คือ...เด็ก ม.1 คิดได้ขนาดนี้ เรียกว่าโรคจิตได้มั้ยคะ

เรื่องมีอยู่ว่า    มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง มาขอเป็นเพื่อนกับลูกสาวเราในเฟชบุ๊ค แล้วลูกสาวยังไม่ได้รับแอด แล้วเค้าก้อส่งข้อความหยาบคาย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พร้อมรูปลามกมากๆ แบบไม่เซนเซอร์มาในข้อความ ลูกสาวเราอายุ 13 ค่ะ ร้องลั่นบ้านเลย น้องสาวเราวิ่งไปดู แล้วก้อจัดการต่อ โดยตั้งสติและและหลอกถามต่อ จนได้ความว่าเรียนอยู่ ม.1  ในโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลกันมาก แต่ลูกเราไม่เคยรู้จักเค้ามาก่อนเลยค่ะ  แล้วลูกกับน้องสาวก้อหยุดไป แต่เด็กคนนั้นยังไม่ยอมหยุด ยังส่งข้อความต่อมาเรื่อยๆจนต้องออฟไลน์

           เรื่องเงียบไปสัก 2 สัปดาห์ ก้อส่งข้อความมาอีกว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้วก้อส่งมาอย่างนั้นเรื่อยๆ โดยบอกว่าจะไม่หยุด ถ้ายังไม่ให้ดู แล้วเราก้อบอกให้ลูกออฟไลน์ น้องสาวเราก้อแคปหน้าจอเลยค่ะ เก็บไว้เป็นหลักฐาน เราไม่ได้บล็อกค่ะ เพราะคิดว่าเด็กอาจรู้เท่าไม่ถึงการ  แต่...เมื่อสองวันที่ผ่านมา เค้าเปิดเฟชบุ๊คใหม่แล้วมาก๊อปรูปลูกสาวเราไปทำภาพหน้าปก เราไปถึงโรงเรียนเลยค่ะ ครูก้อค้นชื่อให้ สรุปเด็กเรียนอยู่ที่โรงเรียนนั้นจริง เราเอาหลักฐานการสนทนาแจ้งไว้กับครู ครูเห็นแล้วถึงกับหน้าซีด บอกจะดำเนินการให้...

           ปล.1 เป็นกระทู้แรกนะคะ อายุสามสิบกว่าๆ ใช้คำว่า  เรา คงได้อยู่
           ปล.2 เครียดนะ สำหรับคนมีลูกสาว
           ปล.3 ลูกสาวเป็นเด็กหน้าตาดีค่ะ เรียบร้อย แต่งตัวมิดชิด ไม่เคยถ่ายรูปล่อแหลม
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
ผมก็มีลูกสาวนะ ผมมองในบริบทว่า ถ้าเป็นลูกสาวของผม

เรื่องนี้จะจัดการแค่แจ้งครูที่โรงเรียน และบล็อกเฟสไม่ได้
เพราะไม่อย่างนั้น เด็กคนนี้ก็จะไปทำกับคนอื่นๆอีก หรือไม่ก็ทำอยู่แล้ว กับอีกหลายๆคน
นี่แค่ ม1 ถ้าโตกว่านี้ โดยปล่อยไปเรื่อยๆ มันต้องไปข่มขืนใครเข้าแน่ๆ
พ่อแม่เขาต้องเข้ามารับรู้ และแก้ปัญหานี้ บอกให้โรงเรียนเชิญพ่อแม่มาที่โรงเรียนให้ได้ ไม่งั้นจะแจ้งความ
ถ้าเขาไม่มา ก็ต้องไปที่บ้านเด็กผู้ชาย โดยครูต้องไปด้วย ให้พ่อแม่เขาจัดการ และไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก

ต้องเทคแอ็คชั่นให้จริงจังครับ เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่คาดคิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่