สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกท่าน

เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ดิฉัน เพิ่งทราบมาเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ เอง ทำให้ดิฉัน รู้สึกว่า ประชาชนตาดำๆอย่างเรา ถูกเอารัดเอาเปรียบจากธนาคาร อย่างมาก ดิฉันจึงอยากนำเรื่องราวที่เกิดขึ้น มาเป็นอุทธาหรณ์ สอนใจ กับคนที่อยากเป็นคนยิ้มสู้หนี้ เหมือนๆกัน แต่การยิ้มสูหนี้ ของเรา กลับถูกธนาคาร อาคารสงเคราะห์ ที่บอกว่า ช่วยประชาชน กลับไปเอื้อประโยชน์ กับ บริษัทนายหน้าขายที่ดิน มากกว่า เราผู้เป็นลูกหนี้ธนาคารเสียอีก จนบางครั้ง ทำให้นึกถึง คำพูดลูกชายที่ว่า '' แม่รู้มั๊ย คนทำดีไม่เห็นได้อะไรเลย คนที่มันโกงต่างหาก รวยกว่าแม่ซะอีก ''

เมื่อ 1 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เอาป้ายมาแปะที่บ้านดิฉัน ขายในราคา 1,140,000 บาท นั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ดิฉัน ไม่ทราบข้อมูลอะไรเลย ครั้งแรก ดิฉัน คิดว่า ธนาคารขายบ้านสูงกว่า ราคาหนี้ เราคงจะปลดหนี้ บัตรเครดิต 5 หมื่น ที่ฟ้องได้ 1 แบงค์ และ คงปลดหนี้ ธอส.ได้ด้วย แต่ปล่าวเลย เป็นความคิด ของคนโง่ ประชาชนตาดำ ที่หาเช้า กินค่ำ ที่ ต้องส่งเสีย ลูก ตามลำพัง อย่างเรา

อ้อ ต้องขอบอกก่อนน่ะค่ะว่า ดิฉันก็เลิกส่งบ้าน เพราะเหตุผล ที่ว่า ช่วงนั้น ดิฉันเลิกกับสามี มีภาระ ส่งบัตรเครดิต ด้วย ลูก 2 คน กำลังเรียน มหาวิทยาลัย ด้วย มันเป้นภาระที่หนักสำหรับ ดิฉัน ทีเดียว ที่ต้องคิด และ จดการทุกอย่างเอง ถึงแม้ ทาง พ่อเด็ก ยังช่วยค่าใช้จ่ายบ้าง เขาเป็นแค่ คนขับแท๊กซี่ แต่ก็ยังช่วย ค่าใช้จ่ายทุกเดือนตามหน้าที่พ่อที่ดี แต่ถึงจะช่วย หลายๆคน คงทราบว่า ภาระ อื่นๆ ที่ผู้หญิง อย่างเราต้องแบก เอาไว้ ต้องจัดการ และ คิด อยู่ตลอกเวลา คนเดียว พ่อเด็ก เป็นคนไม่อาอะไรเลย ไม่อยากซื้อบ้าน ไม่อยากเป็นหนี้อะไรเลย ผิดกับเราที่อยากซื้อบ้าน เป็นของตัวเอง เวลามีปัญหา ก็โทษ ดิฉันคนเดียว ว่า อยากซื้อบ้าน หรือ โน้นนี่นั่น และ นั่นคือ ปัญหาที่เราเลิกกัน ปัญหาหนี้สิน และ ต้องมาอธิบายให้สามีฟังอีก ผู้หญิง อย่างเรา ก้จะสติแตก ซะปล่าว ก็เลยแยกทางกัน

ประสบการณ์ ทวงหนี้ บัตรเครดิต ของ TMB ทำ ดิฉันก็เคยโดน บอกว่าเอาเจ้าหน้าที่ กรมบังคับคดีมายึดทรัพย์ที่บ้าน ตอนนั้นตกใจ มาก ทำอะไรไม่ถูก เขาบังคับให้หาเงินใช้หนี้วันนั้น สุดท้ายวันนั้นต้องไปกู้เงินมาใช้หนี้ ไป 16000 บาท และยังเจอ หลายธนาคาร โทรมาขู่กรรโชก ไม่ต่างจากหลายๆคนค่ะ

ดิฉัน กลับมาเล่าเรื่องบ้านน่ะค่ะ หลังจากที่ธนาคาร มาแปะขายบ้าน ดิฉัน ก็พยายามอ่านขอมูลมากมาย ที่ราคาขายมากกว่าราคาหนี้ สุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร อ้อ ปัญหา อีกเรื่อง ที่ดิฉัน ต้องหยุดส่งบ้าน ก็เพราะ มีเพื่อนบ้านแย่มากๆ บ้านหลังนี้ ตอนที่ดิฉันไปซื้อ หมู่บ้านนี้ ยังรกร้างอยู่มาก เรียกว่า ไม่มีเพื่อนบ้าน อยู่รอบๆบ้านเลย แต่พอ โลตัสใหญ่ขึ้นอยู่หน้า หมู่บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ มีคนมาซื้อเต็มทุกหลังค่ะ ดิฉัน เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านที่ ติดกัน 2 ครั้ง บ้านนี้ มีลูกๆ ที่จะออกแนวๆ กวน ลูกชายเป็นเสื้อแดง เต็มร้อย เคยด่า บ้านดิฉันเยอะแยะ แบหยาบๆ หาว่า ลูกดิฉัน ติดยาบ้าง อะไรบ้าง ครั้งแรก ทะเลาะกัน เอามีดมาฟันต้นไม้ที่ บ้าน ตำรวจก็ยืนดูเฉย บอกน้องสาวให้ตบดิฉัน แล้วจะจ่ายค่าปรับเอง อ้อ คนพูด เป็นผู้ชาย ไปเอาฆ้อนปอนด์ จะมาทุบ ดิฉัน ครั้งที่ 2 นี่ ด่าตะโกนดิฉัน ตอนนั้น ดิฉันยืนอยู่ชั้น 2 สุดท้าย ผู้ชายคนนี้ วิ่งเข้าไปบ้านไปเอามีดยาว ประมาณ เกือบ 2 ฟุต และมีไม้ยาวอีก ประมาณ 2 เมตร ดิฉัน เดินเข้าไปคุยกับเขามือเปล่า ไม่อยากให้ลูกชาย หรือ หลานลงไป เพราะ เดีญวจะเป็นเรื่อง ดิฉันเป็นผู้หญิง ลงไปเองดีกว่า ดิฉันเดินไปตัวเปล่า เขาเอามีดหลบไม่กล้าแทง แต่เอาเท้าเตะดิฉัน ไปแจ้งความ ตำรวจส่งไป รพ. สุดท้าย ตำรวจบันทึกว่า ดิฉันไม่ถึงแก่ความตาย 55555 ผู้ชายคนนั้นถูกปรับแค่ 1 ร้อยบาท แต่ ดิฉัน ว่า คงมีอะไรมากกว่านี้ เพราะ ผู้ชายคนนี้มีเมียรวย และ บ้านนี้ด่า พ่อแม่ แบบ เราฟังไม่ได้ และนั่นคือ อีกเหตุผล ที่หยุดส่งบ้านค่ะ อยากใส่ล้อ แล้วเลื่อนบ้านไปอยู่ที่อื่นจริงๆ ช่วงนั้น ลูกชายเอง บอกว่า จบไปแล้ว ไม่อยูที่นี่น่ะแม่ สลัมชัดๆ เฮ้อ

                            อ้อ เพื่อนบ้าน เขาบอก ดิฉันเป้นคนไม่ดี ไม่น่าคบ และ เขาแอบติดตาม ดิฉัน ทุกเรื่องราวที่ดิฉันเขียน เคยทะเลาะกันหาว่า หากินกับหมาจากพันธ์ุทิพย์ ด้วย ดิฉันก็ยกให้เขาเป็นคนดี ส่วนดิฉัน ก็คงเป็นคนไม่ดีที่ ไม่น่าคบก็ได้ค่ะ