วันนี้เราบังเอิญเปิดไปฟังเพลง Dan Dan ขึ้นมา เลยนึกขึ้นมาได้ อยากเขียนเรื่องนี้
เราเติบโตมาพร้อมการ์ตูน Dragon Ball
ภาค GT เป็นภาคที่เราชอบมาก จำได้ว่าตอนนั้น ทุกอาทิตย์ที่บ้านจะต้องไปเช่าวิดิโอกันมาเป็นตั้งๆ และส่วนใหญ่เราจะได้เช่าการ์ตูนประมาณ 5-6 ม้วนต่ออาทิตย์ ซึ่งสำหรับเด็กๆตอนนั้น จะว่าเยอะก็เยอะ จะว่าน้อยก็น้อย ส่วนใหญ่เราจะเช่า ดราก้อนบอล กับ เซเลอร์มูน (เรามีพี่ผู้ชาย 3 คนส่วนใหญ่จะได้ดูการ์ตูนผู้ชาย แม่มไม่ดูเซเลอร์มูนกัน)
ตอนช่อง 9 การ์ตูนฉายดราก้อนบอล แซด จบแล้วยังไม่เอาภาค GT มาฉาย เราก็หนีไปเช่าวิดิโอมาดูนำไปก่อน (จำไม่ได้ช่อง 9 เอาภาค GT มาฉายมั้ย)
ภาค GT เป็นภาคที่ดราม่ามาก เหมือนหนังฮอลลีวูดเลย** จากผลงานของดราก้อนบอลทุกภาค นั่นเป็นเหตุให้ทำไมอาจารย์ อากิระ โทริยาม่า คือ สุดยอดของนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น นอกจากการ์ตูนของเขาจะได้รับความนิยมจนถึงขั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย จุดเด่นจริงๆของ โทริยาม่า อากิระ คือเขาไม่ได้เขียนให้การ์ตูนเป็นแค่การ์ตูนสำหรับเด็กๆ ในตอนนั้น การ์ตูนก็เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ก็สามารถติดตามดูเรื่องราวการผจญภัยอันสนุกสนานเหล่านี้ไปได้ด้วยเช่นกัน
(**หมายเหตุ : คุณ lovenokmak มาแก้ไขให้ว่า GT เป็นภาคที่อ.โทริยาม่าไม่ได้วางโครงเรื่องเองเหมือนภาคอื่นๆ เป็นภาคที่สตูดิโอผลิตเนื้อเรื่องมาใหม่เพื่อฉายในเวอร์ชั่นอนิเมชั่นเท่านั้นค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยค่ะ)
หลังจากการ์ตูนในวัยเด็กอย่าง ดราก้อนบอลจบไปหมดแล้ว ก็มาถึงยุคที่เราเริ่มมานั่งอ่านการ์ตูน (เราติดตามดราก้อนบอลจากอนิเมชั่น พึ่งมีโอกาสได้อ่านแบบเป็นมังงะ ตอนโต)
การ์ตูนเล่มแรกๆที่ได้มานั่งอ่านแบบจริงๆจังๆตอนประมาณ ป.6 ก็คือ การ์ตูนโจรสลัดที่ชื่อว่า วันพีซ
นี่เป็นข้อมูลที่หลายคนรู้อยู่แล้วคือ เออิจิโระ โอดะ คนวาดวันพีซ เป็นแฟนคลับตัวยงของ โทริยาม่า อากิระ เขาอาจได้แรงบรรดาลใจส่วนนึงจากวัยเด็กตอนดูดราก้อนบอล พอมีผลงานของตัวเองอย่าง วันพีซ เราจึงจะเห็นได้ว่า บางครั้งวันพีซก็ทำให้เรานึกถึงดราก้อนบอล
ตัวเอกที่เก่งที่สุดในโลก และเป็นศูนย์กลางของคนทุกคน
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ วันพีซ ได้ขึ้นตำแหน่งเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมสูงมากเป็นประวัติการณ์ของ จั๊มป์ (ไม่แน่ใจว่าทำลายสถิติดราก้อนบอลไปหรือยัง) ในงาน 100 ปี โชเนน จั๊มป์ สำนักพิมพ์ได้เข็นโปรเจ็คพิเศษอย่าง "EPACH CROSS" มา เป็นงานที่ โอดะ และ อากิระ วาดร่วมกัน เป็นการ์ตูนตอนเดียวจบ เกี่ยวกับการเดินทางไปงานฉลองของเหล่าตัวละครต่างๆ นั่นยิ่งทำให้ทุกอย่างเด่นชัด คาแร็คเตอร์ ตัวละครของทั้งคู่ คล้ายคลึงกันมากจริงๆ
จนถึงวันนี้ หากมาเทียบด้านความสนุก ..
สำหรับเราในตอนนี้ คงต้องบอกว่า มันเริ่มสูสีใกล้เคียงแล้วจริงๆ จากเมื่อก่อนสำหรับการ์ตูนแนวนี้ เราไม่คิดว่าจะมีอะไรมาเทียบดราก้อนบอลได้ แต่จนถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่า เนื้อหาของวันพีซมันยิ่งใหญ่มากจริงๆ แต่ถึงแบบนั้นเรายังคงให้ ดราก้อนบอล เป็นที่ 1 ในใจเสมอ และไม่แน่ใจว่า วันพีซจะทำให้เราความคิดเราเปลี่ยนไปหรือไม่ ในอนาคต
หากวัดในด้านความสนุกของเนื้อเรื่องมันเป็นแบบนั้น
แต่ถ้าพูดเรื่องความผูกพันธ์ ไม่มีอะไรมาเทียบดราก้อนบอลได้แน่นอนสำหรับเรา
สำหรับวันพีซ สิ่งที่โดดเด่นอย่างมากคงเป็นพลอตเรื่อง ปริศนาที่คนอ่านต้องไขและคาดเดาไปเรื่อยๆ ความลับของตัวละคร สถานที่ เหตุการณ์ และเสน่ห์อันล้นเหลือของตัวละครแต่ละตัวที่โอดะสร้าง เส้นเรื่องสลับซับซ้อนที่เขาปูให้แต่ละตัวละคร มันบอกว่า เขาคือ สุดยอดนักเขียนคนหนึ่งจริงๆ
และหลายคนก็อาจจะยกให้โอดะ ยิ่งใหญ่กว่าอากิระไปแล้วด้วยซ้ำ
เพราะหากเทียบกันจริงๆ เนื้อเรื่องของดราก้อนบอล แบ่งออกเป็นหลายภาค และไม่มีความซับซ้อนในด้านเนื้อหาเลย เป็นการ์ตูนที่เราดูจบเพลินๆ ไม่ต้องคิดมาก แต่มันก็เป็นการ์ตูนที่ดำเนินเนื้อเรื่องง่ายๆ แทรกบทดราม่า-คอเมดี้ มาเรื่อยๆ แต่ก็เป็นความง่ายแบบที่เราไม่อยากให้มันมีวันที่ต้องจบลงเลย
สิ่งที่โอดะ และ โทริยะมะโดดเด่นพอๆกันคือ ฉากการต่อสู้ที่สนุกมากแบบมหากาพย์
(แม้ของโทริยามะจะจ้องกันนานเกินไปหน่อยในภาคอนิเมชั่น นานจนจบตอนแบบค้างคามากๆ จนหลายครั้งอยากเขวี้ยงม้วนวิอิโอทิ้ง!)
ทั้งคู่ออกแบบฉากการต่อสู้ได้สนุกมาก ทั้งท่าไม้ตาย หรือ ความสามารถพิเศษของตัวละคร
ตอนดราก้อนบอลฮิตๆ ใครไม่เคยทำท่า วาร์ป แบบที่เอา 2 นิ้วจิ้มหน้าผาก
หรือแม้แต่การปล่อยพลังคลื่นเต่าบ้าง ยังไม่ต้องนับท่าฟิวชั่น ที่ฮิตระเบิดระเบ้ออีก
สำหรับวันพีซ เราได้ติดตามวันพีซจากแค่ในมังงะ ฉากต่อสู้ในวันพีซเป็นฉากที่สนุกจนต้องเปิดแบบรัวๆ และการต่อสู้ทุกครั้ง
ทุกด่าน มันมีแต่จะยิ่งสนุกขึ้น การได้พบตัวละครแต่ละตัวแล้วต่อสู้กัน มันมีเอกลักษณ์ในแต่ละฉากนั้นๆทั้งหมด
เช่น เราจำเรื่องที่อลาบาสต้า มิสเตอร์ 2 สโมกเกอร์ หรือ เรื่องที่ CP9 ได้ขึ้นใจ
แม้ทุกวันนี้มันจะผ่านมาไกลแล้ว แต่ตัวละครเหล่านั้น
ก็ยังเป็นตัวละครที่โดดเด่นมากๆ จนเราเสียดายที่นักเขียนปล่อยให้ตัวละครนั้นเงียบหายไป นี่คือสิ่งที่โอดะทำได้
เขามอบสเน่ห์ให้แต่ละครแบบไม่มีเม้ม และทำให้ทุกตัวละครที่แม้จะไม่ได้อยู่ฝ่ายพระเอก ก็เป็นที่จดจำได้มากเช่นกัน
ขณะที่โทริยามะ หากวัดกันจริงๆ เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวละครประกอบมากเท่าที่โอดะทำ นั่นทำให้ตัวละครประกอบหลายๆตัว
มักเป็นตัวที่ผ่านมาแล้วผ่านไป จบตอนก็ไม่พูดถึงอีก บางครั้งคนดูแบบเราๆก็ลืมๆชื่อไปเหมือนกันว่า คนไหนเป็นใครบ้าง
เพราะเส้นเรื่องของ ดราก้อนบอล มักจะเป็นเส้นเรื่องที่หมุนรอบ ซุนโกคู อยู่เสมอ
ไม่ค่อยมีเส้นเรื่องแยกที่ทำให้เราไปทำความรู้จักตัวละครอื่นๆแบบลึกซึ้งเท่าไรนัก
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า โอดะ เก่งกว่า หรือ โทริยามะเก่งกว่า เรากำลังพูดถึงว่า
นักเขียนแต่ละคน ก็มีสไตล์การเล่าเรื่องในแบบของตัวเอง แล้วแต่ว่าคนอ่านจะชอบแบบไหนมากกว่ากัน
โอดะเอง เป็นเบอร์ 1 ของยุคนี้ ขณะที่โทริยามะ ก็เป็นเบอร์ 1 ในยุคของเขาเช่นกัน
เพราะเราคิดว่า อันที่จริง ความสุดยอด มันไม่ได้พิสูจน์กันที่ยอดขายหรือกระแสในปัจจุบันเสมอไป
บางครั้งมันอาจต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เหมือนกัน
โอดะเคยนั่งสัมภาษณ์กับอากิระ เขาบอกว่าเขาชื่นชมอ.อากิระ โทริยามะ เสมอ เรียกได้ว่าเป็นติ่งเลยทีเดียว โอดะ รู้บางเรื่องที่อากิระเคยพูดแต่จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ พิสูจน์ให้เห็นว่า เขาคลั่งการ์ตูนของอากิระขนาดไหน
แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ และเราอาจไม่ได้สังเกตุกันนัก
แต่โอดะสังเกตุเห็น
คือ อากิระ โทริยามะเป็นคนที่วาด หุ่นยนต์ และ เครื่องจักรได้สวยมาก การออกแบบเครื่องจักรและหุ่นยนต์แต่ละตัวที่มีในดราก้อนบอล นั่นเป็นสิ่งที่โอดะอิจฉามาตลอด โอดะบอกว่า เขาวาดอะไรก็ได้ แต่เขาไม่ถนัดวาดเครื่องจักร หรือ หุ่นยนตร์เลย เมื่อลองพยายามวาด หัวสมองเขาจะมึนทันที นั่นทำให้ เราแทบไม่เคยเห็น โอดะ วาดหุ่นยนต์หรือเครื่องจักร ที่มีรายละเอียดซับซ้อนเลย (แฟรงกี้นี่ไม่น่าจะนับเป็นหุ่นยนต์ได้นะ 5555)
ฟังดูเป็นเรื่องขำๆ แต่ก็เป็นความจริงที่ชวนอมยิ้ม
2 นักเขียนการ์ตูนชื่อดังแห่งยุค พวกเขาถูกเปรียบเทียบกันในทุกแง่มุม ทั้งการ์ตูน คาแร็คเตอร์ ความยิ่งใหญ่ การประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย แต่ในความเป็นจริง นักเขียนอีกคน เป็นติ่งของนักเขียนอีกคนมาตลอด จนเขาได้มีการ์ตูนของตัวเองได้ในที่สุด
ึคำชมหนึ่งที่อากิระได้จาก โอดะ อาจเป็นคำชมที่เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนเลยก็ได้ในชีวิตนี้
ครั้งหนึ่งโอดะเคยบอกว่า
"อาจารย์ครับ ผมถามแบบนี้ดูแปลก เพราะอาจารย์น่าจะรู้อยู่แล้ว อาจารย์จำ รันฟาน ได้มั้ยครับ"
"อาจารย์รู้มั้ยครับ ตอนที่รันฟานออกมา ตอนที่ผมเห็นเธอถอดเสื้อ
ผมอึ้งมาก ผมไม่เคยเห็นคนที่วาดรักแร้ได้ดีมากๆแบบนั้นมาก่อน
ตอนนั้นผมรู้สึกยกย่องอาจารย์มาก อาจารย์วาดได้ดีจริงๆครับ
หลังจากนั้นมาผมก็เลยพยายามหัดวาด รักแร้แบบนั้นมาตลอดเลย แล้วถัดจากนั้นก็หัดวาดมือของเถาไปไป"
(น่าจะเพราะการ์ตูนในยุคดราก้อนบอลไม่ค่อยมีคนใส่ใจเรื่องอนาโตมี่หรือเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับอวัยวะเท่าไรนัก)
โอดะมี ตัวละครโปรดในเรื่องดราก้อนบอลที่ค่อนข้างแปลกจากคนทั่วไปอยู่สักหน่อยคือเขาชอบ เถาไปไป ตาลุงกังฟูมีหนวด นั่นทำให้อากิระบอกว่า โอดะ ทำไมนายชอบแต่ละครที่ไม่ค่อยสำคัญนะนี่
ฟังแล้วมันดู ตลกจนบางคนอาจมองว่าไร้สาระ
แต่สำหรับนักเขียนการ์ตูน นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก
เพราะมันแสดงให้เห็นว่า
เออิจิโระ โอดะ เป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และเพียรพยายาม มากขนาดไหน
จนถึงวันนี้
เราไม่อาจห้ามไม่ให้คนเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ ของดราก้อนบอล กับ วันพีซได้
แต่สำหรับเราแล้ว เราบอกได้แค่ว่า อากิระ โทริยามะ และ เออิจิโระ โอดะ
พวกเขาคือ ยอดนักเขียนแห่งยุคจริงๆ
มันไม่มีอะไรตัดสินฝีมือและความยิ่งใหญ่ของพวกเขาทั้งคู่ได้
ไม่มีจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จบแล้วจ้า ผิดพลาดตรงไหนขออภัยล่วงหน้า พอดีฟังเพลง Dan Dan ทีไรน้ำตาปริ่ม อินทุกที วันนี้ทีแรกจะเขียนแค่ในเพจตัวเอง เขียนไปเขียนมายาวเกิ้น ขอตั้งกระทู้แล้วกัน เราไม่มีเจตนาดิสเครดิตฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งทั้งสิ้นนะคะ นึกไรได้ก็เขียนเลยด้วย อาจจะดูยาวไปหน่อย เพราะช่วงนี้คนพูดเรื่องวันพีซเยอะ เลยขอเข้ากระแสนิดนึง
ขอบพระคุณที่อ่านกันจนจบ
ฝากเพจหน่อยน้า ไม่อัพเรื่องการ์ตูนเท่าไหร่ แต่อัพทุกเรื่องค่ะ
https://www.facebook.com/poprockonfilm
อากิระ โทริยามะ vs เออิจิโระ โอดะ
เราเติบโตมาพร้อมการ์ตูน Dragon Ball
ภาค GT เป็นภาคที่เราชอบมาก จำได้ว่าตอนนั้น ทุกอาทิตย์ที่บ้านจะต้องไปเช่าวิดิโอกันมาเป็นตั้งๆ และส่วนใหญ่เราจะได้เช่าการ์ตูนประมาณ 5-6 ม้วนต่ออาทิตย์ ซึ่งสำหรับเด็กๆตอนนั้น จะว่าเยอะก็เยอะ จะว่าน้อยก็น้อย ส่วนใหญ่เราจะเช่า ดราก้อนบอล กับ เซเลอร์มูน (เรามีพี่ผู้ชาย 3 คนส่วนใหญ่จะได้ดูการ์ตูนผู้ชาย แม่มไม่ดูเซเลอร์มูนกัน)
ตอนช่อง 9 การ์ตูนฉายดราก้อนบอล แซด จบแล้วยังไม่เอาภาค GT มาฉาย เราก็หนีไปเช่าวิดิโอมาดูนำไปก่อน (จำไม่ได้ช่อง 9 เอาภาค GT มาฉายมั้ย)
ภาค GT เป็นภาคที่ดราม่ามาก เหมือนหนังฮอลลีวูดเลย** จากผลงานของดราก้อนบอลทุกภาค นั่นเป็นเหตุให้ทำไมอาจารย์ อากิระ โทริยาม่า คือ สุดยอดของนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น นอกจากการ์ตูนของเขาจะได้รับความนิยมจนถึงขั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย จุดเด่นจริงๆของ โทริยาม่า อากิระ คือเขาไม่ได้เขียนให้การ์ตูนเป็นแค่การ์ตูนสำหรับเด็กๆ ในตอนนั้น การ์ตูนก็เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ก็สามารถติดตามดูเรื่องราวการผจญภัยอันสนุกสนานเหล่านี้ไปได้ด้วยเช่นกัน
(**หมายเหตุ : คุณ lovenokmak มาแก้ไขให้ว่า GT เป็นภาคที่อ.โทริยาม่าไม่ได้วางโครงเรื่องเองเหมือนภาคอื่นๆ เป็นภาคที่สตูดิโอผลิตเนื้อเรื่องมาใหม่เพื่อฉายในเวอร์ชั่นอนิเมชั่นเท่านั้นค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยค่ะ)
หลังจากการ์ตูนในวัยเด็กอย่าง ดราก้อนบอลจบไปหมดแล้ว ก็มาถึงยุคที่เราเริ่มมานั่งอ่านการ์ตูน (เราติดตามดราก้อนบอลจากอนิเมชั่น พึ่งมีโอกาสได้อ่านแบบเป็นมังงะ ตอนโต)
การ์ตูนเล่มแรกๆที่ได้มานั่งอ่านแบบจริงๆจังๆตอนประมาณ ป.6 ก็คือ การ์ตูนโจรสลัดที่ชื่อว่า วันพีซ
นี่เป็นข้อมูลที่หลายคนรู้อยู่แล้วคือ เออิจิโระ โอดะ คนวาดวันพีซ เป็นแฟนคลับตัวยงของ โทริยาม่า อากิระ เขาอาจได้แรงบรรดาลใจส่วนนึงจากวัยเด็กตอนดูดราก้อนบอล พอมีผลงานของตัวเองอย่าง วันพีซ เราจึงจะเห็นได้ว่า บางครั้งวันพีซก็ทำให้เรานึกถึงดราก้อนบอล
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ วันพีซ ได้ขึ้นตำแหน่งเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมสูงมากเป็นประวัติการณ์ของ จั๊มป์ (ไม่แน่ใจว่าทำลายสถิติดราก้อนบอลไปหรือยัง) ในงาน 100 ปี โชเนน จั๊มป์ สำนักพิมพ์ได้เข็นโปรเจ็คพิเศษอย่าง "EPACH CROSS" มา เป็นงานที่ โอดะ และ อากิระ วาดร่วมกัน เป็นการ์ตูนตอนเดียวจบ เกี่ยวกับการเดินทางไปงานฉลองของเหล่าตัวละครต่างๆ นั่นยิ่งทำให้ทุกอย่างเด่นชัด คาแร็คเตอร์ ตัวละครของทั้งคู่ คล้ายคลึงกันมากจริงๆ
จนถึงวันนี้ หากมาเทียบด้านความสนุก ..
สำหรับเราในตอนนี้ คงต้องบอกว่า มันเริ่มสูสีใกล้เคียงแล้วจริงๆ จากเมื่อก่อนสำหรับการ์ตูนแนวนี้ เราไม่คิดว่าจะมีอะไรมาเทียบดราก้อนบอลได้ แต่จนถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่า เนื้อหาของวันพีซมันยิ่งใหญ่มากจริงๆ แต่ถึงแบบนั้นเรายังคงให้ ดราก้อนบอล เป็นที่ 1 ในใจเสมอ และไม่แน่ใจว่า วันพีซจะทำให้เราความคิดเราเปลี่ยนไปหรือไม่ ในอนาคต
หากวัดในด้านความสนุกของเนื้อเรื่องมันเป็นแบบนั้น
แต่ถ้าพูดเรื่องความผูกพันธ์ ไม่มีอะไรมาเทียบดราก้อนบอลได้แน่นอนสำหรับเรา
สำหรับวันพีซ สิ่งที่โดดเด่นอย่างมากคงเป็นพลอตเรื่อง ปริศนาที่คนอ่านต้องไขและคาดเดาไปเรื่อยๆ ความลับของตัวละคร สถานที่ เหตุการณ์ และเสน่ห์อันล้นเหลือของตัวละครแต่ละตัวที่โอดะสร้าง เส้นเรื่องสลับซับซ้อนที่เขาปูให้แต่ละตัวละคร มันบอกว่า เขาคือ สุดยอดนักเขียนคนหนึ่งจริงๆ
และหลายคนก็อาจจะยกให้โอดะ ยิ่งใหญ่กว่าอากิระไปแล้วด้วยซ้ำ
เพราะหากเทียบกันจริงๆ เนื้อเรื่องของดราก้อนบอล แบ่งออกเป็นหลายภาค และไม่มีความซับซ้อนในด้านเนื้อหาเลย เป็นการ์ตูนที่เราดูจบเพลินๆ ไม่ต้องคิดมาก แต่มันก็เป็นการ์ตูนที่ดำเนินเนื้อเรื่องง่ายๆ แทรกบทดราม่า-คอเมดี้ มาเรื่อยๆ แต่ก็เป็นความง่ายแบบที่เราไม่อยากให้มันมีวันที่ต้องจบลงเลย
สิ่งที่โอดะ และ โทริยะมะโดดเด่นพอๆกันคือ ฉากการต่อสู้ที่สนุกมากแบบมหากาพย์
(แม้ของโทริยามะจะจ้องกันนานเกินไปหน่อยในภาคอนิเมชั่น นานจนจบตอนแบบค้างคามากๆ จนหลายครั้งอยากเขวี้ยงม้วนวิอิโอทิ้ง!)
ทั้งคู่ออกแบบฉากการต่อสู้ได้สนุกมาก ทั้งท่าไม้ตาย หรือ ความสามารถพิเศษของตัวละคร
ตอนดราก้อนบอลฮิตๆ ใครไม่เคยทำท่า วาร์ป แบบที่เอา 2 นิ้วจิ้มหน้าผาก
หรือแม้แต่การปล่อยพลังคลื่นเต่าบ้าง ยังไม่ต้องนับท่าฟิวชั่น ที่ฮิตระเบิดระเบ้ออีก
สำหรับวันพีซ เราได้ติดตามวันพีซจากแค่ในมังงะ ฉากต่อสู้ในวันพีซเป็นฉากที่สนุกจนต้องเปิดแบบรัวๆ และการต่อสู้ทุกครั้ง
ทุกด่าน มันมีแต่จะยิ่งสนุกขึ้น การได้พบตัวละครแต่ละตัวแล้วต่อสู้กัน มันมีเอกลักษณ์ในแต่ละฉากนั้นๆทั้งหมด
เช่น เราจำเรื่องที่อลาบาสต้า มิสเตอร์ 2 สโมกเกอร์ หรือ เรื่องที่ CP9 ได้ขึ้นใจ
แม้ทุกวันนี้มันจะผ่านมาไกลแล้ว แต่ตัวละครเหล่านั้น
ก็ยังเป็นตัวละครที่โดดเด่นมากๆ จนเราเสียดายที่นักเขียนปล่อยให้ตัวละครนั้นเงียบหายไป นี่คือสิ่งที่โอดะทำได้
เขามอบสเน่ห์ให้แต่ละครแบบไม่มีเม้ม และทำให้ทุกตัวละครที่แม้จะไม่ได้อยู่ฝ่ายพระเอก ก็เป็นที่จดจำได้มากเช่นกัน
ขณะที่โทริยามะ หากวัดกันจริงๆ เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวละครประกอบมากเท่าที่โอดะทำ นั่นทำให้ตัวละครประกอบหลายๆตัว
มักเป็นตัวที่ผ่านมาแล้วผ่านไป จบตอนก็ไม่พูดถึงอีก บางครั้งคนดูแบบเราๆก็ลืมๆชื่อไปเหมือนกันว่า คนไหนเป็นใครบ้าง
เพราะเส้นเรื่องของ ดราก้อนบอล มักจะเป็นเส้นเรื่องที่หมุนรอบ ซุนโกคู อยู่เสมอ
ไม่ค่อยมีเส้นเรื่องแยกที่ทำให้เราไปทำความรู้จักตัวละครอื่นๆแบบลึกซึ้งเท่าไรนัก
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า โอดะ เก่งกว่า หรือ โทริยามะเก่งกว่า เรากำลังพูดถึงว่า
นักเขียนแต่ละคน ก็มีสไตล์การเล่าเรื่องในแบบของตัวเอง แล้วแต่ว่าคนอ่านจะชอบแบบไหนมากกว่ากัน
โอดะเอง เป็นเบอร์ 1 ของยุคนี้ ขณะที่โทริยามะ ก็เป็นเบอร์ 1 ในยุคของเขาเช่นกัน
เพราะเราคิดว่า อันที่จริง ความสุดยอด มันไม่ได้พิสูจน์กันที่ยอดขายหรือกระแสในปัจจุบันเสมอไป
บางครั้งมันอาจต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เหมือนกัน
โอดะเคยนั่งสัมภาษณ์กับอากิระ เขาบอกว่าเขาชื่นชมอ.อากิระ โทริยามะ เสมอ เรียกได้ว่าเป็นติ่งเลยทีเดียว โอดะ รู้บางเรื่องที่อากิระเคยพูดแต่จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ พิสูจน์ให้เห็นว่า เขาคลั่งการ์ตูนของอากิระขนาดไหน
แต่โอดะสังเกตุเห็น
คือ อากิระ โทริยามะเป็นคนที่วาด หุ่นยนต์ และ เครื่องจักรได้สวยมาก การออกแบบเครื่องจักรและหุ่นยนต์แต่ละตัวที่มีในดราก้อนบอล นั่นเป็นสิ่งที่โอดะอิจฉามาตลอด โอดะบอกว่า เขาวาดอะไรก็ได้ แต่เขาไม่ถนัดวาดเครื่องจักร หรือ หุ่นยนตร์เลย เมื่อลองพยายามวาด หัวสมองเขาจะมึนทันที นั่นทำให้ เราแทบไม่เคยเห็น โอดะ วาดหุ่นยนต์หรือเครื่องจักร ที่มีรายละเอียดซับซ้อนเลย (แฟรงกี้นี่ไม่น่าจะนับเป็นหุ่นยนต์ได้นะ 5555)
ฟังดูเป็นเรื่องขำๆ แต่ก็เป็นความจริงที่ชวนอมยิ้ม
2 นักเขียนการ์ตูนชื่อดังแห่งยุค พวกเขาถูกเปรียบเทียบกันในทุกแง่มุม ทั้งการ์ตูน คาแร็คเตอร์ ความยิ่งใหญ่ การประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย แต่ในความเป็นจริง นักเขียนอีกคน เป็นติ่งของนักเขียนอีกคนมาตลอด จนเขาได้มีการ์ตูนของตัวเองได้ในที่สุด
ึคำชมหนึ่งที่อากิระได้จาก โอดะ อาจเป็นคำชมที่เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนเลยก็ได้ในชีวิตนี้
ครั้งหนึ่งโอดะเคยบอกว่า
"อาจารย์ครับ ผมถามแบบนี้ดูแปลก เพราะอาจารย์น่าจะรู้อยู่แล้ว อาจารย์จำ รันฟาน ได้มั้ยครับ"
"อาจารย์รู้มั้ยครับ ตอนที่รันฟานออกมา ตอนที่ผมเห็นเธอถอดเสื้อ
ผมอึ้งมาก ผมไม่เคยเห็นคนที่วาดรักแร้ได้ดีมากๆแบบนั้นมาก่อน
ตอนนั้นผมรู้สึกยกย่องอาจารย์มาก อาจารย์วาดได้ดีจริงๆครับ
หลังจากนั้นมาผมก็เลยพยายามหัดวาด รักแร้แบบนั้นมาตลอดเลย แล้วถัดจากนั้นก็หัดวาดมือของเถาไปไป"
(น่าจะเพราะการ์ตูนในยุคดราก้อนบอลไม่ค่อยมีคนใส่ใจเรื่องอนาโตมี่หรือเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับอวัยวะเท่าไรนัก)
โอดะมี ตัวละครโปรดในเรื่องดราก้อนบอลที่ค่อนข้างแปลกจากคนทั่วไปอยู่สักหน่อยคือเขาชอบ เถาไปไป ตาลุงกังฟูมีหนวด นั่นทำให้อากิระบอกว่า โอดะ ทำไมนายชอบแต่ละครที่ไม่ค่อยสำคัญนะนี่
แต่สำหรับนักเขียนการ์ตูน นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก
เพราะมันแสดงให้เห็นว่า
เออิจิโระ โอดะ เป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และเพียรพยายาม มากขนาดไหน
จนถึงวันนี้
เราไม่อาจห้ามไม่ให้คนเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ ของดราก้อนบอล กับ วันพีซได้
แต่สำหรับเราแล้ว เราบอกได้แค่ว่า อากิระ โทริยามะ และ เออิจิโระ โอดะ
พวกเขาคือ ยอดนักเขียนแห่งยุคจริงๆ
มันไม่มีอะไรตัดสินฝีมือและความยิ่งใหญ่ของพวกเขาทั้งคู่ได้
ไม่มีจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้