หลายคนคงเคยได้รับ Fw. E-mail เกี่ยวกับคุณยายขายฟืนท่านนี้เหมือนกับเรา
หรือบางคนคงเคยอ่านเรื่องของแกผ่านกระทู้ รวมถึงข่าวต่างๆมากมาย เราเองหลังจากอ่านเรื่องเหล่านั้น ก็ตั้งใจว่าต้องไปเยี่ยมคุณยาย
และเราก็ได้มีโอกาสครั้งแรกเมื่อสัก 3 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นทุกครั้งที่มีเหตุต้องแวะเวียนผ่านโคราชก็จะแวะเยี่ยมคุณยายทุกครั้ง
รวมๆได้สัก 5-6 ครั้งได้ คุณยายจะยิ้มแย้มต้อนรับทุกครั้ง พูดคุยสนุกสนาน นอกจากนี้ด้วยภาระหน้าที่การงานเราก็ติดตามข่าวคุณยายทางสื่อต่างๆ
ได้ความว่าแกยินดีที่จะอยู่บ้าน ไม่ขอไปอยู่บ้านพักคนชราทั้งที่ต้องอยู่คนเดียวในวัยจวนเจียนจะ 90 อีกไม่กี่ปี
และแกก็มีความตั้งใจที่จะออกมาขายฟืนเลี้ยงชีพเอง มีหลายคนที่ไปให้ความช่วยเหลือและดูว่าแกน่าจะมีเงินใช้เพียงพอยังชีพได้สบายๆ
มีคนให้ความเห็นว่าแกออกมาขายฟืนเพราะแกเหงา ถ้าใครว่างให้แวะไปคุยกับแกบ้าง ได้อ่านดังนี้เราก็ใจชื้น ยิ่งมาอ่านที่ดาราคุณบิณฑ์เองก็ไปเยี่ยมแกถึงบ้าน
ยิ่งรู้สึกว่าแกน่าจะได้รับความสนใจจากสังคม ไม่โดดเดียวแล้ว
วันนี้เรามาประชุมที่เขาใหญ่ เลยได้โอกาสขับเลยต่อไปโคราชเพื่อเยี่ยมคุณยาย
ทุกครั้งที่ไปเราจะมองเห็นคุณยายแต่ไกล แต่วันนี้เราไม่เห็น เราเริ่มเอะใจตั้งแต่ตรงนี้
รวมถึงแอบใจเสียว่าวันนี้จะมาเสียเที่ยวไม่เจอยายหรือนี่ แต่พอเดินไปใกล้อีกนิดเราก็เห็นยาย
แต่แกกลับนอนกอดถุงข้าวของของแกอยู่ สภาพมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดูอ่อนเพลียมาก
เราจับตัวแล้วเรียกแกเบาๆ แกลืมตา เราเลยบอกว่ายายจ้า หนูมาเยี่ยมนะ แกก็ตอบรับ พยายามยิ้ม
เราจับตัวแก แกตัวร้อน เราบอกว่ายายตัวร้อนนะ แกบอกว่าสงสัยจะไม่สบาย นอนตรงนี้มา 3 วันแล้ว
เราตกใจมากถามยายว่าทำไมล่ะยาย แกตอบว่าแกจำทางกลับบ้านไม่ได้ จำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว รถเค้าก็ไม่ไปส่ง
จะเรียกค่ารถครั้งละ 100 บาท แกจะเดินกลับเอง(แบบที่เคยทำ)ก็จำทางไม่ได้ กลัวไปแล้วกลับมาตรงนี้ไม่ถูก
แกกลัวคนมาหาไม่เจอแกที่ตรงนี้ แกก็เลยนอนมันตรงนี้มา 3 คืนแล้ว
เราฟังแล้วรู้เลยว่าแกเริ่มมีภาวะความจำที่เสื่อมไปตามอายุแล้ว เรารู้เพราะคุณยายที่บ้านก็มีอาการแบบนี้
เราพยายามจะพายายไปหาหมอหรือกลับบ้าน แต่โดนเรียกตัวกลับมาที่ประชุมก่อน พรุ่งนี้ประชุมเสร็จแล้วจะรีบขับรถไปดูยายอีก
ในความคิดเรา ที่ยายเคยปฏิเสธการอยู่บ้านพักคนชราเพราะดูแลตัวเองได้อาจต้องคิดใหม่แล้ว
พรุ่งนี้เราจะพยายามกล่อมคุณยาย เพราะตอนนี้แกคงไม่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว
ยังไงก็แล้วแต่พรุ่งนี้เราจะต้องพายายไปหาหมอ และพายายกลับบ้าน เพราะถ้ายายนอนตากน้ำค้างแบบนั้น แกต้องไม่สบายมากๆแน่ๆ
เราอดรู้สึกไม่ได้ว่าคนแถวนั้นเหมือนใช้ความดังของคุณยาย ค้ากำไรเกินควรกับคุณยายมาก
ค่าสามล้อ 100 บาท มากเกินไปไหม? วันนี้เราจะพายายกลับบ้านเพราะยายตัวร้อน แกก็พูดหลงๆว่ายายกลับ 4โมง
เราก็จะแอบโกหกว่า 4 โมงแล้ว คนแถวนั้นรีบบอกเลยว่าเพิ่งเที่ยงเอง เราสงสารคุณยายมากๆ
ใครรู้จักเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์หรือมีวิธีไหนแนะนำ รบกวนด้วยนะคะ ช่วยคุณยายกันหน่อย
ตอนเราบอกแกว่า ยายจ้า หนูโดนตาม หนูต้องรีบไป แล้วหนูจะมาอีกนะ ... แกบอกเราว่า แล้วมาหายายอีกนะ ถ้ายายยังอยู่ ยายก็อยู่ตรงนี้แหละ
บอกตรงๆว่าเราใจหายค่ะ เหมือนมันบอกกลายๆว่าถ้าเราไปอีกที เราคงไม่เจอยายแล้ว
เราเลยตั้งใจตั้งแต่ขึ้นรถเลยว่าพรุ่งนี้ประชุมเสร็จเราจะขับรถไปดูยายอีกทีก่อนกลับกทม.แน่นอน
ช่วยเหลือคุณยายทอง 'คุณยายขายฟืน ณ โคราช' กันหน่อยนะคะ ยังจำกันได้ไหม แกไม่ค่อยไหวแล้ว
หรือบางคนคงเคยอ่านเรื่องของแกผ่านกระทู้ รวมถึงข่าวต่างๆมากมาย เราเองหลังจากอ่านเรื่องเหล่านั้น ก็ตั้งใจว่าต้องไปเยี่ยมคุณยาย
และเราก็ได้มีโอกาสครั้งแรกเมื่อสัก 3 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นทุกครั้งที่มีเหตุต้องแวะเวียนผ่านโคราชก็จะแวะเยี่ยมคุณยายทุกครั้ง
รวมๆได้สัก 5-6 ครั้งได้ คุณยายจะยิ้มแย้มต้อนรับทุกครั้ง พูดคุยสนุกสนาน นอกจากนี้ด้วยภาระหน้าที่การงานเราก็ติดตามข่าวคุณยายทางสื่อต่างๆ
ได้ความว่าแกยินดีที่จะอยู่บ้าน ไม่ขอไปอยู่บ้านพักคนชราทั้งที่ต้องอยู่คนเดียวในวัยจวนเจียนจะ 90 อีกไม่กี่ปี
และแกก็มีความตั้งใจที่จะออกมาขายฟืนเลี้ยงชีพเอง มีหลายคนที่ไปให้ความช่วยเหลือและดูว่าแกน่าจะมีเงินใช้เพียงพอยังชีพได้สบายๆ
มีคนให้ความเห็นว่าแกออกมาขายฟืนเพราะแกเหงา ถ้าใครว่างให้แวะไปคุยกับแกบ้าง ได้อ่านดังนี้เราก็ใจชื้น ยิ่งมาอ่านที่ดาราคุณบิณฑ์เองก็ไปเยี่ยมแกถึงบ้าน
ยิ่งรู้สึกว่าแกน่าจะได้รับความสนใจจากสังคม ไม่โดดเดียวแล้ว
วันนี้เรามาประชุมที่เขาใหญ่ เลยได้โอกาสขับเลยต่อไปโคราชเพื่อเยี่ยมคุณยาย
ทุกครั้งที่ไปเราจะมองเห็นคุณยายแต่ไกล แต่วันนี้เราไม่เห็น เราเริ่มเอะใจตั้งแต่ตรงนี้
รวมถึงแอบใจเสียว่าวันนี้จะมาเสียเที่ยวไม่เจอยายหรือนี่ แต่พอเดินไปใกล้อีกนิดเราก็เห็นยาย
แต่แกกลับนอนกอดถุงข้าวของของแกอยู่ สภาพมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดูอ่อนเพลียมาก
เราจับตัวแล้วเรียกแกเบาๆ แกลืมตา เราเลยบอกว่ายายจ้า หนูมาเยี่ยมนะ แกก็ตอบรับ พยายามยิ้ม
เราจับตัวแก แกตัวร้อน เราบอกว่ายายตัวร้อนนะ แกบอกว่าสงสัยจะไม่สบาย นอนตรงนี้มา 3 วันแล้ว
เราตกใจมากถามยายว่าทำไมล่ะยาย แกตอบว่าแกจำทางกลับบ้านไม่ได้ จำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว รถเค้าก็ไม่ไปส่ง
จะเรียกค่ารถครั้งละ 100 บาท แกจะเดินกลับเอง(แบบที่เคยทำ)ก็จำทางไม่ได้ กลัวไปแล้วกลับมาตรงนี้ไม่ถูก
แกกลัวคนมาหาไม่เจอแกที่ตรงนี้ แกก็เลยนอนมันตรงนี้มา 3 คืนแล้ว
เราฟังแล้วรู้เลยว่าแกเริ่มมีภาวะความจำที่เสื่อมไปตามอายุแล้ว เรารู้เพราะคุณยายที่บ้านก็มีอาการแบบนี้
เราพยายามจะพายายไปหาหมอหรือกลับบ้าน แต่โดนเรียกตัวกลับมาที่ประชุมก่อน พรุ่งนี้ประชุมเสร็จแล้วจะรีบขับรถไปดูยายอีก
ในความคิดเรา ที่ยายเคยปฏิเสธการอยู่บ้านพักคนชราเพราะดูแลตัวเองได้อาจต้องคิดใหม่แล้ว
พรุ่งนี้เราจะพยายามกล่อมคุณยาย เพราะตอนนี้แกคงไม่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว
ยังไงก็แล้วแต่พรุ่งนี้เราจะต้องพายายไปหาหมอ และพายายกลับบ้าน เพราะถ้ายายนอนตากน้ำค้างแบบนั้น แกต้องไม่สบายมากๆแน่ๆ
เราอดรู้สึกไม่ได้ว่าคนแถวนั้นเหมือนใช้ความดังของคุณยาย ค้ากำไรเกินควรกับคุณยายมาก
ค่าสามล้อ 100 บาท มากเกินไปไหม? วันนี้เราจะพายายกลับบ้านเพราะยายตัวร้อน แกก็พูดหลงๆว่ายายกลับ 4โมง
เราก็จะแอบโกหกว่า 4 โมงแล้ว คนแถวนั้นรีบบอกเลยว่าเพิ่งเที่ยงเอง เราสงสารคุณยายมากๆ
ใครรู้จักเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์หรือมีวิธีไหนแนะนำ รบกวนด้วยนะคะ ช่วยคุณยายกันหน่อย
ตอนเราบอกแกว่า ยายจ้า หนูโดนตาม หนูต้องรีบไป แล้วหนูจะมาอีกนะ ... แกบอกเราว่า แล้วมาหายายอีกนะ ถ้ายายยังอยู่ ยายก็อยู่ตรงนี้แหละ
บอกตรงๆว่าเราใจหายค่ะ เหมือนมันบอกกลายๆว่าถ้าเราไปอีกที เราคงไม่เจอยายแล้ว
เราเลยตั้งใจตั้งแต่ขึ้นรถเลยว่าพรุ่งนี้ประชุมเสร็จเราจะขับรถไปดูยายอีกทีก่อนกลับกทม.แน่นอน