เกี่ยวกับเรื่องทางกฏหมายที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา เพราะผมงง แต่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆนะครับ
ขอเล่าท้าวความก่อนหล่ะกันครับ
ผมเป็นผู้ชายตัวน้อยๆหลงตัวหน่อยๆ เมื่อยังวัยกระเต๊าะ เรียนสมัยมหาวิทยาลัย ผมได้จีบผู้หญิงคนนึงและติด สรุปเป็นแฟนกันได้ 8 ปีแต่เพิ่งเลิกกันได้ 1 ปีที่แล้ว จบอย่างสวยงาม เราก็กลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันแทน
แต่ช่วงปีที่ 3 ของการคบกัน ก็มีการร่วมกันซื้อรถ โดยชื่อเจ้าของเป็นแฟนผม และชื่อผู้ค้ำเป็นผมเอง
และตามประสาคนที่จะแต่งงานกันย่อมซื้อเรือนหอ
ในช่วงปีที่ 5 ก็ได้มีการซื้อคอนโดแห่งนึงในตัวเมืองกรุงเทพมหานคร โดยผู้ซื้อ คนดำเนินการ และชื่อเจ้าของซึ่งเป็นชื่อตัวผมเอง ไม่มีคนค้ำ และเป็นคนผ่อนจ่ายงวดต่างๆมาทั้งปี แต่ยอมรับว่าความสามารถในการหาเงิน แฟนผมเก่งมาก เธอออกมากกว่าผมทุกอย่าง แต่ตัวแฟนทำงานที่สังคมยอมรับไม่ค่อยได้ แต่ผมรับได้เป็นพอครับ จึงทำให้เค้าไม่สามารถใช้ชื่อตนเองได้และ ในช่วงนั่นผมเป็น หัวหน้าฝ่ายการตลาด ของบริษัทแห่งนึง และฐานเงินเดือนสามารถยื่นเรื่องกู้ได้ จึงได้ทำเรื่ิองกู้กับธนาคารราคา 3 ล้านแล้วก็ผ่านครับ
พอเข้าปีที่ 6 แฟนผมได้มีโอกาสไปทำงานต่างประเทศแล้วส่งเงินผ่านเข้าบัญชีผมทุกเดือนเพื่อจ่ายค่าต่างๆ
รวมทั้งค่ารถและค่าคอนโด ก็เป็นรูปเหตุการ์ณนี้มา 2 ปีด้วยความห่างไกลกันปีนึงเจอกันครั้งหนึ่งราวกับ เจ้าหญิงทอผ้ากับคนเลี้ยงวัว 1 ปีมีโอกาสเจอกัน1 ครั้ง แต่ผมคงโชคดีกว่า เพราะคนเลี้ยงวัวปีละ 1 วัน ผมปีละ 7 วัน 365 วันเราเจอกันแค่ 7 วัน เอื่ม จนในช่วงท้ายๆปีที่ 8 ก็มีเหตุการ์ณที่เค้าบอกเลิกผม ซึ่งผมก็ยอมรับในชะตา
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่รถและคอนโด รถชื่อแฟนผม คอนโดเป็นชื่อผม ผมกับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกันนะครับ
ซึ่งค่างวดรถผมเป็นคนจ่ายมาตลอด ทางแฟนจ่ายค่าคอนโดมาตลอด และให้เพื่อนแฟนมาอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ โดยทำการเช่าต่อแบบปากเปล่า ไม่มีการทำสัญญาเช่าอะไรทั้งสิ้นครับ ที่สลับกันจ่ายเพราะว่าตัวแฟนอยู่ต่างประเทศ เอารถไปก็วางทิ้งไว้เฉยๆ ผมจึงผ่อนค่ารถครับ
ส่วนคอนโดก็ให้เพื่อนแฟนเช่า ส่วนราคาค่าเช่าผมไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ว่าเป็นยังไง อะไรเท่าไหรมีแค่คอนเช็คธนาคารว่ามีจ่ายค่างวดตลอดหรือเปล่าครับ
และหลังจากเลิกกันได้จะปี ก็เกิดเหตุการ์ณทะเลาะกัน
และผมไม่ต้องการให้แฟนเก่ายืมชื่อผม เพราะทำให้ผมเองเป็นหนี้เครดิตบูโรหลักล้านบาท ไม่สามารถทำธุรกรรมเช่าซื้ออะไรได้เลย จึงบอกว่าจะขายคอนโดนี้ทื้งแล้วแบ่งส่วนกัน ว่าแฟนผมจ่ายมาทั้งหมดรวมดอกเบี้ยเท่าไหรก็เอาไป และส่วนอื่นที่เป็นของผมก็เอามา จะได้จบๆกันไป ส่วนรถจะว่ายังไง เพราะอีกแสนนึงก็หมดแล้ว แถมตัวแฟนผมเค้าก็คงไม่อยากได้รถ 5 ปีรอยแผลเต็มคัน แถมเอาไปก็ไม่ได้ใช้ แต่ตัวแฟนเก่าผมซึ่งเป็นคนจ่ายเงินเยอะกว่าผม เค้าบอกว่าไม่ให้ขาย ถ้าขายเค้าจะฟ้อง ผมจึงฉงนว่า เค้ามีสิทธฟ้องอะไรผมบ้างครับ แล้วถ้าเป็นคุณที่ยอมอ่านมาตั้งนาน จะทำกับเหตุการ์ณนี้เช่นไรดีครับ
อยากสอบถามเรื่องสิทธิเจ้าของโดยชอบธรรมครับ เรื่องนี้ไม่มี 18+ เพราะตอนนี้ปวดตับมาก
ขอเล่าท้าวความก่อนหล่ะกันครับ
ผมเป็นผู้ชายตัวน้อยๆหลงตัวหน่อยๆ เมื่อยังวัยกระเต๊าะ เรียนสมัยมหาวิทยาลัย ผมได้จีบผู้หญิงคนนึงและติด สรุปเป็นแฟนกันได้ 8 ปีแต่เพิ่งเลิกกันได้ 1 ปีที่แล้ว จบอย่างสวยงาม เราก็กลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันแทน
แต่ช่วงปีที่ 3 ของการคบกัน ก็มีการร่วมกันซื้อรถ โดยชื่อเจ้าของเป็นแฟนผม และชื่อผู้ค้ำเป็นผมเอง
และตามประสาคนที่จะแต่งงานกันย่อมซื้อเรือนหอ
ในช่วงปีที่ 5 ก็ได้มีการซื้อคอนโดแห่งนึงในตัวเมืองกรุงเทพมหานคร โดยผู้ซื้อ คนดำเนินการ และชื่อเจ้าของซึ่งเป็นชื่อตัวผมเอง ไม่มีคนค้ำ และเป็นคนผ่อนจ่ายงวดต่างๆมาทั้งปี แต่ยอมรับว่าความสามารถในการหาเงิน แฟนผมเก่งมาก เธอออกมากกว่าผมทุกอย่าง แต่ตัวแฟนทำงานที่สังคมยอมรับไม่ค่อยได้ แต่ผมรับได้เป็นพอครับ จึงทำให้เค้าไม่สามารถใช้ชื่อตนเองได้และ ในช่วงนั่นผมเป็น หัวหน้าฝ่ายการตลาด ของบริษัทแห่งนึง และฐานเงินเดือนสามารถยื่นเรื่องกู้ได้ จึงได้ทำเรื่ิองกู้กับธนาคารราคา 3 ล้านแล้วก็ผ่านครับ
พอเข้าปีที่ 6 แฟนผมได้มีโอกาสไปทำงานต่างประเทศแล้วส่งเงินผ่านเข้าบัญชีผมทุกเดือนเพื่อจ่ายค่าต่างๆ
รวมทั้งค่ารถและค่าคอนโด ก็เป็นรูปเหตุการ์ณนี้มา 2 ปีด้วยความห่างไกลกันปีนึงเจอกันครั้งหนึ่งราวกับ เจ้าหญิงทอผ้ากับคนเลี้ยงวัว 1 ปีมีโอกาสเจอกัน1 ครั้ง แต่ผมคงโชคดีกว่า เพราะคนเลี้ยงวัวปีละ 1 วัน ผมปีละ 7 วัน 365 วันเราเจอกันแค่ 7 วัน เอื่ม จนในช่วงท้ายๆปีที่ 8 ก็มีเหตุการ์ณที่เค้าบอกเลิกผม ซึ่งผมก็ยอมรับในชะตา
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่รถและคอนโด รถชื่อแฟนผม คอนโดเป็นชื่อผม ผมกับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกันนะครับ
ซึ่งค่างวดรถผมเป็นคนจ่ายมาตลอด ทางแฟนจ่ายค่าคอนโดมาตลอด และให้เพื่อนแฟนมาอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ โดยทำการเช่าต่อแบบปากเปล่า ไม่มีการทำสัญญาเช่าอะไรทั้งสิ้นครับ ที่สลับกันจ่ายเพราะว่าตัวแฟนอยู่ต่างประเทศ เอารถไปก็วางทิ้งไว้เฉยๆ ผมจึงผ่อนค่ารถครับ
ส่วนคอนโดก็ให้เพื่อนแฟนเช่า ส่วนราคาค่าเช่าผมไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ว่าเป็นยังไง อะไรเท่าไหรมีแค่คอนเช็คธนาคารว่ามีจ่ายค่างวดตลอดหรือเปล่าครับ
และหลังจากเลิกกันได้จะปี ก็เกิดเหตุการ์ณทะเลาะกัน
และผมไม่ต้องการให้แฟนเก่ายืมชื่อผม เพราะทำให้ผมเองเป็นหนี้เครดิตบูโรหลักล้านบาท ไม่สามารถทำธุรกรรมเช่าซื้ออะไรได้เลย จึงบอกว่าจะขายคอนโดนี้ทื้งแล้วแบ่งส่วนกัน ว่าแฟนผมจ่ายมาทั้งหมดรวมดอกเบี้ยเท่าไหรก็เอาไป และส่วนอื่นที่เป็นของผมก็เอามา จะได้จบๆกันไป ส่วนรถจะว่ายังไง เพราะอีกแสนนึงก็หมดแล้ว แถมตัวแฟนผมเค้าก็คงไม่อยากได้รถ 5 ปีรอยแผลเต็มคัน แถมเอาไปก็ไม่ได้ใช้ แต่ตัวแฟนเก่าผมซึ่งเป็นคนจ่ายเงินเยอะกว่าผม เค้าบอกว่าไม่ให้ขาย ถ้าขายเค้าจะฟ้อง ผมจึงฉงนว่า เค้ามีสิทธฟ้องอะไรผมบ้างครับ แล้วถ้าเป็นคุณที่ยอมอ่านมาตั้งนาน จะทำกับเหตุการ์ณนี้เช่นไรดีครับ