครับ
ผ่านไปแค่ 9 เดือน ทำไมงบของพี่มันเลวร้ายลงกว่าตอนที่พี่จะเข้าตลาดขนาดนี้เลยเหรอครับ??
เอ๊ะ หรือว่าพี่ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินตั้งราคา IPO สูงเกินจริง ใครเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหว่า ถ้าไม่ผิดจะเป็น ASP ใช่ปะ
แล้วการที่พี่มาพูดว่า ราคา PP นี่คือราคาที่เหมาะสมที่ควรจะเป็น คือที่ PE 20 เท่า อ้าว งี้ราคาหุ้นหลังปลด SP วันจันทร์ ไม่เละเทะเหรอครับ?? เพราะถึงขนาดบริษัทมาชี้แจงเองว่าราคาเหมาะสมของตัวควรอยู่ 0.10 บาท
3. ที่กำหนดการจ่ายเงินค่าเพิ่มทุนภายใน 6 เดือน นั้น กำหนดไว้หลวมๆ จริงๆถ้าอนุมัติผ่านก็ได้รับเงินเลยนะ แต่ที่เผื่อไว้เพราะเกิดมีปัญหาด้านกฏหมายและเอกสารน่ะ
4. รายชื่อ PP เนี่ย เป็นการเสนอมาของคู่ค้าในเมืองจีน และก็เป็นการแนะนำจากเจ้าของ คือ คุณอมร มีมะโน โดยมีบุคคล 2 รายที่อยู่ๆก็ติดต่อจะขอซื้อ PP เข้ามาเองเนี่ย ก็เป็นเพื่อนเก่าของเจ้าของนั่นล่ะ ไม่ใช่เซียนหุ้นที่อยากมาหากำไรนะจ๊ะ
เอ้า ข้อนี้คิดกันเอาเองว่าเป็นยังไงนะ 5555
5. บริษัทที่ปรึกษาในการทำรายการนี้คือ บริษัท ไคเมร่า จำกัด
เอ้าค้นจากใน net มาให้แล้วนะครับ บริษัทนี่เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อ 26 เดือนมิถุนายน 2557 ที่ผ่านมานี่เอง สงสัยจะเป็นการตั้งขึ้นเฉพาะกิจเพื่อดีลนี้โดยเฉพาะ และก็คงกะมาฟันค่าธรรมเนียมด้วยล่ะ ส่วนถ้าตั้งมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาโดยเฉพาะแบบไม่เนียนอย่างนี้ คงต้องไปสืบต่อว่า ไคเมร่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ AJD หรือกลุ่มผู้ที่จะได้ PP หรือไม่
6. เพิ่ง IPO ไปทำไมถึงจะเพิ่มทุนอีกแล้วล่ะ บริษัทชี้แจงว่า ก็ไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากได้พันธมิตรทางธุรกิจ เงินเป็นเรื่องรอง
เนี่ยนะ คนเหล่านี้น่ะจะมี connection ให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจออกไปได้นะ โดยปีหน้าบริษัทจะขยายไปเพื่อนบ้านรับ AEC แล้วก็
บริษัทจะขยายธุรกิจสู่ธุรกิจใหม่ด้วยนะ ให้ผลตอบแทนสูงปรี๊ดเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องอาศัย connection ของคนพวกนี่ล่ะ อ้อ แต่จะทำอะไรต้องอุบไว้ก่อนนะ กำลังศึกษาข้อมูลอยู่
(สรุปว่า ไอ้เรื่องหลังสุดนี่
!!!!)
7. จะเกิด dilution ผู้ถือหุ้นเดิมราว 33.33% และที่สำคัญก็คือ กลุ่มคน 13 คนนี้เนี่ยนะ เค้าเข่ามาซื้อ PP ไป ถือหุ้นรวมกัน 33.33%
แต่ แต่ แต่ เค้าใจดีกันมากเลย เค้าไม่ได้ต้องการส่งคนมานั่งเป็นกรรมการบริษัทเลยล่ะ ดังนั้นไม่ต้องห่วง ไม่กระทบการบริหารงานแน่นอน
(อืมม ตรงดีมากครับ เข้ามาซื้อหุ้นขนาดนั้น บอกว่าจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ แต่ไม่ขอบริหารนะ หุ หุ หุ แน่ละ มันขอเงินอย่างเดียวมันก็ชิ่งแล้ว ข้อนี้ชี้แจงไม่เนียนเนอะ)
8. Silent period หรือระยะเวลาห้ามขายหุ้ันเนี่ย บริษัทได้คุยๆให้แล้วนะ คนพวกนี้น่าจะยอมติด silent สัก 6 เดือนล่ะ
(ขอด่านะ สิ เข้ามาเป็นพันธมิตรนี่เขาใช้เวลากันแค่ 6 เดือนเองเหรอ?? ดีไม่ดี ไอ้โครงการที่จะขยายสู่ธุรกิจใหม่ที่ว่าจะให้ผลตอบแทนดีมันยังคิดไม่เสร็จเลยใน 6 เดือน ไอ้พวกนี้ชิงขายหุ้นหนีไปแล้ว)
เอ้า อ่านแล้วพิจารณากันเอาเองว่าจะอะไรยังไง แต่สำหรับผม ผมชื่นชมที่เขากล้าชี้แจงแบบตรงไปตรงมา
ตรงไปตรงมา ตรงที่ว่า อ่านปุ๊บก็รู้ปั๊บว่า ต้องการเข้ามาโกยกำไรจากเงินของรายย่อย แค่นั้นล่ะ
!!!!!! เน่น เน้น ตรงนี้เลย ว่าจะไม่พูด!!!!
ผมได้ยินมาว่า งานนี้คือการออกหุ้นให้กับเสี่ยคนหนึ่งที่เป็นคนเข้ามาปั่นหุ้น AJD ตั้งแต่แรกเริ่มแล้วติดหุ้นอยู่ และรายชื่อทั้ง 13 รายนี้ก็คือนอมินีของเสี่ยคนนั้น เพื่อให้มาเฉลี่ยต้นทุนของเสี่ยคนนั้นให้ถูกลง และหลังจากนั้นจะไล่หุ้นอีกรอบเพื่อออกของ
!!! ผมว่าบริษัทน่าจะชี้แจงตรงนี้ด้วยนะ ว่ามีมูลมากน้อยแค่ไหน!!!
งานนี้รายย่อยอย่าเพิ่งหมดหวัง เพียงคุณรวมกลุ่มกันได้ถึง 10% แล้วมอบอำนาจให้ใครเป็นตัวแทนไปเข้าร่วมระชุมพิจารณาเรื่องนี้ คุณสามารถทำให้ช้อเสนอนี้ตกไปได้
ผมแนะนำให้คุณรีบรวมตัวกันเพื่อประโยชน์ของตัวคุณเองแล้วคว่ำวาระนี้ให้ได้
แต่ก่อนอื่น คุณควรเดินทางไปที่บริษัท AJD แล้วเอากล้องถ่ายวิดีโอ ตอนคุณขอช้อมูลจากบริษัทว่า การมอบอำนาจต้องใช้เอกสารอะไรกันบ้าง แล้วเตรียมเอกสารตามที่บอก
เพราะเคยมีกรณีของ NOBLE ที่ต้องการให้ไปก่อนเวลาเท่าไหร่ ต้องการบัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบอำนาจ ซึ่งปกติไม่มีใครเขาทำกันหรอก แต่มันต้องการขวางการรวมตัวของนักลงทุนกลุ่มนั้น ก็เลยตุกติกหน้าห้องประชุม
ทำอะไรให้รัดกุมนะครับ แล้วคว่ำวาระเฮงซวยที่ตั้งใจทำเพื่อคนบางคนนี้ลงไปให้ได้
ผมคงได้แค่ส่งแรงเชียร์เพราะไม่มีหุ้นตัวนี้ครับ
เรื่องเล่า AJD จากใน line เพิ่งได้มา
AJD ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุผลการที่ต้องเพิ่มทุน PP ในราคา 0.10 บาท และตอบคำถามที่ตลาดถามมาครบทุกข้อ
อ่านแล้วผมซูฮกพี่เลยครับ กล้าทำก็กล้ารับแบบแมนๆ ชี้แจงได้ตรงตามความต้องการของตัวเองมาก ดีกว่าอีกหลายบริษัทที่ยิ่งชี้แจงยิ่งงง เพราะมันบอกว่า "ไม่มีอะไร" 5555
มาถึงตรงนี้ บอกก่อนว่า เรื่องการ "เพิ่มทุน" ดังกล่าว น่าจะยังไม่ถูกยกเลิกนะครับ เพราะบริษัทเลือกที่จะชี้แจง และหวังจะดันการขายหุ้น PP ครั้งนี้ให้ได้ มาดูกันว่าสาระสำคัญของการชี้แจงเป็นยังไง
1. ความจำเป็นที่ต้องเพิ่มทุนมหาโหดครั้งนี้ หลักๆ "บริษัทไม่ได้ต้องการเงิน" แต่ต้องการ "connection ทางธุรกิจ" จากบุคคลเหล่านี้ เพราะบริษัทกำลังมีโครงการขยายไปต่างประเทศหลังเปิด AEC ส่วนเงินที่ได้มาก็เอามาเป็นเงินทุนหมุนเวียน จะได้ไม่ต้องกู้แบงก์
2. คณะกรรมการตรวจสอบมี 3 ท่าน ไม่มีท่านใดเห็นด้วยกับการเพิ่มทุน PP นี้เลย เพราะไม่เหมาะสม เอาเปรียบรายย่อย แต่กรรมการคนอื่นจะเอาอ่ะ ดังนั้นมตินี้จึงได้มาโดยวิธี "พวกมากลากไป"
สำหรับเหตุผลว่า ทำไมถึงเพิ่มทุนที่ 10 สตางค์ นั่นก็เพราะปัจจุบัน EPS หรือกำไรต่อหุ้นของบริษัทอยู่ที่ราว 0.005 บาท จึงขายหุ้น PP ที่ราคาที่ควรเป็นโดยมี PE 20 เท่า
เอ่อ พี่ครับ พี่กำลังจะบอกว่า ราคาเหมาะสมที่ PE20 เท่าควรอยู่แค่ 10 สตางค์ คิดเป็นราคาก่อนแตกพาร์ที่ 50 สตางค์ แล้วทำไมตอนขาย IPO พี่ทำราคา 2.50 บาทล่ะครับ
ผ่านไปแค่ 9 เดือน ทำไมงบของพี่มันเลวร้ายลงกว่าตอนที่พี่จะเข้าตลาดขนาดนี้เลยเหรอครับ??
เอ๊ะ หรือว่าพี่ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินตั้งราคา IPO สูงเกินจริง ใครเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหว่า ถ้าไม่ผิดจะเป็น ASP ใช่ปะ
แล้วการที่พี่มาพูดว่า ราคา PP นี่คือราคาที่เหมาะสมที่ควรจะเป็น คือที่ PE 20 เท่า อ้าว งี้ราคาหุ้นหลังปลด SP วันจันทร์ ไม่เละเทะเหรอครับ?? เพราะถึงขนาดบริษัทมาชี้แจงเองว่าราคาเหมาะสมของตัวควรอยู่ 0.10 บาท
3. ที่กำหนดการจ่ายเงินค่าเพิ่มทุนภายใน 6 เดือน นั้น กำหนดไว้หลวมๆ จริงๆถ้าอนุมัติผ่านก็ได้รับเงินเลยนะ แต่ที่เผื่อไว้เพราะเกิดมีปัญหาด้านกฏหมายและเอกสารน่ะ
4. รายชื่อ PP เนี่ย เป็นการเสนอมาของคู่ค้าในเมืองจีน และก็เป็นการแนะนำจากเจ้าของ คือ คุณอมร มีมะโน โดยมีบุคคล 2 รายที่อยู่ๆก็ติดต่อจะขอซื้อ PP เข้ามาเองเนี่ย ก็เป็นเพื่อนเก่าของเจ้าของนั่นล่ะ ไม่ใช่เซียนหุ้นที่อยากมาหากำไรนะจ๊ะ
เอ้า ข้อนี้คิดกันเอาเองว่าเป็นยังไงนะ 5555
5. บริษัทที่ปรึกษาในการทำรายการนี้คือ บริษัท ไคเมร่า จำกัด
เอ้าค้นจากใน net มาให้แล้วนะครับ บริษัทนี่เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อ 26 เดือนมิถุนายน 2557 ที่ผ่านมานี่เอง สงสัยจะเป็นการตั้งขึ้นเฉพาะกิจเพื่อดีลนี้โดยเฉพาะ และก็คงกะมาฟันค่าธรรมเนียมด้วยล่ะ ส่วนถ้าตั้งมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาโดยเฉพาะแบบไม่เนียนอย่างนี้ คงต้องไปสืบต่อว่า ไคเมร่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ AJD หรือกลุ่มผู้ที่จะได้ PP หรือไม่
6. เพิ่ง IPO ไปทำไมถึงจะเพิ่มทุนอีกแล้วล่ะ บริษัทชี้แจงว่า ก็ไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากได้พันธมิตรทางธุรกิจ เงินเป็นเรื่องรอง
เนี่ยนะ คนเหล่านี้น่ะจะมี connection ให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจออกไปได้นะ โดยปีหน้าบริษัทจะขยายไปเพื่อนบ้านรับ AEC แล้วก็
บริษัทจะขยายธุรกิจสู่ธุรกิจใหม่ด้วยนะ ให้ผลตอบแทนสูงปรี๊ดเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องอาศัย connection ของคนพวกนี่ล่ะ อ้อ แต่จะทำอะไรต้องอุบไว้ก่อนนะ กำลังศึกษาข้อมูลอยู่
(สรุปว่า ไอ้เรื่องหลังสุดนี่ !!!!)
7. จะเกิด dilution ผู้ถือหุ้นเดิมราว 33.33% และที่สำคัญก็คือ กลุ่มคน 13 คนนี้เนี่ยนะ เค้าเข่ามาซื้อ PP ไป ถือหุ้นรวมกัน 33.33%
แต่ แต่ แต่ เค้าใจดีกันมากเลย เค้าไม่ได้ต้องการส่งคนมานั่งเป็นกรรมการบริษัทเลยล่ะ ดังนั้นไม่ต้องห่วง ไม่กระทบการบริหารงานแน่นอน
(อืมม ตรงดีมากครับ เข้ามาซื้อหุ้นขนาดนั้น บอกว่าจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ แต่ไม่ขอบริหารนะ หุ หุ หุ แน่ละ มันขอเงินอย่างเดียวมันก็ชิ่งแล้ว ข้อนี้ชี้แจงไม่เนียนเนอะ)
8. Silent period หรือระยะเวลาห้ามขายหุ้ันเนี่ย บริษัทได้คุยๆให้แล้วนะ คนพวกนี้น่าจะยอมติด silent สัก 6 เดือนล่ะ
(ขอด่านะ สิ เข้ามาเป็นพันธมิตรนี่เขาใช้เวลากันแค่ 6 เดือนเองเหรอ?? ดีไม่ดี ไอ้โครงการที่จะขยายสู่ธุรกิจใหม่ที่ว่าจะให้ผลตอบแทนดีมันยังคิดไม่เสร็จเลยใน 6 เดือน ไอ้พวกนี้ชิงขายหุ้นหนีไปแล้ว)
เอ้า อ่านแล้วพิจารณากันเอาเองว่าจะอะไรยังไง แต่สำหรับผม ผมชื่นชมที่เขากล้าชี้แจงแบบตรงไปตรงมา
ตรงไปตรงมา ตรงที่ว่า อ่านปุ๊บก็รู้ปั๊บว่า ต้องการเข้ามาโกยกำไรจากเงินของรายย่อย แค่นั้นล่ะ
!!!!!! เน่น เน้น ตรงนี้เลย ว่าจะไม่พูด!!!!
ผมได้ยินมาว่า งานนี้คือการออกหุ้นให้กับเสี่ยคนหนึ่งที่เป็นคนเข้ามาปั่นหุ้น AJD ตั้งแต่แรกเริ่มแล้วติดหุ้นอยู่ และรายชื่อทั้ง 13 รายนี้ก็คือนอมินีของเสี่ยคนนั้น เพื่อให้มาเฉลี่ยต้นทุนของเสี่ยคนนั้นให้ถูกลง และหลังจากนั้นจะไล่หุ้นอีกรอบเพื่อออกของ
!!! ผมว่าบริษัทน่าจะชี้แจงตรงนี้ด้วยนะ ว่ามีมูลมากน้อยแค่ไหน!!!
งานนี้รายย่อยอย่าเพิ่งหมดหวัง เพียงคุณรวมกลุ่มกันได้ถึง 10% แล้วมอบอำนาจให้ใครเป็นตัวแทนไปเข้าร่วมระชุมพิจารณาเรื่องนี้ คุณสามารถทำให้ช้อเสนอนี้ตกไปได้
ผมแนะนำให้คุณรีบรวมตัวกันเพื่อประโยชน์ของตัวคุณเองแล้วคว่ำวาระนี้ให้ได้
แต่ก่อนอื่น คุณควรเดินทางไปที่บริษัท AJD แล้วเอากล้องถ่ายวิดีโอ ตอนคุณขอช้อมูลจากบริษัทว่า การมอบอำนาจต้องใช้เอกสารอะไรกันบ้าง แล้วเตรียมเอกสารตามที่บอก
เพราะเคยมีกรณีของ NOBLE ที่ต้องการให้ไปก่อนเวลาเท่าไหร่ ต้องการบัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบอำนาจ ซึ่งปกติไม่มีใครเขาทำกันหรอก แต่มันต้องการขวางการรวมตัวของนักลงทุนกลุ่มนั้น ก็เลยตุกติกหน้าห้องประชุม
ทำอะไรให้รัดกุมนะครับ แล้วคว่ำวาระเฮงซวยที่ตั้งใจทำเพื่อคนบางคนนี้ลงไปให้ได้
ผมคงได้แค่ส่งแรงเชียร์เพราะไม่มีหุ้นตัวนี้ครับ